บทที่ 4
“ความคิดเลิศเลอ สมแล้วที่เป็นเพื่อนรักของฉัน มันต้องสู้ค่ะหญิงอย่าปล่อยให้ชีวิตมันสู้เราฝ่ายเดียว ต้องขยี้ต้องกระโดดถีบอีชีวิตบัดซบกลับไปบ้าง” มีนาปลุกใจเพื่อน เธอเคยผ่านประสบการณ์ความรักสับปะรังเคห่วยแตกแบบนี้มาแล้วบ้างและวิธีรับมือกับมันคือเชิด เริ่ดเข้าไว้ ในเมื่อความรักมันห่วงก็ทำตัวเองให้ดีเพื่อรอคนดีๆ เข้ามา แต่อย่างว่าคนดีๆ สมัยนี้หายากเพราะแบบนั้นเธอเองถึงยังโสด
“แต่ตอนนี้ใจฉันมันไม่โอเคเลยแก พูดแล้วจะร้องไห้”
“ฉันรักแกนะอิ้ง มีอะไรโทรมาได้ตลอด เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำหรือดึกดื่นแค่ไหนฉันก็อยู่กับแกนะ ก็เรามันเพื่อนรักกันนี่ ใช่ไหม”
“ใช่” ณมนเอ่ยรับ แต่พอหวนกลับไปคิดถึงมาวินความเจ็บก็เล่นงานจนใจร้าวซ้ำแล้วซ้ำอีก
“อีกอย่างแกห้ามทำร้ายตัวเองเด็ดขาด โอเค้” มีนาห้ามเพราะกลัวอารมณ์ของณมนดิ่งแล้วคิดสั้นทำร้ายตัวเอง ยิ่งตอนนี้ณมนอยู่คนเดียวด้วยแล้วเธอก็ยิ่งกลัว ภาวนาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่อยากเป็นผีเวียนว่ายตายเกิดใช้กรรมเพราะบาปจากการคิดสั้นแบบนั้น อีกอย่างตายที่นี่จะกลับบ้านยังไง ไกลก็ไกล”
“ฉันรักแกนะ นอกจากฉันที่รักแกแล้วก็ยังมีพ่อแม่ของแกอีก” คำพูดของมีนาทำให้ณมนซาบซึ้งใจจนน้ำตาเอ่อ
“ขอบใจนะมีน ฉันก็รักแก”
“มีอะไรโทรมา อ้อ…วันนี้วันพระใหญ่ ฉันอวยพรให้ฟ้าหลังฝนแกสดใสซ่าบซ่า เจอรักใหม่ใจฟูเร็วๆ นะ” ถ้าเป็นไปได้มีนาอยากให้ณมนเจอรักแท้เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ
“อืม ฉันขอรับพรนั้นจากแก แค่นี้ก่อนนะมีน ฉันอยากกลับห้องพักแล้ว”
“อือ” มีนาเอ่ยรับก่อนจะกดวางสายไป ทันทีที่หน้าจอดับเธอก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ในที่สุดแกก็ได้รู้ความจริงเรื่องวินสักที”
แม้จะบอกมีนาว่าจะกลับเข้าที่พัก แต่ณมนก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานกระทั่งเธอตกเป็นเป้าสายตาของคนไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งชายคนนั้นเล็งมายังกระเป๋าสะพายของเธอเป็นหลักและกำลังรอจังหวะเอามาครองไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ยิ่งเป้าหมายเป็นคนผู้หญิงเอเชียตัวเล็กด้วยแล้วก็ยิ่งมองว่าง่าย
ณมนนั่งก้มหน้านิ่งก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาซึ่งมันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่เวลานี้มืดสนิท หัวใจเธอยังคงบอบช้ำเพราะไม่คิดไม่ฝันว่าการบินมาเซอร์ไพรส์คนรักจะถูกเขาเซอร์ไพรส์กลับจนหงายหลังไม่เป็นท่าแบบนี้ ณมนปลุกใจตัวเองอย่างยากลำบากแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องสู้
“หวัดดี เอากระเป๋านั่นมาให้ฉันแล้วเธอจะปลอดภัย” คำพูดของชายร่างสูงที่ดูสกปรกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำให้ณมนตกใจจนนั่งตัวแข็งทื่อ แม้สำเนียงอังกฤษเขาจะฟังยากแต่จู่ๆ สมองของเธอก็เปิดออโต้จูนจนเข้าใจทุกคำ สถานการณ์ฉุกเฉินในตอนนี้สั่งให้เธอต้องหาวิธีเอาตัวรอด
“คุณอยากได้เงินใช่ไหม ฉันมีเท่านี้ได้หรือเปล่า” ณมนพยายามใจดีสู้เสือเข้าไว้ เธอพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับหยิบเงินสดทั้งหมดออกมายื่นให้ชายแปลกหน้าคนนั้นไป แต่ดูเหมือนจะไม่พอ
“ไม่ ฉันเห็นเธอมีกล้องถ่ายรูปแล้วก็มือถือ ฉันอยากได้ทั้งหมด”
“แต่ถ้าให้คุณไปฉันจะกลับบ้านไม่ได้”
“ไม่ใช่ปัญหาของฉัน” ชายแปลกหน้าเพ่งมองเป้าหมายด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ณมนหันซ้ายหันขวาเผื่อจะมีใครผ่านมาเห็นหรือพอจะตะโกนขอความช่วยเหลือได้ ทว่ากลับไม่มีใคร
“เอ่อคือ”
“เอามา เร็วๆ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจทำร้ายเธอ” ชายตรงหน้าขู่ด้วยแววตาแข็งกระด้างที่ณมนมั่นใจว่าหากเธอไม่ทำตามที่เขาสั่งคงได้รับอันตรายแน่ๆ หรือต่อให้เธอยอมทำตามทุกอย่างก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเธอจะปลอดภัย
ฉะนั้นเธอต้องเปิดโอกาสหนีให้ตัวเอง ข้าวของหรือเอกสารในกระเป๋าค่อยไปติดต่อสถานทูตทีหลัง ในเมื่อชายตรงหน้าอยากได้กระเป๋าเธอก็จะให้แต่ไม่ใช่การยื่นส่งแล้วอีกฝ่ายยื่นมือมารับไปง่ายๆ เพราะวิธีที่ณมนเลือกคือการโยนกระเป๋าให้ห่างจากตัวมากที่สุดจากนั้นก็วิ่งไปทิศทางตรงกันข้ามกับกระเป๋า
เสียงตะโกนด่าของชายคนนั้นดังตามหลังมา ในขณะที่ณมนก็รีบจ้ำอ้าวออกมาจากจุดเกิดเหตุ จังหวะเลี้ยวตรงหน้าถนนใหญ่ก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนณมนเซถลา พอจะหันไปขอโทษคู่กรณีว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ ชายเร่ร่อนแปลกหน้าที่เวลานี้ได้กระเป๋าของเธอมาอยู่ในมือก็โผล่พรวดออกมาจากมุมตึก เพราะมันเปลี่ยนใจอยากได้ตัวเธอเช่นกัน
“คุณโอเคไหม” ชายคนที่ถูกณมนชนเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ พอเพ่งมองถึงได้รู้ว่าคนตรงหน้าคือผู้หญิงคนเดียวกันในร้านกาแฟ
“ผู้ชายคนนั้นชิงกระเป๋าฉันไป” ณมนชี้มายังชายเร่ร่อนที่เวลานี้แสดงสีหน้าท่าทางไม่เกรงกลัวใครเลยแม้แต่น้อย
“โอเค คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน” เสียงทุ้มของเอเดนเอ่ยบอก เขาพักอยู่แถวนี้และระยะหลังมานี้มีข่าวว่าพบชายเร่ร่อนทำร้ายคนแถวนี้อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะคนเอเชีย ไม่คิดว่าวันนี้จะเจอกับตัวเอง
“เฮ ส่งกระเป๋าของเธอคืนมาให้ฉัน” เอเดนยื่นมือไปขอกระเป๋าจากมือของชายเร่ร่อนแต่แทนที่จะทำตามอีกฝ่ายกลับตัดสินใจเปิดฉากทำร้ายทันที แต่อดีตนักเรียนมวยไทยหรือจะปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้ายได้ง่ายๆ
ณมนยืนกะพริบตาปริบๆ มองภาพการต่อสู้ที่ท่วงท่านั้นดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายชายเร่ร่อนก็นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนพื้นเพราะถูกจับทุ่ม เอเดนจึงเข้าไปคว้ากระเป๋ามาจากมือประจวบเหมาะกับตำรวจเดินทางมาถึงพอดี เขาจึงเข้าไปคุยแล้วอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกระทั่งความวุ่นวายจบลงจึงเดินกลับมาหาณมน
“นี่ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับส่งกระเป๋าคืนให้เธอ เมื่อรับกระเป๋าคืนไปแล้วณมนก็เอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายทันทีเช่นกัน
“ขอบคุณค่ะ”
“ผมชื่อเอเดน” ชายหนุ่มแนะนำตัวท่าทางเป็นมิตรและเขาก็พึ่งช่วยเธอไปหยกๆ นั่นทำให้ณมนไว้ใจชายหนุ่มพอสมควร
“ฉันณมนค่ะ”
“คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทย ทำไมหรือคะ” ณมนเอ่ยรับและเอ่ยถามในเวลาเดียวกัน สีหน้าของเธอบ่งบอกว่ากำลังงุนงงเล็กน้อย
“คนไทยจะมีชื่อเล่น” คำถามของเอเดนทำให้คิ้วสวยได้รูปของณมนขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะคลายออก นั่นเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรู้เรื่องนี้
