Episode 27
“สายรายงานเข้ามาว่ามีปีศาจหลายตนหลุดรอดผ่านเขตชายแดนเข้ามาได้เป็นจำนวยมาก ภายในเวลาไม่ถึงวันพ่ะย่ะค่ะ แล้วคาดว่าอีกไม่นานจะมีเพิ่มมากขึ้นจนถึงขนาดยกทัพเข้าโจมตีได้อีกไม่นานนี่อย่างแน่นอนขอรับ!!! ”
“แล้วบาเรียล่ะ”
“ประเทศที่อยู่โดยรอบยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ามันได้หายไป แล้วถ้าขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป มนุษย์ชาติได้เข้าสู่สภาวะวิกฤตเป็นแน่พะยะค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้”
ในห้องโถงส่วนกลางของพระราชวังตกสู่ในความเงียบหลังจากที่หัวหน้าองครักษ์รายงานข่าวที่รวบรวมมาทั่วทั้งทวีป
“วันนี้พวกข้าจะออกไปข้างนอก ช่วยไปเอาเอกสารยืนยัน หรือ จดหมายแนะนำตัวให้ข้าหน่อยสิ มิคาเอล พอดีข้าจะใช้ของพวกนั้นสมัคเป็นนักผจญภัยน่ะ เจ้าเองก็ด้วยนะมิคาเอล เพราะเจ้าต้องคอยติดตามข้าไปอยู่แล้วนี่นา”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ คุณหนู”
มิคาเอลโค้งให้ข้าเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องของข้า
วันนี้ผมกะว่าจะไปข้างนอกเหมือนเดิม เพราะว่าพวกหม่าม้าต้องการให้ผมแอบออกไปอีกแล้ว ซึ่งผมก็ต้องขอปฏิเสธ อนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งผมเองก็ไม่ต้องการที่จะทำให้ใครต้องมารับเคราะห์ร้ายแบบมิคาเอลอีก เพราะฉะนั้นผมเลยทำเรื่องให้มันเป็นทางการไปเสียเลย
หลังจากที่ผมอาบน้ำยามเช้าเสร็จ ด้วยการช่วยเหลือของเหล่าคุณเมด ที่มิคาเอลเคยเป็นหัวหน้าของกลุ่มเมดชุดนี้อยู่ ซึ่งพอมิคาเอลหลังจากที่กลายมาเป็นทูตที่คอยติดตามรับใช้ผมแล้ว เมดกลุ่มนี้ก็ยังได้ทำหน้าที่เหมือนเดิม โดยมีหัวหน้าเมดคนใหม่ที่มิคาเอลฝากฝังเอาไว้ขึ้นมาแทน
เพราะฉะนั้นมิคาเอลนับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ขึ้นตรงต่อใครอีกเลย ยกเว้นผม เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องนั้นขึ้นมา ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับมิคาเอลอีกเลย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่มากก็น้อย
แกร่ก...
มิคาเอลเปิดประตูห้องเข้ามาอย่างช้าๆ แล้วเดินเข้ามาหาผมที่ยืนเป็นตุ๊กตาให้เหล่าคุณเมดจับแต่งตัวทุกๆ เช้าตามปรกติอยู่นั้น ก็ยื่นจดหมายที่ดูสวยหรูเอามาให้ผมด้วยสองมือ และโค้งตัวลงให้เล็กน้อย
“จดหมายแนะนำตัวจากองค์ราชาของคุณหนูและตัวของดิฉันเองด้วยเจ้าค่ะ”
ผมมองมันและส่ายหน้าเล็กน้อย
“เจ้าเก็บเอาไว้เถอะ เพราะเจ้าต้องไปกับข้าด้วย จริงไหม?”
มิคาเอลโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะเก็บจดหมายนั้นเข้าไปในประเป๋าผ้ากันเปื้อนที่อยู่ด้านหน้าของชุดเมด
อ่า ชุดดูซอมซ่อจังเลยนะ
“หม่าม้า”
ผมเรียกหม่าม้าเบาๆ
“ว่าไงจ๊ะ?”
“เอาชุดสวยๆ ให้มิคาเอลหน่อยสิค่ะ เพราะอย่างน้อยๆ มิคาเอลก็อยู่ในฐานะผู้ติดตามที่เป็นเมดส่วนตัวของหนู ก็เลยอยากจะให้ชุดดีๆ กับมิคาเอลใส่บ้าง”
เหล่าหม่าม้าเอียงคอ เพราะไม่เข้าใจว่าผมจะเอาชุดให้มิคาเอลทำไม เพราะว่าเจ้าตัวเองก็ไม่ต้องการอยู่แล้ว แต่ผมที่เห็นมิคาเอลใสชุดที่ดูซอมซ่อ มันก็ขัดลูกกะตา เนืองด้วยเนื้อผ้าก็ดี หรือวิธีการตัดเย็บต่างๆนานา
คนในโลกนี้ถึงจะดูว่ามันสวย หรือดูดี แต่สำหรับผมแล้วนั้นไม่เลยแม้แต่น้อย เพราะมันเหมือนกับเสื้อผ้าเก่าๆ เหมือนกับโลกเดิมที่ผมเคยเห็นมา
แล้วอีกนัยหนึ่ง การเป็นเป้าสายตาเพียงคนเดียวมันน่าอาย เพราะฉะนั้นต้องหาเป้าดึงดูดสายตาเพิ่ม เพื่อที่ผมจะได้ไม่เป็นจุดสนใจมากเกินไป
หุหุ จะได้มีเพื่อนใส่ชุดแปลกๆ ด้วย แล้วก็จะไม่ต้องโดนจับแต่งตัวอยู่คนเดียวอีกต่อไป
เริ่มแผนได้.... ขั้นแรก ต้องชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง
“ก็อย่างน้อยๆ มิคาเอลก็เป็นข้ารับใช้ของหนูยังไงล่ะคะ ก็เลยอยากจะให้เสื้อผ้าอะไรประมาณนี้ไง พวกหม่าม้าลองดูที่มิคาเอลดูสิคะ ว่ารู้สึกยังไง”
“เสียของ....”
ผมพยักหน้ากับคำตอบของพวกหม่าม้า
ขั้นตอนที่สอง โน้มน้าว
“ใช่แล้ว การที่ข้ารับใช้แต่งตัวซอมซ่อก็จะทำให้เจ้านายดูหม่นหมองลงไปด้วยนะคะ หม่าม้า”
“อย่างงั้นหรอ ไม่ใช่ว่ามันทำให้ยุยจังดูเด่นขึ้นมาหรือไง?”
อึก! ไม่น่าเชื่อว่าพวกหม่าม้าจะไม่โดนหลอกง่ายๆ
“หนูเข้าใจค่ะ ลองในแง่มุมอื่นดูสิคะ การแต่งตัวของข้ารับใช่จะแสดงให้เห็นถึงฐานะของเจ้านายและการเอาใจใส่ข้ารับใช้ของตัวเองด้วยน่ะค่ะ”
“งั้นหรอ... เข้าใจแล้ว...”
เสียงของพวกหม่าม้า ฟังดูไม่อยากจะเชื่อผมสักเท่าไหร่และดูเหมือนจะตอบแบบขอไปทีด้วย
ทำไมเป็นงั้นอ่ะ?
พวกหม่าม้ากลับมาร่างเดิม และเดินเข้าไปมองมิคาเอลเพื่อชั่งใจอยู่สักพัก
“มิคาเอล ชอบชุดนี้หรือป่าว?”
“อ-เอ๋... ข้ามิกล้า....”
หม่าม้าเอลาสที่เข้าไปดูรอบๆ ตัวของมิคาเอล ก็เอาชุดออกมาแล้วถามกับมิคาเอลโดยไม่ทันให้ตั้งตัว จนมิคาเอลตกใจและลนลานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไม่เป็นไรมิคาเอล ข้าอุตสาห์ขอหม่าม้าให้เลยนะ ถือซะว่านี้เป็นรางวัลจากข้าก็แล้วกัน ที่เจ้าตั้งใจทำงานเพื่อข้า ฉะนั้นแล้วไม่ต้องเกรงใจไปหรอก เพราะนับจากนี้เจ้าก็ถือว่าเป็นคนสนิทของข้าคนหนึ่งเลยนะ เลยไม่แปลกที่ข้าจะอยากให้อะไรกับเจ้าบ้าง เพื่อเป็นการตอบแทน”
“ถึงมันจะฟังดูแปลกๆ ก็เถอะ หม่าม้าก็จะทำตามที่ยุยจังขอก็แล้วกัน.....”
แผนสำเร็จ หุหุ ถึงจะแบบงงๆ ก็ตาม
“เข้าใจแล้วค่ะคุณหนู ดิฉันจะรับมันไว้ด้วยความเต็มใจเจ้าค่ะ”
มิคาเอลที่กำลังลังเล พอได้ยินแบบนั้น ก็กล้าๆ กลัวๆ ที่จะตอบรับ ซึ่งหลังจากที่มิคาเอลตอบรับผมก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“แต่ก่อนอื่น ดิฉันขอรายงานสิ่งที่ดิฉันได้รับมาจากองค์ราชาก่อนนะเจ้าคะ แล้วต้องรายงานกับเหล่าเจ้าหญิงภูติโดยตรงด้วยเจ้าค่ะ”
พวกหม่าม้าเอียงคอ แต่คงจะเป็นเรื่องสำคัญถึงได้ให้มิคาเอลมารายงานกับพวกหม่าม้าโดยตรง พวกหม่าม้าเองที่กำลังจะส่งชุดให้เหล่าคุณเมด เพื่อที่จะสวมใส่ให้กับมิคาเอลอยู่นั้น ก็หยุดชะงักไป
“ตอนนี้บาเรียตามพรมแดนได้หายไปแล้วเจ้าค่ะ แล้วได้มีปีศาจหลุดรอดเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก และคิดว่าถ้าข่าวนี้ได้รับรู้ไปทั่วแผ่นดินปีศาจ อาจจะเกิดสงครามขึ้นมาได้เจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วองค์ราชาเลยอยากให้พวกเหล่าเจ้าหญิงภูติช่วยเจ้าค่ะ”
เหล่าหม่าม้าหรี่ตาลงเล็กน้อย
“มันไม่ใช่เรื่องของพวกข้าจริงไหม? แล้วเจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจด้วย”
มิคาเอลดูซึมไปเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น
คงจะรู้สึกไม่ดีกับคำพูดเหล่านี้สินะ
แต่มิคาเอลที่ให้สัญญากับผมแล้วว่าจะปล่อยวางซึ่งทุกสิ่งจากโลกนี้แล้วนั่น ก็ไม่คิดที่จะพูดโต้แย้งอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
“มิคาเอล ดูเหมือนว่าเจ้ายังปล่อยวางจากเรื่องพวกนี้ไม่ได้งั้นหรือ?”
ผมถามมิคาเอลที่เงียบไป ถึงผมจะเข้าใจความรู้สึกของมิคาเอล ผมก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้เหมือนกัน เพราะตัวผมเองก็ได้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับตัวของผมแล้วด้วยเหมือนกัน
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ เพียงแค่... มันไม่สมเหตุสมผลเจ้าค่ะ ปีศาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์เป็นอย่างมาก เพียงแค่หนึ่งตนก็มีพลังเทียบเท่ากับกองทัพนับพัน ข้าเลยเห็นว่ามันไม่เหมาะสมเจ้าค่ะ ที่จะเห็นเหล่ามนุษย์ ถูกทำลายเพียงเพราะความอยากกระหายของเหล่าปีศาจ และมันจะไม่จบเพียงแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์เพียงเท่านั้น เทพ ภูติ หรือแม้แต่คุณหนูก็จะถูกพวกมันคุกคามไปด้วย เพราะงั้นเราควรที่จะช่วยนะเจ้าคะ”
ผมคิดทบทวน มันก็จริงแต่ว่า...
ผมยังไม่เคยเห็นปีศาจเลย แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าปีศาจเป็นแบบไหน แล้วมันก็ทำให้ผมนึกไม่ออกอีกด้วยว่า เผ่าปีศาจนั้นเป็นอย่างไร มีแต่คนที่เคยเห็นและเคยเจอเท่านั้นแหละ ที่จะบอกได้ว่าเผ่าปีศาจนั้นมันเป็นยังไง แต่ถ้าจะให้รู้จริงๆ ก็ต้องไปเจอด้วยตัวเอง
“งั้นลองไปเจอดูมั้ยล่ะ เผื่อข้าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
เพราะยังไงๆ ผมก็ได้ความทรงจำกลับมาเล็กน้อยพอที่จะเข้าใจในพลังของตัวเองได้แล้ว ซึ่งอาจจะช่วยอะไรได้ก็ได้ แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าต้นกำเนิดของตัวเองนั้นคืออะไร แต่ก็ช่างมันเถอะ ตัวของผมก็บอกแล้วนี่นาว่าเมื่อถึงเวลาผมก็จะรู้ทุกอย่างเอง
“ตกลงตามนี้นะ แต่ก่อนอื่น ตอนนี้จับมิคาเอลแต่งตัวก่อนดีกว่า ฟุฟุฟุ”
หลังจากที่ผมสรุปแล้วทุกคนเห็นด้วยแล้วนั้น ก็ได้เวลาหาเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขจากการที่โดนจับเป็นตุ๊กตามาเพิ่มอีกหนึ่งคน หุหุหุ
หลังจากเสร็จแล้ว ผมก็กอดอก แล้วกำลังภาคภูมิใจในเซ้นส์การเลือกชุดให้กับมิคาเอล
ได้ระบายออกมาบ้างก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะ
“มิคาเอล สวยมากเลย สมแล้วที่เป็นชุดที่ท่านยุยทรงประทานให้”
“มิคาเอล น่ารักมากๆ ฮึก! ฮือ.....”
จะเวอร์เกินไปแล้ว ถึงขั้นร้องไห้ได้เนี่ย
