Neet ในต่างโลก

235.0K · จบแล้ว
Nine Neet No Name
100
บท
4.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ยุย? แปลกจัง ที่นี่มันที่ไหน? หรือว่าจะเป็นต่างโลก? เพราะที่นี่มีทั้งภูติ มีทั้งมอนสเตอร์ แล้วยังมีเหล่าทวยเทพอีก แต่ว่า... ทำไมเหล่าทวยเทพถึงกลับเป็นตัวตนที่เหล่าภูติรังเกียจได้ละ? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

นิยายแฟนตาซีนิยายผจญภัยพลิกชีวิตองค์หญิงนางเอกเก่งข้ามมิติเกิดใหม่ความจำเสื่อมแฟนตาซี ต่างโลก

Episode 01 ปฐมบท 1/2

ผม... เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ส่วนมากจะใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในห้อง และชอบเล่นเกม หรือดูอนิเมะดีล่ะ?

แก็กๆ! แก็กๆ!

เสียงเม้าส์ที่กำลังคลิกกับดวงตาที่กำลังจดจ่อหน้าจอคอมอย่างสนอกสนใจ ก็กำลังสนใจหัวข้อหัวข้อหนึ่ง ซึ่งตอนนี่กำลังเป็นข่าวที่ได้รับการจับตามองเป็นอันดับต้นๆ ของโลกโซเชียลหรือทั่วโลก

ก็นะ วันๆ ไม่ออกไปไหน เล่นแต่เกมส์ ท่องโลกโซเชียล จะถูกหาว่าเป็นนีทก็คงจะไม่แปลก

นี่อาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่าเกมส์หรือแม้แต่อนิเมะการ์ตูนก็อาจจะเป็นไปได้

นี่คือความคิดของผมที่ได้ติดตามข่าวสาร หรือกระทู้มากมายที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในโลกโซเชียล

มันน่าสนใจมาก เพราะนี่อาจจะเป็นหลักฐานของอารยธรรมที่อาจจะพลิกโลกใบนี้เลยก็ได้

แก็กๆ!

ผมคลิกเข้าไปดูข่าวไลฟ์สดช่องหนึ่งที่กำลังทำรายการอยู่ใน ณ สถานที่จริงอยู่ในตอนนี้ และกรอบสี่เหลี่ยมก็เด้งขึ้นมา แล้ววีดีโอก็เริ่มเล่น

“ทุกคนดูสิค่ะ ที่นี้เป็นเหมือนดั่งเวทมนตร์ เป็นซากอารยธรรมโบราณที่ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นของประเทศใดชนเผ่าใด หรือแม้กระทั่งยุคใด แล้วตอนนี้นักวิชาการทั้งหลายที่ได้รับการเชิญตัวมา ณ ที่แห่งนี้แล้ว

ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า ที่นี่นั้นมันเป็นอารยธรรมของมนุษยชาติของเราหรือไม่ แต่ตอนนี้นักวิชาการทั้งหลานก็ได้ระบุเอาไว้ว่า ที่นี่อาจจะเป็นดินแดนที่ถูกเทพเจ้าสร้างขึ้นมาก็อาจจะเป็นไปได้”

เมื่อบรรยายไปนักข่าวที่เดินไปเจอเข้ากับนักวิชาการคนหนึ่งพอดี ก็วิ่งเข้าไปเอาไมค์จ่อถามอย่างไม่ลังเล

“คุณนักวิชาการค่ะ ไม่ทราบว่าจะขอสัมภาษณ์สักเล็กน้อยจะได้ไหมคะ?”

นักวิชาการคนนั้นพยักหน้า แล้วนักข่าวคนนั้นก็ถามต่อ

“ของคุณมากค่ะ ไม่ทราบว่า ถ้ามันเป็นเรื่องจริงอย่างที่กล่าวๆ กันมา ความเชื่อเรื่องพระเจ้าก็อาจจะมีอยู่จริงสินะคะ...”

“เออ... โดยปรกติดตัวผมเองก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ผมก็เลยพูดไม่ได้ว่ามันมีอยู่จริง แต่ในทางวิทยาศาสตร์พระเจ้านั้นเป็นตัวตนที่หาข้อมูลมาพิสูจน์ไม่ได้ และไม่คิดว่ามันมีอยู่จริง เพราะสถานที่ที่เราพึ่งขุดค้นพบเจอแห่งนี้เอง นั้น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้สร้างทิ้งเอาไว้ก็อาจจะเป็นไปได้ ผมเลยไม่คิดว่าฝั่งไหนถูกหรือฝั่งไหนผิด เพราะมันตีความไปได้ทั้งสองอย่าง แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเรารู้ได้ในตอนนี้ก็คือ สถานที่นี้นั้นอาจจะเป็น สุสาน ก็ได้นะครับ”

“แล้ว... คุณรู้ได้ยังไงหรือคะ”

“ง่ายๆ ครับ เพราะเราได้ค้นพบสิ่งที่คล้ายโลงศพที่สร้างขึ้นมาอย่างวิจิตรบรรจงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แล้วอีกไม่นาน ก็อาจจะมีการสำรวจสิ่งที่คาดว่าจะเป็นโลกศพกันอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะเปิดฝาโลงออก และเมื่อถึงตอนนั้นความเป็นไปได้ต่างๆ นาๆ ก็อาจจะได้รับการพิสูจน์ ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ”

“เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเลยนะคะถ้ามันเป็นสุสานอย่างที่พวกคุณได้คาดการณ์เอาไว้ แล้วถ้าเป็นสุสานจริง เรื่องทุกๆ อย่าง ก็จะได้รับการพิสูจน์ด้วยใช่ไหมคะ?”

“แน่นอนครับ”

หืม.... เป็นสุสานงั้นหรอ....

ผมที่นั่งดูไลฟ์อยู่นั้น ก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ที่ผมค้อนข้างจะมั่นใจมากเลยว่า มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่นีทอย่างผมจะต้องให้ความสนใจกับพวกมันเป็นพิเศษ

“เออ.... แล้วไม่ทราบว่า ทางเราขอไปทำข่าวด้านในได้ไหมคะ”

“พื้นที่ด้านในได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาครับ แต่นักข่าวก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้แท่นซึ่งอาจจะเป็นโลงศพ หรอกนะครับ”

“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ทุกคนคะ แน่นอนว่าถึงเราจะไม่ได้ติดตามการสำรวจสิ่งที่อาจจะคล้ายโลงศพอย่างใกล้ชิด แต่เราก็ยังได้รับอนุญาตให้เข้าไปสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ได้อยู่นะคะ แน่นอนว่าเราจะมีการรายงานข่าวอย่างใกล้ชิดอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยล่ะค่ะ ถ้ามีอะไรคืบหน้าเราจะรีบมารายงานให้ทุกท่านได้ทราบกันเลยนะคะ ถ้าเช่นนั้น นี่เป็นเวลาอันสมควรที่ดิฉันจะต้องขอตัวลาหลังจากที่ได้รายงานข่าวสอดแทรกมาได้สักระยะแล้วนะคะ ดิฉัน ทีมข่าวจากช่อง....”

เข้าถึงข่าว เข้าถึงคุณ

เมื่อเสียงจากนักข่าวได้สิ้นสุดลง ไลฟ์ก็ได้สิ้นสุดลงด้วยเช่นกัน ผมเลยปิดหน้าต่างลง

ที่จริงข่าวเรื่องนี้มันก็อื้อฉาวมานานแล้ว แต่ว่ามันถูกปิดข่าวจากทางรัฐบาลเลยไม่ได้มีข้อมูลอะไรให้รู้มากนัก จนผ่านมาหนึ่งเดือนที่เรื่องทุกอย่างได้ถูกเปิดเผยออกมา มันทำให้ทั่วโลกต้องเกิดความสั่นไหว และพยายามจะเข้ามาแทรกแซงอย่างเห็นได้ชัด

แต่ตอนนี่ผมไม่สนไอเรื่องพวกนั้นแล้ว เพราะผมต้องไปฟาร์มก๊อน!!! ช่วงนี้เวลายิ่งไม่พอฟาร์มของอีเว้นอยู่ด้วย แล้วอีเว้นก็มาติดๆ กันอีก จะไม่ทันอยู่แว้ววว!!!

“สายฟรีจงเจริญ!!!! ”

แก็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แป้นแทบพังเมาส์แทบหลุด นี่แหละนีทเกมเมอร์

ระหว่างที่ผมเล่นไปก็คิดไปพลางว่า ซากโบราณนั่น หลายๆ อย่างมันเหมือนกับเวทมนตร์ ด้วยกำแพงที่มีวงแหวนและตัวหนังสือมากมายที่ถูกแกะสลักหรือเขียน มันเหมือนกับที่เห็นได้ภายในเกมส์เลย ยิ่งมันส่องแสงและเหมือนมันทำงานอยู่ตลอดเวลาด้วยแล้วนั้น...

ที่พวกนักวิชาการพวกนั้นไม่กล้านำมาวิเคราะห์หรือแยกส่วนเครื่องมือต่างๆ ที่พบในสถานที่แห่งนั้น ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ หรืออธิบายได้แต่ก็ไม่ใช่ตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายและเกินความเข้าใจมากกว่าที่มนุษย์ในตอนนี้จะทำความเข้าใจได้

เพราะฉะนั้น เลยไม่มีอะไรคืบหน้ามากนักนอกเสียจากถ้าไม่กลัวมันเสียหาย เนื่องด้วยของแต่ละชิ้นเรียกได้ว่า เป็นโบราณวัตถุเลยก็ได้ เพราะแต่ละชิ้นอาจจะเรียกได้ว่ามีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนโลก ก็คงจะไม่ปาน

แต่ถ้าถามผมว่ามันคืออะไร นีทอย่างผมก็คงจะตอบได้เป็นอย่างเดียวว่า มันคือเวทมนตร์ยังไงล่ะครับ เวทมนตร์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะวงแหวนที่เห็นตามผนังที่ส่องแสงพวกนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วถูกพบเจอได้ทั่วไปตามคำภีร์โบราณ แม้กระทั้งปีศาจเองก็มี

แล้วคำตอบที่ว่าทำไมถึงมีบันทึกของพวกนั้นอยู่ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นหรือใช้เวทมนตร์ได้มาก่อน คำตอบก็เลยอาจจะอยู่ในซากโบราณที่พวกนักวิชาการกำลังสำรวจอยู่ ก็อาจเป็นไปได้

“เฮ้อ..... สุดท้ายก็เสร็จ ได้พักเสียที.....”

ปิ๊บ!!

ผมที่ยืดเส้นยืดสายหลังจากที่ทำการไล่เก็บเควสให้ครบ และเลเวลอย่างหนัก ก็มีเสียงแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาว่า ได้มีการเริ่มไลฟ์สดอีกครั้ง แล้วครั้งนี้แน่นอนว่า เริ่มมีการสำรวจแท่นที่อาจจะเป็นโลงศพตั้งอยู่ตรงกลาง อย่างแน่นอน แล้วผมก็ยอมที่จะสละเวลาพักอันมีค่าเพื่อที่จะมาเกาะติดกับข่าว ที่นีทอย่างพวกเราไม่เคยสนใจพวกข่าวในโลกแห่งความเป็นจริงพวกนี้มาก่อน

“ก็น่าสนุกดีนะถ้าเกิดว่าพวกเราเมื่ออดีตสามารถใช้เวทมนตร์ได้ ฮึ! ”

ผมยกยิ้มขึ้นก่อนที่จะเอาเมาส์ไปจิ้มที่เป็นหน้าต่างเล็กๆ ที่มันแจ้งเตือนขึ้นมา ซึ่งในใจก็กำลังตื่นเต้นกับเรื่องพวกนี้อยู่

ถ้าพบว่าเมื่อก่อนมนุษยชาติสามารถใช้เวทมนตร์ได้ผมเองก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วยเช่นกัน จะเป็นพลังแบบไหนกันนะ หุหุหุ

“พบกับดิฉันเช่นเคยนะคะ เราได้รับอนุญาตให้มาทำข่าวในที่ที่ใกล้ที่สุดถึงจะเรียกว่าใกล้ก็ไม่ต่ำกว่าห้าร้อยเมตรกันเลยทีเดียวค่ะ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของมือกล้องเราเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นทุกคนจะได้รับชมภาพของการเปิดโลงศพกันอย่างชัดระดับ BD กันเลยทีเดียว

ส่วนเรื่องที่ดิฉันบอกว่ามันคือโลงศพนั้น เพราะทางเราได้รับการยืนยันจากทีมสำรวจชุดก่อนหน้านี้มาแล้วว่า มันคือโลงศพจริงๆ ค่ะ ในโลงศพนั้นจะเป็นใครกันนะคะ ซึ่งประวัติศาสตร์หรือบันทึกหน้าไหนจะเป็นผู้แก้ไขข้อสงสัยของผู้ที่นอนอยู่ในโลงศพหรือสุสานแห่งนี้ได้กันนะ ช่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเลยทีเดียวค่ะ”

นักข่าวที่ไลฟ์สดอยู่ ณ ตอนนี้ก็พูดต่อไป

ผมที่มองภาพที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ ณ ตอนนี้นั้น ก็ได้เห็นทีมชุดแรกแต่งตัวมิดชิดเหมือนชุดกันแก๊สพิษหรือเชื่อโรคอะไรทำนองนั้นเดินออกมา และเห็นชุดที่สองเดินสวนเข้าไปโดยทันที สงสัยชุดแรกจะสำรวจกันทั้งคืนเลย ส่วนเรื่องชุดที่ใส่กันอยู่นั้น คงจะกลัวว่าสุสานอาจจะมีพวกกับดักหรืออะไรทำนองนั้นเป็นแน่

ชุดที่สองที่ดูเหมือนว่าจะไปสำรวจต่อ ก็หยิบอะไรขึ้นมาจิ้มๆ ดูรายงานอีกเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มขึ้นไปสำรวจด้านบน ก่อนที่จะมายืนอยู่ที่หน้าโลงศพคริสตัลสีเงินสว่างสดใส ลวดลายสีทองแกะสลักด้วยความละเอียดอ่อน จนไม่น่าเชื่อว่าคนในยุคนั้นจะมีวิทยาการแบบนี้ได้

ทีมสำรวจทีมที่สองได้มายืนตามแนวยาวสองฝั่งของโลงศพรวมทั้งหมดแปดคน ที่ประคองฝาโลง ก่อนที่จะเห็นได้ชัดว่า ทีมสำรวจทั้งแปดคน ได้ใช้แรงเยอะมากขนาดไหนในการเปิดฝาโลงนี้ขึ้นมา

ซึ่งหลังจากนั้นทั้งแปดคนก็ค่อยๆ ยกและเลื่อนฝาโลงคริสตัลออก ส่งต่อให้อีกแปดคนที่ยืนอยู่เบื้องล่างอย่างช้าๆ

ทีมสำรวจที่กำลังติดต่อสื่อสาร

“ไม่พบสิ่งผิดปรกติหลังจากที่เปิดฝาโลงออก พวกเราจะเริ่มขั้นตอนต่อไป ช่วงยืนยันคำสั่งด้วย”

“ทราบแล้ว เริ่มการสำรวจในขั้นตอนต่อไปได้เลย ทุกคนระวังตัวด้วย”