บท
ตั้งค่า

Episode 16

งานประลองจบการศึกษา ขึ้นชื่อว่าเป็นงานเทศกาลหนึ่งที่มีผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งในต่างแดนเองก็ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นงานประลองที่จะจัดขึ้นทุกๆ ปี เพื่อเป็นการอำลาพวกนักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาออกไปนั้น เลยเป็นที่จับตามองของหลายๆ อาณาจักรมาก

แต่ถึงงานประลองลึกๆ แล้วจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น แต่ก็ยังเต็มไปด้วยสีสันมากมายที่ชวนให้หลงใหล

“สวัสดีค่ะ ดิฉันประธานนักเรียนเป็นตัวแทนท่านมหาปราชญ์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้มาเป็นพิธีกรเปิดงานประลองในครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นเกียติรของดิฉันเป็นอย่างยิ่ง”

โอ... ดูครึกครื้นดีนะ สงสัยคงจะเป็นงานประลองที่ทุกคนเฝ้ารอคอยกันอย่างแน่นอน

เพราะสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือโคลอสเซี่ยมขนาดยักษ์ที่มีผู้คนแออัดกันจนแทบไม่เห็นแม้แต่พื้นที่ว่างเลยแม้แต่น้อย ยกเว้นโซนของพวกชนชั้นสูงน่ะ ที่จะมีที่เหลือเฟือให้นั่งแบบว่า นอนกลิ่งกันได้เลย

“งานประลองจะแข่งแบบไหนงั้นหรือ”

ผมถามลอยๆ ไปคุณเมดเองก็พอจะเข้าใจได้ว่าผมกำลังถามคุณเมดอยู่ คุณเมดเลยมองไปโดยรอบก่อนจะอธิบายออกมา

“การประลองจะเป็นแบบง่ายๆ เจ้าค่ะ คุณหนู.. คือหนึ่งปาร์ตี้จะมีคนไม่เกินห้าคน และไม่จำกัดจำนวนปาร์ตี้ที่สามารถเข้าร่วมได้ และทุกปาร์ตี้จะต้องเข้าห้ำหั่นกันจนเหลือเพียงแค่หนึ่งปาร์ตี้สุดท้าย”

ผมหยักหน้าเข้าใจ

แปลว่าแค่ตะรุมบอลกันจนเหลือปาร์ตี้สุดท้ายสินะ มันก็เป็นการประคองกันแบบง่ายๆ จริงๆ นั่นแหละ

“แล้วการประลองจะจำกัดเฉพาะในชั้นปีเดียวกันเท่านั้นในแต่ละรอบเจ้าคะ เลยไม่ต้องห่วงเรื่องความต่างชั้นของฝีมือด้วย แต่สิ่งที่เรียกได้ว่าเรียกเสียงเชียร์ให้กับงานประลองจบการศึกษาในทุกๆ ปีได้มากที่สุดนั้นก็คือ รอบสุดท้ายเจ้าคะคุณหนู”

ผมเกิดสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เลยตะแคงหูตั้งใจฟังคุณเมด

“รอบสุดท้าย จะเป็นงานประรองข้ามชั้นปีเจ้าค่ะ เพราะทุกชั้นปีสามารถที่จะเข้าร่วมการประรองในรอบนี้ได้ เลยเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจเหล่าผู้คนไม่ใช่น้อย”

“งั้นหรือ....”

ผมตอบกลับไปเบาๆ และนั่งมองลงไปที่สนามประรองที่กำลังจะเริ่มการต่อสู้กันในไม่ช้า

ที่ผมทำตัวดูเย็นชาอยู่นั้น เพราะว่าผมกำลังสวมบทบาทลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่ จวบจนกระทั้งมีคนเดินเข้ามาหาผม

“นี่เธอน่ะ เด็กชั้นต้นปีหนึ่งใช่ไหม?”

ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามผม

เอ๋? เห็นเป็นยังงั้นหรอ มันก็จริงอยู่ที่ผมจะเข้าชั้นต้นปีหนึ่ง แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้อย่างแน่นอน

เพราะโลกนี้นั้น ชั้นประถมไม่มี ซึ่งส่วนมากชนชั้นสูงจะให้ครูสอนพิเศษมาสอนบุตรที่บ้านเสียมากกว่า แล้วมาเข้าเรียนที่นี่ซึ่งคล้อยๆ เป็นชั้นมัธยม

ง่ายๆ ก็คือ ชั้นประถมนั้นต้องจ้างครูมาสอนเอาเอง และชั้นมัธยมมาเรียนที่โรงเรียนของพระราชวัง

โอ่!!! อย่างงี้ถ้าใครเกิดสอบเข้าไม่ผ่านก็จะมีชื่อเสียติดตระกูลไปด้วยสินะ ลำบากจริงๆ พวกคนชนชั้นสูง

เพราะฮะนั้นคนธรรมดาทั่วๆ ไป เลยมีส่วนน้อยมากที่จะเข้ามาเรียนในโรงเรียนของวังหลวงได้ ก็เลยไม่แปลกใจที่ทุกตระกูลจะยอมเสียเงินมากมายไปกับการจ้างครูสอนพิเศษให้กับผู้สืบเชื่อสายให้กับวงตระกูลของตัวเอง

“หมายถึงข้างั้นหรือ ก็จริงอยู่ที่ข้าจะมาเข้ารับการศึกษาจากที่นี่ในปีหน้า แล้วมีเหตุผลอันใดไม่ทราบถึงได้มาถามข้าเช่นนี้”

“แหม... เย็นชาจังเลยนะคุณหนู ปีหน้างั้นหรือ...?”

ก็ช่วยไม่ได้อะนะ เธอเล่นเข้ามาถามผมแบบนี้ สัญชาตญาณความเป็นนีทของผมมันก็กู่ร้องขึ้นมานะสิครับ ว่าปัญหากำลังจะเข้ามาหาแล้ว!!! เพราะผมเอง อย่างน้อยๆ ก็อยากอยู่อย่างสงบ

ผู้หญิงคนนั้น ทำท่าคิดหนัก

“ปีหน้างั้นเหรอ งั้นก็แปลว่าเดินเรื่องเข้าโรงเรียนของเราเรียบร้อยแล้วสินะ ฮรี่ๆ”

เสียงหัวเราะที่แสนชั่วร้ายแบบนั้นมัน!!!

ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาคว้าแขนของผมอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว คุณเมดเองที่ทำท่าตกใจกับการกระทำของผู้หญิงตรงหน้านั้น ก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก

“หยะ หยุดนะ......?”

คุณเมดที่พยายามจะเข้ามาช่วยผมด้วยการล้วงมือลงไปในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน จนผมที่นึกขึ้นมาได้ว่า ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนนั้นมันคืออะไร ผมเลยต้องรีบหยุดคุณเมดเอาไว้

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันจะวุ่นวายไปกันใหญ่...”

“งั้น... ขอยืมตัวคุณหนูของเธอหน่อยนะ คุณเมดคุง....”

“อ๊า!!! คุณหนู!!! ”

หลังจากนั้น คุณเมดก็ทำได้แต่ร้องออกมากับการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ที่ไม่คิดแม้แต่จะหยุดคิดกับการกระทำของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ถ้าผมไม่ได้หยุดคุณเมดเอาไว้นะ มีหวังทั้งโคลอสเซี่ยม เกิดความวุ่นวายกันหมดแน่

คุณเมดเลยได้แต่เดินตามลงไปทางด้านล่างอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งน่าจะเป็นห้องอะไรสักอย่าง ที่มีนักเรียนกำลังวิ่งวุ่นกันอยู่พอสมควร

พอมาถึงในห้องด้านล่าง ผู้หญิงคนนั้นก็จับผมให้มายืนอยู่ด้านหน้า ก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัวผม โดยที่ไม่ถามผมสักคำ

“นี่!! นักเรียนที่จะมาลงแข่งประลองในรอบสุดท้ายล่ะ! ”

ห๊า!!!! ผมนี่ถึงกับเกือบจะร้องตะโกนออกมา โชคยังดีที่ผมยังห้ามตัวเองเอาไว้ได้ทัน เพราะผมยังมีคำว่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ค้ำคออยู่เหมือนเดิม

ถ้าจำไม่ผิด รอบสุดท้ายเท่าที่จำได้ มันรอบข้ามชั้นปีนี่นา

ผู้หญิงคนนั้นเข้ามากระซิบข้างๆ หูของผม

“โทษทีนะ คุณคนนอก พอดีเด็กนักเรียนของเราดันไปมีเรื่องกับพวกนักผจญภัย เลยนอนสลบเหมือนกันไปหลายคนเลยละ ตอนนี้ชั้นต้นปีหนึ่งกำลังแย่เลย เพราะฉะนั้นช่วยทีน้า”

หวอย! อย่าเอาเรื่องของตัวเองมาโยนให้คนนอกจะได้ไหม!!

แล้วดูจากนิสัยแล้ว คนที่น่าจะก่อเรื่องให้กับเด็กนักเรียนนั้นไม่ใช่ใครอื่นเลย มันเธอชัดๆ เป็นครูไปได้ยังไงกันเนี่ย! หรือว่ามาตรฐานของโรงเรียนนี้มันจะต่ำเกินไป?

หลังจากที่ผมได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของคุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็ถึงกับต้องกระตุกเล็กน้อย พร้อมๆ กับเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

เฮอะๆ รู้และ ถ้าเข้าเรียนที่นี่ผมจะต้องภาวนาไม่ให้เจออะไรมากที่สุด ซึ่งผมจะภาวนาว่าอย่าให้ได้ครูแบบนี้มาเป็นครูประจำชั้นของผมเลย

“ค่ะ ค้า.....จ จะทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน.....”

เฮ้อ.... เหนื่อย

“ยุยจังไหวแน่นะ”

หม่าม้าเอลาสที่ดูจะเป็นห่วงผมก็บินออกมา หลังจากที่ซ้อนอยู่ข้างหลังผมของผมที่ยาวลงไปจวบจนถึงต้นข้า นี่ขนาดรวบขึ้นมาตั้งเยอะแล้วนะเนี่ย ยังยาวยันต้นข้าผมเลย

“ไม่เป็นไรค่ะหม่าม้าเอลาส แต่ถ้าจะให้พวกหม่าม้าช่วยจัดการเรื่องการต่อสู้จะได้ไหมคะ หม่าม้า...”

“นั่นสินะ เพราะถ้าจะให้ยุยจังจัดการเองอาจจะเกิดสิ่งที่น่ากลัวขึ้นมาก็ได้ เดี๋ยวพวกหม่าม้าจะจัดการเองก็แล้วกันจ๊ะ ยุยจังแค่คอยเดินตามปาร์ตี้ของยุยจังก็พอแล้ว”

หม่าม้าเอลาส ช่วยได้เยอะเลยคะ

ผมเองก็ไมแน่ใจว่าจะสู้ไหวไหม เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเวทมนตร์นั้นมันใช้ยังไง ฉะนั้นแล้วการที่ผมขอให้พวกหม่าม้าช่วยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

เอ๊ะ! ? ถึงกับเกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นมาเลยเหรอ สงสัยคงจะหมายถึงการที่เราอาจจะได้รับบาดเจ็บก็ได้ ฮะๆ หม่าม้าก็พูดเวอร์เกินไปแล้ว

หลังจากนั้นพวกหม่าม้าก็ดูท่าจะเครื่องร้อนกันน่าดู

“ไปเตรียมตัวทางห้องนั้นเลยนะคุณคนนอก ฟุฟุ”

ม่ายยยย!!!!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel