บท
ตั้งค่า

Episode 15

ผมมองไปที่ทางเข้าของทางฝั่งนักเรียน ของพวกคุณหนูหรือเหล่าคุณชายทั้งหลาย แล้วปรับอารมณ์ของตัวเองเสียใหม่

เราเป็นผู้หญิงสินะ งั้นก็ต้องทำให้เหมือนพวกคุณหนู แล้วแบบไหนดีละ?

แล้วผมก็ต้องมาครุ่นคิดอีกว่า แบบที่เราเคยดูในมังงะในอนิเมมันเป็นยังไงกันนะ พวกลูกคุณหนูเนี่ย ก่อนที่จะตัดสินใจ

มีความมั่นใจ สง่างาม ต้องเป็นที่จดจำเมื่อแรกเห็น และที่สำคัญที่สุด เฮ้อ... สูงส่ง

ลักษณะพวกนี้ คือลักษณะที่ผมพอจะนึกออก สำหรับเหล่าลูกคุณหนูทั้งหลาย ที่จะต้องมี

ผม หลับตา หายใจเข้าลึกๆ ยืดอกอันน้อยนิด หลังตรง และปรับท่าทาง ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

หลังจากที่คุณเมดสังเกตได้ว่า ยุยมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไป คุณเมดก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมๆ กับทำสีหน้าแปลกใจ ที่เด็กสาวที่ตนเองรู้จักเมื่อสักครู่นี้ กลายไปเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ได้ยังไง เพราะไม่ว่าจะแววตา หรืออากัปกิริยา ล้วนแล้วแต่บ่งบอกว่า เด็กสาวที่มีอายุไม่น่าจะเกิน 14 ปีที่อยู่ตรงหน้าของคุณเมด

จะต้องเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ที่ไม่อาจมีผู้ได้เทียบเคียงได้อย่างแน่นอน

แล้วคุณเมดเองเมื่อเห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะกุมมือของตนเองที่สั่นเทา แต่ด้วยที่เจ้าตัวยังต้องมีภาระหน้าที่ ที่ยังได้รับมอบหมายมาให้อยู่นั้น ก็ช่วยไม่ได้ ที่เจ้าตัวจะต้องพยายามเก็บความรู้สึกหวั่นไหวเหล่านั้นอยู่ภายในใจ

“คุณหนู เชิญทางด้านนั้นเจ้าค่ะ”

ยิ้มอะไรเหรอ? แล้วเปลี่ยนคำเรียกจากท่านเป็นคุณหนูไปซะแล้ว

ผมที่คิดไปแบบนั้นก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้ผมกำลังเข้าหมวดลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่ ถึงผมจะยังไม่เข้าใจว่าคุฯ เมดกำลังดีใจเรื่องอะไรอยู่ ถึงได้ยิ้มแบบนั้นออกมา ผมก็ใช้มือสางผมที่ปกอยู่ที่ไหล่ของผมออก ก่อนที่จะเดินนำออกไปยังประตูทางเข้าโดยทันที

“ไปกันเถอะ”

“เจ้าคะคุณหนู... “

หลังจากที่ผมเริ่มเดิน เหล่าผู้คนที่หันมามองก็ต่างหลีกทาง เพราะคุณเมดเหรอ?

เฮือก...

เสียงกลืนน้ำลายของผู้คนที่ผมเดินผ่านไป

เอ๋... เพราะผมหรอ?

เพราะเท่าที่ผมสังเกต ทุกสายตาต่างกำลังจับจ้องมองมาที่ผมอยู่

อะไรกัน ผมแค่สวมบทบาทของลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์แบบในอนิเมะที่ผมเคยดูมาเองนะ

เพราะเท่าที่ผมคิด และการกระทำที่ผมต้องการจะแสดงออกมานั้น ทุกย่างก้าวล้วนแล้วต้องสมบูรณ์แบบ การกระทำต้องสง่างาม ซึ่งบนใบหน้าเองก็ต้องเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอันงดงาม แต่ภายในนั้นเอง ก็ต้องเยือกเย็น

ตอนนี้ผมกำลังสงสัยว่ามันมีอะไรผิดปรกติไปจากการกระทำของผมหรือเปล่า?

ผมสงสัยอยู่เหมือนกันแฮะ ว่าผมได้ทำอะไรที่มันดูแปลกๆ ออกไปหรือป่าว หรือว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้กันมาก่อน ซึ่งตอนนี้ผมทำได้แต่บอกกับตัวเองว่าอย่าไปสน

“เออ....”

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูที่มียามเฝ้าประตูยืนขวางทางเอาไว้อยู่อีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้ยามเฝ้าประตูที่เห็นผม กลับดูจะกระสับกระส่าย เหมือนกับกำลังสับสนอะไรสักอย่าง

“ไม่ทราบว่า... คุณหนูมาจากตระกูลไหนหรือขอรับ ข้าไม่เคยเห็นคุณหนูมาก่อนเลย”

ก็เรื่องปรกติละนะ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าผมมาจากตระกูลไหน ผมเลยทำท่าลำบากใจเล็กน้อยด้วยการเอามือข้างหนึ่งมาทาบที่แก้มเบาๆ ซึ่งคุณเมดเองที่เห็นแบบนั้น ก็เข้าใจกับการกระทำของผมได้โดยทันที

นี่ผมคิดไปเองหรือป่าว ไม่ใช่ว่าคนที่หลีกทางให้ผมด้านหลังนั้น เป็นพวกคุณหนูคุณชายด้วยไม่ใช่หรือนั่น? สงสัยเราคงทำอะไรผิดไปจริงๆ ด้วย

“ข้า!!! ข้าต้องขออภัยเป็นอย่างสูง!!!!! เจ้าหญิง!!!! ”

“ตายจริง....”

ทหารเฝ้ายามคนนั้นก้มหัวและตะโกนออกมาจนทำให้คุณเมดถึงกับตกใจ รวมทั้งผมเองด้วย แต่ยังดีที่ผมยังมีคำว่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ค้ำคออยู่ เลยไม่ได้แสดงสีหน้าที่มันดูไม่สมกับเป็นคุณหนูออกไป

ขนาดคุณเมดที่พยายามที่จะปิดตราที่พระราชาให้มา เพื่อที่จะไม่ให้ใครอื่นเห็นนอกเสียจากทหารยามคนนั้นแล้วนั้น แต่ก็ยังไม่วาย ที่ทหารยามคนนั้นจะทำให้เรื่องทุกอย่างมันบานปลาย

“เจ้าหญิงเช่นนั้นหรือ? จากราชอาณาจักรไหนกัน?”

“กิริยาท่าทางช่างงดงาม ขนาดท่านอาจารย์ข้าการสอนเรื่องมารยาท ถึงจะเข้มงวดมากแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถเอามาเทียบเคียง กับเจ้าหญิงผู้งดงามได้เลย”

“ช่างงดงาม ไร้ที่ติ ไม่แปลกเลยที่เป็นถึงเจ้าหญิง”

แย่ละสิ ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ดีแน่

หลังจากที่ทหารยามคนนั้นดูเหมือนจะยอมให้ผ่านแล้ว ผมก็เดินผ่านเข้ามาอย่างไม่เหลียวหลังกลับไปมอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผมไง ปล่อยให้พวกลุงๆ พระราชากับพระสันตะปาปาไปจัดการกันเอาเองเถอะ เพราะต้นเหตุมันก็มาจากตราสัญจกรที่ให้คุณเมดคนนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

ผมมองซ้ายมองขวาหลังจากที่เข้ามาด้านใน ที่นี่ที่นั่งเหมือนโคลอสเซี่ยมเลย ขนาดพื้นที่ในส่วนที่เป็นของพวกลูกขุนนาง ยังต้องมานั่งบนพื้นหินที่ทำขึ้นมาเป็นชั้นๆ ให้นั่งอีกด้วย

ตอนแรก นึกว่าจะมีโซฟาให้นั่งสบายๆ เสียอีก

คุณเมดที่เห็นผมกำลังจะหาที่นั่ง ก็เข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของผม

“เชิญทางด้านบนเลยเจ้าคะคุณหนู”

ผมมองไปด้านบนที่เป็นที่นั่งชั้นสูงสุด

“มันหมายความว่ายังไงงั้นหรือ?”

“ปรกติจะเป็นที่นั่งของขุนนาง ตั้งแต่ดยุคไล่ลงมาเจ้าคะ และตั้งแต่ตรงกลางลงมาที่เป็นชั้นอยู่ตรงนั้นจะเป็นของพวกนักเรียนค่ะคุณหนู”

ดูเหมือนพวกขุนนางจะนั่งโซนเดียวกันกับนักเรียนสินะ แต่จะนั่งอยู่ชั้นบนๆ กัน ตั้งแต่กลางลงมาก็จะเป็นของเด็กนักเรียน ขนาดมาในโลกนี้ยังเห็นได้ชัดเจนเลยสินะ เรื่องการแบ่งชนชั้น

ข้างบนหรอ?

“ไม่เป็นไร ข้าจะนั่งแถวๆ นี้ละ เพราะข้าไม่ต้องการที่จะไปข้องแวะกับคนพวกนั้น”

ก็ตามนั้น เพราะผมไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นแม้แต่นิดเดียว ดูจากพวกขุนนางด้านบนสิ ตัวอ้วนตุ่ยนุ้ย และมีทาสผู้น่าสงสารที่คอยรับใช้ปรนนิบัติมันอีก ถ้าเป็นความในใจของผม คงจะคิดได้เพียงอย่างเดียวว่า ทาสผู้หญิงสวยๆ พวกนั้น คงจะใช้บำเรอกามของพวกมันอย่างแน่นอน

ไม่อยากไปนั่งใกล้กับพวกนั้นเลยสักนิด

เนื่องด้วยไม่มีกฎหมายห้ามค้าทาสเลยเห็นได้เป็นเรื่องปรกติสินะ ดูขนาดนักเรียนบางคนยังมีเมดที่สวมปลอกคอคอยติดตามอยู่เลย

เฮ้อ... ถึงจะอยากช่วย ก็ทำไม่ได้ เพราะรู้ตัวดีว่า มันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ซึ่งทุกคนย่อมมีเหตุผล แล้วถ้ายื่นมือเข้าไปช่วยแล้วครั้งหนึ่ง นั้นก็หมายความว่า จะต้องมีครั้งที่สองครั้งที่สามอย่างแน่นอน

อีกอย่าง ถึงจะฟังดูใจดำไปเสียหน่อย ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรมของมัน ผมเลยได้แต่มองทาสพวกนั้นด้วยความเวทนา

“เข้าใจแล้วเจ้าคะคุณหนู เช่นนั้นเชิญทางด้านนี้เลยเจ้าค่ะ”

เมือผมนั่งลง หลังจากที่คุณเมดหาที่นั่งที่พอจะเป็นส่วนตัวให้

“ท่านพ่อๆ เจ้าหญิงผู้นั้นคือใครกันหรือขอรับ ข้าเห็นนางตั้งแต่ประตูทางเข้าแล้ว”

“ฮืม..... งดงาม เจ้าหญิงงั้นเหรอ เท่าที่ข้าจำได้ เจ้าหญิงประเทศเพื่อนบ้าน รอบๆ ประเทศของเรา ไม่มีผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน...”

เสียงมาจากด้านบน ซึ่งทำให้ผมเอียงคอเล็กน้อย แล้วคุณเมดเองก็ได้แต่นั่งฟังอยู่เฉยๆ เหมือนกับแค่ลมผ่านหูไปเท่านั้น

เป็นคุณเมดที่สงบนิ่งดีจริงๆ

ผมเองก็ไม่เคยบอกนี่นาว่าเป็นเจ้าหญิง มันเป็นเพียงแค่คำที่ทหารยามคนหนึ่งพูดลอยๆ ออกมาเพียงเท่านั้น แล้วผมจะไปตามแก้ข่าวกับคนเหล่านั้นก็ใช่เรื่อง เพราะผมรู้ดีว่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีคนตามมาปิดข่าวให้อยู่แล้ว หุหุ

“ข้าทนรอไม่ไหวที่จะได้ลิ้มลองเจ้าจริงๆ... เจ้าหญิงจอมปลอม บูฮี่ๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel