Episode 08
_เหล่าเจ้าหญิงภูติ
เหล่าเจ้าหญิงภูติที่กำลังตั้งรับการโจมตีของพวกผู้กล้าอยู่นั้น
เชวี่ยง............. เคร่ง!!!
เสียงดาบแหวกอากาศอย่างรุนแรงก่อนที่มันจะเงียบลง และดาบที่พุ่งเข้าหาเป้าหมายนั้น ก็ได้แตกสลายหายไปเป็นผุยผง พร้อมทั้งกับเหล่าทหารที่เห็น ก็ถึงกับหลุดอุทานกันออกมาว่า
“บะ บ้าหน่า... ดาบปราบมาร.... ถูกทำลาย...”
_ยุย
“ไม่ยกโทษให้ คนที่กล้าทำร้ายหม่าม้าเด็ดขาด.... คนเลว สมควรตาย!!! ”
“ยุยจัง หยุดก่อน”
เอ๋.. มันทำร้ายพวกหม่าม้านะ แล้วจะให้หยุดอย่างนั้นหรอ? ทั้งๆ ที่พวกมันคิดที่จะทำร้ายพวกหม่าม้าเนี่ยนะ
“อ๊าก!!!!!! นี่มันบ้าอะไรกันวะ อ๊าก!!!!!!!!! ”
“ท่านผู้กล้าๆ ท่านเป็นอะไรไป!!! ”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมอยู่ดีๆ ท่านผู้กล้าถึงได้ไปนอนดิ้นเจียนตายแบบนี้”
เหล่าทหารดูเหมือนจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมแม้แต่ดาบปราบมารในตำนานก็ยังสูญสะหลาย ทั้งยังไม่วาย ที่ผู้กล้ายังได้รับคำสาปขั้นรุนแรง จนแทบจะสิ้นใจ
คลืน!!!! ท้องฟ้าเกิดการสั่นไหว แผ่นดินเกิดการสั่นสะเทือน
“แย่แล้วดาร์กเนส ยุยจังเอาเจ้ามนุษย์พวกนี้ถึงตายแน่”
“รู้แล้วน่า... เนโลจัง ตอนนี้ช่วยกันให้ยุยจังใจเย็นลงก่อนจะดีกว่านะ ไม่เช่นนั้นเจ้ามนุษย์พวกนี้ได้ตายกันสมใจอยากแน่”
ภูติทั้งสองวิ่งเข้าไปกอดเด็กสาวที่กำลังจ้องเขม็งไปยังกลุ่มผู้กล้าที่กำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานอยู่กับพื้น
_อีกมุมหนึ่ง
“หลีกทางไป!!! หลีกทางให้ข้า!!! หลีกทางไปเดี๋ยวนี้!!! ”
อีกทางด้านหนึ่งก็มีกลุ่มนักบวชพยายามที่จะเข้ามายังสะถานที่แห่งนี้
“เจ้าตามข้ามา แล้วอธิบายสิ่งที่เจ้ารู้มาทั้งหมด”
“ครับ!!! องค์สันตะปาปา”
ชายแก่คนนั้นที่เดินเข้าป่าไปพร้อมกับอัศวินหนึ่งคนกับนักบวชที่คอยติดตามอีกกลุ่ม
“เรียนองค์สันตะปาปา เราได้รับข่าวว่าภายในป่านั้น มีเจ้าหญิงภูติทั้งสี่ตนขวางทางพวกเราอยู่ขอรับ”
“จริงหรือถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเรื่องใหญ่แน่ ยิ่งข้าเข้าไปใกล้ข้าก็ยิ่งมั่นใจว่านี่ไม่ใช่จอมมาร ขอให้ทันทีเถอะ”
“ท-ท่านว่ายังไงนะขอรับ? งั้นก็หมายความว่า.... เจ้าหญิงภูติที่ปรากฏตัวอยู่ภายในป่าแห่งนี้ กำลังปกป้องอะไรบางอย่างอยู่อย่างนั้นนหรือขอรับ”
“คงงั้น เจ้าจงรีบไปเปิดทางให้ข้าเข้าไปเดี๋ยวนี้! ”
“ครับ!!! ”
เมื่อชายแก่คนนั้นมาถึงที่หมาย ถึงจะทุลักทุเลไปนิดหน่อย แต่ก็ยังทัน ถึงจะช้าไปสักหน่อยก็ตาม เพราะฉะนั้นชายแก่ที่มาถึง ก็รีบตรงดิ่งเข้าไปยังในป่าแห่งความตายโดยทันที
_องค์สันตะปาปา
ชายแก่ที่ได้ชื่อว่าองค์สันตะปาปา เมื่อมาถึง ก็ได้เดินฝ่ากองทหารเข้าไปโดยที่ไม่สนแม้แต่เหตุวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น
“องค์สันตะปาปา ท่านมาทำอะไรในที่แบบนี้”
“องค์ตะปาปางั้นรึ?”
เสียงทหารที่เห็นองค์สันตะปาปาก็พากันหลีกทาง และตกใจเล็กน้อยที่คนๆ นี้มาอยู่ในที่แบบนี้
“มันเกิดอะไรขึ้นตอบข้ามาเดี๋ยวนี้!!! ”
ชายแก่ที่เดินมาถึง ก็มองไปที่ผู้กล้าที่นอนดิ้นจนไม่เหลือแม้แต่ภาพลักษณ์เดินที่องค์สันตะปาปาคิด และมีทหารคนหนึ่งเดินออกมาแล้วคุกเข่าลง
“องค์สันตะปาปา ได้โปรดช่วยท่านผู้กล้าด้วย พวกเราเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ท่านผู้กล้าคงจะไม่รอดเป็นแน่ถ้าท่านไม่ช่วย”
“ฮึ!! ข้าเองก็คงจะช่วยอะไรท่านผู้กล้าไม่ได้หรอก เพราะเท่าที่ข้าสัมผัสได้คือความตายที่รอเขาอยู่ ถึงแม้จะได้พรของเทพช่วยเอาไว้อยู่ แต่อีกไม่นาน มันจะถูกทำลาย”
แล้วดูเหมือนว่าสิ่งที่ท่านผู้กล้าโดนเข้าไปนั้นจะโดนแค่นิดเดียว มันไม่ถึงกับหนึ่งในพันซะด้วยซ้ำไป ถ้าโดนเข้าไปเต็มๆ มีหวัง ยังไม่ทันได้รับรู้อะไร วิญญาณก็หลุดออกจากร่างไปแล้ว
ชายแก่มองภูติทั้งสี่ที่ทั้งตัวสะบักสะบอมไปหมด
ข้าไม่คิดว่าต้นเหตุที่ท่านผู้กล้ากลายไปเป็นแบบนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากเจ้าหญิงแห่งภูติทั้งสี่ตนนี้อย่างแน่นอน
แล้วพอมาคิดถึงความสามารถของท่านผู้กล้าแล้ว เจ้าหญิงแห่งภูติทั้งสี่ก็ไม่น่าจะทำเช่นนี้ได้ ถึงจะไม่รับรองว่าผู้กล้าจะเอาชนะเจ้าหญิงภูติได้ แต่เจ้าหญิงภูติ ก็ไม่น่าจะมีพลังมากพอที่จะทำเช่นนี้ได้ เพราะเท่าที่ข้าดู เจ้าหญิงภูติยังออมพลังเอาไว้อีกเยอะ
“ต-แต่ว่า แม้กระทั่งดาบปราบมารก็ยังถูกทำลายเป็นผุยผง ถ้าท่านไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยท่านผู้กล้าได้อีกละขอรับ”
“เจ้าว่ายังไงนะ ดาบปราบมารที่เหล่าทวยเทพช่วยกันสรรสร้างขึ้นมาเพื่อปราบจอมมารนั่นน่ะนะ!!! ”
“ครับ! ”
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ดาบปราบมารที่ขึ้นชื่อว่าดาบไร้เทียมทานที่สุดในโลก ที่เหล่าทวยเทพช่วยกันสรรสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้กำจัดจอมมาร ยังถูกทำลายไม่เหลือซากอย่างนี้ นี่มันเกินกว่าที่จะเรียกว่าจอมมาตนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วเสียอีก
ถึงจะมีตัวตนที่น่ากลัวแบบนั้นปรากฏตัวออกมาก็จริง แต่ข้าก็ไม่คิดว่าจะเป็นภัยต่อมนุษย์อย่างพวกเรา เพราะพลังที่ลงมาจุตินั้น ได้ลบล้างพลังด้านลบของภายในป่าแห่งนี้ไปจนหมด
“เจ้าหญิงภูติ หนีไปแล้ว!!! ”
เสียงทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้น
ไม่เป็นไร ข้าสัมผัสได้ถึงพลังที่ว่านั่นได้อยู่ใกล้ๆ
“พวกเจ้าจงไปรายงานท่านแม่ทัพให้ถอยกลับไปยังค่ายนอกป่าซะ ที่เหลือเดี๋ยวพวกข้าจะจัดการเอง ส่วนผู้กล้าก็ปล่อยเอาไว้แบบนั้นละ”
“ครับ!!! ”
_ภายในป่าที่เหล่าเจ้าหญิงภูติได้ทำการหลบหนีเข้ามา
“ยุยจัง ใจเย็นๆ สิ พวกหม่าม้าโดนแค่นั้นไม่เป็นอะไรหรอกนะ เพราะฉะนั้น ยุยจัง.... ยกเลิกวาจาสิทธิ์ที่ยุยจังได้พูดใส่ผู้กล้าก่อนเถอะนะ”
“ต-แต่ว่า มันทำร้ายหม่าม้านะ หนูไม่ให้อภัยมันเด็ดขาด....”
ผมไม่มีทางที่จะให้อภัยกับพวกคนที่มันกล้ามาทำร้ายคนสำคัญของผมหรอกนะ เพราะฉะนั้น ไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆ หรอก แล้ว? เรามีว่าจาสิทธิ์ด้วยอย่างนั้นหรือ?
หม่าม้าเนโลพยายามจะกล่อมผม แต่ผมก็ไม่อยากจะฟังสักเท่าไหร่ สงสัยคงถึงวัยต่อต้าน
“พวกหม่าม้าไม่เป็นไรแล้วด้วย เพราะงั้นปล่อยไปเถอะนะ ดาบปราบมารเองก็ถูกทำลายไปเพราะยุยจังแล้ว เพราะฉะนั้น พวกนั้นคงจะไม่สามารถทำร้ายพวกหม่าม้า ได้อีกแล้วจ๊ะ”
หม่าม้าดาร์กเนสพูดเสริม
“เข้าใจแล้วต่ะ.... คลาย.....”
“โอ๋... เด็กดีๆ วาจาสิทธิ์ของยุยจังนั้น จะขึ้นอยู่กับ ว่าจาแล้วก็ความปรารถนา คราวหน้าต้องระวังเอาไว้ให้มากๆ ด้วยนะจ้ะ”
“ค่ะ หม่าม้าเนโล....”
ผมที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดของหม่าม้าดาร์กเนสกับหม่าม้าเนโล ก็มีน้ำตาปลิ่มๆ ออกมาเล็กน้อย
คำว่าแม่ ผมรู้แค่ว่าเป็นคนที่สำคัญมาก เพราะตั้งแต่เกิดมา พ่อและแม่ของผมก็จากไปเสียแล้ว เลยไม่เคยรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่าพ่อและแม่ สักครั้งเดียว
แต่ผมเองก็รู้สึกเล็กๆ นะว่าพวกหม่าม้าหน่ะ เป็นคนสำคัญสำหรับผมไปเสียแล้ว ไม่แน่ผมแค่อาจจะหลงความใจดีของพวกหม่าม้าที่คอยทำดีด้วยตลอดเป็นไปได้ แล้วถึงแม้มันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ล้ำค่า สำหรับผม
“ยุยจัง!!! หนูมาทำอะไรในที่แบบนี้!! หม่าม้าบอกให้อยู่กับหม่าม้าดาร์กเนสไง ทำไมถึงไม่ฟังหม่าม้าเลย”
“ต-คือ... หนูขอโทษค่ะ หม่าม้าเอลาส... พวกหม่าม้าหายไปนาน หนูกลัว.....”
“เอลาสพอเถอะ พวกเราควรหนีไปจากป่านแห่งนี้กันได้แล้วนะ”
หม่าม้าเนโลที่เห็นผมคอตกไปต่อหน้าหม่าม้าเอลาสที่บินลงมาอย่างช้าๆ และมองมาที่ผมนั้น ก็พยายามที่จะปรามหม่าม้าเอลาส ที่ทำสีหน้าแสดงถึงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้อ.... ก็ได้.... พวกมนุษย์เองก็ถอยกลับไปแล้วด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลอีกแล้ว นี่ยุยจัง...”
“ค่ะ! ?”
หม่าม้าเอลาสถอนหายใจออกมานิดหน่อย แล้วบ่นออกมาเหมือนกับคนแก่ ก่อนที่จะหันมาเรียกชื่อของผม จนผมที่ยังรู้สึกผิดอยู่ ก็สะดุ้งจนหม่าม้าเนโลกับหม่าม้าดาร์กเนสที่กำลังกอดผมอยู่สามารถสัมผัสได้
“พวกหม่าม้าน่ะ ไม่ทิ้งยุยจังไปไหนหรอกนะ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวไปหรอกจ๊ะ เพราะพวกหม่าม้าจะอยู่เคียงข้างยุยจังตลอดไปเลยยังไงละจ้ะ”
หม่าม้าเอลาสเข้ามาลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน
ที่ผมกลัว ไม่ได้กลัวหม่าม้าจะไม่กลับมาสักหน่อย แต่กลัวหม่าม้าจะโกรธเอาตางหากล่ะ
“ค่ะ... หม่าม้าเอลาส.....”
“เจ้าหญิงภูติแห่งธาตุอยู่ที่นี่หมดเลยหรือนี่! ”
ทุกคนตกใจกับเสียงที่แทรกเข้ามา จนพวกหม่าม้าตั้งท่าพร้อมที่จะรับมือกับทุกอย่างที่ไม่คาดคิด แต่ว่าเสียงที่ดังแทรกพวกเราขึ้นมันนั้น ก็ต้องตกใจกับภาพบนท้องฟ้า ที่มีอะไรบางอย่างกำลังค่อยๆ ลอยลงมา
“ใครว่ากันล่ะ เจ้าพวกมนุษย์.... พวกข้าเองก็อยู่ด้วยนะ”
“ไม่จริง!!! แม้แต่เจ้าหญิงภูตแห่งสรรพสิ่งเอง ก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน.....”
