บทที่ 5
“อยากไปทะเลไหม”
“ทำไมต้องไปทะเล”
“อ้าว! ก็เห็นคนอกหักเขาชอบไปทะเลกัน เลยลองชวนดู” คามินให้เหตุผล
“ไม่เห็นจะอยากไป”
“ตามใจ”
“แล้วนี่ทำไมแกยังไม่กลับบ้านอีก” พาขวัญเงยหน้าขึ้นถามพร้อมกับหรี่ตามองเพื่อนไปด้วย คงเพราะร้องไห้มาอย่างหนัก ตาเธอถึงสู้แสงไม่ค่อยได้
“ก็แกเป็นแบบนี้ ฉันจะกลับได้ยังไง”
“กลับไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ ใช่ว่านี่จะเป็นการอกหักครั้งแรกเสียเมื่อไหร่” พาขวัญพึมพำออกมา เธอจำความรู้สึกตอนอกหักครั้งแรกได้ดีว่าเป็นแบบไหน การอกหักเพราะหลงรักเขาข้างเดียวในตอนนั้น มันเจ็บกว่าตอนนี้หลายเท่า
ทั้งๆ ที่ครั้งนี้เธอน่าจะรับมือได้เพราะพอจะมีประสบการณ์มาแล้ว แต่เอาเข้าจริงเธอก็แพ้อีกตามเคย
“แกเคยอกหักมาแล้วเหรอ ตอนไหน”
“ตอนไหนก็ช่างฉันเถอะ แกกลับไปได้แล้วไป ไม่ต้องมาห่วงอะไรฉันมากมายหรอก”
“ต้องห่วงสิ เพราะแกเป็นเพื่อนฉัน ไม่ให้ห่วงเพื่อนจะให้ไปห่วงหมาที่ไหน”
“ขอบใจ” พาขวัญเสียงสั่นๆ เหมือนคนจะร้องไห้อีกครั้ง เธอซึ้งใจที่อย่างน้อยเวลานี้ยังมีคามินอยู่ข้างๆ หวังว่าเขาจะเป็นเพื่อนเธอแบบนี้ไปนานๆ หวังว่าเขาจะไม่รู้ว่าคือคนแรกที่ทำให้เธอพบเจอกับคำว่าอกหัก
“อืม”
“วันนี้เรามากินเหล้ากันไหม” คนอกหักเอ่ยชวน
“เอาจริง”
“จริง...ไม่ได้ดวลเหล้ากันมาตั้งนานแล้วนี่ คืนนี้ไม่เมาไม่เลิก”
“เออ...ไม่เมาไม่เลิก” คามินจำต้องเออออตามไป นั่นเพราะสิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้ในตอนนี้คือตามใจพาขวัญไปก่อน หวังว่าเธอจะเข้มแข็งได้ในเร็ววัน
เมื่อตกลงจะดวลเหล้ากัน คามินจึงออกไปซื้อของโดยขากลับนั้นเขายังแวะซื้อกับแกล้มติดมือมาด้วย และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็น พาขวัญนั่งรออยู่ในชุดนอนตัวเดิม ผมเผ้ายังดูยุ่งเหยิงและตาสวยๆ ของเธอ ก็ยังคงบวมเป่งอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก่อนที่คามินจะส่งแก้วเหล้าให้เธอดื่ม ชายหนุ่มก็เซ้าซี้บอกให้เธอกินอะไรรองท้องเสียก่อน ซึ่งเธอก็ทำตามจากนั้นก็ยื่นมือมารับแก้วเหล้าจากเขาไปยกดื่มแบบรวดเดียวหมด
“แกชงมันอ่อนไป ขอเข้มๆ หน่อยสิ” พาขวัญเอ่ยบอก นั่นทำให้คนที่ตั้งใจชงเหล้าแบบบางเบาหันมายิ้มแห้งๆ ให้ แล้วเอ่ยแก้ต่างให้ตัวเอง
“ก็ยังไม่อยากให้แกเมาเร็วไปไง”
“ฉันอยากเมา อีกอย่างขืนแกยังชงแบบนี้ ฉันกินยันเช้าก็ไม่เมา”
“เออๆ แก้ตัวใหม่ก็ได้อะ” เอ่ยจบคามินก็กลับไปชงเหล้าที่ปริมาณเหล้าที่เทลงไปนั้นมากขึ้นกว่าแก้วแรกมาก เขารู้ว่าพาขวัญชอบดื่มเหล้าเข้มระดับไหน เพราะตอนเรียนไปดวลกันบ่อยๆ และเขาก็เป็นมือชงทุกครั้ง กระทั่งเรียนจบต่างแยกย้ายกันไปทำงาน กิจกรรมการดวลเหล้าจึงห่างหายไป
“ค่อยดีขึ้นมาหน่อย” พาขวัญเอ่ยชมเหล้าแก้วที่สองซึ่งได้ระดับความเข้มในแบบที่เธอพอใจ จากนั้นทั้งคู่ก็หวนรำลึกถึงวันเก่าๆ ยิ่งมีเหล้าเข้ามาแบบนี้ก็ยิ่งคุยกันสนุก
แต่จู่ๆ รอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นคราบน้ำตาจนนองหน้าพาขวัญ เมื่ออาการอกหักที่แผลยังไม่หายสนิทหวนกลับมาเล่นงานอีก เธอโวยวาย ฟูมฟาย เสียใจ แต่เป็นการโวยวายที่แทบจะไร้เสียง ที่คามินเห็นแล้วก็ได้แต่สงสาร
“แกต้องผ่านมันไปให้ได้ฝัน”
“ฉันจะตายก่อนจะผ่านไปไหมแก”
“ใครเขาอกหักแล้วตายบ้าง”
“ฉันนี่ไง” เอ่ยจบก็ชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ถ้าแกตาย ฉันจะไปลากวิญญาณแกกลับมาเอง”
“ไอ้บ้า พูดยังกับแกเป็นมนุษย์ผู้มีพลังวิเศษไปได้ หรือร่างสองของแกคือยมทูต...หา” พาขวัญหัวเราะออกมา จากนั้นก็ดื่มเหล้าที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วจนหมด ก่อนจะยื่นไปให้คามินชงให้ ซึ่งชายหนุ่มก็รับมาอย่างไม่ขัด
การดวลครั้งนี้เริ่มจากแก้วที่หนึ่ง ขยับไปแก้วที่สอง สามสี่ห้าอย่างต่อเนื่อง และผ่านไปกระทั่งเหล้าขวดแรกหมดเกลี้ยง ถัดมาคือกองขวดโซดาที่เปิดผสมเหล้าไปจนเกลี้ยงทุกขวดแล้วเช่นกัน ในขณะที่ถังน้ำแข็งก็ละลายเหลือแค่น้ำ
“โซดา น้ำแข็งหมด แกชนะ” คามินพูดเองเออเอง นั่นเพราะอยากยุติการดวลเหล้าแล้วนั่นเอง แต่ดูเหมือนพาขวัญจะยังไม่อยากหยุด
“หมดแกก็ออกไปซื้อมาเพิ่มสิ” น้ำเสียงที่เธอเอ่ยตอบนั้นบ่งบอกว่ายังมีสติดี นั่นเพราะเหล้าแค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้แน่นอน ตอนสมัยเรียนนี่เธอเป็นมือวางอันดับหนึ่งเรื่องความคอแข็ง
“พอได้แล้วมั้ง”
“ไม่...ฉันอยากดื่มอีก ดื่มให้สมองมันตายไปเลยได้ยิ่งดี จะได้ลบภาพผู้ชายคนนั้นออกไปให้หมด” เอ่ยจบพาขวัญก็คว้าเหล้าแก้วสุดท้ายขึ้นมาดื่ม
“แล้วที่ดื่มๆ มาตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนนี้ เหล้ามันช่วยอะไรแกได้บ้างไหม” ปลอบไปปลอบมา คามินก็เริ่มด่ากรายๆ
“ยัง...ก็ฉันยังไม่เมา จะช่วยได้ยังไงเล่า”
“ต่อให้แกเมามันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรือได้ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวตอนแกไม่ได้สติ พอแกสร่างเมาความทรงจำของแกมันก็ยังเหมือนเดิม แบบนี้แกจะทำยังไง”
“กินเหล้ามันไปทุกวันก็สิ้นเรื่อง”
“ตลก ชีวิตแกจะมีแค่เหล้ากับผู้ชายเฮงซวยคนนั้นหรือไง เวลาคนอื่นอกหักแกก็ปลอบใจให้กำลังใจเขาสารพัด แต่พอตัวเองอกหักกลับตกม้าตาย”
“เออ...ฉันไม่ได้เก่ง ฉันมันอ่อนแอ พอใจยัง” เอ่ยจบพาขวัญก็หันมาจ้องหน้าคามินเขม็ง
“ยัง”
“จะเอายังไงว่ามาไอ้เอ”
“แกต้องตั้งสติแล้วเดินหน้าต่อให้ได้ อกหักแล้วไง คนทั้งโลกเขาก็เคยอกหักกันทั้งนั้น ไม่ใช่แกเป็นอยู่คนเดียว ตั้งสติหน่อยสิวะ”
“แต่ว่าตอนนี้ฉันยังทำไม่ได้ไง”
“รู้ว่ายังทำไม่ได้ แต่แกต้องรีบลุกให้ไว ไม่อย่างนั้นแกจะยิ่งจม”
“เออๆ รู้แล้ว แม่ง...อกหักแล้วเจ็บแบบนี้ต่อจากนี้ฉันจะไม่ขอรักใครอีกแล้ว ไม่เด็ดขาด” เอ่ยจบพาขวัญก็คว้าขวดเหล้าไปยกดื่มแบบเพียวๆ นั่นทำให้คามินต้องรีบห้าม
“ลืมไปแล้วหรือไงว่าแกกินเหล้าเพียวๆ ไม่ได้”
“นิดเดียวคงไม่เป็นไรหรอก” คนอยากเมาเพื่อลืมความช้ำรักเอ่ยตอบ คามินได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะคงห้ามพาขวัญไม่ได้ แต่เธอก็ดื่มไปแค่นิดเดียวจริงๆ อย่างที่บอก
“แกออกไปซื้อโซดากับน้ำแข็งมาเพิ่มหน่อยสิ กินเพียวๆ มันบาดคอ ไม่เห็นจะอร่อย” คนกึ่มๆ จะเมารีบสั่ง เพราะตอนนี้ยังเมาไม่ได้ที่นั่นเอง
