Love’s Probation ระยะทดลองรัก

34.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
22
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

Love’s Probation : ระยะทดลองรัก คือนิยายรักของเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อ เพราะมีคำว่าเพื่อนคั่นกลางระหว่างความสัมพันธ์ จะให้เดินหน้าต่อเพื่อเป็นคนรักก็หวั่นจะศูนย์เสียทั้งเพื่อน ทั้งคนรัก จึงได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ กระทั่ง...มีเหตุการณ์ให้ต้องเปิดเผยความในใจออกไป เมื่อรักครั้งนี้ต้องการระยะทดลองเพื่อทดสอบความมั่นคง นั่นจึงเกิดเป็น Love’s Probation ระยะทดลองรัก ขึ้นค่ะ มาลุ้นกับความรักของพาขวัญและคามินกันนะคะ ว่าทั้งคู่จะผ่านโปรความรักครั้งนี้ไปได้ไหม ++++++ “แกเมาแล้วใช่ไหม” “ยาง” น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะหลังจากดื่มเหล้าเพียวๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย จนเหล้าหมดไปหนึ่งขวดครึ่ง พาขวัญก็ออกอาการ “เสียงยืดขนาดนี้ยังจะบอกไม่เมาอีก” คามินส่ายหน้าให้เธอ “ก็บอกแล้วไง ว่าฉันยังไม่มาว แกนี่” คนเมารีบปฏิเสธ “ไม่เมาก็ไม่เมา” คามินส่ายหน้าให้ ก่อนจะรีบเข้ามาพยุงพาขวัญที่เวลานี้ทำท่าเหมือนจะอาเจียนไปห้องน้ำ ซึ่งทันทีที่เธอไปถึงก็เกาะขอบชักโครกไว้แน่น จากนั้นก็โก่งคออาเจียนเอาทุกอย่างในท้องออกมาจนหมด โดยมีคามินคอยลูบหลังกับส่งน้ำให้บ้วนปากเป็นระยะๆ “ไหวไหม” “ไม่ไหว” คนเมายอมรับสารภาพ เธอหันมามองหน้าคามินแล้วเบะปากคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ คามินหมายจะยกมือขึ้นไปปาดน้ำตาให้ แต่จู่ๆ พาขวัญกลับอาเจียนใส่ตัวชายหนุ่ม จนเลอะเทอะไปด้วยกันทั้งคู่ “แกนะแก หางานให้อีกจนได้” คามินส่ายหน้าให้คนเมา ก่อนจะลากตัวเธอไปนั่งใต้ฝักบัว จากนั้นก็เปิดน้ำจากฝักบัวเพื่อล้างคราบอาเจียนจากทั้งตัวเขาและเธอ แต่เพราะยังมีกลิ่นอยู่เขาจึงต้องใช้ครีมอาบน้ำเข้ามาช่วย “แกถูตัวด้วยนะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเอาผ้าขนหนูบนห้องให้ก่อน” “อืม” พาขวัญที่ยังพอมีสติเอ่ยรับ แต่มันก็ไม่ได้มากจนรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร คามินปล่อยให้เธอนั่งในห้องน้ำไปก่อน โดยหวังว่าหลังจากเขากลับมาเธอจะถูตัวเองเสร็จแล้ว คามินเดินทั้งที่ตัวยังเปียกขึ้นไปบนห้องนอนของพาขวัญ รื้อหาผ้าขนหนูในตู้อยู่นานจนเจอ แต่เพราะตัวเขาเองก็เปียกจึงถอดเสื้อผ้าบนตัวออก จากนั้นก็มองหาเสื้อยืดตัวใหญ่สุดสักตัวในตู้เสื้อผ้าของพาขวัญ เพราะเขาเหมือนจะเคยเห็นเธอใส่เสื้อยืดแบบโอเวอร์ไซส์ “อยู่นี่เอง” คามินยิ้มออกมา เมื่อสายตามองเห็นเสื้อตัวที่ต้องการ ก่อนจะหยิบออกมาสวมแต่เสื้อโอเวอร์ไซส์ของพาขวัญก็ยังฟิตสำหรับเขาอยู่ดี ส่วนท่อนล่างนั้นชายหนุ่มตัดสินใจนุ่งแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวไว้ก่อน โดยผูกปมให้แน่นที่สุดเท่าที่จะแน่นได้ เพราะกลัวหลุดนั่นเอง “เอาวะ ดีกว่าไม่ได้ใส่อะไร” คามินบอกตัวเอง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่อีกสองสามผืนติดมือมาเพื่อจะเอาลงไปให้พาขวัญ แต่ทันทีที่เขามาถึงชายหนุ่มก็ถึงกับอุทานออกมา “ฉิบหายไอ้ฝัน แกจะถอดชุดออกทำไมวะเนี่ย”

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันประธานผู้ชายอบอุ่นพระเอกเก่งเลือดร้อนเศรษฐี

บทที่ 1

“ถ้าคืนนี้พี่หนึ่งเขาขอฉันแต่งงาน แกว่าฉันควรจะตอบพี่เขายังไงดี” ประโยคที่ดังขึ้นจากเจ้าบ้านที่ชื่อว่าพาขวัญ ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอจะอายุครบยี่สิบแปดปีเต็มลอยมาเข้าหูคามินที่นั่งอยู่ไม่ไกล

นั่นทำเอาชายหนุ่มที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลัก เพราะไม่คิดว่าการแวะมาหาเพื่อนสนิทที่คบหากันมาร่วมสิบปีวันนี้จะได้ยินเข้า

“มโน”

“ไอ้เอ นี่แกจะไม่ให้ความหวังฉันเลยหรือไง...หา อยากเห็นฉันขึ้นคานหรือไง” พาขวัญมองคามินตาขวาง นั่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบแก้ต่างให้ตัวเอง

“เปล่า”

“งั้นก็ช่วยทำหน้าแบบดีใจกับเพื่อนหน่อยสิ”

“ดีใจด้วย” แม้จะบอกว่าดีใจด้วย แต่น้ำเสียงเรียบๆ บวกกับสีหน้าตึงๆ ที่คามินแสดงออกมานั้นช่างตรงกันข้ามกับประโยคที่เขาพูด

“จริงใจสุดๆ” พาขวัญเบ้ปากใส่คนข้างๆ ที่วันนี้บอกจะแวะมากินข้าวด้วยแต่กลับมามือเปล่า คงหวังให้เธอเข้าครัวทำอะไรให้กินตามเคยสินะ...หึ๋ย

“ก็พี่หนึ่งเขายังไม่ได้ขอแกแต่งงาน แกจะรีบไปไหนเล่า”

“แต่คืนนี้พี่เขาชวนฉันไปดินเนอร์”

“ก็แค่ไปกินข้าวเหมือนทุกทีนั่นล่ะ” คามินสวมบทเป็นฝ่ายค้านชั่วคราว

“ไม่เหมือน”

“ยังไงที่บอกว่าไม่เหมือน” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

“ก็วันนี้เป็นวันครบรอบสี่ปีที่เราคบกัน มันต้องพิเศษสิ”

“ผู้ชายเขาไม่จำเรื่องพวกนี้กันหรอก”

“ไม่จำก็ไม่เป็นไร เพราะฉันบอกพี่เขาไปทางไลน์แล้วว่าคืนนี้มันพิเศษยังไง เปอร์เซ็นต์ที่คืนนี้พี่เขาจะขอฉันแต่งงานมีสูงมากถึงมากที่สุด” พาขวัญยิ้มกริ่ม สมัยนี้บางอย่างมันก็ต้องบอกกันตรงๆ เพราะผู้ชายอาจจะลืมก็เป็นได้

“เพราะอะไรแกถึงมั่นใจแบบนั้น” น้ำเสียงและสีหน้าของคามินดูจริงจังไม่ได้ติดเล่นอย่างก่อนหน้านี้

“ก็ฉันกับเขาคบหากันมาสี่ปี พาไปแนะนำให้คนในครอบครัวอีกฝ่ายได้รู้จักกันมาแล้ว ธุรกิจพี่เขาก็กำลังไปได้สวย อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะเรียนจบปริญญาโท จบออกไปแต่งงาน จากนั้นก็จะไปช่วยงานพี่เขาที่บริษัท แต่งงานสักสองปีค่อยมีลูกน่ารักๆ สักสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ทุกอย่างเพอร์เฟค”

“เพ้อ”

“ไอ้เอ!” พาขวัญหันมาแว้ดใส่คามินอีกครั้ง ไม่รู้เป็นอะไรพักนี้ชายหนุ่มคอยแต่ขัดเธอเรื่องนี้ตลอด สงสัยอิจฉาเพราะเธอมีแฟนส่วนคามินโสดแน่ๆ

“เออๆ ขอโทษที ปากไวไปหน่อย แต่ฉันก็อยากให้แก...ช่างเถอะ” คามินเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่เอ่ยออกมา

“แกอยากให้ฉันทำอะไร” เพราะสงสัยทำให้พาขวัญเอ่ยถามออกไป คามินถอนหายใจออกมานิดหน่อยแล้วเอ่ยขึ้น

“เผื่อใจ”

“เผื่อใจ เรื่องที่พี่หนึ่งจะไม่ขอฉันแต่งงานคืนนี้นะเหรอ ฉันก็แอบเผื่ออยู่นะ แต่ไม่รู้สิ ฉันมั่นใจว่าคืนนี้พี่เขาจะพูดอะไรบางอย่าง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกขยับมานี่สิ” เอ่ยจบพาขวัญก็ตบโซฟาข้างๆ ตัวสองสามครั้ง เพื่อส่งสัญญาณให้คามินเปลี่ยนที่นั่ง

“นั่งตรงนี้ดีแล้ว” คามินรีบปฏิเสธ นั่นเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยแปลกๆ จู่ๆ พาขวัญก็เปลี่ยนอารมณ์ไวแบบนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ หรือเธอโกรธที่เขาบอกให้เผื่อใจ

“มานั่งตรงนี้ แล้วก็หยิบดอกไม้นั่นมาถือไว้ด้วย”

“หยิบดอกไม้ด้วยเหรอ”

“ใช่...ถ้าไม่ทำก็นู่นประตู กลับไปเลย”

“เออๆ ทำก็ทำ” ชายหนุ่มจำเป็นต้องเอ่ยรับอย่างขัดเสียไม่ได้ คามินคว้าดอกไม้ช่อสวยจากแจกันตรงหน้ามาถือไว้ในมือ จากนั้นก็ก้าวเข้าไปหาพาขวัญ แต่จังหวะที่จะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้กลับถูกเธอยกมือห้าม

“อืม...นั่งคงไม่ได้งั้นแค่คุกเข่าสิ”

“หา” คนฟังอุทานออกมา

“แกลงไปนั่งคุกเข่า แล้วก็พูดว่า ฝันแต่งงานกับพี่นะครับ”

“อะไรนะ ให้ฉันขอแกแต่งงานเหรอ”

“ใครบอกว่าฉันให้แกขอแต่งงาน” พาขวัญถึงกับยกมือขึ้นเท้าสะเอว

“ก็เมื่อกี้ไงที่แกบอกให้ฉันพูดว่า ฝันแต่งงานกับพี่นะครับ ใช่ไหม”

“ใช่...แต่ฉันให้แกสวมบทเป็นพี่หนึ่ง ถือดอกไม้ไว้ในมือแล้วก็ลงไปนั่งคุกเข่าพร้อมพูดว่า ฝันแต่งงานกับพี่นะครับ ไม่ได้บอกให้แกพูดขอฉันแต่งงาน เข้าใจยัง”

“แต่ฉันไม่มีแหวน มันจะไม่สมจริงเอานะ” คามินพยายามหาทางเลี่ยง นั่นเพราะไม่อยากสวมบทแบบนี้สักเท่าไหร่

“เอาไงดี”

“เลิก” คำตอบจากคามินทำให้พาขวัญยกมือขึ้นมาหมายจะเขกหัวเพื่อนให้เข็ด แต่ก็แค่ขู่เท่านั้นเองไม่ได้ทำจริงๆ

“ไม่เลิก” พาขวัญทำท่าคิดหนัก เพราะบนนิ้วเธอก็ไม่ได้สวม

แหวนด้วย กระทั่งสายตามองไปเห็นแหวนวงหนึ่งเข้า นั่นทำให้เธอยิ้มร่าออกมา

“ถอดแหวนจากนิ้วก้อยแกมาใช้ก่อน”

“วงนี้เหรอ” เอ่ยจบคามันก็ก้มมองแหวนของตัวเอง ท่าทางของเขาทำให้พาขวัญเริ่มใช้ลูกอ้อนเข้ามาช่วย เพราะขี้เกียจเดินขึ้นไปหยิบแหวนในห้องแล้วนั่นเอง

“ใช่...ให้ฉันยืมก่อนนะเอเพื่อนรัก ได้ไหม”

“อืม” คามินเอ่ยรับแค่นั้น ก่อนจะถอดแหวนออกมาจากนิ้วแล้วถือไว้ในมือ

“เฮ้อ! นี่แค่ซ้อมฉันยังตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมดแล้วเนี่ย ถ้าถูกพี่หนึ่งขอแต่งงานจริงๆ ไม่เป็นลมเอาเลยเหรอเนี่ย”

“พร้อมยัง จะได้พูด”

“เออ...พร้อมก็พร้อม” พาขวัญหันมาแยกเขี้ยวใส่คามินที่คอยแต่ขัดเธออยู่เรื่อย จากนั้นก็สูดอากาศเข้าปอดลึกๆ แล้วเก๊กท่านั่งราวกับเจ้าหญิงในนิยาย

คามินก้มมองดอกไม้ในมือซึ่งมันคือดอกไม้จากแจกันบนโต๊ะรับแขกภายในบ้านของพาขวัญนั่นเอง แต่ที่สะดุดตาเขาคือแหวนวงเกลี้ยงที่เขาสวมมันติดนิ้วมาหลายปี นั่นก็เพื่อรอสวมให้ว่าที่เจ้าสาว

แต่ทว่า...ตอนนี้เขากลับถอดมันออก เพื่อสวมให้เพื่อนสนิทที่เธอกำลังจำลองเหตุการณ์สำคัญในชีวิต โดยหารู้ไม่ว่าเขานั้นไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นแค่การจำลอง

เขารู้ว่าพาขวัญเฝ้ารอแหวน เฝ้ารอการขอแต่งงานจากคนรักที่เธอคบหามานานหลายปี และเขาเองก็เฝ้ารอให้เธอหันมาเห็นความรักที่เขามอบให้เช่นกัน ซึ่งคงไม่มีวันนั้น

คามินเดินถือดอกไม้แล้วตรงเข้ามาหาพาขวัญ คุกเข่าต่อหน้าเธอในขณะที่เธอเองก็หันมามองเขาเช่นกัน วินาทีนั้นคามินเหมือนตกอยู่ในภวังค์ จากนั้นเขาก็เอ่ยออกไป

“ฝัน...แต่งงานกับเรานะ”

ผัวะ