EP 9 : เมีย...
“ถามว่าเสียงดังทำไม”
“อย่า มา ยุ่ง”
“หึ ๆๆ เสียงดังทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแค่เพราะ...ไม่ได้ผัวเพื่อนง่าย ๆ อย่างที่คิดแค่นี้เองน่ะเหรอ?”
“...”
“ผมพูดถูกไหม?”
“...”
เพล้ง!!!
“ไอ้เหี้ย!!!”
ผมหันหน้ากลับไปมองคนที่เพิ่งคว้าแจกันที่อยู่ใกล้ตัวมาปาใส่ผม มองเธอแล้วมองต่ำลงเพื่อดูแจกันที่แตกอยู่บนพื้น
แตกกระจายที่พื้นหลังจากหัวผมมันแตกไปก่อนหน้าแถมตอนนี้ก็เริ่มมีของเหลวอุ่น ๆ ไหลจากหัวมาหน้าผากแล้วก็ลงมาที่หางคิ้วช้า ๆ แล้วด้วยสิ
“ฮึ!” ผมแค่นยิ้มออกมาโดยที่ไม่คิดจะเช็ดเลือดให้ตัวเองแม้แต่นิดเดียวแต่ผมจ้องหน้าคนที่ทำให้หัวผมแตกไม่ละสายตาแทน
“...”
“ถามครั้งสุดท้าย...อยากให้ช่วยไหม”
“ช่วยเหรอ? จะช่วยอะไรในเมื่อเมื่อวานนายเพิ่งรับคำสั่งของคุณพ่อเรื่องยุติการรักษาคุณแม่ฉันอยู่เลย นายคิดว่าฉันไม่ได้ยินที่คุณพ่อกับนายคุยกันงั้นเหรอไอ้สาวเลว!”
“ฟัง... / อยากช่วยเหรอ? ได้! ถ้างั้นก็หาทางให้ฉันได้พี่เซตัสเป็นผัวเร็ว ๆ สิคุณแม่ฉันจะได้รอด มีปัญญาช่วยไหมถ้าไม่มีปัญญาก็หุบปาก!”
“ต้องการแบบนั้น?”
“เออ!” ผมถามจบเธอก็สวนกลับมาทันทีทำให้ผมแค่นยิ้มออกมา
“โอเค ถ้างั้นก็สงบสติอารมณ์ซะ อีกสองวันจะเอาไอ้ตัสมาเป็นผัวให้”
“...” ผมตกลงในสิ่งที่เธอต้องการแต่สายตาของคุณหนูตรงหน้าก็ยังเต็มไปด้วยอารมณ์โมโหและโกรธเกลียด
“ส่วนเรื่องอารินทร์ไม่ต้องห่วงผมจะคุยกับพ่อคุณให้ พ่อคุณคงให้โอกาสคุณได้แก้ตัวอีกครั้ง สงบสติอารมณ์ซะแล้วเตรียมตัวให้ดีอีกสองวันคุณต้องไปงานเลี้ยงแทนคุณพ่อคุณ” ผมพูดจบก็เดินออกมาจากห้องนอนของเธอ
ปัง!
“อยากช่วยเหรอ? ได้! ถ้างั้นก็หาทางให้ฉันได้พี่เซตัสเป็นผัวเร็ว ๆ สิคุณแม่ฉันจะได้รอด มีปัญญาช่วยไหมถ้าไม่มีปัญญาก็หุบปาก!”
“ฮึ!” อยากได้แบบนี้เหรอคุณหนู ได้สิ เดี๋ยวหมารับใช้ของพ่อคุณจะจัดการให้
-สองวันต่อมา-
“ขอบใจมากนะ เรื่องค่าจ้างที่เหลือเดี๋ยวให้คนจัดการให้” เขาเดินออกมาจากห้องพักพร้อมผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปด้วยทำไม แล้วจ้างอะไรไม่เข้าใจ?
“ขอบคุณค่ะ ถ้ามีงานดี ๆ แบบนี้อีกติดต่อลินลี่ได้ตลอดเลยนะคะ” ผู้หญิงคนนี้บอกเสียงหวาน เสียงเหมือนจะยั่วเขาด้วยแต่เขาก็ยังมีสีหน้าขรึมเหมือนเดิม
“อย่าให้เรื่องรั่วไหล เก็บความลับให้ดี”
“สบายใจได้เลยค่ะ รับรองว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับไปจนวันตายแน่นอนค่ะคุณอคิน” เธอยังส่งเสียงยั่ว ส่วนฉันก็ได้แค่เก็บความสงสัยในหลาย ๆ อย่างไว้
“อืม ไปได้แล้ว”
“โอเคค่ะ อุ้ย! มารับงานต่อเหรอจ้ะ” เธอรับคำสั่งเขาเสียงหวานพอหันมามองฉันก็ทักอย่างกับเพิ่งเห็นทั้งที่ความจริงก็เห็นฉันตั้งแต่เดินออกจากห้องแล้ว
“ไปเดี๋ยวนี้ลินลี่” เสียงเขาแข็งขึ้นผู้หญิงคนนี้เลยแค่ยิ้มมีเลศนัยให้ฉันแล้วเดินไป
“ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปทำอะไร” ฉันถามทันทีที่เธอเดินห่างออกไป เขาเอาพี่เซตัสมาที่ห้องตั้งนานแล้วแต่เพิ่งโทรเรียกให้ฉันตามขึ้นมา พอมาถึงก็มีผู้หญิงเดินออกมาจากห้องแล้วพูดจาแปลก ๆ กันอีกฉันไม่สงสัยก็บ้าแล้ว
“ไอ้ตัสไม่ใช่คนโง่ ถ้ามันตื่นมาแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองเสร็จมันคงไม่เชื่อว่ามีอะไรกับคุณ”
“ฮะ? นี่...อย่าบอกนะว่านายให้ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรกับพี่ตัสแทนฉัน?” ฉันถามด้วยอาการเหวอ ความจริงเหวอตั้งแต่เขาพูดเรื่อง เสร็จ ออกมาหน้าตาเฉยแล้วล่ะ ไม่ได้เหวอแค่เพราะรู้ว่าเขาเอาผู้หญิงมาทำอะไรแบบนั้นหรอกแต่เขากลับมองมาที่ฉันด้วยสายตาเยาะเย้ย
“ทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่าอยากทำเองจะได้ไม่ต้องเสียเงินจ้าง”
“นี่! ฉันก็แค่ถามอย่ามาดูถูกฉัน!”
“ฮึ ๆๆ โอเคครับ ถ้างั้นคุณหนูก็เข้าไปในห้องเถอะ รู้ใช่ไหมว่าต้องอยู่ในสภาพไหน”
“...รู้ ไม่ได้โง่” รู้ว่าต้องอยู่ในสภาพไหนถึงจะเนียน แต่...
“เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อน รอมันใกล้ตื่นแล้วจะออกมา มันคงหลับไม่นานหรอก”
“ไม่จำเป็น ฉันจัดการเองได้”
“แน่ใจ?”
“อืม จะไปไหนก็ไป แล้วก็ไม่ต้องเสนอหน้ารอรับเพื่อทำผลงานกับคุณพ่อล่ะ มีปัญญากลับเอง” ฉันไม่อยากได้รับความช่วยเหลือไปมากกว่านี้ ไม่ต้องมาช่วยเหลือในการทำเรื่องเลวบัดซบ ฉันไม่อยากให้เขามีเรื่องไปถากถางดูถูกในอนาคตมากขึ้น!
-เวลาต่อมา-
“พี่...พี่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” เสียงของคนข้าง ๆ ที่ตื่นมาด้วยสภาพเปลือยเปล่าถามฉันด้วยความงุนงง
“...ช่างมันเถอะค่ะ ถ้าจำไม่ได้ก็อย่ารื้อฟื้นมันเลย พี่เซตัสคงเมามาก” ฉันตอบด้วยเสียงสั่นสะท้านและไม่มองหน้าพี่เซตัสเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ฉันไม่หันไปมองพี่เขาเลยตั้งแต่ที่ฉันจัดการอะไรบางอย่างเสร็จเมื่อเกือบสองชั่วโมงก่อนด้วยซ้ำ
จะให้มองได้ยังไง ฉันทั้งอาย อับอาย และละอายใจจะแย่แล้ว
“แยมโรล พี่... / เราคงเมากันมากจริง ๆ ช่างมันเถอะค่ะ พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ลืมมันซะดีกว่า” ฉันรีบพูดแทรกเพื่อตัดบทแล้วพลิกตัวหันหลังดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายของตัวเองเอาไว้ให้เหลือแค่ศีรษะที่โผล่พ้นออกไป
“พี่... / เราอย่าเพิ่งคุยกันเลยนะคะ แยกย้ายกันก่อนดีกว่า” เป็นครั้งที่สองที่ฉันพูดแทรกเพื่อตัดบท รีบไปเลยค่ะพี่เซตัส ไม่ต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยนะแค่ไปตอนนี้เลยขอร้อง
“พี่กลับก่อนนะ”
“...ค่ะ” ฉันตอบช้าเพราะฉันโล่งใจที่พี่เขาไม่ยืดเยื้อจะพูดอะไรต่อจนเผลอเป่าลมหายใจออกมาก่อนตอบต่างหาก พอพี่เซตัสออกไปฉันก็รีบลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยรีบออกจากห้องนี้แล้วตรงกลับไปที่บ้านทันทีเหมือนกัน
-วันต่อมา-
“พ่อให้โอกาสหนูครั้งสุดท้าย คืนนี้จัดการให้เรียบร้อยส่วนพรุ่งนี้ก็ทำให้ปั้นชากับเซตัสแตกหักกันซะ ส่วนเรื่องที่เซตัสต้องรับผิดชอบหนูพ่อจะไปคุยกับพ่อแม่ของมันเอง อย่าพลาดล่ะ หนูรู้ดีนะแยมโรลว่าหนูมีโอกาสครั้งเดียว”
“...” รู้ไหมคะว่าตั้งแต่กลับมาถึงบ้านฉันยังไม่ได้นอนเลย นอนไม่หลับ รู้สึกแย่ไหมหมด นั่งจมอยู่กับความคิด ความรู้สึกผิด และความรู้สึกอึดอัดที่ถูกบีบบังคับจากคุณพ่อจนเช้าและมันก็เป็นเช้าที่ฉันต้องทำเรื่องเลวทรามต่อให้เรียบร้อย
ติ๊ด!
Jamroll : ตื่นรึยัง
ทันทีที่ฉันกดส่งข้อความไปฉันก็รู้ว่านับจากนี้จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วจริง ๆ เมื่อไหร่มันจะจบนะ ฉันอยากให้เรื่องนี้มันผ่านพ้นไปสักที!
ติ๊ง!
Phancha : ?
ปั้นชาส่งข้อความกลับมา แค่การตอบกลับสั้น ๆ ก็เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่านับจากนี้ไปความสัมพันธ์ของเราสองคนจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม
แค่เห็นข้อความนี้ฉันก็น้ำตาคลอ ฉันเสียใจมากนะที่ต้องเสียเพื่อน ปั้นชาเป็นเพื่อนที่ดีมากจริง ๆ แล้วฉันก็รักปั้นชาจริง ๆ
น้ำตาฉันไหลออกมาช้า ๆ ในระหว่างที่ปลายนิ้วกำลังจะกดส่งรูปที่แอบถ่ายเมื่อคืนไปให้ปั้นชา
ติ๊ด!
Jamroll : Send a photo
Jamroll : ขอโทษนะชา
Jamroll : ไม่ว่าแกจะว่ายังไงก็ตาม
Jamroll : แต่สุดท้ายเมื่อคืนฉันกับพี่ตัส “เรามีอะไรกันแล้ว”
Jamroll : ฉันแค่ทวงสิ่งที่เป็นของฉันแต่แรกแค่นั้นเอง
Jamroll : ไม่ว่ากันนะชา
“ฮึก! ขอโทษนะชา~ ฉันขอโทษ~ ฮื่อ ๆๆ”
#JAMROLL END
#AKIN TALK
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
...เซตัส
ติ๊ด!
“ครับคุณเซตัส”
(คุณเหี้ยอะไรของมึง อย่ากวนตีนกูไอ้เหี้ยคนขับรถ)
“อ่าส์~ โอเคครับ...ไอ้ตัส โทรหากูทำไม มีอะไร”
(เมื่อคืนมึงอยู่ที่ไหน” มันยิงคำถามทันทีผมที่นั่งอยู่ในรถก็กระตุกยิ้ม
“ทำไม”
(กูเห็นมึงในงาน จบงานแล้วมึงไปที่ไหนต่อ มึงไม่ได้ดูแลคุณหนูของมึงจนไปส่งถึงบ้านเหรอไอ้คิน)
“ไปส่งสิ”
(ไปส่งแล้วทำไม...)
“มึงมีอะไร เป็นอะไรถึงถามแบบนี้” ผมแกล้งถามทั้งที่รู้ดีว่าไอ้เซตัสอยากถามอะไร
(...)
“มีอะไรไอ้ตัส”
(กูแค่...กูแค่อยากรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนกูเมาแล้ว...) มันเหมือนอยากถามแต่ก็พูดออกมาไม่หมด ฮึ ๆๆ ผมรู้ว่าทำไมมันอยู่ ๆ มันถึงเกิดอาการไม่ลังเลที่จะถามขึ้นมา
“แล้วมึงก็ตื่นมาเจอตัวเองนอนอยู่กับคุณหนู...ถูกไหม”
(มึงรู้?)
“อืม กูรู้”
(แล้วมึงปล่อยให้เกิดขึ้นได้ยังไงไอ้คิน มึงก็รู้ว่า...แม่งเอ้ย!)
“หึ ๆๆ ใจเย็น ๆ ก่อน มึงจะโมโหไปทำไม มึงนี่นะจะมีอะไรกับ...เมียกู?”
