บทย่อ
หมามันจะรักจะซื่อสัตย์กับเจ้านายก็เรื่องมัน ส่วนหมารับใช้อย่างผมจะแก้แค้นและ "เอา" คืนเจ้านายให้สาสม!
EP 1 : หมั้น
“แก” ฉันเรียก เพื่อนรัก เบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเครียดและกังวล
“ว่า”
“คือ...”
“เป็นอะไรแยม” ปั้นชา เพื่อนสนิท เพื่อนรักแค่คนเดียวของฉันถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
“แกกับพี่เซตัสเป็นยังไงบ้างเหรอ”
“ทำไมถามถึงเรื่องนี้ เป็นอะไรจ้ะ” ปั้นชาถามกลับ ถามด้วยรอยยิ้มจนตาหยีแล้วขยับปากเพื่อตอบคำถามของฉัน
“ตอน... / ฉันอยากรู้ว่าแกโอเคกับเรื่องพี่ตัสรึยังเพราะว่า...ฉันต้องหมั้นกับพี่เขา”
-เวลาต่อมา-
“ไม่ไปส่งเพื่อนเหรอครับคุณหนู”
“ไม่” ฉันตอบออกไปแล้วมองตรงไปข้างหน้า สายตาฉันมองไปแค่ข้างหน้าไม่สนใจใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างรถที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวหรือคนขับรถที่นั่งประจำตำแหน่งข้างหน้าและเพิ่งถามฉันออกมา
“เพื่อนจะกลับยังไง”
“...” คนขับรถของฉันยังถามต่อแต่ฉันก็ไม่คิดที่จะตอบ
“ทางผ่านอยู่แล้วนะครับ ให้ผมถอยกลับไปรับไหม”
“...” ฉันยังเงียบไม่คิดจะตอบหรือคุยอะไรทั้งนั้น
“น่าจะมีน้ำใจบ้าง อย่างน้อยก็ในฐานะที่...กำลังจะแย่งผัวเขามา”
“หุบปาก!!!”
“ฮึ!”
“ไปโรงพยาบาล” ฉันกำหมัดแน่นเพราะการแค่นเสียงเยาะเย้ยที่ได้ยินแต่ไม่อยากระเบิดอารมณ์อีกเลยบอกออกไปสั้น ๆ เพราะชีวิตยังมีเรื่องที่สำคัญกว่านี้ให้ทำ
“เขาไม่ให้เข้าเยี่ยม”
“ไปโรงพยาบาล” ฉันที่นั่งอยู่เบาะหลังเอ่ยคำเดิม ช้า ๆ และ ชัดเจน เพื่อเป็นการ สั่ง คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยให้ทำตามโดยที่ไม่ต้องอ้าปากออกความคิดเห็น และมันก็ดีที่ได้ผล ดีที่คนข้างหน้าไม่พูดจาโง่ ๆ ทำตัวถือดีแค่เพราะตัวเองเป็นคนสนิทของพ่ออีกครั้ง
ฉันจะไปโรงพยาบาล ต่อให้คุณหมอจะสั่งงดเยี่ยมไปอีกสามวัน เจ็ดวัน หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน จะกี่เดือนหรือเป็นปีก็ตามฉันก็จะไป ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไปต่อให้ฉันจะไม่ได้เข้าไปหา คุณแม่ เลยก็ตาม...
-เวลาต่อมา-
“มาแล้วเหรอลูกรัก ทำไมวันนี้กลับช้าอีกแล้วคะ”
“...ไปเยี่ยมคุณแม่มาค่ะ” ฉันตอบช้า ๆ เพราะสายตากำลังมองตามหลังผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นแค่หลังแต่ก็รู้ดีว่าผู้หญิงที่อยู่ในชุดนอนตัวบางคนนั้นกำลังจะเดินไปที่ไหน
...ไปที่ห้องนอนของคุณพ่อกับคุณแม่ไง
“ไปเยี่ยมทำไมล่ะลูก คุณหมอเขาสั่งห้ามเยี่ยมหนูไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ พ่อว่าสู้หนูเอาเวลากลับมากินข้าวกับพ่อแล้วคุยกันเรื่อง... / จะผ่าตัดให้คุณแม่ให้ได้ใช่ไหมคะ” ฉันรู้ว่าคุณพ่อจะพูดเรื่องอะไรเลยถามแทรกในเรื่องที่ฉันอยากรู้มากกว่า แถมยังเป็นเรื่องที่ฉันถามคุณพ่อแทบจะทุกครั้งที่เจอหน้ากันด้วยซ้ำ พอถามคุณพ่อก็ยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มเดิมรอยยิ้มเดียวที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต รอยยิ้มที่ฉันชอบมองที่สุดพอ ๆ กับรอยยิ้มของคุณแม่ แต่ตอนนี้ฉันกลับกลัวรอยยิ้มนี้ที่สุดเลย
“มีเหตุผลอะไรที่พ่อจะไม่ผ่าตัดภรรยาของพ่อล่ะคะลูกสาว”
“แล้วทำไมต้องบังคับให้... / พ่อไม่มีเงินมากพอที่จะผ่าตัดคุณแม่ของหนูหรอกนะแยมโรล พ่อบอกหนูไปแล้วว่าตอนนี้ครอบครัวเรากำลังแย่”
“ขายสมบัติของหนูสิ ขายที่ดินส่วนที่มันเป็นของหนูไปเลยแล้วเอาเงินไปรักษาคุณแม่หนูขอร้อง~” ฉันร้องขอให้ใช้วิธีนี้มาสามครั้งแล้วแต่คุณพ่อก็ปฏิเสธมันทุกครั้ง
“...”
“ว่าไงคะ ขายสิคะคุณพ่อ ทรัพย์สินที่เป็นของหนู หนูจำได้ว่ามีที่ดินที่คุณตาคุณยายยกให้เป็นชื่อหนู คุณพ่อขายให้หนูได้ไหม จะได้เงินเท่าไหร่หนูไม่เอาค่ะหนูขอแค่เงินมารักษาคุณแม่ให้หายส่วนที่เหลือคุณพ่อเอาไปได้เลย”
“ถ้ามีให้ขายพ่อขายให้หนูไปแล้วแยมโรล”
“...” ฉันยืนนิ่งมองสามีของคุณแม่ซึ่งแน่นอนว่าท่านคือคุณพ่อของฉันเองที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงใจเย็นในขณะที่คนฟังอย่างฉันใจแทบขาดกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้
“ถ้ามีให้ขายพ่อขายให้หนูไปแล้วแยมโรล”
หมายความว่า...แม้แต่ที่ดินมรดกที่ฉันได้รับมาก็ไม่เหลือเหรอ? ไม่เหลืออะไรเลย ไม่เลยใช่ไหม ไม่เหลือแล้วจริง ๆ สินะแยมโรล แม้แต่...ความเป็นคนก็คงใกล้จะไม่เหลือเต็มทีแล้วเหมือนกัน
“รู้แล้วก็จัดการในสิ่งที่ลูกควรทำซะ เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เราสองคนจะช่วยแม่ของลูกได้”
“...” คุณพ่อบอกฉันแล้วเดินจากไปในขณะที่สมองของฉันมันกำลังรู้สึกหนักอึ้งไปหมดก่อนจะบอกให้สองขาพาตัวเองไปจากตรงนี้ให้เร็วเพราะได้ยินเสียงของบุคคลที่สามดังแว่วมา
กริ๊ก~
ทันทีที่พาตัวเองหนีมาอยู่ในพื้นที่เดียวที่เกือบจะปลอดภัยที่สุดสำหรับฉันในบ้านหลังนี้ฉันก็ทรุดตัวนั่งลงที่พื้น เอาหลังพิงประตูแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลทะลักออกมา สองมือก็ขยุ้มผมจากเบาก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะวันนี้ ตอนนี้ วินาทีนี้ฉันไม่รู้ว่าจะระบายความเจ็บปวดในหัวใจทางไหนดี
“ฮึก! หนูจะทำยังไงคะคุณแม่~ หนูจะทำยังไงถึงจะมีเงินมารักษาคุณแม่โดยที่หนูยังเหลือความเป็นคน~”
-สามวันต่อมา-
สามวันแล้วที่ปั้นชาไม่มาเรียน ฉันเองก็ไม่ได้ติดต่อไปเพราะ...ละอายใจ แต่สุดท้ายฉันก็ต้องติดต่อเพื่อนของฉันที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันยังเป็นเพื่อนของปั้นชาอยู่ไหม ติดต่อหาเพื่อนเพื่อที่ตัวเองจะได้ทำเรื่องที่...โคตรน่าสมเพช
เรื่องน่าสมเพชที่น่าสมเพชพอ ๆ กับชีวิตตัวเอง มีอะไรแย่กว่านี้อีกไหมซัดเข้ามาทีเดียวเลยก็ได้นะ อยากรับทีเดียวไม่อยากรับเรื่อย ๆ แต่ต้องรับตลอดไปมันเหนื่อย
“...” ฉันเดินออกมาจากตึกหอพักของปั้นชาด้วยอาการเหม่อลอย อยากร้องไห้ตั้งแต่หันหลังให้เพื่อนด้วยซ้ำแต่ฉันก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าทำละครฉากนี้ของฉันก็ต้องจบลง
“ไปโรงพยาบาลใช่ไหม”
“รู้แล้วจะถามทำไม?” เสียงฉันแข็งขึ้นมาทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถแล้วถูกถาม ทำไมต้องถามไม่ได้อยากคุยด้วย
“ก็แค่ถามเผื่ออยากไปทำอย่างอื่นก่อนไปโรงพยาบาล”
“ทำอะไร? พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” เสียงฉันยังแข็งต่อเนื่อง จะพูดอะไรให้หงุดหงิดอีกช่วงนี้ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย
“ก็เผื่อ...อยากไปไล่จับไอ้ตัสให้เรียบร้อย”
“...” เสียงแอบเยาะเย้ยดูถูกทำให้ฉันกัดฟันและกำมือตัวเองแน่นจนมือสั่น
“ไงครับ คุณหนูสนใจไปทำธุ... / อย่ามาล้ำเส้น ถ้าไม่มีปัญญาช่วยจับก็หุบปาก”
“หึ ๆๆ โอเค...ครับ”
ฉัน...เกลียดไอ้บ้านี่ที่สุดเลย
เกลียดความจองหอง ถือดี อวดดี เกลียดทุกอย่างที่เป็นเขา!
“ก็เผื่อ...อยากไปไล่จับไอ้ตัสให้เรียบร้อย”
ถ้าไม่เคยถูกคุณแม่สอนให้รู้จักควบคุมอารมณ์สาบานเลยว่าฉันจะเอากระเป๋าในมือฟาดหัวเขาไม่ยั้งเลย
ไล่จับพี่เซตัสเหรอ? ใครอยากจับพี่เขา? ฉันนี่นะ? นั่นแฟนเพื่อนรักของฉันนะถ้าความเฮงซวยของชีวิตไม่บีบบังคับจนหาทางอื่นไม่ได้ฉันไม่มีทางทำเรื่องบ้า ๆ พวกนี้หรอก
“เอาเช็คไปให้เพื่อนของลูกซะ” ฉันยื่นมือรับเช็คจากคุณพ่อ พอเห็นจำนวนในกระดาษสีขาวใบหน้าฉันก็มองท่านด้วยความไม่เข้าใจ
“สิบล้าน?”
“ใช่ เอาไปให้ปั้นชาแลกกับการออกไปจากชีวิตเซตัสทันที”
“คุณพ่อมีเงินให้ปั้นชาขนาดนี้แล้วทำไมไม่เอามาผ่าตัดให้คุณมะ... / เพราะมันเป็นก้อนสุดท้ายที่จะต่อลมหายใจเราทุกคนได้ไม่ใช่แค่เอาไปจ่ายค่าผ่าตัดให้แม่ของลูกเรื่องเดียว”
“หนูลำบากได้นะคะคุณพ่อ”
“แต่พ่อลำบากไม่ได้”
“...คุณพ่อเห็นแก่ตัว” ฉันแทบจะไม่เคยว่าคุณพ่อด้วยคำพูดรุนแรงแบบนี้เลยนะ แต่ครั้งนี้ฉันสุดจะทนแล้วจริง ๆ
“แล้วถ้าผ่าตัดเสร็จแม่หนูเป็นเจ้าหญิงนิทราล่ะ”
“...”
“ไหนบอกพ่อมาซิว่าเราจะเอาเงินที่ไหนมาดูแลแม่ระยะยาว?”
“...”
“หนูไม่ใช่คนไม่ฉลาด เอาไปจัดการให้เรียบร้อยซะแยมโรล อย่าช้าเพราะหนูรู้ดีว่ายิ่งช้าลมหายใจของแม่ก็ยิ่งลดน้อยลง”
ฉันจำได้ว่าฉันยืนมองคุณพ่อที่พูดจบก็หันหลังให้แล้วเดินจากไปโดยที่ฉันไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว เจ็บปวดนะไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่มันคงเป็นเพราะเจ็บจนด้านชากับความใจร้ายและเห็นแก่ตัวของคุณพ่อมามากแล้วน้ำตาถึงไม่สามารถไหลออกมาได้ต่อให้ในใจจะไหลออกมาเป็นสายเลือดแล้วก็ตาม...
ให้ไปไล่จับพี่เซตัสให้เรียบร้อยงั้นเหรอ?
หึ! แค่สิ่งที่ฉันทำวันนี้ก็เลวเกินทนแล้ว ฉันกำลังทำสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด ทำให้สิ่งที่ฉันต้องพบเจอบ่อยที่สุด นั่นคืออะไรรู้ไหมคะ มันคือการที่ฉันทำสิ่งที่เรียกว่าเห็นแก่ตัวไม่ต่างจากที่คุณพ่อทำกับฉันและคุณแม่เลยไง
...ขอโทษนะปั้นชา ฉันขอโทษแกจริง ๆ

