EP 5 : อย่าขัดคำสั่ง
“จะทำอะไร? พามาบ้านนายทำไม”
“พาไปอยู่”
“อะไรนะ?”
“อยู่ที่นี่แหละ อีกสามวันครบตามที่ตกลงกับปั้นชาคุณหนูค่อยกลับไป”
“ไม่มีทาง! ฉันไม่อยู่บ้านนาย ไม่อยู่กับนายแน่นอน”
“อยากกลับไปทั้งที่สถานการณ์กำลังไม่ดีเหรอ”
“...”
“อยู่ที่นี่นั่นแหละ ผมไม่กวนคุณหรอก อยู่กับไอ้เต้าหู้ไป...มันคิดถึงแม่มัน”
“...” เต้าหู้เหรอ?
“มันคงดีใจ ไม่มีใครไปให้มันอ้อนนานแล้ว” เสียงราบเรียบพูดต่อทำให้ฉันดึงสติออกมาจากความคิดถึงได้
“ไม่อยู่ อีกอย่างคุณพ่อฉันคงยอมให้ฉันมาอยู่บ้านลูกน้องของท่านทั้งที่บ้านฉันก็มีหรอกมั้ง ใช้สมองคิดบ้าง”
“พ่อคุณมีเวลาสนใจลูกสาวสุดที่รักด้วยเหรอ...ผมเพิ่งรู้นะครับคุณหนู”
“...” ฉันกำมือตัวเองแน่นเพราะคำพูดที่เหมือนมีดเป็นร้อยเล่มกระหน่ำแทงลงมาที่หัวใจ
สะใจเหรอที่พูดออกมา?
ความรู้สึกของคนที่มีทางเลือก ถือไพ่เหนือกว่ามันสะใจแค่ไหนกันนะที่ได้เยาะเย้ยคนอื่นได้
“อยู่ที่นี่นั่นล่ะ กลับไปแล้วจะมีอะไรดีขึ้น กลับไปให้ทุกครั้งที่เห็นหน้าคุณพ่อคุณก็โมโหเพราะนึกถึงเรื่องเงินสิบล้านทำไม รอจนครบวันที่ปั้นชาสัญญาค่อยกลับไปมันดีที่สุดแล้ว”
“ฉันจะอยู่ที่อื่นยังไงเสื้อผ้าก็ไม่มี”
“เดี๋ยวให้หนูดีจัดของให้แล้วจะให้ไอ้เชนไปเอามา”
“ถ้างั้นก็ไปส่งฉันที่โรงแรม ฉันจะไปนอนโรงแรม” ฉันไม่ปฏิเสธหรอกว่าสิ่งที่เขาบอกมันดี แต่มันไม่ดีตรงที่ต้องมาอยู่บ้านเขาซึ่งฉันมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านั้น
“เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ง”
“...” ฮ่า ๆๆ ฉันลืมไปเลยเนอะว่าตัวเองกำลังตกต่ำ ขอบคุณเขาดีไหมนะที่ช่วยเตือนว่าฉันไม่ได้อยู่ในสถานะที่สามารถใช้เงินได้อย่างที่ตัวเองต้องการอีกต่อไปแล้ว
“อยู่ที่นี่ล่ะ ไม่มีใครรบกวนอะไรคุณหรอกเดี๋ยวผมไปนอนกับไอ้เชน”
“...อืม” สุดท้ายฉันก็ต้องตอบตกลงด้วยความจำใจเพราะตอนนี้คงไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว กลับบ้านก็คงกลับได้แต่ไม่รู้ว่ากลับไปแล้วต้องเจอกับแรงกระแทกหรือแรงกดดันอะไรอีก ฉันไม่ค่อยไหวหรอก แค่ที่เจอมาก็ไม่ไหวแล้ว...
หลังจากที่ฉันตกลงใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงบ้านของเขา ไม่ใช่บ้านขนาดกลางแต่เรียกได้ว่าเป็นบ้านหรูระดับหลายสิบล้านเหมือนกัน ก็เขาทำงานกับคุณพ่อมาตั้งนานนี่คะตำแหน่งที่คุณพ่อยกให้ก็ไม่ใช่ตำแหน่งเล็ก ๆ เป็นถึงบอร์ดบริหารจะมีเงินดาวน์บ้านผ่อนบ้านราคาหลายสิบล้านก็ไม่แปลกอะไร พอมาถึงบ้านเขาฉันก็เลือกที่จะนั่งในห้องนั่งเล่นมากกว่าทำอย่างอื่น
“แม่บ้านเข้ามาจัดห้องไว้ให้แล้ว ตามสบายนะ”
“อืม”
“ไอ้เต้าหู้อาบน้ำแล้ว ถ้าอยากเอามันไปนอนด้วยก็ตามสบาย”
“...มันชอบให้กอดตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ” ฉันพูดออกไปเบา ๆ แต่พูดด้วยน้ำเสียงแขวะนะ พอพูดจบเขาก็กระตุกยิ้ม
“ก็ไม่แน่ มันไม่เจอนานมันอาจจะอยากให้นอนกอดก็ได้”
“...” ฉันเงียบ ไม่มองหน้าเขาและเลือกที่จะเชิดหน้ามองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น
“มันอยู่ในห้องของมันมั้ง ถ้าอยากเจอก็ตามสบายผมไปทำธุระก่อน” จะไปไหนก็ไปเถอะ ไปสักที จุ้นจ้าน
ฉันนั่งเชิดหน้ามองตรงไปข้างหน้าไม่ตอบอะไรเขาถึงได้เดินออกไปจากบ้าน รอจนกระทั่งมีเสียงรถดังขึ้นและค่อย ๆ ห่างออกไปนั่นแหละถึงได้ลุกแล้วเดินไปทางห้องครัวแต่ก่อนจะถึงห้องครัวฉันก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไปยังห้องของ...ไอ้หมาเน่าเต้าหู้
แอด~
ขวับ!
“ไงไอ้เจ้า...”
หมับ!
“ว้าย! / โฮ่ง! โฮ่ง ๆๆๆ” ยังไม่ทันได้ทักทายให้จบไอ้หมาลาบาดอร์รีทรีฟเวอร์สีช็อกโกแลตตัวใหญ่ก็พุ่งกระโจนใส่ตัวฉันจนฉันล้มลงแล้วก็เอาแต่เห่าสลับกับเอาลิ้นมาเลียหน้าฉันใหญ่เลย
“ฮ่า ๆๆ ใจเย็น ๆ ได้ไหมไอ้เต้า! ฮ่า ๆๆ หน้ามี๊เปียกหมดแล้ว~” ฉันห้ามแต่ไอ้หมาเน่าไม่ฟังฉันเลยเอาแต่เลียหน้าสลับกับเห่าเสียงดังจนหนำใจ พอหนำใจก็กระโดดออกห่างแล้วกระดิกหางวิ่งวนไปมาเหมือนมันกำลังดีใจมากแต่ไม่รู้ว่าจะแสดงความดีใจทั้งหมดออกมาได้ยังไงทำให้ฉันที่ขยับตัวนั่งที่พื้นให้เรียบร้อยน้ำตาคลอแล้วอ้าแขนออกช้า ๆ พร้อมกับสายตาที่มองไอ้หมาเด็กตัวยักษ์ของฉันตลอดเวลา พออ้าแขนออกจนสุดไอ้หมาแสนรู้ก็พุ่งเข้ามาให้กอดเหมือนที่เคยทำ
แค่ได้กอดฉันก็น้ำตาไหลทะลักแล้วกอดเต้าหู้ของฉันจนแน่นทันที
“คิดถึงมี๊เหรอเต้าหู้...มี๊ก็คิดถึงเต้าหู้เหมือนกันครับ ฮึก! คิดถึงมากเลยรู้ไหม คิดถึงเต้าหู้ของมี๊ที่สุดเลย~”
#JAMROLL END
#AKIN TALK
“คิดถึงมี๊เหรอเต้าหู้...มี๊ก็คิดถึงเต้าหู้เหมือนกันครับ ฮึก! คิดถึงมากเลยรู้ไหม คิดถึงเต้าหู้ของมี๊ที่สุดเลย~”
“...”
“ไอ้เต้าหู้มีแม่แล้วเหรอครับนาย”
“หุบปากแล้วขับรถของมึงไป” ผมกดปิดเสียงทันทีที่มีคนอ้าปากเสือก
“ฮึ ๆๆ ถามแค่นิดเดียวไม่เห็นต้องดุผมเลยครับเจ้านาย”
“เสือก”
“แล้วนี่ตกลงจะไปไหนครับ ผมว่าวนรถเข้าบ้านดีกว่ามั้ง”
“ขับไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องถาม” ผมบอกมันแต่สายตาก็ยังจ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดในบ้าน
“ไอ้ขับไปเรื่อย ๆ มันคือขับไปไหนล่ะนาย”
“มึงแค่ขับไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องพูดมากก็พอ จะไปไหนก็ไป”
“ถ้าบอกว่าไปไหนก็ไปงั้นไปในที่ที่นายอยากไปดีกว่ามั้งครับ” ผมสบตามันผ่านกระจกมองหลัง เห็นสายตาที่อยากแสดงออกว่ามันรู้ทันผมมากแค่ไหนทำให้ผมกระตุกยิ้ม
“ไปส่งมึงที่นรกน่ะเหรอ?”
“อ่า ขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ ดีกว่าครับนาย” สุดท้ายมันก็ยอมหุบปากให้ผมสักที
...ขับรถไปเรื่อย ๆ นี่ล่ะดีแล้วไอ้เต้าหู้จะได้อยู่กับแม่มันได้นานหน่อย
-เวลาต่อมา-
“คุณคะ”
“คะ” ฉันหันไปตามเสียงเรียกเลยเห็นแม่บ้าน มาถึงที่นี่ได้เกือบสองชั่วโมงเพิ่งเห็นแม่บ้านนี่ล่ะค่ะ
“สวัสดีค่ะ น้าชื่อปานนะคะ เป็นแม่บ้านของคุณอคินค่ะ”
“อ้อ ค่ะ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทักทายทำให้แม่บ้านขอเรียกว่าน้าปานเลยแล้วกันนะคะ นั่นล่ะพอฉันไหว้น้าปานก็รีบรับไหว้แบบตั้งตัวแทบไม่ทัน
“พอดีน้าเพิ่งไปจ่ายตลาดมาน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าตอนเย็นคุณแยมโรลอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ” รู้จักชื่อฉันเหรอ? อ้อ นายนั่นบอกไว้สินะ
“ปกติเจ้าของบ้านเขากินอะไรล่ะคะหนูกินเหมือนเขาเลยก็ได้ค่ะ” ฉันแค่มาพักเพื่อหลบคุณพ่อแค่สามวันไม่อยากทำให้น้าเขาเหนื่อย ทำอะไรก็กินอันนั้นล่ะ
“ปกติคุณคินไม่ทานอาหารเย็นที่บ้านหรอกค่ะแต่คุณคินสั่งน้าไว้แล้วว่าให้ให้ทำอาหารเย็นให้คุณแยมโรล แต่น้ามาถามก่อนเผื่อว่าคุณแยมโรลจะอยากทานอะไรเป็นพิเศษน้าจะได้ทำให้ค่ะ”
“อ๋อ ถ้างั้นขอเป็นข้าวไข่เจียวก็พอค่ะ” ฉันไม่อยากให้ยุ่งยาก แค่นี้แหละกินได้อยู่แล้ว
“คะ? จะดีเหรอคะ”
“ดีสิคะ รบกวนทำอาหารง่าย ๆ ก็พอค่ะหนูไม่ค่อยหิว” ฉันตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ น้าปานเลยยิ้มที่ดูค่อนข้างเกร็งกลับมา
“แต่คุณคิน... / ขอแค่ข้าวไข่เจียวก็พอนะคะน้าปาน หรือถ้ามีหมูสับขอเป็นไข่เจียวหมูสับก็ได้ค่ะ”
“เอ่อ...ได้ค่ะคุณแยมโรล ถ้างั้นน้าขอเข้าไปเก็บของให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ถ้าคุณแยมโรลต้องการอะไรเรียกน้าได้ตลอดเลยนะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันยิ้มและมองตามหลังแม่บ้านของเขาจนสุดสายตา
“...เฮ้อ~ เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีไอ้เต้ากับน้าปานอยู่ด้วย ไม่ได้มีแค่หมาบ้าอย่างนายนั่นคนเดียวซะหน่อย”
-เวลาต่อมา-
“คุณแยมโรลล่ะน้าปาน” ผมกลับเข้าบ้านตอนห้าทุ่มครึ่งพอมาถึงน้าปานที่คงรอกลับบ้านก็ออกมาต้อนรับ
“ขึ้นห้องได้ประมาณสิบนาทีแล้วค่ะคุณคิน”
“เพิ่งขึ้น?”
“ค่ะ เธอเล่นกับไอ้เต้าหู้เสร็จก็ขึ้นห้องเลย”
“กินข้าวเย็นเยอะไหม”
“ทานหมดค่ะคุณคิน”
“หมด?” ผมได้ยินคำตอบก็ทวนคำด้วยความแปลกใจ ปกติอยู่บ้านตัวเองกินข้าวแทบจะไม่ถึงครึ่งแต่นี่ต้องฝืนใจมาอยู่ที่นี่ผมไม่คิดว่าจะไม่กินด้วยซ้ำ น้าปานโกหกรึเปล่า
“ค่ะ”
“ข้าวหมดหรืออาหารหมด”
“หมดทั้งข้าวทั้งอาหารค่ะ”
“ผมให้ทำอาหารให้ตั้งสามอย่างตัวแค่นั้นจะกินหมดได้ยังไง โกหกผมรึเปล่าน้าปาน” ผมถามติดตลกแต่สิ่งที่ได้คือน้าปานที่ยิ้มไม่เต็มปาก
“คือ...พอดีน้ากลัวเธอจะอยากทานอะไรเป็นพิเศษเลยถามเธอดูคุณแยมโรลเลยให้น้าทำข้าวไข่เจียวให้เธอทานค่ะคุณคิน”
“ข้าวไข่เจียว?” ผมทวนคำอีกครั้งน้าปานก็พยักหน้ารับแล้วยิ้ม
“ค่ะ คุณแยมโรลเธออยู่ง่ายกินง่ายมากเลยนะคะ หน้าตาก็สวยน่ารักน่าเอ็นดูแถมพูดเพราะมากด้วยน้าชอบคุณแยมโรลมาก... / ใครเป็นเจ้านายน้าปาน”
“คะ” น้าปานยังพูดไม่จบผมก็ถามแทรกส่วนน้าปานที่กำลังพูดชมแขกของบ้านก็หน้าเหวอขึ้นมา
“ใครเป็นเจ้านายของน้าปาน ผมหรือว่าคุณแยมโรล” เสียงผมตึงเพราะไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่ได้ยิน
“เอ่อ...คุณคินค่ะ”
“ดีครับ ถ้างั้นคราวหลังก็อย่าขัดคำสั่งผม ผมสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำตามนั้นไม่งั้นน้าปานก็เตรียมไปทำข้าวไข่เจียวให้เจ้านายบ้านอื่นได้เลย และที่สำคัญตามใจเธอได้แต่อย่าตามใจด้วยการให้คนของผมกินแค่ข้าวไข่เจียวแบบนี้อีกเด็ดขาด”
