ตอนที่ 14 สงสัย
EP14
.
.
.
เพลงพิณนิ่งเงียบกับคำถามนั้น ก่อนที่มิกจะเป็นฝ่ายผละออกจากร่างเธอ ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินออกไปจากนอกห้องด้วยความรู้สึกน้อยใจ…
“คุณ…” ในขณะที่มิกเปิดประตูออกก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผักหวานกลับมาพอดี เธอแนบกายชิดกับขอบประตูเพื่อหลีกทางให้ชายหนุ่ม สายสตาสอดส่องมองแผ่นหลังกว้างเมื่อมิกเดินออกไปได้ไกลพอสมควรเธอจึงปิดประตูและลงกลอนเอาไว้
“นี้เพลง ดอกเตอร์มาหาหรอ” ผักหวานวางข้าวของเอาไว้แล้วเอ่ยถามออกมา เพลงพิณที่รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ สายตาเหลือบมองผ้าปูที่นอนนี้ไม่มีคราบเลือดติดอยู่แล้ว เธอเอียงคอมองด้วยความสงสัยเมื่อคืนมันยังเปื้อนคราบเลือดอยู่ “ว่าไงเพลง”
“อื้อ เมื่อเช้าฉันสัญญากับเขาว่าจะอยู่ด้วยตอนเย็น”
“อ้าว แล้วทำไมไม่บอกฉันเล่า”
“ก็…ฉันไม่ได้อยากอยู่กับเขานิ…”
“ดอกเตอร์งอนแกแน่นอนเลย ดูหน้าตอนเดินออกไปสิ เขาคงเหนื่อยมากเลยต้องการกำลังใจจากแก”
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ”
“นี้ยังไม่ได้ดูคลิปที่เขาแชร์กันใช่มั้ย” ผักหวานหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเปิดคลิปที่ดังเปรี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที เพลงพิณจ้องมองหน้าจอมือถือที่กำลังฉายคลิปของมิกตอนคุยกับญาติคนไข้…
“ทีนี้รู้รึยัง เข้าผ่าตัดตั้งหลายชั่วโมง แถมเคสยังหนักอีก หัวข่าวก็บอกว่าโอกาสแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์แต่ดอกเตอร์กลับสร้างปาฏิหาริย์ขึ้น เขาคงเหนื่อยและอยากได้กำลังใจจากแกจริงๆ แหละ…”
“ก็ฉันไม่รู้อ่ะ”
“ไม่รู้ก็ตามไปง้อสิ ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุให้แกทะเลาะกับคุณเขานะ”
“บ้า ไม่ใช่ความผิดแกสักหน่อย อย่าไปคิดมาก เอาเวลามาอ่านหนังสือดีกว่า” เพลงพิณเริ่มเปลี่ยนเรื่องพูดในทันที เธอแอบขอโทษชายหนุ่มในใจแล้วเดินไปหยิบหนังสือบนโต๊ะเล็กๆ ขึ้นมา ที่ไม่อยากตามไปง้อเขาเพราะเพลงพิณเองไม่อยากให้มิกคิดว่าเธอสนใจ หญิงสาวต้องการอยากให้มิกรู้ว่าเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเขาจริงๆ …
“สรุปแกจะไม่ไปง้อเขาจริงๆ ใช่ป่ะ”
“เออนี้ผักหวาน แกช่วยอธิบายตรงนี้หน่อยสิ” เพลงพิณพูดสวนขึ้นมาแล้วเดินถือหนังสือเข้าไปหาผักหวาน เธอจึงเงียบแล้วยู่ปากพลางถอนหายใจออกมา
“ฉันรู้หน่าว่าแกกำลังเปลี่ยนเรื่องคุย ฉันไม่พูดเรื่องเขาแล้วก็ได้” ผักหวานเลี่ยงเดินไปหยิบซองขนมขึ้นมาแกะแล้วยัดเข้าปาก ก่อนที่เสียงเรียกเข้าจากมือถือจะสั่นเครือขึ้นมา เธอจึงเอื้อมขึ้นมาแล้วกดร้บสาย
“ว่าไงคะพี่อัน”
(พอดีพี่พึ่งเรียนเสร็จ ลืมนัดพี่รึยัง)
“ยังค่ะยัง ตอนนี้หนูอยู่ห้องของเพลงพอดี” ผักหวานพยักหน้าตอบเพราะเมื่อช่วงสายอันอันมาคุยได้และนัดไปกินของหวานกัน ซึ่งนั้นก็เป็นของโปรดอันดับหนึ่งของผักหวานเอง
(เตรียมตัวเลยนะ เดี๋ยวพี่เข้าไปรับ)
“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจะรีบบอกเพลง”
(งั้นแค่นี้ก่อนนะพี่กำลังจะออกไป)
“โอเครค่า~”
ตี้ด! ผักหวานกดตัดสายแล้วหันหน้าไปมองเพลงพิณที่กำลังใจจดใจจ่ออ่านหนังสืออยู่
“นี้เพลง”
“ว่า”
“พี่อันโทรมาชวนไปร้านเค้ก ป่ะๆ” เพลงพิณเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ แล้วมองไปที่ผักหวานด้วยสายตาสงสัย
“เมื่อกี้พี่อันโทรมาหรอ”
“อื้อใช่ ที่จริงพี่อันชวนฉันแล้วให้มาบอกแกอีกที่ตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เมื่อกี้พี่แกพึ่งจบคลาส”
“แกไปเหอะ ฝากขอโทษพี่อันด้วยนะ ฉันไม่ค่อยโอเคอ่ะไม่อยากออกไปข้างนอกสักเท่าไหร่…” เพลงพิณเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ เธอไม่ค่อยอยากออกไปข้างนอกสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังคิดเรื่องของมิกอยู่ เธอกลัวว่าถ้าออกไปจะบังเอิญเจอเข้ากับชายหนุ่ม
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันบอกพี่อันให้นะ”
“อื้อ”
“ไปล่ะ ฉันลงไปรอพี่อันข้างล่างดีกว่า”
“…”
เพลงพิณเพียงฉีกยิ้มให้เพื่อนสาวแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ พร้อมกับร่างของผักหวานที่เดินออกจากห้องไป แต่พอจ้องมองตัวหนังสือนานๆ กลับรู้สึกตาลายขึ้นมากะทันหัน อาการหนักอึ้งที่ศีรษะเริ่มเล่นงาน…
“ทำไมปวดหัวแบบนี้…” เธอบ่นพึมพำออกมาแล้วเดินไปเปิดลิ้นชัก ค้นหายาแก้ปวดด้วยความลนลานเพราะอาการมันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พอเจอแล้วแต่น้ำดื่มกลับหมด เธอจึงคว้าขวดเปล่าเดินออกมาจากห้องมุ่งตรงไปที่ชั้นดาดฟ้าที่มีแสงสลัวเพียงเล็กน้อย ที่ตรงนี้มีแท่งน้ำดื่มสะอาดอยู่สำหรับบริการลูกค้า เธอจึงกรอกใส่ขวดแล้วโยนยาเข้าปากกิน…
แต่หางตาเจ้ากรรมกลับเหลือบเห็นอะไรบางอย่างในถุงดำที่กำลังดิ้นอยู่ เธอกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก ขนอ่อนทั่วร่างลุกชูชัน ใบหน้าหวานหันกลับไปมอง อะไรบางอย่างในนั้น ซึ่งมันก็หยุดเคลื่อนไหวไปแล้ว แต่กลับเป็นอีกถุงกำลังเคลื่อนไหวแทน…
“อึก…” เพลงพิณปิดเปลือกตาลงหวังจะก้าวเท้าเดินหนี แต่เท้าของเธอกลับแตะกับน้ำอะไรบางอย่าง หญิงสาวจึงยกเท้าขึ้นดู ก็พอจะมองออกว่ามันคือรอยเลือด…
“กรี๊ดดดดดด…!!!” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างกายทรุดลงบนพื้น มีเพียงความมืดเข้ามาครอบงำแทน…
…
rinnieIceke…
“หวานคุยกับเพลงยัง เรื่องที่พี่ขอ” อันอันเอ่ยถามผักหวานในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรอเมนูมาเสิร์ฟหลังจากขับรถออกมาถึงที่นี้ในไม่กี่นาทีถัดมา ซึ่งร้านที่ทั้งสองมาคือร้านของไรอัน
“ยังไม่มีโอกาสได้คุยเลยค่ะ”
“แล้วนี่เจอหน้าป้าเจ้าของหอยัง”
“ยังไม่เจอเลยค่ะ แต่พรุ่งนี้เช้าน่าจะเจอ”
“เอาเถอะ ยังไงก็อย่าลืมที่พี่บอกนะ”
“ไม่ลืมแน่นอนค่ะ พี่อันเชื่อหนูได้เลย” ผักหวานตอบด้วยความมั่นอกมั่นใจ ก่อนที่เมนูจะถูกยื่นผ่านด้านหลังของอันอันวางไว้ตรงหน้าผักหวาน และตามด้วยเมนูของเธอเอง อันอันที่สัมผัสถึงกลิ่นน้ำหอมของผู้ชายหันกลับไปมองพร้อมกับเงยหน้าขึ้น…
ทั้งสองสบตากันสักพัก เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เพลงพิณไรอันจึงถอยใบหน้าออกห่าง อันอันจึงรีบหันหน้ากลับ ปลายจมูกที่เสียดสีกันเมื่อครู่พลอยทำให้เธอใจเต้นขึ้นมาแปลกๆ
“มีอะไรจะเพิ่มเติมมั้ย”
“ไม่ๆ เอาแค่นี้แหละ” ผักหวานเอ่ยตอบพลางส่ายหน้าปฏิเสธ ไรอันจึงปรายตามองที่อันอันพอเห็นว่าหญิงสาวหลบสายตาเขาจึงกระตุกยิ้มออกมาแล้วเดินถือถาดเปล่าเดินกลับเข้าไป
“พี่อันรู้จักนายนั้นด้วยหรอคะ”
“อดีตเดือนสถาปัตหน่ะ นายนั้นคงจำผิดคนมั้ง”
“น่าจะใช่มั้งคะ เขาเคยชวนเพลงกับหนูทำงานที่นี้ด้วยนะ แล้วเหมือนจะสนใจเพลงเลย”
“…” อันอันหันไปมองที่ไรอันตอนนี้เขากำลังชงชาไทยอยู่ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังมองอันอันอยู่ จะแสร้งหลุบตามองแก้วด้วยรอยยิ้มซ่อนเงื่อน… “ประสาท”
“นี้พี่อันด่านายนั้นหรอคะ”
“ก็ใครจะเป็นบ้ายืนยิ้มอยู่คนเดียว น่าหมั่นไส้ชะมัด” อันอันยกมือขึ้นกอดอกตัวเองแล้วสะบัดหน้าหันกลับมา มือเรียวเอื้อมหยิบชาเขียวขึ้นมาดูดเอือกใหญ่
“ดูเหมือนว่าพี่อันจะไม่ชอบหน้านายนั้นเลยนะคะ”
“หยุดพูดถึงเถอะ พี่ไม่อยากได้ยินชื่อคนบ้าๆ แบบนั้น” เธอตอบผ่านๆ หญิงสาวหงุดหงิดตัวเองที่ไปเผลอใจเต้นกับคนประเภทนั้น ถ้ารู้ว่าไรอันเป็นเจ้าของร้านที่นี้ เธอจะไม่แวะเข้ามาให้เสียอารมณ์ทิ้งเปล่าๆ แต่ที่ยังค้างคาใจอยู่อีกอย่างคือที่ผักหวานบอกว่าไรอันดูเหมือนจะสนใจเพลงมันเรื่องจริง?
“พี่ขอถามอะไรหน่อยสิผักหวาน”
“ว่ามาเลยค่ะ”
“ขยับหน้ามานี้” อันอันควักมือเรียกผักหวานจึงยื่นหน้าเข้าไปฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะถาม “นายนั้นสนใจเพลงจริงๆ หรอ”
“ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ค่ะ หนูแค่สงสัย”
“โอเค” ผักหวานถอยใบหน้ากลับด้วยใบหน้าสงสัยแล้วหันไปมองไรอันอีกที แต่ชายหนุ่มกลับไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว…
“พี่อัน ถามทำไมคะ”
“เปล่า ก็พี่แค่สงสัยที่เธอพูดไงเลยถาม” ความจริงแล้วเธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองต่างหากว่าผู้ชายอย่างไรอันจะรักใครเป็น
“แต่หนูว่าแปลกอย่างหนึ่ง”
“เรื่องอะไร”
“พี่อันไม่สงสัยหรอคะ ทำไมผู้ชายที่เรียนสถาปัตมาเปิดร้านเค้ก มันดูขัดแย้งกันเกินไป” เธอพูดออกมาพร้อมกับหันมองซ้ายขวากลัวว่าไรอันจะเดินกลับเข้ามาในร้านอีกครั้งแล้วได้ยิน
“ร้านแฟนมั้ง ดูชื่อร้านสิ”
“เขาจะมีแฟนได้ยังไงคะ เป็นไปไม่ได้”
“นายนั้นมาแล้ว พี่ว่าเราเงียบก่อนดีกว่า” อันอันที่สังเกตเห็นว่าไรอันเดินกดมือถือเข้ามาในร้านเอ่ยบอก สองสาวจึงรูดซิปปากสนิทแล้วจัดการการกับของกินตรงหน้าแทน
…
โรงพยาบาล…
เพลงพิณรู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกเธอกวาดสายตามองรอบๆ ห้องก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล ซึ่งบรรยากาศก็เงียบกริบ ภายในห้องถูกดับไฟมืดมองเห็นทุกอย่างเพียงเงา เธอนั่งคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พอคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก หญิงสาวจึงลุกนั่งบนเตียงสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น…
แกร๊ก…! ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่เพียงลำพังเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นและถูกเปิดออกเอง เพลงพิณมองไปที่ต้นเสียง หญิงสาวนึกว่าพยาบาลจะเข้ามาตรวจอาการแต่กลับกัน ไม่มีแม้แต่การมาของใครเลย
พรึบ! เงาสีดำวิ่งผ่านประตูไปอย่างรวดเร็ว เพลงพิณจิกปลายนิ้วลงบนผ้าปูแน่น ร่างกายในชุดของโรงพยาบาลตัดสินใจลงจากเตียงแล้วดึงสายน้ำเกลือออก เธอรู้สึกถึงความแปลกที่นี้ จึงค่อยๆ ก้าวเดินไปยังประตูเพื่อจะปิดมันลงแต่ทว่า…
ตึก…ตึก…ตึก…ตึก…
เสียงปลายเท้ากระทบกับพื้นเหมือนลักษณะการเดินของมนุษย์ ดวงตากลมโตมองไปที่ต้นเสียงด้วยความอยากรู้ เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาจากเขตประตูห้องตามเสียงฝีเท้านั้นไป พอยิ่งตามเร็วขึ้นเท่าไหร่เสียงกระทบกับพื้นก็ดังรัวขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ชั้นบนสุดของที่นี้…
หน้าห้องแห่งหนึ่งที่ทั้งชั้นมีเพียงสองห้อง ด้านซ้ายมือคือห้องเก็บของ ส่วนห้องขวามือที่เสียงฝีเท้าปริศนาหายเข้าไปมือป้ายติดอยู่ประตูห้องตัวใหญ่ว่า…
‘ห้องดับจิต’
…พอเธออ่านเสร็จร่างกายก็ขนลุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ แล้วประตูก็แง้มออกเองอีกครั้ง เพลงพิณเอียงคอมองเข้าไปข้างในด้วยหัวใจที่เต้นระทึก
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือผู้ชายชุดดำใส่ฮู้ดกำลังยืนหันหลังให้เธอ เขาก้มหน้าลงที่ศพ ในวินาทีต่อมาเลือดก็กระเด็นออก จนเธอเผลอสะดุ้ง ขาก้าวไม่ออก ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว ก่อนที่ผู้ชายปริศนาคนนั้นจะค่อยๆ หันหน้ากลับมามองเธอด้วยรอยยิ้มชวนขนลุกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน…
“กรี๊ดดดดดดดดดด…!?”
.
.
.
ให้ทายว่าใคร 55555555555555
บอกแล้วเรื่องนี้อีโรติกสายหลอน?
