ตอนที่ 08 หวาดกลัว
EP08
.
.
.
มิก้ามองมาที่เธอเหมือนต้องการให้ทุกคนรู้ว่าคนที่เขากำลังจะสื่อหมายถึงใคร แต่เจ้าตัวกลับลุกจากเก้าอี้แล้วรีบเดินออกไปจากหอประชุมท่ามกลางสายตางุนงงของทุกคน...
“เพลง..” ผักหวานมองตามแผ่นหลังบางอย่างไม่เข้าใจแต่เธอก็ไม่กล้าลุกขึ้นวิ่งตามเพลงพิณจึงได้แต่นั่งเกร็งบนเก้าอี้รอเวลาให้มิก้าเดินออกไปก่อน
“ถ้าไม่มีใครถามอะไรเพิ่มเติมผมขอจบการนิเทศเพียงเท่านี้นะครับ” มิก้าทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินออกมาจากหอประชุม รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าหล่อเหลาก่อนที่ร่างหนาจะมายืนดักรอเธอที่มุมอับของตึกเพราะเขารู้ดีว่าเพลงพิณต้องเดินเลี่ยงออกมาทางนี้เพื่อหลบหน้าเขาและมันก็เป็นไปตามคาดร่างของเพลงพิณเดินออกมาพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาใครบางคน...
หมับ !
“อื้อ!!” ร่างเล็กถูกกระชากเข้ามาหลบยังมุมตึกก่อนจะโดนริมฝีปากหยักฉกลงบนกรีบปาก มิกสอดลิ้นสากเข้าไปควานหาความหวานด้วยความหิวกระหาย เพลงพิณที่ยังไม่ทันตั้งหลักหลับตาแน่น มือเรียวยกขึ้นดันอกแกร่ง เปลือกตาหลับแน่น พอผ่านไปสักพักชายหนุ่มก็ผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
“ผมคิดถึงเพลงมากเลยรู้มั้ย...”
“อึก...” ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริก มือหนาค่อยๆยกขึ้นปัดปอยผมออกจากใบหน้านวล สายตาคลั่งไคล้หลุบมองกรีบปากเธอ ก่อนจะซุกจมูกดูดเม้มลำคอระหงเบาๆฝากรอยเอาไว้ ความอุ่นร้อนที่สัมผัสลงบนลำคอทำเอาร่างกายเธอเกิดอาการร้อนวูบวาบ..
“คุณมาที่นี้ได้ยังไง มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกใช่มั้ย" เพลงพิณตัดสินใจถามออกไป มหาลัยมีตั้งหลายแห่งทำไมต้องเป็นที่นี้ ทำไมต้องเป็นเขา ทั้งที่เธอกำลังจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแท้ๆ..
คำถามของหญิงสาวทำให้มิกผละใบหน้าออกเขาไล่ปลายจมูกมาหยุดที่พวงแก้มเนียนใส แล้วกระซิบออกมา “ก็เพราะว่าเพลงอยู่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั้น..”
“....ทำไมคะ ทำไมไม่เป็นคนอื่น”
“ผมคิดถึงคุณมากเลยนะ คิดถึงจนจะขาดใจอยู่แล้ว” มิกไม่สนใจคำพูดของเธอ มือหนาจับปลายนิ้วชี้กลมขึ้นมากัดเล่นเบาๆ อีกข้างลูบไล้เอวขอดพร้อมกับไล่สายตามองเรือนร่างเธอเหมือนโหยหาเธอมานาน.. “เพลงคิดถึงผมมั้ย..”
“พะ...เพลง!” ในขณะที่มิกกำลังจ้องใบหน้าหวานเอาคำตอบ เสียงของผักหวานก็เอ่ยเรียกขึ้นมาเสียงดัง ทำให้มือบางรีบผละอกแกร่งออกแล้วรีบวิ่งไปหาผักหวานที่ยืนตกใจกับสิ่งที่เห็น
“เกิดอะไรขึ้น..”
“ไว้เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง ตอนนี้เรากลับก่อนเถอะนะ” เพลงพิณรีบลากข้อมือผักหวานวิ่งออกมา นับว่าโชคดีที่ผักหวานมาเจอเสียก่อนเธอจึงหลุดพ้นจากคนที่ไม่อยากเจอที่สุด ด้านมิกที่ยืนมองแผ่นหลังบางอยู่ห่างๆ ยกมือขึ้นลูบปลายคางตัวเองด้วยรอยยิ้มอ่อน…
“น่าเอ็นดู...”
“ดะ...เดี๋ยวเพลง ฉันเหนื่อย แฮ่กๆ” ผักหวานร้องท้วงเพื่อนสาวที่จูงมือเธอวิ่งออกมายังหน้ามหาลัยเหมือนหนีอะไรบางอย่าง เธอจึงหยุดวิ่งพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่สายตามองตามหลังเป็นระยะๆกลัวว่ามิกจะตามมา แน่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมาเธอจึงถอนหายใจโล่งอก
“ขอโทษนะที่ลากออกมาแบบนี้”
“แกวิ่งหนีดอกเตอร์มาหรอ...แค่กๆ”
“เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”
“งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรกินแก้เหนื่อยกัน ฉันหิวน้ำจะแย่แล้ว”
“โอเค” เพลงพิณตอบตกลง ตอนนี้เธอยังไม่อยากอยู่คนเดียวจึงรีบเดินตามผักหวานมาที่รถมอไซซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลนัก พอมาถึงสกุ๊ปปี้คู่ใจคันสีชมพูหวานแหววผักหวานก็หยิบกุญแจรถออกมาพร้อมกับสวมหมวกนิรภัย “ขึ้นมาเลย~”
“....” เธอฉีกยิ้มฝืนๆแล้วก้าวขาขึ้นรถ ไม่นานผักหวานก็พาเธอขับออกมาจากบริเวณมอ มาถึงที่ร้านขนมเค้กชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอก็เลี้ยวเข้ามาจอดพร้อมกับเดินเข้ามาบริเวณในร้าน
“แกเอาไร”
“เอาเหมือนแกเลย”
“เอาโกโก้ปั่นสองแก้วค่ะ”
“รอสักครู่นะคะ” พนักงานที่เดินมารับเมนูเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มแล้วเดินกลับไป
“นี้ ว่าแต่แกเถอะ จะเล่าให้ฟังได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมดอกเตอร์ถึงได้...” ผักหวานยกนิ้วชี้ขึ้นจรดกันเหมือนคนที่กำลังจูบกันอยู่ด้วยใบหน้าอมยิ้ม “นี่อย่าบอกนะว่าแฟนที่ดอกเตอร์หมายถึงคือแก..อุบ!”
“ไม่หน่าผักหวาน อย่าพูดเสียงดัง”
เพลงพิณยกมือขึ้นปิดปากผักหวานเอาไว้ เพราะลูกค้าในร้านส่วนมากล้วนเป็นเด็กในมอเดียวกัน ตอนนี้ทุกต่างรู้จักมิกหมดแล้วเพราะมีคนแอบถ่ายรูปชายหนุ่มขณะนิเทศส่งไปให้เจ้าของเพจของมหาลัยจนตอนนี้เขากลายเป็นกระแสว่อนโซเชี่ยล
“โอเคพูดเบาๆก็ได้ สรุปมันใช่มั้ย” ผักหวานกระซิบถามเบาๆ
“อื้อ”
“จริงหรอ!”
“แต่มันไม่ใช่แบบที่แกคิด ฉันถูกบังคับให้ต้องอยู่สถานะนั้นทั้งที่เรารู้จักกันยังไม่ถึงสองอาทิตย์ด้วยซ้ำ”
“แต่ดอกเตอร์ก็เหมือนจะชอบแกจริงๆนะ ออกจะเพอร์เฟคขนาดนั้นทำไมแกถึงไม่ลองเปิดใจ”
“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเขาอีกเลย รู้แค่ว่าฉันกับเขาไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ” เพลงพิณตอบปัดๆแล้วเอนแผ่นหลังกับผนักเก้าอี้ เธอหลับตาเพื่อลืมเรื่องที่เจอมา คำพูดของมิกยังวกวนเข้ามาในสมองไม่หยุด...
‘ก็เพราะว่าเพลงอยู่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั้น..’
‘ก็เพราะว่าเพลงอยู่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั้น..’
‘ก็เพราะว่าเพลงอยู่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั้น..’
“เฮ้อ...”
“เป็นไรอ่ะ”
“เปล่า แค่คิดว่าฉันจะหางานพาร์ทไทม์ทำดีมั้ย”
“น่าคิดนะ ฉันก็อยากทำเหมือนกัน แต่จะมีที่ไหนรับมั้ยล่ะสิ”
“แต่พนักงานที่ร้านนี้ว่างนะ สนใจมั้ย?” ในขณะที่สองสาวกำลังคุยกันเสียงของใครบางคนก็สอดแทรกเข้ามาพร้อมกับวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ ร่างหนาอยู่ในชุดยูนิฟอร์มมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพวกเธอและมีผ้ากันเปื้อนสวมทับ
“ห้ะ?”
“แปลกใจอะไร ฉันเป็นเจ้าของร้านที่นี้ ถ้าพวกเธอสนใจฉันก็จะรับ” ไรอัน ปรายตามองเพลงพิณที่กำลังจ้องมองใบหน้าเขาสลับกับแก้วโกโก้ตรงหน้าด้วยความแปลกใจ “ถ้าสนใจก็มาหาฉันที่หลังร้านนะ เพลงพิณ..” ทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นไรอันก็เดินแสยะยิ้มกลับไป สร้างความแปลกใจให้กับสองสาวไม่น้อย
“เขารู้จักแกได้ไง?”
“ไม่รู้เหมือนกัน..”
“เดี๋ยวนะ มีรูปหัวใจวาดบนหน้าแก้วแกด้วยอ่ะ มีรูปยิ้มเหมือนข้าวไข่เจียวแกเด๊ะเลยหรือว่าเจ้าของรูปหัวใจนั้น..?”
“เดี๋ยวฉันมานะ” เพลงพิณเดินตามหลังไรอันไปที่หลังร้านด้วยความอยากรู้ จนร่างหนาหยุดเดินแล้วหันหน้ากลับมาหาเธอ
“สนใจข้อเสนอของฉันหรอ?”
“ฉันแค่จะมาถาม ว่านายเป็นเจ้าของรูปหัวใจเมื่อตอนเที่ยงใช่มั้ย”
“คิดว่าใช่รึป้าวล่ะ?” ไรอันก้าวเท้าเดินเข้ามาไกล้ๆเธอ ทำเอาคนตัวเล็กต้องก้าวถอยหลัง
“นาย...ชะ ชอบฉันหรอ?”
“ไม่รู้สิ...อยากรู้ก็หาคำตอบเอา”
“แล้วที่นายพูดล่ะ เรื่องพนักงานของที่นี้...” เพลงพิณตัดสินใจถามออกไป เธอไม่ได้สนใจเรื่องชอบหรือไม่ชอบอะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่สนใจตอนนี้คือทำยังไงถึงจะมีเงินเพื่อใช้ชีวิตให้อยู่รอด
“ฉันจะพูดเล่นเพื่ออะไร เธอเรียนปีหนึ่งที่คณะแพทยศาสตร์ ชื่อเพลงพิณ อินทิรา ที่พูดมาทั้งหมดฉันก็ไม่ได้พูดเล่น”
“นาย...เป็นใครกันแน่”
“ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องตอบถามเธอ รู้แค่ว่าฉันชื่อไรอันเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ก็พอ” วินเนอร์เอ่ยตอบ ทำเอาคนที่ได้ยินหน้าซีดเผือดมากขึ้นกว่าเดิม เธอไม่ใช่คนดังหรือคนมีชื่อเสียงอะไร ไม่ได้มีประวัติลงตามอินเตอร์เน็ตแล้วทำไมผู้ชายคนนี้ถึงรู้เกี่ยวกับเธอ...
“แล้วถ้าฉันอยากทำงานที่นี้ต้องติดต่อนายยังไง”
“มาหาฉันที่ร้าน แล้วมาเซ็นข้อตกลงของเรากัน..” ไรอันทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นร่างหนาก็เดินออกไปจากบริเวณนี้สร้างความสงสัยให้เธออีกครั้ง..
“ดะ…เดี๋ยว ข้อตกลงอะไร” เสียงเรียกของเธอเป็นเหมือนอากาศ ไรอันไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในร้าน เห็นดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมกับตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะทำงานที่นี้...
“แกไปคุยกับนายนั้นมาหรอ”
“อื้อ”
“เขารับเราเข้าทำงานไหมอ่ะ”
“นายนั้นบอกค่อยมาติดต่อที่ร้าน แกจะทำกับฉันมั้ย”
“ทำๆ แล้วนี่สรุปใช่คนเดียวกันป่ะ”
“ฉันก็ยังไม่รู้”
“ทำไมมีแต่คนหล่อๆมาชอบแกอ่า~”
“....” เพลงพิณไม่ได้ตอบอะไรกลับเธอยกแก้วโกโก้ขึ้นดื่มแล้วส่ายหัวเบาๆที่อยากทำงานที่นี้แค่ต้องการรู้ตัวตนของไรอันเท่านั้น และเขาคิดยังไง อีกอย่างงานมันก็ง่ายๆไม่ได้มีอะไรต้องใช้สมองมากเป็นงานพาร์ทไทม์ที่มาทำแค่บางเวลาไม่ได้มาทำตลอดจึงเหมาะที่เธอจะทำที่นี้...
หลังจากที่นั่งคุยกันอยู่ร้านของไรอันจนพอใจสองสาวก็พากันมาเดินถนนคนเดินจนพอใจ ผักหวานจึงขับมอไซมาส่งเธอที่ป้ายรถเมล์เพราะเธอมีธุระทำต่อแล้วอีกอย่างหอพักก็อยู่คนละฝาก
แถมที่พักของเธอต้องเดินเข้าไปในซอยอีก ค่อนข้างจะยากลำบาก เพราะราคาต่อเดือนก็ถูกมากเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ถึงแม้จะเป็นเด็กทุนแต่เงินที่ทางมหาลัยออกให้ก็แค่ค่าเทอมและค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆเท่านั้น เธอยังต้องจ่ายค่าห้องค่ากินด้วยตนเอง...
ซ่า...ซ่า...
เพลงพิณเดินเข้ามาในซอยที่เป็นทางผ่านไปหอพักซึ่งบริเวณรอบข้างมีตึกร้างอยู่แห่งหนึ่งสภาพเก่าทรุดโทรม มีหญ้าขึ้นปกคลุมทั่วทุกบริเวณดวงตากลมโตเหลือบมองด้วยความรู้สึกวาบหวิว ก่อนที่เธอจะกดเพิ่มเสียงฝนที่ชอบฟังเป็นประจำขึ้นในขณะที่สวมหูฟังอยู่
ถนนเส้นนี้มีเพียงเธอคนเดียวที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ เพราะที่พักแห่งนั้นอยู่กันแค่ไม่กี่คนและส่วนมากก็ล้วนกลับห้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด อีกทั้งบริเวณตลอดทั้งซอยมีไฟติดรอบข้างที่ไกล้พังอยู่รอมร่อ ติดๆดับๆตลอดทาง...
“อึก...” มือเรียวจิกลงที่กระโปรงนักศึกษาแน่นร่างกายลุกซู่ซ่าสัญชาติญาณบอกให้เธอรีบเร่งฝีเท้าให้เดินถึงที่พักให้เร็วที่สุด..
ตึก..ตึก..ตึก..ตึก..
ตึก..ตึก..ตึก..ตึก..
ควับ ! ใบหน้าหวานหันกลับไปมองด้านหลังด้วยอาการหวาดระแวงเมื่อเสียงฝีเท้าหนักๆของใครบางคนเดินตามมาอยู่สักระยะ แต่พอหันกลับไปมองกลับไม่พบการมาของใคร มีเพียงแสงกระพริบจากไฟข้างทางที่ไกล้ดับเต็มทน
มือบางจึงเอื้อมขึ้นถอดหูฟังออกแล้วรีบเดินให้เร็วกว่าเดิม ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว เธอไม่ได้กลัวสิ่งลี้ลับทวากลับกลัว คนมาทำร้ายจะมาฆ่าข่มขืน หรือโรคจิต คิดอยู่ลำพังขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าวคำพูดของเขาบางคนลอยลอยเข้ามาในห้วงความคิด..
‘ก็เพราะว่าเพลงอยู่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั้น..’
.
.
.
พี่มันแอบทำน้องหลอนเบาๆ555555555555555555
Next…
“เพลงได้เล่นของ หรือว่าเลี้ยงกุมารอะไรแบบนี้ป่ะ..คือ..พี่ไม่ได้อยากทำให้เพลงกลัวนะ แต่พี่อดสงสัยไม่ได้ตอนอยู่ในห้องเพลงพี่รู้สึกว่าเหมือนมีใครมองอยู่ตลอดเวลา แถมยังขนลุกแปลกๆ เพลงอาจจะไม่รู้สึกเหมือนพี่ แต่พี่เป็นคนที่มีจิตสัมผัสเลยรู้สึกแบบนั้น..”
