ตอนที่ 07 เจออกันอีกครั้ง
EP07
.
.
.
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปที่ฉันใช้ชีวิตได้โดยปกติเพราะผู้ชายคนนั้นไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก แล้ววันนี้ก็เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกในชีวิตมหาลัย พูดมาขนาดนี้แล้วฉันขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน ฉันชื่อเพลงพิณ อินทิรา เกิดอยู่ต่างจังหวัดแต่ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ ฉันอยู่กับแม่แค่สองคนแต่แม่อยู่ที่บ้านเกิดแม่ฉันชื่อราตรี ท่านเป็นคนชอบเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร จนคนคิดว่าแม่ฉันไม่ปกติ แต่สำหรับฉันคนจะมองแม่ยังไงแม่ก็คือคนที่ดีที่สุดในชีวิต ท่านรักฉันมาก เหตุผลนี้ละมั้งจึงทำให้ฉันกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยยุ่งกับใครคงได้จากแม่มาเต็มๆ...
ปีนี้ฉันอายุสิบแปดย่างสิบเก้าเรียนที่มหาลัยชื่อดังแห่งนี่ คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งมันเป็นคณะที่ฉันชอบมากๆ เลยตั้งใจตั้งแต่มัธยมปลายว่าจะสอบชิงทุนเข้าให้ได้และมันก็ได้จริงๆ
ปึก !
“?”
“ขอโทษค่ะ…ฉันรีบไปหน่อย ที่นี้ใช่คณะแพทยศาสตร์ไหมคะ” ผู้หญิงตรงหน้าฉันถามขึ้น เธอตัวโตกว่าฉันมากเป็นผู้หญิงหุ่นหมีแต่ก็น่ารักดีนะ ดูท่าทางน่าจะเรียนเก่งมากๆ และน่าจะเป็นเด็กทุนเหมือนฉัน
“ใช่...เราเพลงนะเป็นเด็กทุนปีหนึ่ง เธอชื่อไร”
“ฉันหรอ?”
“อื้อ”
“ชื่อผักหวาน เด็กทุนเหมือนกัน” เธอพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“งั้นเราเป็นเพื่อนกันดีมั้ย”
“เอาสิ อยู่นี้มีแต่พวกคนรวยคงไม่มีใครอยากคบฉันเป็นเพื่อน”
“ฉันนี่ไง ไม่เอาหน่าผักหวาน อย่าไปสนใจคนอื่นเลย เรามาที่นี้เพื่อเรียนนะ”
“อื้อ เราไปรวมตัวกับคนอื่นๆดีกว่า รุ่นพี่เรียกแล้ว”
“ป่ะ” ฉันเดินไปจูงมือผักหวานแล้วเราก็เดินมาที่ลานกว้างรวมตัวกับคนอื่นๆ ที่ต่างคนต่างยืนเรียงแถวกันอยู่ จากที่ฉันศึกษามาคณะแพทยศาสตร์ของที่นี้ไม่เหมือนคณะอื่นๆ เพราะทุกๆปี จะมีแค่การรับน้องวันแรกที่เปิดเรียนและช่วงบ่ายก็เริ่มเรียนตามปกติ แบบนี้ก็ดีนะฉันชอบ
“สวัสดีค่ะน้องๆปีหนึ่งทุกคน พี่เป็นประธานคณะนะคะ ชื่อพี่มุ้งมิ้ง ก็วันนี้นะคะ เราจะมาพูดคุยกันและทำพิธีรับน้องเหมือนกับทุกปีนะ ส่วนตอนบ่ายจะมีดอกเตอร์ผู้มากความสามารถมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเรียนที่คณะนี้ ตอนนี้พี่ก็ขอให้น้องๆมารับป้ายชื่อทีละแถวด้วยค่ะ” พี่มุ้งมิ้งพูดผ่านโทรโข่งจบแต่ละแถวก็เดินไปรับป้ายชื่อจากรุ่นพี่ ตรงหน้ามีกองสำหรับการรับน้อง รอบๆข้างถูกแต่งอย่างน่ารักเหมือนที่ฉันเคยเห็นในกิจกรรมรับน้องทั่วๆไป เวลาผ่านไปไม่นานก็ถึงคิวฉันกับผักหวาน พิธีรับน้องผ่านไปเรื่อยๆจนจบพวกเราก็ต่างแยกย้ายกันมาหาอะไรกินช่วงพักเที่ยง
“กินไรดีผักหวาน”
“ข้าวขาหมูป่ะ”
“เธอชอบหรอ”
“ช่าย”
“งั้นเจอกันที่โต๊ะนะ เราขอไปซื้อข้าวไข่เจียวก่อน”
“โอเค” เราแยกย้ายกันมาซื้อข้าว ที่ฉันเลือกข่าวไข่เจียวเพราะมันถูกที่สุดในโรงอาหารยังล่ะ พอได้ฉันก็เดินไปวางไว้บนโต๊ะแล้ววกกลับไปซื้อน้ำเปล่าแต่เหรียญกับตกลงพื้นเลยเสียเวลาสอดส่ายสายตาหาจนเจอก็กลับมาที่โต๊ะ แต่...ข้างไข่เจียวของฉันมีคนเทซอสพริกใส่เป็นรูปหัวใจ...
“ว้าว เธอทำเองหรอรูปหัวใจสวยจัง~”
“เปล่าอ่ะ ฉันไปซื้อน้ำกลับมาก็เป็นแบบนี้”
“อ้าว...หรือว่ามีคนแอบปิ๊งเธอ”
“ไม่ใช่เล่า” ฉันตอบปัดๆแล้วหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ฉันไม่คิดว่าจะมีคนมาชอบหรอก มีใครจงใจกลั่นแกล้งต่างหาก แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นตั้งหน้าตั้งตากินข้าว
“เออนี่ แล้วมาเรียนยังไงล่ะ”
“รถเมล์อ่ะ”
“เธออ่ะ”
“มอไซ ว่างๆเราไปเที่ยวถนนคนเดินหาของกินอร่อยๆกินดีป่ะ”
“ได้ดิ ถ้ามีเวลาว่างนะ” เราสองคนคุยกันต่างๆนาๆถึงการใช้ชีวิตทั่วไปจนข้าวหมดจานต่างคนก็ต่างเดินเอาไปเก็บแล้วขึ้นมาที่หอประชุมสุดหรูอย่างกับที่ประชุมนานาชาติยังไงยังงั้น
“ตื่นเต้นจัง”
“ตื่นเต้นอะไรของเธอ”
“ก็ฉันได้ยินสาวๆในคณะเราซุบซิบกันว่าหล่อมาก~”
“ตั้งใจฟังที่เขามานิเทศดีกว่าน้า”
“นิดหน่อยก็ไม่ได้” เธอยู่ปากแล้วหันกลับไปมองยังเวทีรอการมาของดอกเตอร์ที่จะมานิเทศนักศึกษา ส่วนที่ที่พวกเรานั่งคือตรงกลางระหว่างช่องแยกระหว่างสองฝั่งพอดี
ตึก...ตึก...ตึก...ตึก... ในวินาทีต่อมาเสียงรองเท้าหนังที่กระทบกับพื้นหอประชุมก็ดังขึ้น ทำให้ทุกคนต่างเงียบในทันที ทุกสายตาหันไปมองการมาของคนมาใหม่ ยกเว้นซะแต่ฉันที่ขนอ่อนร่างกายลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลยิ่งเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาไกล้หน้าเจ้ากรรมมันก็หันไปแล้วเงยหน้ามอง..
สายตาเรียบนิ่งมองฉันเพียงแวบเดียวเหมือนซ่อนไปด้วยความหมายบางอย่างพร้อมรอยยิ้มอ่อนอย่างที่ชอบทำ ทำเอาหัวใจฉันหล่นวูบจนต้องหันหน้ากลับมาลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ทำไมมันกลายเป็นเขาอีกแล้วที่คอยวนเวียนอยู่ในชีวิตฉัน..
“เพลงเธอเห็นเหมือนฉะ...เพลงเป็นอะไรรึป่าว ทำหน้าซีดๆ”
“ปะ...เปล่า” ฉันตอบแล้วก้มหน้ามองหน้าตักตัวเองแทนการเงยหน้าฟังนิเทศ
“เป็นอะไรก็บอกฉันนะ”
“อื้อ..”
“สวัสดีครับนักศึกษาทุกคนยินดีที่ได้พบกันนะครับ วันนี้ผมจะนิเทศเกี่ยวกับอาชีพแพทย์ที่ทุกคนกำลังกำลังจะเริ่มต้นก้าวแรก ขอให้นักศึกษาทุกคนเงยหน้าขึ้นแล้วตั้งใจฟังผมด้วยครับ...” คำพูดนั้นทำให้ฉันต้องจำใจเงยหน้าขึ้นมองไปที่เขา ซึ่งสายตานั้นกำลังมองฉันอยู่ก่อน..
“ผมจะเริ่มที่เป้าหมายของอาชีพนี้ก่อนนะครับ” เขาเริ่มเปิดจอที่ฉายภาพแผนผังขนาดใหญ่พร้อมกับอธิบายอย่างคล่องแคล่วซึ่งสิ่งที่เขาพูดมามันไม่ได้เข้าสมองฉันเลยสักนิด ฉันรอแค่เวลาให้มันจบและเวลานั้นมันก็มาถึง...
“มีใครสงสัยหรืออยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมไหมครับ”
“มีค่ะ”
“ว่ามาเลยครับ”
“ดอกเตอร์โสดมั้ยคะ” คำถามของผู้หญิงคนนั้นทำเอาเสียงฮือฮาของทุกคนในหอประชุมดังขึ้น
“คิดว่าคำถามนี้ควรถามครับ?”
“ขอโทษค่ะ..”
“ผมล้อเล่น” เขากลั้วหัวเราะออกมาเมื่อคนที่ถามหน้าเจื่อนลง แล้วเธอจึงกลับมายิ้มอีกรอบและรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ “มีแล้วครับ”
“....”
“เธอน่ารักมาก น่ารักกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยเจอ”
.
.
.
ก็บอกแล้วว่าคุณเขาคลั่งรัก55555555555555555555
Next…
“ผมคิดถึงคุณมากเลยนะ คิดถึงจนจะขาดใจอยู่แล้ว”
