อาวุธลับ
สองสามวันผ่านมา ก็ยังไม่มีวี่แววว่าข้าศึกจะมาบุกโจมตี บรรยาการที่ดูอึมครึมเมื่อวันสองวันก่อน ก็ดูจะผ่อนคลายลง
วันแรกที่อิทธิเข้ามาทำหน้าที่เข้าเร่งให้มีการฝึกทหารอย่างหนัก สั่งให้ออกกฎอัยการศึกโดยเฉพาะตอนกลางคืนที่สั่งห้ามไม่ให้ชาวบ้านออกจากบ้านโดยพลการ บ้านครั้งมันอาจจะดูรุนแรงเกินไป แต่อิทธิรู้สึกว่ามันจำเป็น เพราะไม่รู้ว่าจะถูกข้าศึกลอบมาโจมตีเมื่อไรก็ได้ ทั้งยังให้ชาวบ้านกระจายตัวออกไปคอยลอบสำรวจพื้นที่โดยลอบแสร้งออกไปทำงาน ทำธุระ ยิ่งด้วยหมู่บ้านชายแดนนี้ มีคนอพยพเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ต้องมีการกวดขันมากยิ่งขึ้น
" ลุงสมิท ฝึกพวกเขาไปถึงไหนแล้ว "
ตอนนี้อิทธิได้ห้องทำงานใหม่แล้ว ซึ่งก็คือห้องของหัวหน้าผู้ใหญ่บ้านเดิมก็ได้รับมาใช้ชั่วคราม
" พวกเขาสามารถทำตามคำสั่งพื้นฐานได้แล้ว ทั้งยังสามารถบรรจุกระสุนได้เป็นที่หน้าพอใจถึงจะไม่ดีแต่ก็ไม่ย่ำแย่นัก "
หัวใจสำคัญของปืนโบราณพวกนี้ ไม่ได้อยู่ที่การยิงให้แม่นยำแต่เป็นการบรรจุกระสุนให้รวดเร็วถ้าคุณบรรจุได้ช้า อีกฝ่ายคงยิงใส่คุณก่อนแล้ว
" เรื่องนี้ผมหาทางแก้ไว้แล้วให้พวกเขาฝึกกันต่อไป ผมคิดว่าคงใกล้แล้วที่ข้าศึกจะบุกโจมตีหมู่บ้านของเรา "
เมื่อลุงสมิทออกไปก็มีคนต่อไปเข้ามา ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเป็นประธานาธิบดีที่เคยดูในหนังเลย มีคนต่อคิวมาขออนุญาติทำนั้นทำนู้นทำนี้เหมือนเป็นเจ้าเมือง หัวหน้าหมู่บ้านโยนงานของเขามาให้อิทธิตัดสินใจทุกอย่าง พอมีใครมาถามอะไรก็จะพูดว่า
' ถ้าท่านอิทธิอนุญาตถึงจะทำได้ '
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย ต่างโยนมาให้เขาหมดส่วนตัวเองอยู่บ้านพักผ่อนสบายเลย
' ตาแก่เจ้าเล่ห์โยนงานมาให้เราหมดส่วนตัวเองนี้ไปพักผ่อนสบายเลยนะ '
อิทธิได้แต่กัดฟันกร๊อดเพราะทำอะไรไม่ได้ ต้องก้มหน้าก้มตาคอยฟังเรื่องที่คนเรียกร้อง
" คนต่อไป เอ้า..เลวิส มีปัญหาอะไรหรือป่าว "
คนที่เข้ามาใหม่คือเจ้าของบาร์เหล้า เลวิส เมื่อวันก่อนอิทธิต้องการให้เขาทำของบางอย่างให้ โดยอนุญาติให้เขาเรียกคนไปช่วยได้
" ไม่มีปัญหาอะไรครับ ผมจะบอกว่าสิ่งที่ให้ทำเรียบร้อยแล้ว "
" อย่างนั้นหรอ ผมนึกว่าจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ซะอีกได้จำนวนเท่าไร "
อิทธิดีใจอย่างมาก เมื่อรู้ว่าของที่เขาสั่งไปนั้นเสร็จเร็วกว่าที่เขาคิดไว้
" เกือบสามร้อยขวดได้ "
เจ้าของบาร์เลวิสพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นอิทธิตื่นเต้นมาก
" เกือบสามร้อยงั้นหรอ งั้นเราออกไปดูกัน "
อิทธิถือโอกาสหลบออกไป ให้เลวิสพาไปดูของที่เขาสั่งไว้ ทิ้งให้คนที่เข้าคิวได้แต่มองตามหลังเขาไปเมื่อถูกปล่อยให้ยืนรอเก้อ
" คุณอิทธิ ผมขอถามหน่อยสิที่คุณให้พวกผมทำมันเอาไว้ทำอะไรหรือครับ บางอันมันมีราคาและหายากมากเลยนะครับ "
ตอนที่อิทธิมาหาเขาและมอบกระดาษบางอย่างแล้วบอกให้เขาทำตามนี้ โดยส่งคนมาช่วยทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเอาไว้ทำอะไร
" ไม่ต้องห่วงคุณเลวิส คุณไม่รู้หรอกว่าคุณได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน คุณอยู่ในประวัติศาสตร์แล้ว คุณรู้ตัวไหม "
อิทธิตื่นเต้นเหมือนราวกับเด็ก ๆ ที่จะได้ของขวัญในวันปีใหม่ เขามุ่งหน้าไปยังร้านของเลวิส เขาสั่งให้คนมาเฝ้าและห้ามใครเขาออกโดยเขาไม่อนุญาติทำให้ร้านของเลวิสดูลึกลับ ชาวบ้านที่เคยมาร้านนี้ประจำก็ได้แต่แอบมุงดู พยายามมองเข้าไปว่าข้างในนั้นทำอะไรกัน คนงานที่เข้าไปก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดอะไร
" นี้ครับอยู่ในลังพวกเราบรรจุตามที่คุณสั่งอย่างดี ไม่ขาดไม่เกินทำตามที่คุณเขียนไว้ในกระดาษเป๊ะ ๆ ครับ "
มีลังไม้อยู่เต็มร้านเหล้าแห่งนี้ อิทธิเปิดออกแล้วหยิบมันออกมา
" ดูมันสิ อาวุธลับที่ทำให้แม้แต่กองทัพของสหภาพโซเวียตอันยิ่งใหญ่ยังขยาด ' โมโลตอฟค็อกเทล ' ระเบิดเพลิงรุ่นแรก ๆ ของโลกถูกสร้างขึ้นที่นี้และมันจะได้สำแดงฤทธิ์เดชในไม่ช้านี้แหละ "
............
ฟาเบียง, กระทรวงการสงคราม, 1872
" ติดต่อไปหารีสม่อนให้พวเขาเร่งมาสมทบที่ ' ปาโบ ' และก็ติดต่อหาทุกฝ่าย ทุกหน่วย ทุกกอง ติดต่อไปให้หมดนั้นแหละ เราต้องการกำลังทั้งหมดเพื่อไปยันข้าศึกไว้ที่ เออร์แน็ง "
เจ้ากระทรวงการสงคราม ลอร์ด อัลเฟรด เบอร์ตั้น วอน ดิสทิค หลายวันมานี้เขาคงเป็นคนที่วุ่นที่สุด ตั้งแต่ข้าศึกบุกเข้ามาเขาเป็นคนแรกที่ใคร ๆ ต่างติดต่อหาและพูดคุย มีจดหมายที่เขาต้องตอบและส่งวันละหลายสิบฉบับ มีคนต้องการคุยกับเขาและเขาต้องการไปคุยวันละหลายสิบคน การเรียกระดมกำลังเพื่อไปยันข้าศึกที่จู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้ เขาถึงกับหัวหมุนไม่ได้นอนหลายวันแล้ว
" แต่ท่านครับ ถ้าเราถอนกำลังจาก ชายแดนทางเหนือและตะวันออก พวกเขาอาจจะใช้โอกาสนี้บุกเข้ามาก็ไดนะครับ "
เลขาส่วนตัวพูดเตือนถึงความถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นถ้าเขาถอดทหารออกจากชายแดนโดยรอบ
" เขียนไปบอกไอ้พวกแม่ทัพที่ประจำการอยู่ชายแดนให้ชัดเจนทุกคำนะ ถ้าพวกมันไม่ถอนกำลัง มาช่วยที่นี้และเดียวนี้ พวกมันจะไม่มีประเทศให้ ปกป้อง!!!! "
ทุกคำคือความเดือดดาล ความล้าช้าในการส่งทัพหนุนไปก็เพราะแม่ทัพหลายคนไม่ยอมถอนทหารตามที่เขาสั่งแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง จึงทำให้ลอร์ดอัลเฟรดโกรธอย่างมาก
" นี้เรามีแต่แม่ทัพแก่ ๆ ไปหมดแล้วงั้นหรอ ไอ้พวกที่คิดเป็นและยังหนุ่มเราไม่มีแล้วหรือไง บัดซบจริง ๆ "
ลอร์ดอัลเฟรดได้แต่สบถถึงความเฉื่อยชา ล้าช้าของแม่ทัพในสังกัด
" ดูท่าประเทศของเราจะห่างสงครามมานานเกินไปแล้ว ภาวนาให้เราผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ "
ตลอดหลายวัน ลอร์ดอัลเฟรด ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งจ้าวกระทรวงการสงครามในวัยแปดสิบเอ็ดปี เขาดำรงตำแหน่งนี้มากว่าสามสิบปี ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นสงครามที่เขาหนักใจที่สุด
" ถ้าพวกนั้นถอนกำลังออกมาจะใช้เวลานานเข้าไร "
ลอร์ดอัลเฟรดหันไปถามเลขาส่วนตัวที่คอยเขียนตอบจนหมายอยู่
" กว่าจดหมายจะไปถึงก็คงใช้เวลาวันสองวันและกว่าจะถอนกำลังมาสมทบอีกอย่างน้อยก็ห้าหกวันถึงจะเดินทำเต็มที่โดยไม่พักก็สามถึงสี่วันครับท่าน "
การคาดการของเลขาก็ไม่ผิดนัก แต่นั้นอยู่ในกรณีที่ดีที่สุด
" ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการรวมพลให้พร้อมรบเลยงั้นหรอ? "
ความหนักใจมาตกอยู่กับลอร์ดอัลเฟรด กองทัพหน้าของจักรวรรดิดาทาเนียแปดพันยังพอรับได้ แต่กองทัพหลักที่จะตามมานี้สิเป็นปัญหา ถ้ากองทัพหน้าจู่โจมทำให้พวกเขาไม่สามารถรวมกำลังกันได้ละกันมันจะเป็นปัญหาใหญ่เลยละ
' พระเจ้าถ้าท่านคิดจะทดสอบพวกเราละก็ท่านก็ทรงส่งบททดสอบที่ยากลำบากมาให้จริง ๆ หวังเพียงว่าจะมีใครสักคนมาหยุดการรุกคืบของข้าศึกไว้ได้ '
ลอร์ดอัลเฟรดมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วได้แต่ทอดถอนใจ
...........
" คุณอิทธินี้หรอครับที่บอกว่าเป็นอาวุธลับที่จะทำให้เราชนะสงครามนะครับ "
อาเธอร์และคนอื่น ๆ ถูกเรียกมาให้ดูการสาธิตอาวุธใหม่ของอิทธิ ระเบิดไฟโมโลตอฟ ที่สั่งให้เลวิสทำเป็นการลับ
" คุณอิทธิจะทำอะไรกับเหล้าขวดนั้นหรอครับ แบ่งให้ผมหน่อยสิครับช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดื่มเลย " ลุงสมิทถึงกับน้ำลายสอหลังจากมารับหน้าที่ฝึกทหารให้อิทธิ เขาก็ไม่ได้ดื่มอีกเลย
" อดทนไว้หน่อยสิลุงสมิท มันไม่ใช่เอาไว้ดื่มแต่เอาไว้ทำแบบนี้ "
อิทธิจุดไฟที่ปลายผ้าแล้วรอสักครู่ก่อนขว้างใส่เป้าไม้ที่ให้คนไปตั้งไว้
" เพร้ง "
ขวดกระทบกับเป้าไม้แล้วไฟก็ลุกท่วมเป้าไม้ที่ตั้งไว้ ก่อนจะลุกลามไปบริเวณใกล้ ๆ สีหน้าทุกคนที่ได้เห็นต่างตกตะลึง ไม่เชื่อสายตาตัวเองแค่ขวดเล็กกับอันตรายขนาดนี้
" เห็นอย่างนี้ลุงสมิท อยากได้สักขวดไหมครับ "
อิทธิได้แต่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจกับความสำเร็จของตัวเอง
' ฮา ฮา ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาเลยต่อให้ข้าศึกอีกเป็นร้อยเป็นพันก็เข้ามา จงลิ้มรสความร้ายการของโมโลตอฟนี้ซะ ฮา ฮ่า ฮ่า '
" คุณอิทธิ คุณอิทธิคุณทำได้ยังไงครับ ในนั้นคือน้ำมันอย่างนั้นหรอครับ "
อาเธอร์คนดีคนเดิม ถามอิทธิเป็นคนแรกอีกแล้ว
" ไม่ใช่ มันเป็นความลับทางการค้าบอกไม่ได้หรอก อาเธอร์อย่ามาหลอกถามเสียให้ยาก "
อิทธิเก็บความภูมิใจไว้กับตัวเอง กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ อิทธิทดลองให้พวกเขาดูอีกสองสามครั้ง ก่อนจะเอากระดาษที่เขียนวิธีการใช้งานโมโลตอฟให้ลุงสมิทไปสอนคนอื่น ๆ ใช้งาน เขายกโมโลตอฟให้เอาไปใช้งาน ดูเหมือนลุงสมิทจะแหยง ๆ มันอยู่ไม่น้อย
หลังจากสาธิตและสั่งงานให้ทุกคนแล้วก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ อิทธิก็ไปรับเรื่องที่ห้องทำงานของเขาอีกครั้ง แต่ไม่ทันที่ก้นจะถึงเบาะ อาเธอร์ก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างแตกตื่น
" คุณอิทธิ คุณอิทธิ พวกมักมันมาแล้ว มาแล้ว "
อิทธิเมื่อได้ยินก็นั่งไม่ติดรีบถามอาเธอทันที
" ที่ไหน พวกมันออกมานานเท่าไรแล้ว "
" คนของเราที่แอบไปซุ่มดูเห็นพวกมันมาตามเส้นทางที่เราคิดไว้จริง ๆ คาดว่าจะมาถึงพรุ่งนี้ตอนรุ่งสาง "
อิทธิเดินนำอาเธอร์ไปหาลุงสมิทที่ลานฝึกกลางหมู่บ้าน แล้วเรียกรวมกำลังทั้งหมดมา
" เอาละฟังผมหน่อย อย่างที่รู้กันผมให้พวกคุณฝึกซ้อมกันอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรับมือข้าศึกถ้าเราถูกโจมตี บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นการตื่นตูมเกินไป แต่ไม่อีกแล้วข่าวที่เราได้รับมาล่าสุด พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาที่นี้ "
เมื่อพูดถึงตรงนี้ทำให้ทุกคนต่างตื่นตระหนกไปทั่ว
" เงียบ!! อยู่ในแถว!! "
อิทธิตะโกนเสียงดัง ทำให้ทุกคนกลับมาอยู่ในความสงบได้อีกครั้ง
" นึกถึงสิ่งที่พวกคุณฝึกมาให้ดี ถึงมันจะไม่ได้นานแต่จงจำไว้ให้ดี เราเตรียมการรับมือไว้แล้วพวกคุณแค่ปฎิบัติตามที่ผมบอกก็พอ "
อิทธิพักหายใจ มองไปยังเหล่าทหารเบื้องหน้า มีหลายคนตัวสั่น มองได้เห็นถึงความกลัวที่อยู่ในใจผ่านสายตาพวกเขา
" ทำใจให้สงบคิดถึงสิ่งที่จะทำ คุณทำไปเพราะอะไรแล้วจะได้อะไร ครอบครัวลูกเมีย ญาติพี่น้องคุณกำลังปกป้องพวกเขาอยู่ระลึกไว้ในใจก็พอ เดินตามหัวหน้ากองของคุณไป คืนนี้เราจะไม่รอพวกมันมาหาแต่เราจะจัดการพวกมันก่อนจำไว้ เพื่อครอบครัว เพื่อบ้านบ้านเกิดและเพื่อมาตุภูมิ!!!!! " อิทธิพูดปลุกใจและดูเหมือนมันจะได้ผลหลายคนมีสายตามีมุ่งมั่นแน่วแน่
เมื่อพูดจบอิทธิก็สั่งการให้ผู้นำกองกำลังต่าง ๆ ให้พาคนของพวกเขาไปประจำจุดที่วางแผนไว้ ซึ่งได้ตกลงคุยกันตั้งแต่วันที่ประชุม
" คุณอิทธิพอเราประจำจุดแล้ว ให้ทำยังไงต่อครับ "
สิ่งที่อิทธิวางแผนไว้เขาจะรอให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้หมู่บ้าน เขานำกำลังไปซุ่มไว้แถวที่อาเธอร์ได้แนะนำมันเป็นทางที่แคบที่สุดก็ไม่เกินสี่คนเรียงแถวหน้ากระดาน เขาวางกำลังไว้ทั้งสองข้างทางที่เป็นป่ารกทืบเขาได้ให้คนไปทำแนวกำบังขึ้นด้วยการขุดสนามเพาะขนาดย่อม ๆ ขึ้น ตลอดแนวสองข้างทางยากที่จะสังเกตุเห็น จนเกิดเป็นช่องสังหารขึ้น ด้วยเมื่อนึกถึงปืนคาบศิลาที่มีความเบี่ยงเบนของกระสุนการยิงสวนกันใส่ข้าศึกจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังมีระเบิดเพลิงโมโลตอฟช่วยอีกทีหนึ่ง ทำให้อิทธิมีความมันใจไม่น้อย
" ก็แค่รอ "
อิทธิให้ทหารทุกคนลาครอบครัวและก็เริ่มออกเดินทางไปยังตำแหน่งที่วางไว้ กว่าจะขนทุกอย่างเรียบร้อยก็ดึกมากแล้ว อิทธิก็มาประจำอยู่ในสนามเพาะด้วย
" คุณอิทธิครับ ผมขอถามอะไรอย่างได้ไหมครับ "
อาเธอร์ก็คอยอยู่ข้าง ๆ อิทธิแม้แต่กับในสนามเพาะ คืนนี้พวกเขาต่างนอนบนพื้นในหลุม แหงนหน้าก็เห็นแต่ต้นไม้ใบไม้กับแสงดาวที่สว่างเต็มท้องฟ้า
" อะไรงั้นหรอ "
" พวกเราจะชนะไหมครับ "
คำถามสั้น ๆ ที่อิทธิก็ไม่แน่ใจในคำตอบ ถึงเขาจะวางแผนมาอย่างดี มีตัวช่วยอย่างระเบิดไฟโมโลตอฟ แต่ในใจลึก ๆ เขาก็ยังหวาดกลัวความไม่แน่นอนของสงครามอยู่ดี
" เรื่องนี้ฉันก็ตอบนายไม่ได้วะ อาเธอร์ พรุ่งนี้เดียวนายก็รู้เอง "
อิทธิพูดมันออกมาจากใจของเขา เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะชนะในศึกวันพรุ่งนี้เหมือนกัน
