บท
ตั้งค่า

บทที่4 ฉันถามว่าใครทำ?!!

เช้าวันต่อมาอบเชยกับพิงค์โรสมารับฉันที่คอนโดของฟีนิกซ์ แล้วเราก็เข้าไปที่มหาลัยเพื่อเข้าเรียนคาบเช้า ก่อนจะออกมานั่งที่ร้านกาแฟของอบเชย ยัยนี่เป็นเจ้าของร้านกาแฟใกล้ๆกับมหาลัยจากทุนที่ได้มาจากแม่

“มันไม่เมคเซนส์อ่ะ...เฮียฟีนิกซ์สั่งห้ามไม่ให้แกไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นทั้งๆที่เขาก็มั่วผู้หญิงไปทั่ว” พิงค์โรสแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมาทันทีที่ฉันเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“หรือเขาหึงแกวะ? ที่ขังแกก็เพราะไม่อยากให้แกออกไปเจอผู้ชายที่ไหน” อบเชยเลิกคิ้วถาม

“เฮียฟีนิกซ์ขังวิวาห์เป็นรอบที่ร้อยได้แล้วมั๊ง ผิดนิดผิดหน่อยก็ขังแล้ว...จำได้ไหมมีครั้งนึงที่วิวาห์ไปโวยวายที่คลับ เฮียก็จับขัง” พิงค์โรสแย้งขึ้นมา

“แต่เขาไม่เคยสั่งห้ามเรื่องผู้ชายเลยนะ”

“ก็เพราะวิวาห์มันไม่เคยทำมาก่อนไง...ว่าแต่...เมื่อคืนแกนึกยังไงถึงได้แต่งตัวโป๊แล้วไปยั่วผู้ชายต่อหน้าเฮียเขาวะ?” พิงค์โรสขมวดคิ้วถามฉันด้วยสายตาสงสัย

“ฉันเลือกแต่งแบบนั้นเพราะคิดว่าเขาชอบ...แต่พอรู้ว่าเขาไม่สนใจสักนิด ฉันเลยอยากจะยั่วโมโหเขา สุดท้ายก็ได้รู้ว่าต่อให้ฉันทำอะไร...เขาก็ไม่แคร์ทั้งนั้น ที่ขังฉันก็เพราะโกรธที่ฉันท้าทายละมั๊ง”

“เมื่อไหร่แกจะหยุดกับเฮียเขาสักทีวะ?” พิงค์โรสถอนหายใจออกมา

“จนกว่าฉันจะชนะ” ฉันตอบเสียงแข็ง

“อะไรคือคำตอบว่าแกจะชนะ?”

“เมื่อตอนที่เฮียฟีนิกซ์รักแกตอบอย่างนั้นเหรอ?” อบเชยถาม

“หรือต้องเจ็บจนตายก่อนแกถึงจะพอ?” พิงค์โรสถามต่อ

“นี่พวกแกไม่คิดว่าฉันจะชนะอย่างนั้นเหรอ?” ฉันถามเพื่อนสองคนกลับ

“บอกตรงๆว่ามันยากมาก...ที่แกจะชนะเฮียฟีนิกซ์ ยกเว้นแต่ว่าเฮียเขาจะเกิดรักแกขึ้นมา ซึ่งถ้าฟังจากที่แกเล่ามา...ฉันว่ามันยากมากเลยที่เขาจะรักแก” พิงค์โรสพูดได้แทงใจดำฉันมาก

“แกจะชนะก็ต่อเมื่อแกไม่รักเขาแล้ว เมื่อถึงเวลาที่แกไม่เสียใจเพราะเขาอีกและปล่อยเขาไปได้ ตอนนั้นแหละ...คนที่ชนะก็คือแก” อบเชยส่งสายตาให้กำลังใจฉัน

“ชนะของฉันก็คือฉันจะต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ...ฟีนิกซ์ต้องยอมให้ฉัน ต่อให้เขาจะรักฉันหรือไม่ก็ตาม พวกแกจะด่าว่าฉันโง่ งี่เง่าก็ได้ แต่ฉัน...ไม่อยากแพ้ ฉันไม่มีแรงมากพอที่จะปล่อยเขาไป”

“เห้อ! ชีวิตแก...ใครๆก็อิจฉา ทั้งสวย ทั้งรวยแถมยังดัง แม่ก็เป็นนักการเมืองดีเด่น แต่ถ้าพวกเขารู้ว่าที่จริงแล้วแกต้องนอนร้องไห้เพราะผู้ชายไร้หัวใจ อยากจะรู้จริงๆว่ายังจะมีคนอยากมีชีวิตแบบแกอยู่ไหม” พิงค์โรสส่ายหน้า

“ไปวิ่งมาราธอนกับฉันไหม? ฉันว่า...มันช่วยได้เยอะเลยนะ รับรองว่าแกต้องติดใจแน่” อบเชยเอ่ยชวนฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“อะไรของแกเนี่ย?! วิ่งมาราธอนมันจะช่วยอะไรได้” พิงค์โรสไม่เห็นด้วย

“ไปสิ...” แต่ฉันกลับตอบตกลง

“วิวาห์...แกเอาจริงดิ?”

“อืม...ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าความรู้สึกวิ่งเข้าเส้นชัยมันเป็นยังไง”

“เยี่ยม! อีกสามเดือนจะมีทัวร์นาเมนท์ แกต้องซ้อม...ไว้ฉันจะจัดตารางให้แก จะหาโค๊ชให้ด้วย” ในตอนที่ฉันกับอบเชยกำลังจะลงทะเบียนวิ่งมาราธอนให้ตัวฉันเอง ในตอนนั้น...ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในร้านกาแฟ เป็นกลุ่มผู้ชายสี่คนกับผู้หญิงหนึ่งคน...ซึ่งฉันรู้จักผู้หญิงคนนั้น ยัยน้ำฟ้าไงล่ะ

“ยัยหน้าไม่อายที่อ่อยเฮียฟีนิกซ์เมื่อคืนก่อนโน้นนี่” พิงค์โรสพูดขึ้นมา

“อยู่นี่เอง...” ยัยน้ำฟ้าเดินตรงเข้ามาหาฉัน แสยะย้ิมมองฉัน ผิดกับใบหน้าตื่นกลัวเมื่อวันก่อนไปอย่างสิ้นเชิง

“มีอะไร?” ฉันเลิกคิ้วถามกลับ เมื่อเห็นผู้ชายสี่คนเดินมาล้มโต๊ะที่เรานั่งกันอยู่

“ถ้าคิดจะมาหาเรื่องกัน...รู้ใช่ไหมว่าฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก” อบเชยเอ่ยในฐานะเจ้าของร้าน

“แล้วที่พวกเธอทำกับฉันเมื่อวันก่อน ฉันจะแจ้งตำรวจบ้างได้ไหมล่ะ?” น้ำฟ้าถามกลับ

“พวกเราทำอะไรเธอ? มีหลักฐานเหรอ?” พิงค์โรสแย้งถามขึ้นมา

“...” แล้วยัยนั่นก็เงียบไป เพราะวันนั้นเราสามคน ไม่มีใครแตะต้องตัวมันเลย เราแค่ขู่

“มีอะไรก็รีบพูดมา...” ฉันจ้องหน้ายัยน้ำฟ้า ไม่เกรงกลัวเลยสักนิด ต่อให้จะมีผู้ชายสี่คนรุมล้อมอยู่

“ออกไปคุยกันข้างนอก แค่เธอคนเดียว คนอื่นไม่ต้องเสือก” ยัยหน้าไม่อายทำหน้ากวนประสาท

“หึ” ฉันแสยะยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน แต่เมื่อเพื่อนอีกสองคนของฉันจะลุกตามมา ฉันก็ส่งสัญญาณว่าฉันเอาอยู่

ฉันเดินตามน้ำฟ้าออกมาที่ด้านหน้าร้านกาแฟ แล้วยัยนั่นก็บอกให้ผู้ชายพวกนั้นเข้ามาล็อกตัวฉันไว้ ก่อนที่จะลากฉันเข้าไปในซอยเล็ก ผลักฉันเข้าไปในมุมหลืบ

ฉันยอมให้พวกมันทำตามใจชอบ...เพราะอยากรู้จริงๆว่าน้ำฟ้าคิดจะทำอะไร

“คราวนี้จะบอกได้หรือยังว่าเธอตามหาฉันเรื่องอะไร?” ฉันถามยัยน้ำฟ้า ขณะที่ถูกผู้ชายสองคนล็อกแขนเอาไว้

“ฉันอยากจะทำให้เธอรู้...ว่าเธอไม่ใช่เจ้าของพี่ฟีนิกซ์ ต่อให้เธอเป็นแฟนเขา แต่ถ้าฉันอยากได้...ฉันก็จะแย่ง วันก่อนฉันก็แค่ทำเป็นร้องไห้ เพื่อตบตาเธอ...ที่จริงน่ะ...คืนนั้นฉันกับพี่ฟีนิกซ์เราไปเอากันในห้องน้ำด้วย! เธอไม่รู้ล่ะสิ! หลังจากที่เธอกลับไปน่ะ...เราสองคนไปสนุกกันในห้องน้ำ...เขากับฉัน...มีความสุขกันขณะที่เธอร้องไห้ ที่เขาไม่รับโทรศัพท์ของเธอ นั่นเป็นเพราะว่าเขา...กำลังจูบฉัน...เข้ามาในตัวฉัน...ครางช่ือฉันอยู่” ฉันกัดฟันแน่น ทนฟังคำสกปรกที่ออกมาจากปากของน้ำฟ้า แต่เมื่ออดไม่ไหว...ฉันเลย...

ถุ้ย!

ใช่...ฉันถ่มน้ำลายใส่หน้ามัน!

“กรี๊ดดดดด! อี๊! อีวิวาห์! อีเหี้ย!” น้ำฟ้าทำท่าขยะแขยงน้ำลายของฉัน

“น้ำลายฉันสะอาดกว่าหน้าเธออีกยัยหน้าด้าน! เอากับแฟนคนอื่นแล้วยังหน้าไม่อายมาเล่าให้ฟัง...! หน้าเธอน่ะโบกปูนกี่ชั้นล่ะ?! จิตใจเธอมันต้องต่ำเบอร์ไหนวะ?! ถึงได้กล้า...เอาเรื่องสกปรกออกมาประจานความร่านของตัวเอง!”

เพี๊ยะ!!!

หน้าฉันหันไปตามแรงตบ ความเจ็บแสบก่อตัวขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่ฉันจะได้กลิ่นคาวเลือดตีขึ้นมาในจมูก เจ็บว่ะ...แต่บอกเลยว่าฉันเจ็บใจมากกว่า...

“กระทืบมัน ต่อให้แม่มันเป็นนักการเมืองยิ่งใหญ่มาจากไหนฉันก็ไม่สน! ฉันจะจ่ายให้พวกนายคนละหนึ่งหมื่น...ถ้านายทำให้มันกราบขอโทษฉันได้” ยัยสารเลวน้ำฟ้ากำลังอยากได้ในสิ่งที่มันไม่มีทางได้ ไม่ว่าจะเป็นการกราบเท้าขอโทษหรือฟีนิกซ์

“แต่...ผู้หญิงคนนี้้เป็นแฟนของฟีนิกซ์นี่ ถ้าทำแบบนั้นพวกเราจะซวยกันหมด” ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา เพียงเท่านั้นฉันก็คิดออกเลยว่าฉันจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้

“พวกนายอาจจะตกข่าวไปบ้าง ฉันช่ือวิวาห์ไง...พอจะรู้จักไหมล่ะ?” ฉันฉีกยิ้มให้ผู้ชายสี่คน

“วิวาห์...แฟนของฟีนิกซ์ ก็ต้องเป็นลูกสาวของคุณ...วรรณวษา นักการเมือง...” หนึ่งในสี่ทวนข้อมูลของฉัน

“ใช่ ฉันเอง”

“หุบปาก! ฉันเพิ่มให้พวกนายอีกคนละหมื่น...กระทืบยัยนี่ซะ!” น้ำฟ้าเริ่มกังวลขึ้นมาแล้วล่ะ

“คิดให้ดีนะ...พวกนายจะยอมเสียทุกอย่างในชีวิตเพื่อแลกกับเงินไม่กี่หมื่นน่ะเหรอ? ทั้งมาเฟียฟาโรห์พ่อของฟีนิกซ์ ทั้งนักการเมืองอย่างแม่ฉัน นายคิดว่า...จะรอดจากพวกเขาไปได้ง่ายๆอย่างนั้นเหรอ?” ทันทีที่ฉันพูดออกไปแบบนั้น ผู้ชายสองคนที่ล็อกแขนฉันอยู่ก็รีบปล่อยมือแล้วถอยห่างออกไปจากฉันทันที

“เอาไงดีวะ?” ฉันได้ยินพวกมันปรึกษากัน

“แต่ถ้านาย...อยากรอด ฉันแนะนำให้พวกนายล็อกตัวยัยนี่ไว้” ฉันชี้ไปยังน้ำฟ้าที่ยืนเลิ่กลั่กอยู่ตรงหน้า

“อย่านะ! ฉันจ้างพวกแกมานะ! อ๊ะ! ปล่อยฉัน! ไอ้พวกทรยศ!”

“ฮ่ะๆๆๆๆ” ฉันหัวเราะจนตัวโยน เมื่อผู้ชายสี่คนย้ายฝั่งอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปล็อกตัวน้ำฟ้าเอาไว้

“แก! อีวิวาห์!”

เพี๊ยะ!!!

ฉันฟาดฝ่ามือลงบนหน้าของน้ำอย่างแรง จนปากมันแตก

“นี่สำหรับที่แกทำให้ฉันเสียเวลา...”

เพี๊ยะ!!!

“ส่วนนี่...สำหรับที่แกตบฉัน”

เพี๊ยะ!!!

“แล้วก็นี่...เป็นเพราะแกกล้าดีกับฉัน!

เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!!

ฉันรัวตบหน้ามันซ้ายทีขวาทีอย่างนับไม่ถ้วน จนมันไม่มีโอกาสจะร้องออกมาด้วยซ้ำ เลือดกบปากจนแม้แต่ฉันที่ยืนอยู่ห่างๆยังได้กลิ่นความคาวนั้น

“อย่าได้คิดจะแย่งของที่เป็นของฉันอีก! ต่อให้แก...จะไปเอากับฟีนิกซ์เป็นสิบเป็นร้อยรอบ...แกก็เป็นได้แค่ที่รองรับอารมณ์ของเขา...”

“ฮึก!”

“จับตัวยัยนี่ไปปล่อยที่ไหนสักที่...แล้วแต่พวกนาย อ้อ! ฉันไม่มีค่าจ้างให้หรอกนะ จะมีก็แต่คำสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับฟีนิกซ์หรือแม่ก็แล้วกัน” ฉันทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก็เดินออกมาจากซอกหลืบทันที ระหว่างนั้นฉันก็หยิบมือถือออกมาส่องหน้า...พอเห็นรอยยิ้มแดงกับรอยเลือดที่มุมปากตัวเองก็รู้ได้ทันทีว่าวันนี้ฉันกลับบ้านไม่ได้ เพราะถ้าแม่เห็นขึ้นมาล่ะก็...เป็นเรื่องแน่ๆ

“วิวาห์...!” พอฉันเดินเข้าไปในร้านกาแฟของอบเชย เพื่อนสองคนก็รีบเข้ามาหาฉันทันที

“พวกฉันตามไปแล้วหาแกไม่เจอ...ก็เลย...” พิงค์โรสแสดงสีหน้าเป็นห่วงฉัน แต่อยู่อบโชยก็แทรกขึ้นมา

“นี่หน้าแกไปโดนอะไรมา? พวกนั้นตบแกเหรอ?!”

“เดี๋ยวก่อน...อย่าบอกนะว่าพวกแกโทร...” ฉันนิ่วหน้าถามเพื่อน

“ใช่...พวกเราโทรไปบอกเฮียฟีนิกซ์ว่าแกโดนหาเรื่อง...”

“ยัยบ้านี่! เรื่องแค่นี้ฉันจัดการเองได้ ทีหลังแกห้ามทำอีกเด็ดขาด! ฉันไปก่อนดีกว่า...” ฉันคว้ากระเป๋า เตรียมจะเดินออกจากร้านกาแฟ เพราะฉันยังไม่พร้อมจะเจอหน้าฟีนิกซ์ ถึงมันจะเป็นแค่คำบอกเล่า...แต่ภาพที่เขามีอะไรกับน้ำฟ้ามันฝังอยู่ในหัวฉัน

“ไม่ทันแล้วล่ะ...เฮียมาโน่นแล้ว...” สิ้นเสียงของอบเชย ฉันก็เห็นฟีนิกซ์เดินเข้ามาในร้านกาแฟ

“วิวาห์...” เขาเอ่ยชื่อฉัน แต่ฉันทำเป็นไม่ได้ยิิน ก้มหน้าไม่มองเขา เตรียมที่จะเดินผ่านตัวเขาออกไป ทว่า...เขากลับคว้าแขนฉันไว้

“ปล่อย”

“เงยหน้า...” เขาเอ่ยเสียงแข็ง

“ปล่อย!”

“ฉันบอกให้เงยหน้า!!!” เมื่อเขาคำรามออกมาอย่างดัง ทั้งร้านก็เกิดเป็นความเงียบ

“...” ฟีนิกซ์เชยคางฉันให้เงยหน้า จนเราได้สบตากัน

“ใครทำเธอ?!” เขาจ้องที่มุมปากของฉันนิ่ง

"ฉันถามว่าใครทำ?!!”

“ปล่อยฉัน...” ฉันบิดแขนออกจากมือเขา จ้องหน้าเขาทั้งน้ำตา

“บอกมา!!!”

“โมโหอะไร? อยากรู้เหรอว่าใครทำ? ลองนึกดูสิ...ว่านายไปเอากับใครมาบ้าง มีหนึ่งคนในนั้นแหละที่ทำฉัน!” ถึงตอนนั้นน้ำตาของฉันก็ไหลออกมา พยายามจะกลั้นไว้แล้ว...แต่มันอยากมากจริงๆ

“...” แล้วเขาก็เงียบ

“หึ! นึกไม่ออกล่ะสิ! เพราะนายมันเอาไปทั่วไง!”

“ไปกับฉัน” ว่าแล้วเขาก็ลากฉันออกไปจากร้านทันที

?????

“แกเห็นอะไรไหมอบเชย?” พิงค์โรสที่มองตามฟีนิกซ์ลากวิวาห์ออกไปจากร้านเอ่ยถามเพื่อน ท่าทีของเธอกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“เห็นอะไรวะ?”

“เฮียฟีนิกซ์โกรธมากที่ได้เห็นว่าวิวาห์เจ็บตัว เขาเหมือนจะพังทุกอย่างตรงหน้า แต่พอ...เห็นวิวาห์ร้องไห้เขาก็เย็นลง...เป็นแบบนี้ทุกครั้ง”

“แกจะพูดอะไรก็พูดมาเลย...ฉันไม่เข้าใจ”

“ฉันว่า...เฮียน่ะ ไม่ได้เมินเฉยวิวาห์หรอก อีกอย่าง...ตอนที่ฉันโทรหาเขา เขาบอกว่าไม่ว่าง...แต่อยู่ๆก็โผล่มา แกว่ามันหมายความว่าไงล่ะ...ถ้าไม่ห่วงไม่หวง...เขาไม่มาแน่”

“แล้วถ้าเฮียทั้งห่วงทั้งหวงวิวาห์จริง...ทำไมถึงชอบทำให้เสียใจอ่ะ?” อบเชยถามต่อ

“ปัญหาโลกแตกว่ะ ฉันเองก็ไม่รู้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel