บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

โรงพยาบาลธาราพิลักษณ์

ลีลาร์ถูกนำส่งห้องฉุกเฉินทันที ระหว่างที่เธออยู่ในความดูแลของแพทย์ ฉันก็รีบล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อพี่ชายของยัยนั่นทันที ไม่นาน ลีแคล พี่ชายของลีลาร์ก็มาถึงโรงพยาบาล หมอนั่นท่าทางรีบร้อนและเป็นห่วงน้องสาวเอามากๆ แต่ลีลาร์ก็น่าสงสารจริงๆ นั่นแหละ

ระหว่างที่นั่งมาในรถด้วยกันฉันแอบหวั่นว่าเธอจะเลือดไหลหมดตัวก่อนจะถึงโรงพยาบาลซะอีก และตอนนี้ในรถของคาร์ลคงเต็มไปด้วยทะเลเลือดของลีลาร์ (เวอร์ไปมั้ย?)

สยอง _ “อ้าว!?”

ฉันหันหน้าแลหลังอย่างสับสน ทันทีที่นึกถึงคาร์ลหมอนั่นก็หายไปจากสายตาของฉันซะแล้ว

“มีอะไรมินตรา?” ลีแคลที่นั่งไม่ติดเก้าอี้เพราะร้อนใจในอาการของน้องสาวหันมามองฉันด้วยแววตาสงสัย

ฉันเล่าให้ลีแคลฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลีลาร์ ซึ่งหมอนั่นก็เข้าใจและยอมรับว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ส่วนตัวต้นเหตุอย่างคาร์ลก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการพาลีลาร์มาส่งโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกผิด แต่ว่าตอนนี้หมอนั่นหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ยังไม่ทันได้แนะนำลีแคลให้รู้จักเลย

“คาร์ลน่ะ หมอนั่นออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้สิ ต้องขอโทษด้วยนะ”

“เรื่องนั้นช่างเถอะ ขอแค่ลีลาร์ปลอดภัยก็พอ”

ท่าทางลีแคลจะไม่ได้ติดใจเอาเรื่องคาร์ลเลย ช่างเป็นคนดีมีเหตุผลแถมยังห่วงใยน้องสาวอะไรอย่างนี้ อร๊าย! นี่แหละพี่ชายในอุดมคติชัดๆ จ๊วบ! ว่าแต่ฉันเป็นไรมากปะเนี่ย

“ว้าย ตายแล้วสายขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”

ตายๆๆๆ ยังไม่ได้เตรียมตัวเปิดร้านเลย ตอนออกมาก็ไม่มีพนักงานอยู่ร้านสักคน จะมีก็แค่ลูกค้าผู้หญิงคนนั้น เฮ้ย แย่แล้ว ถ้าหากว่าเธอทิ้งร้านแล้วกลับไปล่ะ แบบนี้ถ้าขโมยขึ้นร้านล่ะจะว่ายังไง ฉันกุมขมับอย่างคลุ้มคลั่ง ร้อนใจ ห่วงหน้าพะวงหลัง ถ้ากลับไปตอนนี้ต้องโดนลีแคลว่าแน่ๆ เลย

ครืด! ครืด! ครืด!

ใบบอน

O_O ใบบอนหนึ่งในพนักงานเสิร์ฟสาวหน้าตาสวยประจำร้านโทรมา ฉันรีบกดรับสายทันควัน

ติ้ด!

“ฮะโหล”

[พี่มินตราคะ คือวันนี้ร้านไม่เปิดทำการเหรอคะ?]

“เอ๋?”

[ก็ที่หน้าร้านติดป้ายเอาไว้ว่า Close อะ]

“ว่าไงนะ!?” ฉันมั่นใจนะว่าตอนออกมาไม่ได้เปลี่ยนป้ายเป็น Close

อ๊ะ! หรือว่าจะเป็นฝีมือของผู้หญิงคนนั้น ฮึ่ย นี่หล่อนทำอะไรกับร้านฉันเนี่ย

[แล้วประตูก็ล็อกด้วยใบบอนกับคนอื่นๆ มารอกันหน้าร้านหมดแล้วถ้าพี่มินตราจะปิดร้านก็หัดบอกกันล่วงหน้าบ้างสิคะ พวกเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแบบนี้]

เจริญละฉันโดนลูกน้องเทศนา ความผิดใครเนี่ย!?

“อะเอ่อ... จะว่ายังไงดี เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ฉันลังเลและสับสน จู่ๆ ก็ขาดความมั่นใจและเด็ดขาดไป เป็นเพราะไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และอีกอย่างฉันก็ไม่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารร้านอีกแล้วนับตั้งแต่ที่คาร์ลมาเป็นตัวแทนของคาเร็น

[อะไรกันคะ? แล้วสรุปวันนี้หยุดใช่มั้ย]

“เอ่อ...”

[ตอนนี้ก็สิบโมงแล้วนะคะ ได้เวลาร้านเปิดแล้วด้วย ถึงพี่มินตราจะมาตอนนี้ใบบอนว่าก็ทำอะไรไม่ทันอยู่ดี ถ้าจะสายขนาดนี้ก็หยุดๆ ไปสักวันเถอะค่ะ พี่จะได้มีเวลาจัดการปัญหาได้เต็มที่ด้วย]

มาเป็นชุด! นี่หล่อนกล้าชี้แนะฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ยัยใบบอน

แต่ว่านะ... สถานการณ์ตอนนี้มันก็ไม่เหมาะที่จะเปิดร้านจริงๆ นั่นแหละ ฉันเหลือบมองลีแคลด้วยความรู้สึกกังวล หมอนั่นยืนพิงผนังอย่างกลัดกลุ้มร้อนใจ ท่าทางไม่น่าปล่อยเอาไว้คนเดียวอย่างยิ่ง

พรึบ

เขาตวัดสายตามามองฉันเหมือนรู้ว่าฉันกำลังมองอยู่ พริบตาที่เราสบสายตากันเข้าฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออก ...เป็นอะไรไปนะฉันเนี่ย

“มินตราถ้ามีธุระก็กลับไปก่อนได้นะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

“อะ...”

ฉันอึ้งนิดๆ ถึงจะพอรู้จักลีแคลอยู่บ้างเพราะเรียนมหาวิทยาลัยและอยู่ชมรมเดียวกัน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยใส่ใจเรื่องของเขาเลย ทำให้ฉันไม่ทันสังเกตความดีและดูอบอุ่นในตัวลีแคล

“^_^”

ลีแคลยิ้มให้ฉันเพื่อยืนยันว่าเขาสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแบบนั้นฉันจึงตัดสินใจตอบโทรศัพท์ใบบอนและกลับไปดูร้าน

“ใบบอนบอกคนอื่นๆ ให้รออยู่ที่นั่นแป๊บ ฉันกำลังจะกลับไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

พนักงานทั่วไปไม่มีกุญแจสำรองค่ะ คนที่ถือกุญแจมีเพียงฉันกับคาร์ลเท่านั้น

[เอางั้นก็ได้ค่ะ...]

ติ้ด!

ฉันกดวางสายทันทีก่อนจะหันไปพูดกับลีแคล

“ถ้างั้นฉันไปก่อนนะฝากขอโทษลีลาร์ด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายเก็บบิลล์ไว้ด้วยล่ะไว้ฉันจะกลับมาเยี่ยมทันทีที่ว่างจากงานในร้าน”

“อื้ม... ไม่เป็นไร ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยมาก็ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายฉันจัดการเองได้”

ลีแคลส่ายหน้าปฏิเสธ แหม... เป็นคนดีอะไรอย่างนี้

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า น้องนายเป็นผู้เสียหายนะ ไปละๆ แล้วเจอกัน”

ฉันโบกมือลาลีแคล แล้วรีบเดินออกมาทันทีไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้พูดอะไรอีก

ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินออกจากโรงพยาบาล คาร์ลก็เดินสวนเข้ามาพอดี ฉันหยุดกึกหันไปมองอย่างสงสัยแต่เขาคงไม่ทันสังเกตเห็นฉัน มุ่งหน้าเดินเข้าไปในตัวตึกอย่างไม่สนใจคนรอบข้างเลย

“คาร์ล!”

คาร์ลหยุดกึกแล้วหันมามอง ก่อนจะเลิกคิ้วสูงแล้วเดินมาหาฉัน

“มาทำอะไรที่นี่?”

“นายนั่นแหละไปไหนมา”

“ก็เอารถไปล้างน่ะสิ”

อ่อ... ฉันกะพริบตาปริบๆ นึกถึงเลือดของลีลาร์ที่ไหลเปื้อนรถแล้วกลืนน้ำลายแทบไม่ลง

“แล้วนั่นเธอกำลังจะออกไปใช่มั้ย? คนเจ็บล่ะ”

“ตอนนี้พี่ชายลีลาร์เฝ้าอยู่ ฉันก็เลยจะแวะไปดูร้านหน่อยพวกพนักงานโทรมาโวยวายกันใหญ่แล้วว่าเข้าร้านไม่ได้”

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบไหววาบเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ คาร์ลกุมข้อมือฉันไปจับทำเอาฉันแอบสะดุ้งเบาๆ

“งั้นฉันไปกับเธอด้วยดีกว่า”

ละแล้วทำไมนายต้องจับมือฉันด้วยเนี่ย -O-

“อะอืม...” ฉันตอบเสียงในลำคอ จ้องมองใบหน้าราบเรียบของคาร์ลอย่างใจเต้นแรง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับการจับมือฉัน แต่หัวใจก็หยุดสั่นไม่ได้ บ้าจริง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel