โอกาสทอง
2 วันผ่านไป...
ดาริน Talk
"โอ๊ยอีริน!! มึงพูดอะไรออกไปเนี่ย!!"
"ถ้ายายรู้หัวฉันแตกแน่เลย โอ๊ยปวดหัว!!"ฉันกำลังนอนตีขาตัวเองอยู่ที่เตียงสีขาวขนาดเล็ก ยกมือขึ้นมากุมขมับของด้วยความปวดหัว ฉันไม่ได้ไปเรียนตั้งสองวันเนื่องจากถูกอธิการบดีไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ท่านอุตส่าห์ให้โอกาสฉันแล้วแท้ๆแต่ฉันก็ดันไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ เลยต้องมานั่งเสียดายทีหลังแบบนี้
ฉันไม่น่าไปปากเก่งแบบนั้นเลยทั้งๆที่สิ่งที่เขา ขอ มันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงฉันเลยแม้แต่นิดเดียว สมองเก่งๆระดับฉันสามารถทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ปากฉันนี่สิ ทุกวันนี้รู้สึกว่ามันจะเก่งกว่าสมองฉันเป็นฉันขั้นก้าวกระโดดไปแล้ว
"ส่งข้อความไปขอร้องอธิการบดี ดีไหมวะ แต่ถ้าทำแบบนั้นก็เสียหน้าสิ โอ๊ยอีริน! ตอนนี้มึงยังกลัวเสียหน้าอีกหรอวะ! ส่งข้อความไปเลย!"
LINE:
ดาริน:ท่านอธิการบดีคะ ดิฉันอยากจะขอโทษที่ทำกิริยาท่าทางที่ไม่ดีออกไป และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ดิฉันยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และสุดท้ายนี้ฉันอยากขอโอกาสจากคุณอย่าไล่ดิฉันออกเลยนะคะ ฉันยอมทำตามข้อเสนอที่คุณให้ ว่าจะพยายามทำทุกอย่างให้ลูกชายคุณเรียนจบ ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ ToT ToT ToT
ตอนนี้ฉันพิมพ์ข้อความทุกอย่างที่อยู่ภายในใจของฉันลงไปในแป้นพิมพ์ของโทรศัพท์มือถือ แต่เสียอยู่อย่างเดียวความกล้าที่เหลือของฉันมันหายไป ฉันไม่กล้ากดส่งกลัวว่าจะได้คำตอบที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก ถ้าเกิดว่าท่านอธิการบดีไม่ให้โอกาสฉันละฉันจะทำยังไงล่ะ แง๊~
"ฮึบ!! เอาวะ"
ดาริน:(คุณได้ส่งข้อความแล้ว)
ดลภัทร:(อ่านแล้ว)
"เฮ้ย! อ่านแล้วๆ!!"
ดลภัทร:ก็ได้ ฉันให้โอกาสก็ได้ แต่เธอต้องทำตามคำพูดด้วย เพราะงานนี้ฉันไม่ได้ให้เธอทำฟรีๆ
ดาริน:โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาส >_<
"กรี๊ด!!! รอดตายแล้วโว้ยอีดาริน!!" ฉันนอนฟุบลงไปกับเตียงพร้อมกับเอาหน้าซุกลงหมอนกรี๊ดเสียงดังลั่นบ้านด้วยความดีใจ เยส!!! ในที่สุดเทวดาก็มีจริงซึ่งเทวดาตนนั้นก็คือท่านอธิการบดีของฉันนี่แหละ เกิดมาฉันไม่เคยรู้สึกอยากขอบคุณเขาขนาดนี้เมื่อก่อน
เช้าวันถัดมา...
"แหม! อีรินมึงใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้จะไปเรียนหรอ แต่เอ๊ะ? ได้ข่าวว่ามึงโดนไล่ออกนี่หวา แล้วแต่งชุดนักศึกษาออกนอกบ้านแบบนี้ จะไปเป็นนักศึกษาให้เสี่ยคนไหนล่ะจ๊ะ"
ป้าแดง ป้าข้างบ้านของฉันเอง นางทักฉันขึ้นทันทีเมื่อเห็นฉันแต่งชุดนักศึกษาเต็มยศเตรียมที่จะไปเรียน แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณนางที่เสียสละเวลามายืนรอว่าฉันอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นป้าข้างบ้านที่ประเสริฐเสียจริง!!(กัดฟันพูด)
"นี่อีป้า!! ปากอะเก็บไว้กินขี้บ้างนะไม่ใช่จะเก็บไว้เห่าคนอื่นอย่างเดียว"
"มึงกล้าว่ากูหรอ กูแก่กว่ามึงเป็นยี่สิบปีนะโว้ย แก่กว่าแม่มึงด้วย!!"
"แล้วไง ถึงจะแก่กว่าก็ใช่ว่าจะสันดานจะดีกว่านิ ฉันไปเรียนก่อนนะไม่อยากพูดกับคนที่ไม่มีการศึกษาอยู่ในหัวแบบป้า"
"กรี๊ด!! อีรินอีเด็กปากเสีย!!"หลังจากที่ฉันพูดตอกใส่หน้าอีป้าจนหน้าหงายฉันก็เดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะไปก็ยังหันหน้าไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ป้าอีก ก็ทำไงได้คนมันเด่นก็ต้องทนฟังเสียงนกเสียงกาเป็นธรรมดา ก็ฉันมันเป็นเด็กสลัมที่ไฮโซที่สุดแล้วนี่นาจะไปแคร์คำพูดของคนทำไม
@klever University
"หูย! อีรินโอกาสทองของมึงชัดๆเลยว่ะ" เมื่อเจอหน้าอีหอยเพื่อนสนิทของฉัน ฉันก็อัปเดตข่าวสารทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันเล่าทุกอย่างแม้กระทั่งเหตุผลที่โดนไล่ออกจนต้องส่งข้อความไปขอร้องท่านอธิการบดีว่ายอมทำตามข้อตกลงที่เขาขอ ว่าทำยังไงก็ได้ให้ลูกชายของเขาเรียนจบฉันจึงแอบไปสืบมาคร่าวๆว่าปีนี้เขาก็เรียนรุ่นเดียวกันกับฉันนี่แหละ แต่นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเขา เข้ามานั่งเรียนเลย สงสัยจะแอบไปให้สาวนักศึกษาแถวนี้ อวยคม อยู่ห้องน้ำอีกล่ะซิ หึ! ไอ้โรคจิตเอ๊ย!!
"ทองเชี่ยไรล่ะ! ฉันล่ะไม่อยากเห็นหน้าไอ้อนาคอนด้ายักษ์นั่นเลย แค่ได้ยินชื่อก็ขนลุกแล้ว ต่อไปนี้ฉันต้องคอยตามติดชีวิตการเรียนไอ้หมอนี่หรอวะ"
ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแถมยังชักสีหน้ารังเกียจคนที่พูดถึงจนออกนอกหน้า ก็ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนี่นาคนอะไรก็ไม่รู้แววตาน่ากลัวแถมยังโรคจิตขั้นสุดอีกต่างหาก หน้าไม่อายด้วย ชิ!
"เอาน่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องเด้งออกจาก klever university"
"เออ กูจะทนเพื่ออนาคตของตัวกูเอง"
"อื้มสู้ๆ อาจารย์มาพอดีเลย" ชายร่างสูงโปร่งค่อนข้างผอม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็คสีดำซึ่งบุคคลที่เข้ามาเยือนใหม่นี้ เมื่อฉันเห็นหน้าครั้งแรกฉันก็รู้ในทันทีว่าคนๆนี้อยู่ในแก๊งเดียวกันกับ พี่ดินแดน ซึ่งคนนี้ก็น่าจะเป็นเพื่อนที่อยู่ร่วมวงเหล้าด้วยกันแน่ๆถ้าฉันจะไม่ผิดนะ
"ไอ้เนี่ยนะอาจารย์?"
"อื้ม นี่อะพี่เมฆศิษย์เก่ามอเรานี่แหละ เป็นครูฝึกสอนวิชาคณิตศาสตร์ มาแทนอาจารย์ทองสุขอะ"
"หรอ คงจะไม่..." คงจะไม่ตามฉันมาใช่ไหม
"ไม่อะไรวะ"
"ฮ๊ะ!...อ้อ คงจะไม่มาตามจีบฉันใช่ปะใครๆก็รู้ว่าฉันฮอต!!"
"แหวะ!! จะอ้วก ที่มีคนเข้ามาวนเวียนในชีวิตมึง เพราะรอพึ่งบารมีสมองมึงเถอะย่ะ"
"ชิ! เพราะอะไรไม่รู้แต่วันนี้กูมีนัดกับเดือนคณะบริหารโว้ย หุๆๆ"ฉันหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความสะใจตอนนี้หน้าของอีหอยนั้นเหวอไปเลยเมื่อได้ยินฉันพูดถึงเดือนคณะบริหารที่มันแอบปลื้มซึ่งมันก็แอบปลื้มทุกคนที่เป็นเดือนคณะไม่รู้จะปลื้มอะไรกันนักกันหนา
"พี่ปีเตอร์อะนะ ดารินมึงชักจะเกินไปแล้วกูอุตส่าห์แอบปลื้ม"
"แหม มึงก็ปลื้มทุกคนที่เป็นเดือนไหม"
"อ่ะแฮ่ม! จะหยุดคุยกันได้หรือยังครับ"
คนที่ยืนตรงหน้ากระดานหันมาทำหน้าดุใส่พวกฉันสองคน น้ำเสียงแข็งกร้าวน่าเกรงขามสายตาดุดันจนพวกเรานั้นไม่กล้าเหิมเกริมด้วย จึงหยุดคุยกันแล้วก้มหน้าหลบสายตาโดยอัตโนมัติ
"วันนี้ผมจะมาสอนพวกคุณเรื่องแคลคูลัส เป็นเนื้อหาที่พวกคุณเรียนมาแล้วตอนม.ปลายและตอนปีหนึ่ง บทนี้เลยเป็นแค่การทบทวน เรามาเริ่มจาก"
ปัง!
เสียงปิดประตูดังลั่นมาพร้อมกับบุคคลคนหนึ่งที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งไม่รู้สึกรู้สา ว่าตนนั้นทำให้คนอื่นในห้องเรียนตกใจกันหมด ซึ่งคนที่สันดานเสียแบบนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก พี่ดินแดน พ่อคุณทูนหัวที่สามารถชี้ชะตาชีวิตของฉันได้ในตอนนี้นี่แหละ พอเห็นหน้าแล้วก็หยุดคิดไม่ได้ว่าถ้าไอ้หมอนี่เรียนไม่จบ ฉันก็จะเรียนไม่จบเหมือนกัน งั้นก็เท่ากับว่าถึงฉันจะเรียนดีเรียนเด่นแค่ไหน ถ้าไม่สามารถดึงให้เขาออกไปจากประตูมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ ฉันก็คงจะเรียนซ้ำชั้นเหมือนกันกับเขา! ซึ่งมันไม่แฟร์สำหรับฉันเลย อ๊าก!!!
"คุณดินแดนครับ กรุณาปิดประตูเบาๆด้วยเพื่อนเขาเรียนอยู่"
"มึงกล้าสั่งกูหรอไอ้เมฆ!"
"ณ ตอนนี้ผมคืออาจารย์เมฆของทุกคนรวมถึงคุณด้วย กรุณาให้เกียรติผมนิดนึง ถ้าขืนคุณยังพูดจาหมาๆแบบนี้กับผมอีก ผมจะให้เกรดคุณ A+"
"อย่านะเว้ย"
"ถ้าอยากติด F ก็เชิญไปนั่งที่ครับ นี่ๆนั่งข้างหน้าเลย จะได้อยู่ใกล้สายตา"
ชายหนุ่มทั้งสองเพ่งสายตามามองฉันเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างหากัน ฉันว่าแล้วว่าการที่คนตรงหน้าปรากฏตัวขึ้นมานั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ
หลังจากสิ้นคำสั่งเขาก็เดินมานั่งข้างๆฉันพอดี แต่ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนขี้เก๊กก็ยังนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึก ฉันที่แอบมองอยู่ข้างๆก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าบนใบหน้าที่แสนเพอร์เฟคแบบนี้จะซ่อนความน่ากลัวไว้อย่างมหาศาล
ฉันหันหน้าไปทางกระดานไม่สนใจใครอีกต่อไป นอกจากตัวหนังสือที่แสนจะลายตา มือก็พลางจดไปด้วยอย่างใจจดใจจ่อกลัวว่าจะจดไม่ทัน
"นี่เธอ มีสมุดให้ฉันยืมไหม พอดีทั้งตัวฉันมีแต่ปากกาน้ำเงินอ่ะ"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างๆฉันอย่างแผ่วเบา แต่ก็แอบแฝงความดุดันไว้นิดๆ ฉันหันหน้าไปหาเขาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ก่อนจะควักสมุดออกมาจากกระเป๋าของสีชมพูลายคิตตี้แสนน่ารัก แล้วยื่นให้เขาด้วยความไม่เต็มใจ พร้อมกับหันหน้าใส่กระดานจดงานต่อไป
"ยืมปากกาแดงหน่อย" ฉันชักสีหน้าไม่พอใจอีกครั้ง แต่ก็ตอบโต้อะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ เดี๋ยวจะทำให้เขาโกรธแล้วไล่ฉันออกอีก ฉันจึงจำใจควักปากกาแดงออกมาจากกระเป๋าขนาดเล็กแล้วยื่นให้เขาอีกครั้ง
"ไม้บรร..."
"ไม้บรรทัด! ลิควิด! สมุด! เมจิก! เครื่องคิดเลข! อะ! ฉันแถมสีให้กล่องหนึ่ง เก็บไว้ใช้ซะจะได้ไม่ต้องไปยืมใครเอาไปเลยฉันยกให้!"
"อึก!"คนข้างๆกลืนน้ำลายดังอึกคงไม่คิดว่าฉันจะเตรียมของทุกอย่างนี้ไว้ให้เขาโดยเฉพาะ จริงๆแล้วของพวกนี้ไม่ใช่เงินของฉันซื้อหรอกนะ ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของให้ผู้ชายล่ะ! ขนาดของตัวเองยังไม่มีขนาดนี้เลย เครื่องของพวกนี้ฉันไปรีดไถเงินมาจากพ่อของเขานั่นแหละ ฉันบอกท่านไปว่าถ้าอยากให้ลูกชายเรียนก็ต้องโอนเงินมาให้ฉันซื้ออุปกรณ์การเรียนให้ ท่านก็เลยโอนมาให้ฉันสองพัน ฉันก็ซื้อของมาเผื่อลูกชายเขาด้วยไม่ถึงสองร้อยด้วยซ้ำ แล้วเงินส่วนที่เหลือนั้น ถือเป็นค่าเหนื่อยของฉันในวันนี้ละกัน อิๆ
"ข..ขอบคุณ!"
______________________________
ขอเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น หนุ่มโรคจิต&ยายมิจฉาชีพ ได้ปะ ฮ่าๆ ????
ทุกคนชอบแบบบุคคลที่สามบรรยายหรือนางเอกบรรยายคะ comment มาพูดคุยกันด้วยนะ
