บท
ตั้งค่า

เป็นเสือต้องรู้ประวัติเหยื่อ

"ทำไมไม่ตามมาวะเนี่ย หรือว่าหน้าตาฉันจะแสดงถึงความโหดเหี้ยมเยอะเกินไป ไอ้บ้านั่นมันถึงไม่หลงกล"

ดารินนั่งกอดเขาตัวเองรอเขาอยู่ที่หน้าห้องน้ำชายพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดครบเซ็ทหวังจะทุบตีเขาให้เละ ในความคิดของเธอตอนนี้ถ้าเธอสามารถฆ่าเขาให้ตายได้ เธอก็จะไม่โดนไล่ออกซึ่งเป็นความคิดที่โง่เขลาและขาดสติ ส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยเพราะใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำเหมือนคนจับไข้

พอตัดมาที่ดินแดนเขานั้นกลับนั่งจิบน้ำเมาอย่างสบายใจเฉิ่ม กับเมฆสองคนเพราะเวลานี้มันดึกแล้ว บาสจึงขอตัวกลับไปอ่านหนังสือแพทย์ต่อ ชายหนุ่มชักสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว สัมผัสได้แค่เพียงแววตาของเมฆเพื่อนสนิท ที่กำลังนั่งมองใบหน้าหล่อคมอย่างครุ่นคิด

"ไอ้แดนทำไมมึงไม่ตามเด็กคนนั้นไปวะ ดูน้องเขาก็อยากจะเล่นกับมึงอยู่นะ" เมื่อดินแดนได้ยินประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อนก็ต้องชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะวางแก้วที่บรรจุน้ำสีใสๆลงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า

"แค่นี้มึงก็ดูไม่ออกหรอวะไอ้เมฆ เด็กคนนั้นหรอกกูไปฆ่าชัดๆ"

"ฮ่าๆ เกินไป ถ้าน้องเขาจะฆ่ามึงจริงๆจะจูบมึงทำไมวะ"

"หึ มึงมันมองคนไม่เป็น ยัยนี่มันซ่าอวดเก่งอวดดี ถ้าขืนไปหลงเชื่อคารมเล็กๆน้อยๆของเด็กนั่นเข้าล่ะก็ มีหวังตายก่อนได้กิน ถ้าเราคิดจะเป็นเสือเราต้องรู้ประวัติเหยื่อเสียก่อน"น้ำเสียงเย็นยะเยือกดุจน้ำค้างแข็ง ดวงตาแข็งกร้าวแวววับดุจคริสตัลเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ในทันตา จนคนที่นั่งฟังอยู่อย่างตั้งใจขนลุกซู่ขึ้นมาจากตาตุ่มยันศีรษะ

"ซื้ด!! กูนี่ขนลุกซู่เลยว่ะ"

"มึงกลัวกู?"

"หึ ปวดขี้"

"ไอ้เวรไปขี้เลยไป แล้วงานของมึงคืนนี้ก็คือ ไปสืบประวัติเด็กนั่นมาให้ฉันทั้งหมดไม่เกินแปดโมงเช้าพรุ่งนี้"

"อีกละ"เมฆเอ่ยเสียงแผ่วเบาแถมแสดงใบหน้าท้อแท้ใจ ทุกครั้งที่เพื่อนคนนี้สนใจใครก็มักจะให้เขาไปเสาะหาประวัติอยู่เสมอ ซึ่งเขานั้นก็ไม่อยากทำเท่าไหร่เพราะมีจรรยาบรรณของครูติดตัวอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถปฏิเสธได้

"ไม่ต้องมาอีกละเลย! ค่ามึงไปตี หรี่ วันนั้นมึงยังใช้คืนกูไม่หมด"

"ถ้ากูสืบให้มึงต้องยกหนี้ให้กูนะ"

"เออ"

"เค๊ งั้นกูกลับไปขี้ที่บ้านดีกว่า ขี้ที่นี่มันไม่สนุก"หลังจากที่เมฆเอ่ยจบก็ดันตัวลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วกลับหลังหันเดินส่ายตูดออกไปจากกลับแห่งนี้อย่างรวดเร็ว

"ไอ้เวรเอ๊ย! ขี้มันสนุกตรงไหนวะ"

08:00 น.

ตึ้ง~ Line

เมฆ: เด็กนั่นชื่อดาริน เกิดวันที่ 27 เดือนกันยายน พ.ศ.25xx เรียนคณะเดียวกันกับมึง บ้านอยู่สลัมแถวxxx บ้านเลขที่ xxxx อยู่กับยายสองคน เป็นหัวหน้าแก๊งเด็กวัยรุ่นชื่อแก๊งว่า ไส้เดือน ชอบมีเรื่องกับมนุษย์ป้าและนักเลงหัวไม้เป็นประจำ เป็นเด็กทุนรุ่นแรกของ klever University ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกกิจกรรมดารินมักจะเป็นส่วนหนึ่งเสมอ เป็นดังความภาคภูมิใจในหมู่คณะครูอาจารย์

ดินแดน:เยี่ยม!!

เขากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาปรากฏการณ์บนใบหน้าคมคายพอใจเป็นอย่างมากกับข้อมูลที่ได้มา ไม่เสียแรงที่ส่งเพื่อนคนนี้ไปหาข้อมูลมาให้ เพราะเมฆไม่เคยทำให้ดินแดนนั้นผิดหวังเลยสักครั้ง

ดินแดนอ่านข้อมูลของเธอซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้จำได้ขึ้นสมอง ว่าเธอนั้นเป็นใครมาจากไหนและมีนิสัยอย่างไร ถ้าอยากจะล่าก็ต้องรู้จักประวัติเหยื่อและทำความเข้าใจกับมันให้ดีเพราะไม่เช่นนั้นเหยื่อที่แสบซ่ากล้าแกร่งอย่างเธออาจจะแว้งกัดเขาได้

"หึ ประวัติแสบไม่เบา"

@klever University

ตอนนี้ดารินกำลังนั่งกดโทรศัพท์เล่นเกมอย่างสบายใจใต้ต้นไม้ใหญ่กับเพื่อนสาวประเภทสองของเธอ ในขณะที่ทั้งสองกำลังเล่นเกมอย่างเมามันส์นั้น ก็มีผู้หญิงร่างสูงผู้หนึ่งเดินปรี่เข้ามาหาเธอพร้อมกับตวาดเสียงดังว่า

"อีริน!! ไหนบอกว่าถูกไง หวยมึงอะ เห็นไหมโดนแดกเพียบเลย!!"หญิงท่านนี้ก็คือลูกค้าคอหวยของเธอที่เป็นของเหยื่อการพนันแล้วเกิดโวยวายขึ้นมา

"โอ๊ย ก็เจ๊ไม่มีดวงไง เดือนที่แล้วไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาใช่ไหมล่ะแม่ซื้อถึงไม่ให้เลขเด็ดอะ"

"มึงไม่ต้องมามั่วเลยงวดหน้ากูไม่ซื้อกับมึงแล้ว"

"จ้า"ร่างสูงเดินจากไปอย่างรวดเร็วแถมยังกระแทกส้นรองเท้าคัทชูลงพื้นหนักจนดังกึกๆ ดารินเห็นดังนั้นก็อดที่จะยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้ ในขณะที่เธอกำลังมองแผ่นหลังของคนที่เพิ่งเดินจากไปนั้น หอย เพื่อนสนิทก็ได้เผลอเลื่อนฟีดบนโซเชียลจนไปหยุดชะงักที่คลิป คลิปหนึ่ง เขากดเข้าไปดูอย่างใจจดใจจ่อว่าใช่ดารินคนที่นั่งอยู่ข้างๆหรือเปล่าเพราะรูปร่างหน้าตาคล้ายกันมากๆ พอภาพรีทัชขึ้นก็มั่นใจในทันทีว่าคนในคลิปคือเพื่อนสนิทของตนเอง

"แหม!! อีรินช่วงนี้ดังใหญ่แล้วน๊า"

"ดังอะไรของมึงวะอีหอย?"

"อ้าวก็ที่มึงเอาแก้วฟาดหัวไอ้แก่คนนั้นไง ดูสิคนแชร์เป็นหมื่นแล้วมีแต่คนชมแกนะเว้ย"

ดารินสะดุ้งโหยงใช้มือบางคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนมาดูอย่างรีบร้อน ปรากฏว่าในคลิปนั้นเป็นเธอจริงๆดวงตากลมโตเบิกกว้างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเหตุการณ์เมื่อคืนนี้จะมีคนถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงโซเชียล เพราะถ้าท่านอธิการบดีแห่ง klever University เห็นเมื่อไหร่เธอสามารถถูกไล่ออกโดยไม่มีข้อโต้แย้งต่างๆได้เลย

"ซ..ซวยแล้วไง"

ดือดื้อดือดือ~

'เสียงนี้จากประชาสัมพันธ์ ขอให้นางสาวดาริน จิตจำเริญ เข้าพบท่านอธิการบดี ณ เวลานี้ด้วยค่ะ ประกาศอีกครั้งนะคะ ขอให้นางสาวดาริน จิตจำเริญ เข้าพบท่านอธิการบดี ณ เวลานี้ด้วยค่ะขอบคุณค่ะ'

สิ้นสุดเสียงประตูแห่งนรกดังสาวน้อยที่เป็นตัวหลักของคลิปข้างต้นก็เป็นต้องยกมือขึ้นมากุมขมับโดยอัตโนมัติ

"ไม่น่ะ อนาคตที่สดใสของฉัน อ๊าก!!"

@ห้องอธิการบดี

ดารินค่อยๆเปิดประตูก่อนที่จะย่องเท้าเดินเข้าไปยังหน้าโต๊ะของอธิการบดีแห่ง klever University ด้วยความรู้สึกที่สั่นกลัวขนลุกซู่ขึ้นมาเพราะอากาศหนาวจากแอร์หรืออากาศเย็นยะเยือกของคนที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานกันแน่นะ

"ขออนุญาตค่ะ"

"ว่าไงดาริน มาแล้วหรอนั่งสิ"

"ค่ะ"เธอค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้อย่างกล้าๆกลัวๆดวงตากลมโตเบิกกว้างจ้องหน้าของท่านอธิการบดีอย่างใจจดใจจ่อไม่ยอมละไปทางอื่น

"เธอรู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันร้ายแรงพอที่จะสามารถทำให้เธอเด้งออกจากได้ klever University"

"ทราบคะ"

"ผมจะถามเหตุผลของคุณ ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น"

"คือไอ้แก่เอ๊ย!! ผู้ชายคนนั้นมาลวนลามดิฉัน ดิฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงก็เลย....วู่วาม...พ..พลั้งมือไปแบบนั้น"สาวน้อยพยายามอธิบายเหตุผลทุกอย่างในสิ่งที่เธอทำ เธอไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ที่เธอทำไปก็เพราะป้องกันตัวเองทั้งนั้น (หรา) แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่เชื่อคำที่เธอแก้ตัวเลยสักนิดพลางส่งรังสีอำมหิตผ่านแววตาแข็งกร้าวออกมาจนเธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว

"เธอก็รู้ว่าคนที่เป็นเด็กทุนห้ามมีเรื่องเสื่อมเสียเพราะมันอาจจะลามไปถึงชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเรา เพราะฉะนั้นฉันไล่เธอออก!!"

"ท่านคะ! แต่นี่มันเป็นความผิดของหนูครั้งแรก ทุกคนก็สามารถที่จะทำผิดพลาดกันได้ ทีลูกของคุณไปทำเรื่องอนาจารอยู่ห้องน้ำของมหาวิทยาลัยฉันยังไม่เก็บมาฟ้องคุณเลย!"

"แต่เธอไม่มีหลักฐาน!"

"อึก!" ดารินกลืนน้ำลายลงคออย่างกล้ำกลืนกับประโยคดังกล่าวเพราะถ้าจะมาเปรียบเทียบเกี่ยวกับเรื่องของเธอก็คงจะไม่ได้เพราะเรื่องของเธอนั้นมีหลักฐานทุกอย่าง แต่เรื่องของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านอธิการบดีกลับไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของภาพหรือวิดีโอเลย

"ให้โอกาสดิฉันสักครั้งไม่ได้หรอคะ ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีกนะคะถือว่าดิฉันขอร้องเถอะ"ดารินเอ่ยออกมาอย่างหมดปัญญาพร้อมกับยกมือขึ้นมากราบไหว้เขายกใหญ่

"หึ จริงๆฉันก็มีสิ่งที่ต้องการจากเธออยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะทำได้หรือเปล่า"

"ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันทำได้ทุกอย่าง เพียงแค่ท่านบอกมา ฉันสามารถทำให้ท่านได้ทุกอย่างเลยขอแค่อย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ"อธิการบดีชักสีหน้าเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปากอ่อนๆ ดารินหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วรอลุ้นคำพูดต่อไปของเขา เพราะคำที่เขาจะพูดดังต่อไปนี้เป็นดังแสงสว่างส่องไปยังอนาคตที่สดใส

"ทำยังไงก็ได้ให้ปีนี้ลูกชายฉันเรียนจบ"

"หมายถึงนายดินแดนนะหรอ?"

"ใช่!"

"เหอะ! ไม่เอาแล้วโว้ย!! ไม่ต้องลงต้องเรียนแม่งแล้ว ฉันยอมออก!!"

พรึ่บ!

ดารินไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่จะเดินสาวเท้าก้าวยาวๆกระแทกรองเท้าส้นสูงลงพื้นเสียงดัง ถึงแม้ว่าเธอจะสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ไม่โดนไล่ออก แต่เมื่อพูดถึงชื่อดินแดนแล้วเธอก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างลงเหมือนกัน ตอนนี้ ดินแดน คือคนที่เธอเกลียดที่สุด ดลภัทรอธิการบดีแห่ง klever University ทำได้เพียงอ้าปากค้างไปกับปฏิกิริยาของดารินสาวน้อยปีสี่วัยใส ตั้งแต่เขารู้จักกับเธอมาเขาก็ไม่เคยเห็นปฏิกิริยาอันก้าวร้าวของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาไม่รู้หรอกนะว่าภายนอกมหาวิทยาลัยเธอจะเป็นยังไงแต่ภายใน klever University แห่งนี้เธอเปรียบเสมือนผู้หญิงที่เป็นต้นแบบของความเรียบร้อย ความเก่งด้านการเรียน ด้านกิจกรรม รูปภาพทุกรูปเกียรติบัตรทุกใบ มักจะมีชื่อของเธออยู่เกือบทุกอัน แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยแห่งนี้คงเสียสาวน้อยที่เก่งกาจ เพียบพร้อมไปทั้งความรู้ไปแล้วตลอดกาล......

___________________________

อิน้องยอมทิ้งทุกอย่างเมื่อได้ยินชื่ออิพี่????????

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel