เอาแต่ใจใครจะรัก
เช้าวันถัดมา....
ตึ้ง!
คณินก้าวเท้าออกมาเมื่อลิฟต์เปิดออกจากนั้นชายหนุ่มก็มุ่งตรงมายังห้องนั่งเล่นเพื่อที่จะลงมาเอาไวน์ราคาแพงเพื่อรอต้อนรับ เคลลี่และเกล เพื่อนสนิทของเขาเอง วันนี้ทั้งสองจะมาพบปะเขาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานหลายเดือนเพราะทั้งสองคนเพิ่งมาจากฮันนีมูนที่มัลดีฟส์ แต่จู่ๆคณินก็ถึงกับหยุดเดินเมื่อพบเข้ากับร่างเล็กๆนอนขดอยู่บนโซฟาด้วยความยากลำบาก
"เฮ้ย นอนจริงหรอวะเนี่ย" ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากุมขมับด้วยความปวดหัวเพราะไม่คิดว่าลินดาจะใสซื่อและโง่เขลาถึงเพียงนี้ จากนั้นคณินก็มุ่งหน้าไปยังโซฟาเมื่อถึงที่หมายแล้วเขาก็ยืนท้าวสะเอวมองสภาพอันย่ำแย่ของเธอ ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดแถมยังมีคราบน้ำลายไหลเป็นทางมันช่างเรียกความรู้สึกสะอิดสะเอียนให้กับคณินได้เป็นอย่างดี
"ลินดา"
"คอกฟี่~" เธอตอบรับด้วยเสียงกรนเล็กๆจนคนตัวสูงหัวเสียที่เธอไม่ยอมตื่น
"นางสาวลินดา!"
"คะ!" ลินดาสะดุ้งตื่นพลางลุกนั่งด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมนั่งพับเพียบราวกับไปวัดอีกทั้งยังยกมือชูขึ้นเหมือนตอบรับเวลาอาจารย์เช็คชื่อ พอเธอได้สติและรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรก็รีบลดมือลงทันทีก่อนที่จะหันขวับไปกรอกตาใส่ชายหนุ่มร่างสูง เจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมด้วยแววตาโกรธแค้นที่เขาเสียมารยาทปลุกเธอจนตื่น
"คุณคณิน ปลุกหนูทำไมคะหนูยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย"
"นอนกินบ้านกินเมืองขนาดนี้จะไปทำอะไรกิน" ลินดาหน้าชาไปเล็กน้อยเมื่อถูกถามด้วยคำถามนี้ซึ่งเธอไม่เคยถูกถามแบบนี้จากใครมาก่อน เพราะเหตุนี้หญิงสาวจึงตอบออกไปแบบตะกุกตะกักเพราะเธอไม่ค่อยมั่นใจกับคำตอบตัวเองสักเท่าไหร่กลัวว่าจะตอบไม่ตรงคำถาม
"ป...ไปซื้อกินที่เซเว่นค่ะ เวลาหนูมีเรียนแต่เช้าหนูก็ไปซื้อที่นั่น" เจ้าของเสียงหวานเอ่ยออกมาแบบนั้นคณินก็รูสึกว่าสมองตัวเองจะระเบิดเพราะการที่เธอตอบแบบจริงจังหน้าตายแบบนี้เขายิ่งรู้สึกปวดหัวมากกว่าคนที่ตอบกวนๆเสียอีก
"วุ๊ ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมากินข้าว" พอคณินเอ่ยจบเขาก็เดินกระแทกส้นเท้าหนักๆมุ่งตรงไปยังลิฟต์ทันทีเพราะถ้าขืนเขายังอยู่ตรงนี้มีหวังเขาได้มีปากเสียงกับคนตัวเล็กเป็นแน่
"โกรธเราทำไมเนี่ย เราพูดผิดตรงไหนกัน"
07:30 น.
อาหารนับสิบเมนูเรียงรายกันไปบนโต๊ะอาหารสุดหรู ทุกเมนูถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากฝีมือของเชฟมือดีระดับมิชลินสตาร์ ทุกกระบวนการต้องผ่านการตรวจสิ่งแปลกปลอมในอาหารทุกครั้งเพราะคณินไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นเกรงว่าจะมีฝ่ายศัตรูแฝงตัวเข้ามาวางยาพิษ
ตอนนี้สองพี่น้อง คณินและคณา กำลังนั่งรอลินดาลงมาจากห้องซึ่งเขาทั้งสองก็นั่งรอเธอมานานถึงครึ่งชั่วโมงแล้วจนตอนนี้ท้องของคณาร้องโครกครากเสียงดัง ทันใดนั้นเองบุคคลที่สองพี่น้องคู่นี้รอคอยก็ลงลิฟต์มาเป็นที่เรียบร้อย เมื่อลินดาลงมาถึงชั้นล่างทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เธอราวกับว่าเธอเป็นตัวประหลาดจึงทำให้หญิงสาวตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ ยิ่งถูกมองด้วยแววตาปานจะกินเลือดกินเนื้อแบบนี้ เธอถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งร่างกาย
'เดินหนีไปเลยดีไหมนะ'
เธอฉุกคิดคนเดียวอยู่ในใจเมื่อรับรู้ได้ว่าคณินและเล่าลูกน้องนับสิบกว่าชีวิตไม่ชอบเธอออกนอกหน้า ลินดาจึงไม่ชะล่าใจเลยที่จะเดินหนีไปให้พ้นจากตรงนี้เพราะเธอคิดว่าคณินเองก็คงไม่อยากเห็นหน้าเธอเช่นกัน
"จะไปไหน"
"ไปเรียนค่ะ"
"มากินข้าว!"
"ทานกันเลยค่ะหนูไม่หิว แล้วนี่ก็สายมากแล้วด้วย ไปก่อนนะคะ" เธอเอ่ยอย่างรีบร้อนก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ แต่ลินดานั้นออกตัวได้เพียงสองก้าวเท่านั้น คณินก็ทำการใช้ฝ่ามือตบลงบนโต๊ะอาหารเสียงดังเพื่อขู่เธอ
ปัง!
"กูบอกให้มึงมากินข้าว!"
"ทำไมต้องบังคับหนูด้วย หนูบอกว่าไม่หิวไงคะ หนูโตแล้วนะ"
"โตแต่ตัวไงสมองยังเด็กอยู่ นั่งลง!" คนใจร้ายออกคำสั่งเธอด้วยเสียงแข็งดวงตาสีน้ำตาลคู่งามเต็มไปด้วยความน่ากลัวเฉกเช่นตัวร้ายในละคร สาวน้อยลินดาถึงกับผวาเมื่อเห็นคนตัวสูงโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้าจากนั้นลินดาก็รีบวิ่งมานั่งลงเก้าอี้ที่ข้างๆคณาทันที
พรึ่บ!
คณินยังคงมองเธอพร้อมกับแผ่รังสีอำมหิตผ่านม่านตาไปเพราะเหตุนี้คนตัวเล็กจริงก้มหน้าลงมองจานข้าวของตนเองโดยอัตโนมัติพลางเอื้อมมือไปตักแกงจืดมะระยัดไส้มาวางไว้ที่จานแล้วรับประทานเข้าไป...
"แหวะ! ไม่อร่อยเลย"
"จะไม่อร่อยได้ไงเซฟแต่ละคนระดับมิชลินทั้งนั้น มึงอย่าเอาแต่ใจได้ไหม เอาแต่ใจแบบนี้ใครจะรักวะ พ่อแม่มึงก็คงจะเหลืออดเหมือนกูแน่ๆถึงได้รีบตาย"
"พี่คณิน..."
"คุณคณินจะบอกว่าที่คุณพ่อกับคุณแม่เสียชีวิต เป็นเพราะหนูเอาแต่ใจหรอคะ" ในที่สุดทุกคนก็เข้าสู่ความเงียบสงัดเมื่อตอนนี้ลินดามีทีท่าที่จริงจังมากกว่าทุกๆวันอีกครั้งน้ำใสๆยังไหลเอ่อล้นออกมาจากดวงตาราวกับเสกได้ และมันก็ทำให้คณินรู้สึกผิดในใจในความปากสุนัขของเขาที่พูดไม่คิดทั้งๆที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าลินดาเพิ่งผ่านการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เขาก็ยังคงมาเฟียมาดเข้มน่าเกรงขามไว้ไม่ยอมแสดงออกให้ใครเห็นว่าตัวเองกำลังสงสารลินดา
"โว้ๆๆ ใจเย็นๆก่อนพี่คณิน"
"มึงก็ดูอีนี่ดิวะ กวนประสาทกูอยู่ได้"
"พูดดีๆหน่อย พี่ลินดาเขาเป็นผู้หญิงนะ ทีเด็กเลี้ยงล่ะพูดจาหวานเชียวนะ"
"แล้วมึงว่ากูควรพูดดีกับคนแบบนี้ไหม"
"คนแบบไหนคะ!"
"แบบมึงไง! เลิกถามแล้วแดกข้าวสักทีเถอะ"
"ฮึก คุณพ่อบอกว่าคนที่พูดจาไม่เพราะ ฮึก ค..คือคนไม่ดี คุณคณินคือคนไม่ดีใช่ไหมคะ ฮึก"
"ดราม่าอีกละ แต่ละอย่างที่พ่อมึงสอนเนี่ย ดีๆทั้งนั้นเลยนะ สอนให้ดูคนแค่เปลือกนอก"
"อย่ามาว่าพ่อหนูนะ"
"ทำไมกูจะว่าไม่ได้ พ่อมึงจะฟื้นมายิงกูหรือไง"
"พ่อหนูตายแล้วค่ะ ถ้าวันไหนที่คุณคณินตายไปล่ะก็พ่อหนูคงยิงคุณคณินแน่"
"เออๆ แดกข้าวได้แล้วกูมีธุระต้องไปทำนะเว้ย ไม่ได้ว่างมากัดกับมึง"
"ไม่กิน"
"ถ้าไม่กิน กูยิงมึงให้ตายตามพ่อแม่มึงไปแน่!" คณินตะคอกใส่ลินดาเสียงดังเพื่อขู่เธอให้กลัว แต่ทว่า...
"หนูจะกินไก่ทอดKFC!" สาวน้อยลินดาก็สู้กลับในทันทีเช่นกัน
เพล้ง!
คณินถึงกับทิ้งช้อนและส้อมลงบนจานอย่างเหลืออด ชายหนุ่มขบกรามแน่นจนเผยให้เห็นกรอบหน้าได้ชัดจากนั้นเขาก็หลับตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองที่กำลังพุ่งสูงอย่างสู้ชีวิต
"นาธาน" คณินกัดฟันพูด
"นี่ครับคุณคณิน" นาธานรีบควักปืนออกมาจากด้านหลังแล้วยื่นให้กับเจ้านายอย่างรู้งาน
"เอาปืนมาทำเหี้ยอะไร สั่งไก่ทอดสิวะ"
"ค..ครับ" นาธานตอบรับด้วยเสียงแผ่วเบาด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆผู้เป็นนายก็ตามใจเด็กสาวคนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากเดินไปสั่งไก่ทอดตามคำสั่งของผู้เป็นนาย
"สั่งมาแล้วแดกให้หมดนะมึง!" เธอเอาแต่เงียบแล้วก็ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กส่วนคณินก็รับประทานอาหารต่อด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวไป คณาเห็นว่าตอนนี้ลินดาไม่ค่อยสู้ดีนักที่ถูกต่อว่าแต่เช้าก็รู้สึกสงสารรุ่นพี่จับใจ หลังจากนั้นคณาก็เริ่มชวนลินดาคุยเพื่อให้ลืมเรื่องร้ายๆที่ผ่านมาเมื่อครู่
"เออพี่ลินดาผมลืมบอกพี่เลย บทน้องสาวนางเอกอะ พี่ปิงยกให้พี่นะ"
"จริงหรอ..."
"อืม คู่กับผมด้วย"
"โห คู่กับนายอีกละ ฉันคู่กับนายมาเป็นปีแล้วนะคณา"
"พวกมึงสองคนรู้จักกันตั้งนานแล้วหรอ"
"ใช่ พี่ลินดาเขาเป็นรุ่นพี่ผม"
"รุ่นพี่มึง?"
"อื้ม"
"ไม่ใช่รุ่นเดียวกันหรอ?"
"หูย ไม่ใช่สักหน่อย พี่ลินดาเขายี่สิบแล้วนะเห็นหน้าเด็กๆแบบนี้อะ"
เพล้ง!
"ไอ้นาธานมึงเจอแน่ มาพบกูที่ห้องด่วน!"
"ครับ~"
_____________________________
โอ้ไม่นะ นาธานของฉัน จะถูกบักคณินยิงไส้แตกไหมเนี่ย OoO
