
บทย่อ
อุบัติเหตุ . ต้องทำให้สาวน้อยลินดาต้องอยู่คนเดียว "พ่อคะแม่คะ ทำไมต้องทิ้งหนูให้อยูคนเดียว ฮือๆ" เธอคือ ลินดา สาวน้อยวัย 20 ปี ที่ทั้งชีวิตถูกอบรมสั่งสอนมาให้อยู่ในกรอบเสมอจนเธอกลายเป็นเด็กไม่รู้จักโต "ต่อไปนี้คุณคณินจะเป็นพ่อบุญธรรมของคุณหนู คุณหนูอยู่กับท่านต้องเป็นเด็กดีนะครับ" เขาคือ คณิน ชายหนุ่มวัย 34 ปี ผู้ที่มีแววตาเป็นอาวุธและเป็นมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุด แต่ไม่เคยมีความรักสักครั้งเลยในชีวิต "อะไรนะ! เด็กนั่นอายุยี่สิบ? ไหนบอกว่าอายุสิบเก้าเท่าไอ้คณาไง ลูกบุญธรรมต้องอายุห่างกับกูสิบห้าปีนะเว้ยไอ้ควาย!" นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้คนที่อายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป อาจมีภาพ เพศ เนื้อหา คำพูดที่ไม่เหมาะสม มีพฤติกรรมที่รุนแรง มีการบังคับขืนใจ SM25+ ผู้อ่านควรใช้พิจารณา เรื่องราวทั้งหมดเป็นแค่เรื่องสมมุติ และจินตนาการของนักเขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่มีเค้าโครงจากเรื่องจริง
จุดเปลี่ยน
"สุดท้ายโรมิโอกับจูเลียตก็ครองรักกันไปตลอดการ"
'ครองรักกันตลอดไป' หลายคนคงคิดว่ามีแค่ในนวนิยายเท่านั้นมันคงไม่มีจริงหรอก แต่แปลกที่ทุกคนก็ยังขวนขวายหามันไม่รู้จักจบจักสิ้น แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อทุกคนต่างก็มีความหวังเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องโหยหามันต่อไป
"ทำได้ดีมากเลยลินดา"
เฌอลิลิน ดาวเด่นประจำคณะนิเทศศาสตร์สาขาศิลปะการแสดงผู้ที่ได้มีหน้าตาราวกับฟ้าประธาน แถมกิริยามารยาทของเธอก็ดีมากจนเป็นที่รักของทุกคน เพราะเหตุนี้เธอจึงได้รับคัดเลือกให้ได้รับบทจูเลียต เฌอลิลินเอ่ยชมสาวน้อยปีสองอย่าง ลินดา พฤกษ์ภินาราย ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวของรุ่นน้องที่เธออบรมการแสดงมาเป็นอย่างดี
"พ..พี่เฌอลิลิน ช...ชมหนูหรอคะ ขอบคุณค่ะพี่เฌอลิลิน อื๊อ!"
"ก็ลินดาแสดงดีนี่นาพี่ก็ต้องชมสิจ๊ะ พี่ไปแต่งตัวก่อนนะ" จากนั้นเฌอลิลินก็เดินจากเธอไปปล่อยให้ลินดายิ้มจนแก้มปริ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและความใสซื่อของเธอที่แสดงออกนอกหน้ามันก็ทำให้หลายคนๆไม่ชอบเธอด้วยเช่นกัน
"ดีใจอะไรขนาดนั้น แค่แสดงเป็นคนใช้นี่นะ"
"ลาลั้นลั้นลา~" แต่คนคิดในแง่บวกอย่างเธอก็ยังคงมองไม่เห็นสิ่งเลวร้ายรอบตัว เพราะเธอคิดว่าทุกคนรักเธอและเป็นเพื่อนกับเธอด้วยใจจริง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เข้าหาเธอก็เพื่อหวังผลประโยชน์ต่อเธอทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสวยๆที่เธอชอบซื้อเพื่อนทุกๆวันเกิด เลี้ยงอาหารอร่อยๆในทุกเทศกาล หรือแม้กระทั้งพาเพื่อนๆไปเที่ยวในช่วงวันหยุด แต่ลินดาก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทำทุกอย่างมันเปล่าประโยชน์
"พรุ่งนี้วันหยุดนี่นา ลินดาจะไปเที่ยวไหนหรอ"
"จะไปเข้าวัดจำศีลกับแม่จ่ะ"
"โห้ ถ้าอย่างนั้นเรากลับก่อนนะ"
"จ้า บายนะ"
ครืดดดดดดดด
"ว่าไงคะลุงมนตรี"
"คุณหนูครับคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเสียชีวิตแล้วครับ"
100 วันผ่านไป...
สายน้ำตาอุ่นๆไหลรินอาบแก้มขาวเนียนอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งยังหยดลงบนชุดสีขาวจนเปียกปอนต่อหน้าโลงศพของบิดามารดาผู้เป็นที่รัก เนื่องจากท่านทั้งสองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะกลับบ้านหลังจากที่ไปคุยงานกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่ต่างจังหวัด
ลินดาไม่เคยร้องไห้เสียใจอะไรขนาดนี้มาก่อน เพราะทั้งชีวิตของเธอในทุกๆวันมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่เคยเจอกับความผิดหวัง เสียใจ หรือสูญเสียอะไรทั้งนั้น แต่พอเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอครั้งแรกในชีวิต หญิงสาวจึงไม่สามารถยอมรับความจริงได้ว่าทุกคนรอบตัวของเธอได้จากไปหมดแล้ว
"พ่อคะแม่คะ ทำไมต้องทิ้งหนูให้อยู่คนเดียว ฮือๆ" เสียงสะอึกสะอื้นของหญิงสาวยังคงดังลั่นไปทั้งศาลาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งงานไร้แขกเหรื่อไม่มีใครว่าร่วมงานฌาปนกิจศพของพ่อแม่เธอเลยสักคนไม่ว่าจะเป็น ญาติพี่น้องสายเลือดเดียวกัน แม้กระทั้งหุ้นส่วนก็ไร้วี่แวว มีเพียงแค่ มนตรี ผู้ที่เป็นทนายประจำตระกูลของเธอเท่านั้นและตอนนี้เขาก็กำลังลูบแผ่นหลังน้อยๆของลินดาอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบใจ
"เสียใจด้วยนะครับคุณหนู"
"ฮือๆ"
@คฤหาสน์พฤกษ์ภินาราย
"ฮือๆ" เสียงร้องไห้ของสาวน้อยยังคงคลอไปหลังจากที่กลับมาจากงาน เธอนั่งกอดเข่าที่พื้นห้องนอนของบิดามารดาของเธอเองโดยหันออกไปมองผ่านทะลุประตูกระจกตรงระเบียงมองวิวด้านนอกด้วยจิตใจที่เคว้งคว้าง ภายในห้องไร้แสงสว่างจากดวงไฟเนื่องจากเธอไม่ได้เปิดมัน เพราะเธออยากอยู่ในห้องนี้เพื่อซึมซับกลิ่นอายของบิดามารดาของเธอในที่มีแสงสว่างสลัวๆจากดวงจันทร์
ตอนนี้ลินดาเหมือนร่างไร้วิญญาณที่ไม่มีชีวิต ไม่ขยับเขยื้อน ไม่แม้แต่จะรับรู้ได้ว่าตอนนี้มีใครบางคนลงมานั่งข้างๆของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบในใจราวกับถูกใครเอามีดปลายแหลมมาทิ่มมันจวนจะขาดใจแต่ก็ไม่ตายสักทีมีแต่ทรมานอยู่อย่างนี้ ความรู้สึกใจสลายแบบนี้เธอไม่เคยได้รับรู้จริงๆ
"ชีวิตคนเรามันสั้นมากเลยนะครับคุณหนู รวมถึงความสุขด้วย สิ่งพวกนี้มันมาไวไปไว ต่างจากความเศร้านักที่เราเข้าสู่ห้วงเวลาของมันแค่เสี้ยววินาทียังรู้สึกว่านานเลย"
"ฮึก! แล้วนานแค่ไหนคะหนูถึงจะทำใจได้"
"หึ ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณหนูจะหลุดออกจากความเศร้านี้ได้ไหม แต่นี่คงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่จะทำให้คุณหนูเรียนรู้การใช้ชีวิตต่อไปและมันก็เป็นสิ่งที่คนทุกคนต้องพบเธอ มีพบก็ต้องมีจาก เพราะการใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มันไม่ได้มีแค่ความสุข แต่มันยังมี ความโกรธ ความเสียใจ น้อยใจ ความโดดเดี่ยว ความรัก ความหึงหวง และความเข้าใจ ผมเชื่อว่าต่อจากนี้คุณหนูจะเข้มแข็งขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน"
"ทำไม โลกนี้มันโหดร้ายจังเลยคะ"
"โลก ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่ล้านปีมันก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่คนเราต่างหากที่เปลี่ยนให้มันน่ากลัวและโหดร้าย"
"..." ลินดาเงียบอย่างตั้งใจเธอพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่มนตรีพูดแต่คนที่ไม่มีประสบการณ์ชีวิตอย่างเธอก็ยังคงไม่เข้าใจทั้งหมด ตอนนี้เธอรู้แค่ว่าชะตากรรมต่อไปของเธอจะต้องเจอกับอะไร ต่อไปนี้เธอจะกลายไปเป็นลูกบุญธรรมของมาเฟียที่ชื่อ คณิน พิเชษฐ์ศิรินันท์ ซึ่งไม่เคยเจอหน้าค่าตากันมาก่อนและเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะใจร้ายกับเธอดุจปีศาจหรือใจดีดั่งสายน้ำเหมือนบิดามารดาของเธอ แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธจุดเปลี่ยนของชีวิตต่อจากนี้ได้ ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับมัน
"ต่อไปนี้คุณคณินจะเป็นพ่อบุญธรรมของคุณหนู คุณหนูอยู่กับท่านต้องเป็นเด็กดีนะครับ"
"ฮึก! ค่ะ"
@บ้านตระกูลพิเชษฐ์ศิรินันท์
ลินดากวาดสายตามองไปบรรยากาศชั้นร่างรอบข้างเมื่อย่างกายเข้ามาก้าวแรกพร้อมกับบอดี้การ์ดหนุ่ม นาธาน ทุกจุดจะถูกรายล้อมไปด้วยบุรุษชุดดำยืนประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัย สาวน้อยรู้สึกกังวลและหวาดผวาเป็นอย่างมากเพราะบ้านหลังใหม่ที่เธอคิดในหัวมันไม่ใช่แบบนี้ เพราะที่นี่มันใหญ่กว่าคฤหาสน์ของเธอเป็นสิบเท่าเนื่องจากบ้านของคณินนั้นเป็นตึกที่มีความสูงถึงยี่สิบชั้น มันถูกตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสอย่างหรูหราราวกับโรงแรมห้าดาว ไม่ว่าจะมองไปตรงไหนก็แพรวพราวระยิบระยับไปหมดช่างแตกต่างกับหนทางในอนาคตของเธอเสียจริง...
'พ่อคนใหม่ของเรารวยจังเลย'
"นี่คุณหนูคนใหม่หรอนาธาน"
"ใช่ ฝากป้าดูแลต่อด้วยนะ เดี๋ยวต้องไปดูแลคุณคณินแล้ว"
"เออๆ" จากนั้นนาธานบอดี้การ์ดหนุ่มก็ส่งต่อคุณหนูคนใหม่ให้กับ ลานันทา หัวหน้าแม่บ้านที่มีหน้าที่ควบคุมความสะอาดและความสะดวกสะบายให้กับคนในตระกูลรวมถึงเหล่าบอดี้การ์ดของตระกูลพิเชษฐ์ศิรินันท์ด้วย
ลานันทาพาลินดาขึ้นลิฟท์มายังชั้นยี่สิบโดยมีสาวใช้อีกสองคนที่มีหน้าที่ขนของใช้ของเธอขึ้นไปจัดล่วงหน้าไว้แล้วประมาณสิบนาที และตอนนี้ทั้งสองก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูสีทองบานใหญ่ลินดามองมันอย่างใจจดใจจ่อก่อนที่จะมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว อยู่ๆเธอก็รู้สึกกลัวการเริ่มต้นใหม่ขึ้นมา เธอกลัวว่าต่อจากนี้ความสุขที่เธอเคยมีมันจะหายไปตลอดการ ผู้คนที่จะเข้ามาในอนาคตอาจจะใจร้ายกับเธอเหมือนที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน ลินดาก้มหน้ามองลงที่พื้นอย่างเศร้าสร้อยเธอไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องนี้ด้วยซ้ำ หัวใจของเธอมันสลายกลายเป็นผุยผงทุกอย่างมันพังทะลายลงราวกับตึกใหญ่ที่ระเบิดหลงเหลือไว้เพียงแค่ในความทรงจำเท่านั้น
เอี๊ยดดดดด
"เข้าไปสิ นี่คือห้องใหม่ของเธอ"
