ลูกบุญธรรม
"นางสาวลินดา พฤกษ์ภินาราย เกิดวันที่ 4 มกราคม พุทธศักราช 25xx อายุยี่สิบปีบริบูรณ์ ม..เมื่อสามวันที่แล้วครับ" นาธานอ่านประวัติของลินดาให้คณินฟังอีกครั้งหลังจากที่รู้ความจริงว่าลินดานั้นอายุห่างกับเขาไม่ถึงสิบห้าปี หัวหน้าบอดี้การ์ดถึงกับมีสีหน้าที่ซีดเซียวเลยทีเดียวเมื่อรู้ว่าตัวเองทำงานพลาด
"อะไรนะ! เด็กนั่นอายุยี่สิบ? ไหนบอกว่าอายุสิบเก้าเท่าไอ้คณาไง ลูกบุญธรรมต้องอายุห่างกับกูสิบห้าปีนะเว้ยไอ้ควาย!"
"ผมขอโทษจริงครับ ผมตรวจสอบข้อมูลไม่ดีเองครับ"
"เออความผิดมึงล้วนๆเลย มึงจะไปไหนก็ไปเลยไป!" คณินตะคอกใส่หน้านาธานด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมอีกทั้งเขายังแสดงสีหน้าของเขายังโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเลยทีเดียว นาธานโค้งตัวเพื่อทำความเคารพผู้เป็นเจ้านายหนึ่งทีก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากตรงนี้ก่อนที่ชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจ
"ว้าวๆๆ วันนี้เสี่ยคณินเป็นอะไรครับเนี่ย ด่าลูกน้องแต่เช้าเลย" เสียงทุ้มของเคลลี่เพื่อนหนุ่มคนสนิทของเขาดังขึ้นทันทีเมื่อเขาและภรรยาสาวอย่างเกลย่างกายเข้ามาในห้องทำงานของเขา
"พอดีลูกน้องมันทำงานพลาดนิดหน่อย" คณินเอ่ยออกมาเรียบนิ่งก่อนที่จะควักเอามวนบุหรี่และไฟแช็กในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดจนเกิดควันแล้วสูดเอาควันบุหรี่สีเทาเข้าปอดไปก่อนที่จะพ่นมันออกมาอย่างผ่อนคลาย
"โธ่คณิน คนเราต้องมีผิดพลาดกันบ้างมึงต้องเข้าใจด้วย ถ้าเกิดไอ้นาธานมันน้อยใจมึงแล้วหนีไปอยู่กับศัตรูมึงจะซวยนะเว้ย มันยิ่งรู้ความลับมึงเยอะอยู่" เกลพูดเพื่อเตือนสติเพื่อนหนุ่มเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่ไม่สมควรทำลงไป
"ถ้าวันไหนมันคิดจะทรยศกู วันนั้นก็เป็นวันตายของมัน" คณินเอ่ยออกมาอย่างหน้าตายแถมยังสูบบุหรี่ต่อไปอย่างสบายใจ
"กูได้ข่าวมาว่ามึงจะรับเลี้ยงเด็กคนนึงเป็นบุตรบุญธรรมนี่ แล้วไหนล่ะเอามาแนะนำหน่อย" เคลลี่ถามเขาขึ้นมาด้วยดวงตาเปล่งประกายด้วยความอย่างรู้อยากเห็น เพราะตั้งแต่เขารู้จักกับคณินมาเขาไม่เคยคิดที่จะมีทายาทเลยด้วยซ้ำแต่วันนี้กลับจะรับเลี้ยงเด็กคนนึงเป็นลูก สำหรับเขาทั้งสองจึงเป็นเรื่องแปลก
"เหอะ ลูกห่าอะไรล่ะ อีนั่นมันอายุยี่สิบแล้ว อายุห่างกับกูสิบสี่ปียื่นคำขอจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมไม่ได้เว้ย"
"อ้าว แล้วแบบนี้มึงจะทำยังไงต่อล่ะ"
"เฮ้อ ไม่รู้เว้ย"
"หรือมึงจะปล่อยให้เด็กคนนั้นเป็นไปตามชะตากรรม เพราะยังไงมึงกับเด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ญาติกันสักหน่อย ก็แค่ลูกสาวของคนที่ขายหุ้นบริษัทกับคฤหาสน์ให้มึงก็เท่านั้น" เกลพูดเป็นเชิงประชดประชันเพราะเธอจับผิดจากสายตาของคณินมันมีความสุขบางอย่างประกายออกมาในตอนที่เคลลี่ี่ถามถึงลูกบุญธรรม เพราะเธอก็ทำการบ้านมาก่อนแล้วด้วย ว่าคนที่คณินจะรับเลี้ยงเป็นเด็กสาวที่สวยมากเลยทีเดียว
"ไม่รู้ดิวะ กูกลับรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ไปแล้ว"
"หึ พนันกับกูไหมเคลลี่ว่าคืนนี้เด็กนั้นได้ตกเป็นเมียของไอ้คณินแน่" เกลหันหน้าไปพูดกับสามีพร้อมกับแสยะยิ้ม
"เกินไป ไอ้คณินมันคงไม่เลวขนาดนั้นหรอก ใช่ไหมวะเพื่อน"
"ไม่รู้เว้ย กูไปทำงานต่อดีกว่าไม่อยากพูดกับพวกมึงสองผัวเมียแล้ว" พอคณินเอ่ยจบเขาก็ทำการลุกพรึ่บขึ้นอย่างรีบร้อนก่อนที่จะสาวเท้าก้าวยาวๆเดินออกไป มันยิ่งทำให้เกลมั่นใจว่าเสือผู้หญิงอย่างคณินคงไม่ปล่อยให้สาวสวยลอยนวลเพราะเขาก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษอะไรอยู่แล้ว มาเฟียที่มีหน้าตาเป็นอาวุธอย่างเขาอยากได้ใครก็ต้องได้
@มหาวิทยาลัย
"เย้! ในที่สุดก็มีผู้ใหญ่ใจบุญมาเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับพวกเราแล้วโว้ย แถมยังให้เงินมากินเลี้ยงกันด้วยใจป๋าสุดๆ"
"แหม ผู้ใหญ่ใจดีคนนั้นเป็นใครกันนะทำไมถึงใจดีขนาดนี้ ใช่ผัวพี่หรือเปล่า" คณาเอ่ยถามรุ่นพี่ในคณะผู้ที่เป็นคนควบคุมนักศึกษาทุกคนในคณะนี้ด้วยสีหน้าแววตาแพรวพราวแซวจนรุ่นพี่คนนี้ทำหน้าไม่พอใจ
"ไม่บอกเว้ย เอาเป็นว่าวันนี้แดกเหล้าให้เมากันไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะบอกนะ โอเคไหม"
"โอเคก็ได้" จากนั้นคณาก็เหลือบไปเห็นลินดา รุ่นพี่ปีสองที่เล่นประกบคู่กับเขาทุกเรื่องไม่ว่าจะได้บทอะไรก็ตาม คณาทำหน้าฉงนทันทีเมื่อเห็นลินดานั่งเศร้าสร้อยอีกทั้งยังตีตัวออกห่างจากเพื่อนๆไม่ยอมมาเลี้ยงฉลองด้วยกัน อีกอย่างเขาก็เข้าใจเธอด้วยเพราะสองวันมานี้ลินดาก็ถูกคณินต่อว่าด้วยถ้อยคำสิ้นคิดมาหลายประโยคจึงทำให้เธอเก็บมาคิดคนเดียวและร้องไห้ออกมาบ่อยครั้ง แต่พอเพื่อนในคณะถามเธอก็ไม่ตอบอะไร
"พี่ลินดา"
"หื้ม?"
"แดกเหล้าสิพี่ คนอื่นๆเขากินหมดแล้วเนี่ย" เขาเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้วยื่นแก้วที่บรรจุน้ำแอลกอฮอล์เหลืองอ๋อยให้เธอ แต่เธอก็ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับดันเครื่องดื่มแก้วนี้ให้ห่างจากตัว เหมือนลินดากำลังกลัวมัน
"พี่ไม่ดื่มหรอก การดื่มสุรามันผิดศีลข้อที่ห้า สุราเมรยมัฌชปะมาทัตถานาเวรมณี นะคณา นายก็ไม่ควรดื่มสิ่งไม่ดีเหมือนกัน"
"ชีวิตจะซีเรียสอะไรขนาดนั้น ผมจะบอกอะไรให้นะพี่ลินดา การที่พี่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่พี่ต้องเข้าสังคม และรู้ทุกอย่างว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตบ้างถ้าพี่ทำแบบนั้น และไอ้เหล้าเนี่ยมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นถ้าพี่กินแต่พอเหมาะ พี่ไม่อยากให้พี่ชายผมด่าอีกแล้วใช่ไหมล่ะ"
"ใช่..."
"ถ้าอย่างนั้น พี่ต้องเริ่มเปิดใจดื่มของมึนเมาก่อนผมจะบอกเคล็ดลับมัดใจพี่ชายผมให้"
"จะไม่บาปใช่ไหม"
"บาปบ้าอะไรล่ะ แดกๆไปเถอะน่า"
"ก็ได้" ลินดาเอื้อมมือไปรับเครื่องดื่มแก้วนั้นอย่างกล้าๆกลัวเพราะเธอถูกสอนมาว่าการดื่มของมึนเมานั้นมีแค่พวกคนเลวเท่านั้นที่ดื่มกัน แต่มาวันนี้เธอกลับได้รู้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตจากคณา ทุกคนไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ มีด้านดีก็ต้องมีด้านเลว มีความสุขก็ต้องมีความทุกข์ แต่ถ้าหากว่าเขาไม่จมปรักกับสถานการณ์ต่างๆเกินไปอยู่ในความพอดี ชีวิตก็ยังสามารถขับเคลื่อนไปได้ ก็เหมือนกับการดื่มแอลกอฮอล์ที่ควรดื่มแต่พอเหมาะ
ลินดากระดกน้ำสีเหลืองอ๋อยแก้วนั้นเข้าไปหนึ่งอึกราวกับน้ำเปล่า แล้วก็ต้องหลับตาปี๋ทันทีเมื่อสัมผัสถึงรสชาติขมของมัน
"อื๊อ ขมจังเลยคณา"
"งั้นลองตัวนี้ ไม่ขมแน่นอน" คณายื่นแก้วเครื่องดื่มสีม่วงของเขาให้เธอลองอีกครั้งสลับกันดื่ม ลินดายกมันขึ้นมาจ่อที่ปากลังเลที่จะลองมันอีกครั้ง
'มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลองแล้วนะลินดา'
เธอไม่รีรออะไรอีกต่อไป สาวน้อยกระดกมันเข้าปากอีกครั้งพร้อมกับประมวลรสชาติของเจ้าน้ำสีม่วงที่มีรสชาติหอมหวานแต่ขมปลายลิ้นหน่อยๆ
"อื้ม อันนี้อร่อยอะ พี่กินอีกได้ปะ"
"ได้ดิ เอาเลย ถึงพี่จะเมาเหมือนหมาคืนนี้ก็มีคนแบกเรากลับบ้านอยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะ" พอเขากล่าวจบ คณาก็ดื่มแอลกอฮอล์แก้วที่อยู่ในมือที่มีรสชาติขมปี๋รวดเดียวหมดแก้วเพื่อโชว์ลินดา สาวน้อยถึงกับอ้าปากค้างสำหรับความเก่งกาจในการดื่มของเขา
"อ่า~ สดชื่น!" จากนั้นลินดาก็กระดกน้ำแอลกอฮอล์ที่อยู่ในมือเธอเข้าปากไปรวดเดียวหมดตามคณาทันทีด้วยความอยากลองแล้วก็ค่อยๆกลืนมันผ่านลงลำคอไปอย่างอยากลำบาก
"อ่า~ สดชื่น"
"ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆ"
