บท
ตั้งค่า

อีเด็กบ้า NC

3

[ติดรักเมียเด็ก]: NC อีเด็กบ้า

20 นาทีผ่านไป...

ปึก ปึก ปึก

"อื้อ คุณคณินคะ ร...แรงอีกค่ะ" เฌอลิลินครวญครางออกมาด้วยความรู้สึกถึงใจไปกับความเสียวซ่านเมื่อแก่นกายขนาดใหญ่ของคณินขยับเข้าออกที่รูสวาทอันคับแคบของเธออย่างต่อเนื่อง เม็ดเหงื่อเท่าเมล็ดข้าวโพดผุดขึ้นบนใบหน้าเรียวสวยของเธอและเขา มือบางเอื้อมไปจิกเล็บลงตรงหน้าท้องของคนบนร่างเพื่อลดความเสียวลงแต่ทว่ามันกับเพิ่มพูนขึ้นมากกว่าเดิม

"อ่า ใกล้แล้วเฌอลิลิน" คณินครางกะเส่าออกมาให้ได้ยินเสียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ปึก ปึก ปึก

"อ๊ะ อ๊า" ในที่สุดทั้งสองก็ถึงฝั่งฝันในบทเพลงความใคร่ เมื่อเสร็จกิจกรรมอันเสียวซ่านแล้วต่างคนก็ต่างแต่งตัวให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเป็นปกติ

"หายเครียดหรือยังคะ"

"ฉันไม่มีวันหายเครียดหรอกเฌอลิลินเธอก็รู้"

ใช่ เธอรู้ เพราะตั้งแต่เฌอลิลินเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เธอก็ไม่เคยเห็นว่าคณินจะหายเครียดเลยสักครั้ง มิหนำซ้ำยังมีความเครียดสะสมขึ้นทุกวัน ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว แต่เรื่องความรักนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าคณินนั้นมีปมเรื่องนี้หรือเปล่าเพราะเขาก็ไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลย

"เฌอว่าถ้าคุณคณินมีแฟนจะต้องมีความสุขมากกว่านี้แน่ๆเลยค่ะ" เฌอลิลินเอ่ยขึ้นมาลอยๆเพื่อสังเกตอาการว่าถ้าเกิดว่าเธอพูดถึงเรื่องนี้แล้วคณินจะมีทีท่าที่แปลกไปหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้มีอาการอะไรที่แปลกไปจากเดิมเท่าไหร่ แววตาของเขายังราบเรียบเหมือนเดิมพลางกระตุกยิ้มเบาๆอย่างขำขันไปกับคำพูดของสาวสวยวัยยี่สิบสองปีคนนี้

"หึ ถ้ามีคนรักฉันจริงๆฉันคงไม่เลี้ยงเธอหรอกนะ เธอก็ไม่เคยมีเหมือนกันนี่"

"แต่เฌอก็อยากลองมีเหมือนกันนะคะ เฌอว่าเฌออาจจะมีความสุขมากกว่านี้ก็ได้"

"ถ้าเธอมีแฟนเมื่อไหร่อย่าลืมมาแนะนำฉันด้วยนะ ฉันว่าฉันไปเยี่ยมว่าที่ลูกบุญธรรมของฉันบ้างดีกว่าได้ยินว่าอาการหนัก ฉันไปนะ"

"ค่ะ" จากนั้นคณินก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสายเพื่อคลายความเหนื่อยล้าก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องของเฌอลิลินแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องที่อยู่ตรงข้ามนั่นก็คือห้องของว่าที่ลูกบุญธรรมของเขานั่นเอง

ถึงแม้ว่าเขาตั้งใจจะรับเธอมาเป็นลูกบุญธรรมก็จริงแต่คณินนั้นก็ไม่เคยเจอหน้าค่าตาเธอมาก่อน รู้แค่ว่าเธอชื่อลินดาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลพฤกษ์ภินารายและบิดามารดาเธอก็เสียชีวิตไปแล้ว และวันที่เกิดเหตุนั้นก็เป็นวันเดียวกันกับที่บุพการีของเธอมาทำเรื่องเอกสารการขายหุ้นบริษัทให้กับเขาอีกทั้งยังขายคฤหาสน์พฤกษ์ภินาราย คฤหาสน์ที่มีอายุอานามประมาณห้าสิบปีให้กับคณินด้วย แต่เขาก็คาดว่าสาวน้อยคนนี้อาจจะยังไม่รู้ว่าครอบครัวของเธอไม่เหลืออะไรไว้ให้เธอแล้ว ที่เขารู้มาลินดาคนนี้เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต ใสซื่อ ไม่ทันคน เพราะเหตุนี้เขาจึงมั่นใจว่าเธอไม่รู้เรื่องนี้เพราะมันโหดร้ายเกินไป

ก๊อกๆๆ

"ลินดา" คณินเคาะประตูเรียกสาวน้อยลินดาที่อยู่ข้างในห้องพร้อมกับเอ่ยเรียกเธอเสียงเข้ม แต่ไม่ว่าเขาจะเรียกเธอเสียงดังเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะเปิดประตูให้ จากนั้นคณินจำต้องพึ่งหนทางสุดท้ายนั้นก็คือการควักเอากุญแจห้องสำรองของเธอที่เขาถือติดตัวมาด้วยในกระเป๋ากางเกงแล้วทำการไขมันทันที

แก่ก!

เอี๊ยดดดดดด

คณินมองไปยังเจ้าของร่างเล็กที่อยู่ในชุดนอนสีรุ้งแสนสดใสจนแสบตา ตอนนี้เธอกำลังนอนกรนเล็กและดูเหมือนว่าเธอจะนอนดิ้นเอามากๆด้วย เพราะตอนนี้เท้าของเธอมันได้ไปหนุนหมอนแทนศีรษะแล้ว ส่วนศีรษะจริงๆกลับลงมาอยู่ที่ปลายเตียง

"นอนไวจัง" เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงเริ่มมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าด้วยความเอ็็นดูเด็กน้อยที่นอนอ้าปากกรนเสียงเล็กๆเหมือนลูกแมว

"น่ารักนะเนี่ย หึ" คณินหย่อนสะโพกนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนที่จะทำการก้มหน้าลงมองใบหน้าเล็กของเธออย่างพิจารณา ดวงตากลมโต ใบหน้าเรียวเล็กเหมือนเด็ก จมูกโด่งแต่ไม่ถึงกับแหลมเหมือนสาวสไตล์สายฝอแต่ก็ถือว่าโด่งมากสำหรับคนหน้าเล็กๆแบบนี้ และสิ่งที่หยุดมองไม่ได้เลยก็คือริมฝีปากที่มีสีชมพูอ่อนธรรมชาติกระจับได้รูปน่าลิ้มรส ยิ่งเขามองเธอนานเท่าไหร่ยิ่งชวนหลงไหล

ผลั่ก!

เพียงเสี้ยววินาทีคนร่างสูงก็ลงไปนั่งกองที่พื้นทันทีเมื่อลินดาสะดุ้งตื่นพร้อมกับกระโดดถีบเขาตกเตียงไปอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

"โอ๊ย!" คนที่ถูกกระทำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ส่วนลินดานั้นก็ลุกขึ้นมาใช้ผ้าห่มพันตัวเองยกใหญ่ราวกับว่าตอนนี้เธอเป็นมัมมี่

"อีเด็กบ้ามึงถีบกูทำไม!" คนใจร้ายตวาดเสียงดังใส่เธอด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้นอีกทั้งยังคาดโทษสาวน้อยคนไว้เหนือหัว

"ลุงเป็นใคร จะทำอะไรหนู"

"ลุงแม่มึงสิหล่อขนาดนี้ อูย~" พอเขาตอกหน้าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคายคณินก็รีบลุกขึ้นยืนทันที ส่วนลินดานั่นยังอึ้งกับสรรพนามที่เขาใช้แทนตัวเองและเธออยู่ สำหรับคนอื่นคำพวกนี้มันอาจจะเป็นคำที่ใช้ปกติในชีวิตประจำวันแต่สำหรับคนอย่างลินดาแล้วมันคือคำที่ไม่เหมาะสมเอามากๆ เพราะที่บ้านเธออบรมมาแบบนี้ คนที่พูดจาหยาบคายคือ คนไม่ดี ไม่ใช่คนดี เป็นคนอันตรายที่ไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาด

"แล้วคุณบุกเข้ามาห้องหนูทำไมคะ คุณเป็นใคร"

"กูหรอ ก็เจ้าของบ้านไง"

"เจ้าของบ้าน? คุณคือคุณคณินหรอคะ"

"เออ"

"ถ้าอย่างนั้นคุณก็คือ...ว่าที่พ่อบุญธรรมของหนูหรอคะ"

"เออ ดีใจด้วยนะ ที่มึงจะได้มีพ่อแบบกู"

"ถ้าอย่างนั้นหนูไม่เป็นลูกคุณคณินแล้วค่ะ" เธอไม่พูดเปล่าจากนั้นเธอก็วิ่งแจ้นไปที่ตู้เสื้อผ้าของตนเองเพื่อทำการยัดมันเข้ากระเป๋าเดินทางอย่างเร่งรีบ

"ทำอะไร" คณินท้าวสะเอวยืนมองเธอด้วยความมึนงงว่าตอนนี้เธอทำลังจะทำอะไร ทำไมถึงต้องเก็บเสื้อผ้ายัดลงกระเป๋าด้วยท่าทีร้อนรนอะไรขนาดนั้น

"หนูจะเก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน"

"มึงไม่มีบ้านให้กลับแล้ว"

"ทำไมล่ะคะ ทำไมจะไม่มี"

"ก็บ้านมึง...เป็นของกูแล้ว รวมถึงทุกอย่างแม้กระทั่งตัวมึงด้วย"

"อึก..." ลินดาถึงกับนิ่งไปชั่วขณะเมื่อถ้อยคำดังกล่าวมันหลุดออกมาจากปากของเขา ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันเหมือนกับว่าหัวใจของเธอมันตกลงไปในเหวลึก เธออึ้งจนลืมบรรยากาศภายนอกไปแล้ว และในที่สุดน้ำตาของเธอก็รินไหลลงมาอีกครั้ง ลินดามองลึกลงไปในนัยน์ตาของคณินอย่างตั้งใจเพราะเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เธอจึงมองเขาด้วยแววตาน่าสงสารเผื่อว่าคณินจะเมตตาเธอบ้างและเอ่ยออกมาว่าเขาแค่ล้อเล่นเพียงเท่านั้น ทว่าคณินกลับมองเธอด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งอีกทั้งยังมองเธอเหมือนสมเพชเธอด้วยซ้ำ มันยิ่งทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องจริง...

"ร้องไห้ทำไม มึงเป็นบ้าหรอ"

"ออกไป!"

"ทำกูต้องออก"

"บอกให้ออกไปไง!"

"ไม่เว้ย มึงมีสิทธิ์อะไรมาสั่งกู"

"คนใจร้ายหนูเกลียดคุณ! ฮือๆ"

"เหอะ ร้องเข้าไปจะได้ขาดใจตาย" คณินยังคงสาดใส่คำพูดที่หยาบคายใส่ลินดาอย่างไม่ลดละจนในที่สุดความอดทนเธอก็หมดไป สาวน้อยพุ่งเข้ามาประจันหน้ากับคณินอย่างกล้าหาญก่อนที่จะทำการรัวกำปั้นเล็กๆลงแผกอกแกร่งๆของเขาไม่ยั้ง

ตุบๆๆๆ

"คนใจร้าย คนนิสัยไม่ดี หนูเกลียดคุณ ฮือๆๆ"

"โธ่เว้ย!"

"ฮึก..." ลินดาสะดุ้งเฮือกดวงตาของเธอยังค้างมองใบหน้าเขาแบบนั้นเมื่อคนใจร้ายง้างมือขึ้นมาหวังจะทำร้ายเธอ ตอนนี้ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟอันร้อนระอุแฝงความโหดเหี้ยมเข้าไปราวกับปีศาจ ตอนนี้ลินดากลัวจนตัวสั่นเหมือนลูกนกเพราะไม่เคยมีใครปฏิบัติกับเธอแบบนี้มาก่อน คณินจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่คลอไปด้วยน้ำใสๆมันช่างน่าสงสารเหลือเกิน ยิ่งตอนนี้พ่อแม่ของเธอก็ไม่มีให้กอด บ้านก็ไม่มีให้กลับ ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอเพิ่งสูญเสียสิ่งที่เป็นของเธอไป เมื่อความคิดนี้มันแล่นเข้ามาในหัวของคณินเขาก็ลดความโกรธและหงุดหงิดของตนเองลงทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นคนผิด

"ขอโทษ" เขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายขอโทษอย่างไม่ลังเลถึงแม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยคำว่าขอโทษกับคนอื่น แต่อย่างน้อยเขาก็วู่วามเกินไปถึงกับจะพลั้งมือทำร้ายเธอ ด้วยความที่เรื่องเครียดต่างๆเข้ามารุมเร้าเขาด้วยช่วงนี้เขาจึงอารมณ์ขึ้นลงผิดปกติ

"อ๊ากกกกกกก" ลินดาร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังลั่นตึกเหมือนเด็กที่ร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจจนคณินจำต้องเผลอยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองไว้

"โอ้ย หนวกหูโว้ย!"

"ฮือ ฮึกๆ อ๊ากกกก!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel