บทที่ 2
หากความรักคือการเสียสละ เวณิกา คิดว่าตัวเองทำได้ดีทีเดียว จะให้เธอคุกเข่าร้องขอความรักจากคนที่ไม่เห็นค่าในความรักของเธองั้นเหรอ ไม่หรอก…ให้เขาไปเจอคนที่ดี ที่คู่ควรกับเขาเถอะ เธอขอลาขาด!
นักบินกับนักบินก็เหมาะสมกันแล้ว จะมานักบินกับหมอได้ไง ไทม์โซนมันไม่ได้
หลินเดินหน้าแล้วและจะไม่หยุดเดิน เธอมีชีวิต มีความฝัน มีครอบครัวที่พร้อมเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ ชีวิตไม่ได้ขาดอะไร ก็แค่ผู้ชายคนเดียวในอายุเท่านี้หาใหม่เอาง่ายกว่า
อยากจะเสียใจเหมือนกันแต่โทษที ไม่มีเวลาเหลือเลย!
“แกมันใจร้ายใจดำ ใจแกมันดำยิ่งกว่าถ่านซะอีก”
นั่นคือคำที่เหล่าเพื่อนปรามาสเธอเอาไว้ หลินไม่ได้รับมาด้วยความเต็มใจ เพราะเธอคิดว่าสิ่งที่เพื่อนพูดมันไม่ได้เป็นความจริง
ถ้าจะมีใครที่ใจร้ายคนคนนั้นไม่ใช่เธอแน่นอน พี่บาสรู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา...
เขารู้มาตลอดเพราะเธอก็ชัดเจนในแบบฉบับของเธอ
ในเมื่อเขาไม่รักก็ไม่มีสิทธิ์กั๊กเธอไว้ หลินไม่ได้แค่เสียใจที่พี่บาสใจไม่ตรงกันกับเธอ และเธอก็ผิดเองที่มองความสนิทสนมที่เขาให้ฉันพี่น้องเป็นอย่างอื่น
ความรู้สึกในตอนนี้มันจึงมากกว่าความเสียใจเพราะมันเหมือนกับครึ่งหนึ่งในชีวิตหายไปเลย
ความคลุมเครือของเขาควรเป็นเรื่องของเขา แต่อยู่ ๆ มันกลับกลายเป็นปัญหาของเธอ
หลินไม่มีเวลาเหลือเฟือที่จะนั่งรอความรักจากเขาอีกต่อไป
เธอหาคอนโดใกล้ที่เรียน เนื่องจากมหาวิทยาลัยของเธออยู่ใจกลางเมือง เดินทางจะได้สะดวกส่วนวันหยุดก็ค่อยกลับบ้านเอา
“ออกไปอยู่หอพัก???” นั่นคือสิ่งแรกที่เธอทำหลังจากตั้งสติได้
“มหาลัยฯ อยู่ในเมืองค่ะพ่อ เดินทางไปกลับบ้านไม่น่าไหว”
เธอบอกเหตุผลซึ่งแค่บอกไม่ขออนุญาตพ่อ
“ไม่ได้ ๆ พ่อไม่อนุญาต ส่วนเดินทางไปเรียนไม่ต้องห่วงพ่อเตรียมรถเตรียมคนไว้แล้ว” หลินไม่ได้เงยหน้าไปสนทนากับบิดา นั่นหมายความว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่ดีแล้วและจะไม่เปลี่ยนใจ
“หลินคุยกับแม่แล้วค่ะ วันนี้ช่วงบ่ายพ่อไปดูห้องกับหลินนะจะได้สบายใจ” ตงหยางแทบทรงตัวบนขาสองข้างไม่ไหว หัวใจเขาหล่นไหลลงไปกองกับพื้น
“ไม่เอาอะ หลินไม่ได้บอกพ่อสักคำเลยนะ แล้วไปอยู่ข้างนอกแม่อนุญาตแต่พ่อ…”
ไม่อนุญาต คำ ๆ นี้คนเป็นพ่อจะพูดออกไป แต่ก็พูดไม่ออกเมื่อดวงตากลมโตเงยหน้าขึ้นมาสบตามองก็เป็นอันว่าคนเป็นพ่อต้องเงียบปาก
“หลินตัดสินใจแล้วค่ะ หลินอยากทุ่มเทให้การเรียน วันหยุดหลินจะกลับบ้าน และถ้าพ่อไม่ไว้ใจจะไปอยู่ด้วยกันก็ได้”
หลินไม่ได้ตัดพ้อ แต่คนเป็นพ่อกลับรู้สึกผิด วูบหนึ่งตงหยางเห็นความเศร้าหมองในแววตาของลูก
หลายอาทิตย์มานี้เขาก็เห็นอยู่ตลอดและไม่อยากให้ลูกสาวที่ตนเองรักต้องรู้สึกแย่แบบนี้ แต่ไอ้ตัวต้นเรื่องแม่งก็โง่ฉิบหาย!
“ไม่ใช่พ่อไม่ไว้ใจ ผลัวะ!” ศีรษะของอดีตมาเฟียแผ่นดินใหญ่โดนตบคว่ำหน้าแทบคะมำ
“เป็นไร! ลูกมันเรียนเยอะจะให้นั่งรถตู้ออกจากบ้านตั้งแต่ตีสามไปเรียนหรือไง! แล้วตอนกลับจะให้มันถึงบ้านเที่ยงคืนใช่ไหม! มีความคิดบ้างไม่ใช่แก่แล้วแก่เลย!” มันจะโกรธห่าอะไรขนาดนี้วะ! ตงหยางได้แต่ลูบศีรษะตัวเองป้อย ๆ
“ขมุบขมิบปากทำไม อยากจะปากแตกเหรอ!” หนิงยิ่งเห็นหน้าผัวตัวเองก็ยิ่งโมโห เธอหงุดหงิดอยากจะเอาฝาหม้อต้มเส้นราเมนฟาดหน้าอีผัวเฮงซวยให้ตาย!
“แม่จะไปทำพ่อทำไม…” คนเป็นเมียมองหน้าผัวราวกับจะฆ่าจะแกงกันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
ตงหยางกระโดดไปหลบหลังลูกสาวแทบไม่ทัน เขาหลบหน้าหลบตาเมียมาพักใหญ่ คิดว่าหนิงมันจะเฝ้าร้านเก็บเงิน ที่ไหนได้ตามมาเฉ่งเขาถึงที่บ้าน!
หนิงคันปากยิบ ๆ ถ้าไม่ติดว่าไอ้ผัวตัวดีมันมาขอโทษขอโพยร้องห่มร้องไห้รู้สึกผิดและผู้ยินยอมสมรู้ร่วมคิดไม่มาช่วยพูด หนิงไม่มีทางให้อภัยไอ้ผัวตัวดีง่ายแน่ ๆ
“ลูกตัดสินใจแล้วก็คือจบ เข้าใจไหมหยาง” ตงหยางเม้มริมฝีปากกำมือมองหน้าเมียด้วยสายตาไม่ยอม
“เข้าใจแล้วครับ!” หนิงคิดว่ามันจะแน่!
“พ่อแค่เป็นห่วงหลินน่ะแม่ ไม่มีอะไรหรอก แม่อย่าหงุดหงิดเลยนะ” ยิ่งหนิงมองหน้าผัวความหงุดหงิดไม่มีท่าทีจะลดลงแต่อย่างใด
“แม่จะไปส่งหลินไหม?”
“ต้องไปอยู่แล้วสิ! จะปล่อยให้แกไปคนเดียวได้ไง อย่างน้อยฉันก็ต้องไปนอนสักคืนสองคืนแหละ” น้ำเสียงของหนิงแม้จะกระด้าง แต่แววตาที่ใช้มองลูกสาวกลับอ่อนลง
“พ่อก็ไปนอนด้วยกันนะ แม่ไม่กล้าตีพ่อหรอก หรือถ้าแม่ตีพ่อหัวแตกหลินจะเย็บแผลให้พ่อเพราะหลินจะเป็นหมอแล้วนะ”
ตงหยางพยักหน้าและดึงลูกสาวมากอดไว้ อ้อมแขนเล็กยกขึ้นกอดเอวหนาทั้งยังซุกใบหน้าลงกับอกแกร่งของบิดา และหันไปส่งยิ้มให้แม่
คนเป็นพ่อแม่กระบอกตาร้อนผ่าว ตงหยางรู้สึกผิดต่อลูก เขามักจะกีดกันความรักของลูกสาวกับไอ้บาสเสมอ
แม้ลูกจะไม่ได้ต่อว่าหรือแสดงทีท่าว่าน้อยใจอะไร แต่เขาก็รู้ว่าหลินก็ต้องคิดและเสียใจอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะเรื่องนี้
เหตุผลที่ลูกตัดสินใจเรียนหมอไม่ใช่เพราะชอบอย่างเดียว แต่ต้นเหตุมันก็มาจากเขาที่เป็นพ่อ
เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาไปบอกให้ไอ้บาสถอยออกไปถ้ารักและหวังดีกับลูกสาวเขาจริง ๆ
เด็กทั้งคู่ตามติดกันเป็นตังเม และนับวันสายตาผู้ชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวโชกโชนมาอย่างเขามีหรือจะดูไม่ออก
ตงหยางจึงเสนอทำข้อตกลงกับว่าที่ลูกเขย
ผู้ชายสองคนรู้จักหลินดีพอกัน ถ้าบาสพูดดี ๆ หลินก็คงไม่เข้าใจ เขาก็ต้องทำแบบนี้ แต่ที่มันผิดพลาดคือทั้งตงหยางและบาสไม่คิดว่าหลินจะเปิดใจรับผู้ชายคนอื่นเข้ามาให้มาเป็นหอกหนามตำใจพวกเขาสองคน!
นอกจากเมียโกรธแล้ว ลูกรู้ความจริงก็ต้องโกรธอีก หยางยังคิดไม่ตกว่าจะสารภาพผิดกับลูกยังไงดี…
