บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

“คนที่จะฆ่าและเอาของที่อยู่ท้ายรถมึงไปน่ะสิ” คำพูดของเข้มทำให้อธิเมศร์สงสัย ของที่เขาต้องส่งกำลังถูกตามฆ่าอย่างนั้นน่ะเหรอ เรื่องชักจะวุ่นวายไปใหญ่เสียแล้ว

“งั้นมึงก็คงต้องตายก่อนกู” อธิเมศร์คว้าปืนพกที่เหน็บไว้ข้างตัวออกมา แต่ยังไม่ทันจะลั่นไกปืน เสียงปืนก็ดังขึ้น ทำให้ณชาณัธฐ์ที่อยู่ท้ายรถตกใจสะดุ้งสุดตัว

ปัง! ปัง!!

อธิเมศร์รีบก้มตัวหลบแล้วรีบมายังท้ายรถทันที ชายคนนั้นก็คลานกลับไปหาเพื่อนมันที่รออยู่เช่นเดียวกัน ปลายกระบอกปืนจ่อมายังรถของอธิเมศร์ เพราะคำสั่งที่ได้รับของพวกเขาสองคนคือการฆ่า อุตส่าห์ตามมาตั้งแต่กรุงเทพฯ พอได้จังหวะที่รถมันหยุดและปลอดคนก็หวังสอยให้ร่วง แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

“เอาไงดีพี่เข้ม” พลชัยมือปืนรับจ้างอีกคนเอ่ยถาม ตอนนี้พวกเขาหลบอยู่ข้างรถที่จอดขวางของตัวเองเช่นเดียวกัน

“เอ็งกับข้าค่อยๆ เข้าไป มันมีคนเดียว จัดการไม่ยาก” ทั้งสองคนพยักหน้าให้กับแผน ทั้งคู่ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้รถเป้าหมายมากขึ้น เมื่อพ้นเกราะกำบังร่างกายที่เป็นรถ มือปืนรับจ้างอ่อนหัดก็เหมือนจะพลาดท่าเสียแล้ว เสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัดพร้อมเลือดที่สาดกระเซ็นของพลชัย ทำให้เข้มกราดยิงรถของอธิเมศร์แบบไม่ยั้งจนกระสุนหมดแม็ค

อธิเมศร์ใช้จังหวะนั้นเดินไปยังท้ายรถ ก่อนจะลากตัว ณชาณัธฐ์ให้ลงมาที่พื้นถนนแบบไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บกับการกระทำของตัวเองแค่ไหน ชายหนุ่มผลักเธอลงไปในพงหญ้าสูงข้างทาง ร่างบางของณชาณัธฐ์กลิ้งไปหลายตลบก่อนจะหยุดลงเมื่อแผ่นหลังชนกับก้อนหินเสียงดังอั๊ก หญิงสาวถึงกับเกิดอาการจุกขึ้นมาทันที ก่อนจะดิ้นรนไปมา แต่ถูกมัดไว้แบบนี้ก็คงต้องรอวันตายเท่านั้น

เมื่อบรรจุกระสุนเป็นที่เรียบร้อย เข้มก็กราดยิงใส่รถของอธิเมศร์อีกครั้ง ก่อนจะเดินดุ่มๆ เข้ามาหาเพราะหวังฆ่าให้ตายคามือตามประสาคนใจร้อนและวู่วาม แต่สุดท้ายก็ต้องตายเพราะถูกอธิเมศร์ปลิดชีพด้วยการยิงเพียงนัดเดียวเข้าที่ศีรษะ เขาเป็นนักฆ่า เมื่อใดที่ลั่นไกปืนเมื่อนั่นต้องมีคนสังเวยชีวิต ไม่ยิงมั่วหวังข่มขู่แต่อย่างใด

“ซวยตั้งแต่ต้นเลยหรือวะ” อธิเมศร์บ่นกับตัวเอง ชายหนุ่มเก็บปืนพกเข้าที่ การยิงกันกลางถนนสายหลักเป็นที่ตกอกตกใจของรถที่ขับสวนไปสวนมาแล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บางคันได้รับลูกหลงจากกระสุนปืนด้วย จึงมีการแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเข้ามาค้นรถต้องสงสัยทั้งสองคันที่จอดอยู่ขณะนี้

อธิเมศร์รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ต้องไม่ปลอดภัยเป็นแน่ จะกลับไปใช้รถที่มีแต่รอยกระสุนปืนแบบนี้ก็คงสะดุดสายตาของผู้คนมากไปหน่อย มีทางเดียวคือใช้รถของสองคนนั้น แต่จังหวะที่กำลังจะเดินไปยังรถที่จะใช้ขับลงใต้เสียงรถตำรวจก็ดังมาแต่ไกล อธิเมศร์จึงเข้าไปแบกณชาณัธฐ์ที่นอนขดเป็นกุ้งอยู่ขึ้นบ่า ก่อนจะเดินหายเข้าไปในป่า

ตำรวจที่รับแจ้งว่ามีการยิงกันกลางถนนรีบรุดมาถึงพื้นที่เกิดเหตุก็พบศพสองศพ พวกเขาพยายามหาเอกสารร่างที่ไร้วิญญาณของทั้งคู่เป็นใคร เมื่อพบก็ตามสืบหาญาติและปมของการยิงกันครั้งนี้ต่อไป แต่รถอีกคันที่จอดอยู่แถมมีกระสุนเต็มไปหมดกลับไร้ร่องรอยให้สืบค้น ไม่มีหลักฐานอะไรหลงเหลือเลยแม้แต่น้อย แถมยังเป็นรถที่แอบสวมทะเบียนอีกต่างหาก ทุกอย่างจึงดูมืดแปดด้าน

ขณะที่ตำรวจกำลังวุ่นทำงาน อธิเมศร์ก็แบกณชาณัธฐ์เข้าไปในป่าลึกขึ้นเพื่อหลบหนีการไล่ล่า ป้องกันไว้ก่อนคงดีกว่ามานั่งปวดกบาลทีหลัง

“อ่อย…ฉ้าน” ณชาณัธฐ์ดิ้นรนอยู่บนบ่าของอธิเมศร์ หญิงสาวดูหวาดกลัว รอบข้างมืดไปหมดแต่เขาคนนี้ก็ยังเดินต่อไปไม่หยุด แถมยังไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว เธอใช้มือที่ถูกมัดทุบตีแผ่นหลังของอธิเมศร์ไม่หยุด จนชายหนุ่มหมดความอดทนโยนเธอลงบนพื้นแบบไม่ถนอมสักนิด

“หยุดบ้าสักที ไม่งั้นเธอได้นอนตายเฝ้าป่าแน่” ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองณชาณัธฐ์ท่ามกลางความมืด แต่ยังดีที่มีแสงจากพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวให้ได้มองเห็นทางบ้าง หญิงสาวนอนขดตัวน้ำตาไหลพราก เธอพยายามลุกขึ้นแต่ตอนนี้กลับรู้สึกระบมไปทั้งตัวแล้ว

อธิเมศร์หวังว่าทางตำรวจคงไม่ตามเขาเข้ามาถึงในนี้ เพราะเขานั้นเดินมาไกลมากแล้ว แถมยังเดินคดเขี้ยวให้ตามรอยเท้ายากอีกชั้น ชายหนุ่มได้ยินเสียงน้ำตกหรืออะไรสักอย่างจึงแบกตัว ณชาณัธฐ์ขึ้นบ่าอีกครั้ง อธิเมศร์เดินไปตามเสียงนั้นก่อนจะมาพบน้ำตกจริงๆ แถมยังโชคดีอีกชั้นเพราะเห็นเพิงไว้หลบฝนเข้า สภาพดีพอที่จะเป็นที่พักสำหรับคืนนี้ได้ เขาวางตัวณชาณัธฐ์ลงบนแคร่ไม้สูงจากพื้นไม่มากอย่างเบามือกว่าทุกครั้ง หญิงสาวตั้งหลักได้ก็กระเถิบตัวเองถอยกรูไปไกลจนเกือบตกแคร่อีกฝั่ง เธอจ้องมองมายังชายหนุ่มแปลกหน้าด้วยความหวาดกลัว

“ยุ่งยากชิบหาย” อธิเมศร์ส่ายหน้าให้ ก่อนจะเดินไปหาเศษไม้มาก่อกองไฟ ขืนอยู่แบบนี้มีหวังได้เย็นตายเป็นแน่ เพราะในป่าแถวนี้ตอนกลางคืนอากาศเย็นใช่เล่น ชายหนุ่มกลับมาอีกครั้งพร้อมไม้ฟืนในมือ จากนั้นก็ก่อไฟให้ความอบอุ่น เขาแทบจะลืมณชาณัธฐ์ไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาแดงก่ำสะท้อนแสงไฟของเธอเข้า ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้แล้วชั่งใจว่าจะแก้มัดให้เธอดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็เลือกแก้ผ้าปิดปากเธอก่อน

“แกเป็นใคร จับฉันมาทำไม ต้องการอะไร เรียกค่าไถ่เหรอ ปล่อยฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้” เมื่อปากเป็นอิสระ ณชาณัธฐ์ก็ค่อยหายใจทั่วท้องหน่อย แทนที่จะขอบคุณ หญิงสาวกลับกล่าวหา อธิเมศร์เสียยกใหญ่ เรียกได้ว่าคิดอะไรออกก็พูดแกมด่าทอไปพร้อมกัน

“ปากมาก” อธิเมศร์เลือกที่จะปิดปากของณชาณัธฐ์อีกครั้งเพราะรำคาญ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel