GUN : ความรัก หัวใจ ไกปืน

171.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
120
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อความรัก ต้องใช้หัวใจปกป้อง อธิเมศร์ จึงยอมทำทุกอย่าง แม้จะต้องเหนี่ยวไกปืนเพื่อปลิดชีพใครก็ตามที่คิดทำร้าย ณชาณัธฐ์ หญิงสาวที่เขาพร้อมจะรักและดูแลเธอไปตลอดชีวิต

นิยายรักโรแมนติกสายลับนักฆ่ารักแรกพบพระเอกเก่งแก้แค้นเศรษฐีโรแมนติก18+ผู้ชายอบอุ่น

บทที่ 1

ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลชั้นนำแห่งหนึ่ง สุทินหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบกว่าปีกำลังนอนรอรับการผ่าตัดใหญ่ด้วยโรคหัวใจตีบ หลังจากยื้อการรักษามาหลายปี จนผลของมันส่งให้เขาเจ็บแน่นหน้าอกและล้มทั้งยืนมาฟื้นคืนสติอีกทีที่โรงพยาบาล ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป หมอที่ดูแลจึงอยากให้สุทินผ่าตัดด่วน ทั้งๆ ที่เขานั้นอยากเลื่อนวันผ่าตัดให้ออกไปอีกหน่อย แต่คำสั่งหมอคือไม่มีเวลารออีกแล้ว

“พี่สุทิน...ทานผลไม้หน่อยนะคะ” รังสิณายื่นจานผลไม้ที่เธอนั่งปอกเมื่อครู่มาให้เขา ทั้งที่อยากป้อนเองกับมือแต่ก็เลือกที่จะไม่ทำ เพราะรู้ว่าสุทินคงไม่ชอบ

“ขอบใจนะกวาง” เสียงทุ้มๆ ของหนุ่มใหญ่เอ่ยขึ้น เขามองไปยังน้องภรรยาของตน ก่อนจะยื่นมือออกไปรับจานผลไม้มาถือไว้

“ค่ะ” เธอเอ่ยรับคำแล้วมองสุทินจิ้มผลไม้เข้าปาก รังสิณานั้นเป็นสาวสวยอายุจะย่างเข้าสี่สิบปีแล้วในอีกสองสามปีข้างหน้า แต่เพราะเป็นคนดูแลรูปร่างและหมั่นออกกำลังกายจึงยังดูสาวกว่าอายุมาก จนใครๆ ก็มองว่าเธอน่าจะอายุแค่สามสิบต้นๆ เท่านั้น

“ไม่ต้องมาดูแลพี่ก็ได้นะ เธอมีอะไรก็กลับไปทำเถอะ” สุทินถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่อพูดจบ เขาวางจานผลไม้ลงบนตักที่ตอนนี้กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงคนไข้ คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

“พี่สุทินห่วงเรื่องผ่าตัดเหรอ” รังสิณาเดาตามสิ่งที่เห็น

“ส่วนหนึ่ง แต่อีกอย่างที่ห่วงมากกว่าคือยายหนูจะกลับมาวันมะรืนแล้ว” พูดจบเสียงถอนหายใจของสุทินก็ดังขึ้นหนักๆ ตามมาอีกครั้ง ยายหนูที่เขาพูดถึงคือณชาณัธฐ์ ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาที่ส่งไปเรียนอังกฤษตั้งแต่เกรดหนึ่งจนถึงตอนนี้ที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เป็นลูกสาวแสนน่ารักของพ่อ แต่ก็แก่นเซี้ยวตามแบบฉบับของลูกคนเดียว เขาจึงตัดใจส่งลูกให้ไปอยู่ไกลหูไกลตา

เพราะต้องการให้ณชาณัธฐ์เห็นโลกกว้าง และให้ช่วยเหลือตัวเองเป็นเพราะที่อังกฤษไม่มีคนคอยรับใช้ ไม่มีคนคอยรองรับอารมณ์ใดๆ เธอต้องไปอยู่กับเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นท์ เรียกได้ว่าแทบทิ้งความเป็นคุณหนูของบ้านเทพอภิรักษ์เลยก็ว่าได้ อีกอย่างที่สำคัญคือไม่อยากให้แกอยู่แล้วรับรู้ว่าเขาทำงานอะไร หรือเจ็บป่วยอะไรอยู่ตอนนี้

“เอ้...ปอจะกลับมาแล้วเหรอ ก็ไหนพี่สุทินบอกว่าหลานจะยังไม่กลับมาตอนนี้ไงคะ” รังสิณาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“ยายหนูบอกแค่สั้นๆ ว่าจะกลับ”

“ไปอยู่นู้นจะเจ็ดปี ไม่เห็นมีวี่แววว่าปอจะกลับบ้านเลยสักครั้งหรือจะรู้ว่าพี่สุทินป่วย” สุทินได้แต่ส่ายหน้าให้คำพูดของรังสิณา

“ไม่น่าเป็นไปได้”

“แล้วพี่สุทินจะทำยังไงคะ?” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยเอ่ยถาม เพราะพอจะรู้ว่าสุทินไม่อยากให้ณชาณัธฐ์กลับมาตอนนี้เพราะอะไร

“กำลังคิด” สุทินมองออกไปยังกระจกห้องพักฟื้น เขาจะให้ณชาณัธฐ์กลับมาแล้วพบว่าเขาป่วยไม่ได้เป็นอันขาด เพราะเรื่องนี้เขาเองก็ปิดเป็นความลับเหมือนกัน มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ แต่จะห้ามณชาณัธฐ์ว่าไม่ให้กลับก็คงผิดสังเกต

รังสิณาเดินเข้าไปใกล้สุทิน ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสมือเขาไว้ มือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่เขยด้วยความห่วงใย แต่เขากลับส่งแววตาตึงเครียดกลับมาให้เธอ จนหญิงสาวต้องปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ

“เอ่อ...กวางกลับก่อนดีกว่า” รังสิณาก้มหน้าพูด ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากห้องพักฟื้นของสุทิน พรุ่งนี้เขาจะเข้ารับการผ่าตัดที่กินเวลานานหลายชั่วโมง เธอค่อยมารอเขาตอนนั้นก็แล้วกัน เมื่อเดินออกมานอกห้อง สายตาของรังสิณาก็ประสานกับมือขวาของสุทินที่ยืนเฝ้าอยู่พอดี

“จะกลับแล้วเหรอครับคุณกวาง” ชายหนุ่มวัยสามสิบปีต้นๆ เดินเข้ามาทักด้วยแววตาของความชื่นชมที่ปิดยังไงก็ไม่มิด เพราะในใจเขานั้นได้หลงรักรังสิณามาตั้งนานแล้ว บางครั้งเหมือนเธอจะรับรู้ความรู้สึกนั้น แต่บางครั้งเธอก็เฉยเสียจนเขาปวดใจว่าความรักครั้งนี้คงไม่สมหวังเป็นแน่ ถึงเธอจะอายุมากกว่าแต่ก็แค่ตัวเลขเท่านั้นเอง

“ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบรับเพียงสั้นๆ อีกตามเคย แววตาครั้งนี้เหมือนมีอะไรบางอย่างในใจ แต่สักพักแววตาแบบนั้นก็พลันหายไป

“คุณไม่สบายหรือเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดี”

“เปล่า” รังสิณาปฏิเสธคำถามนั้นของเอกรัฐ เพราะเธอสบายดีไม่ได้เป็นอะไร หรือถ้าเป็นก็ไม่เกี่ยวกับเขา แต่เธอต้องขมวดคิ้วกับกลิ่นน้ำหอมที่โชยออกมาจากตัวเอกรัฐ มันช่างคุ้นจมูกคล้ายๆ กับกลิ่นที่สุทินใช้

“ลงไปให้คุณหมอตรวจหน่อยดีไหมครับ ผมเป็นห่วง” เอกรัฐเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจริงๆ เขาอยากเดินเข้าไปใกล้แล้วใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากเธอ แต่กลับไม่กล้าทำอย่างที่ใจคิด

“ขอบใจนะ แต่ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ”

“ครับ...แล้วนี่คุณกวางจะกลับยังไง?” ชายหนุ่มไม่อยากเซ้าซี้มากไปกว่านี้ เพราะกลัวว่าเธอจะรำคาญเสียเปล่าๆ

“ฉันขับรถมา ยังไงฝากเธอดูแลพี่สุทินด้วยนะ”

“ยินดีครับ” เอกรัฐยิ้มให้ ซึ่งรังสิณาก็พยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านที่ วันนี้คงเงียบเหงาน่าดู จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านห้องสูตินารีเวช เธอก็หยุดแล้วยืนมองอยู่แบบนั้นนานก่อนจะละสายตาและก้าวไปยังรถที่จอดอยู่

เอกรัฐยืนยิ้มอยู่คนเดียว เขามีความลับใหญ่หลวงที่เปิดเผยให้ใครรู้ไม่ได้ แต่มันทำให้เขามีความสุขยามได้อยู่ใกล้กับรังสิณา หญิงสาวที่เขารักเธอหมดหัวใจ และสักวันเขาจะบอกความลับนั้นให้เธอรู้ อีกไม่นานแน่นอน