บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

“ชอบ...ถ้ากลิ่นมันอยู่บนตัวผู้หญิง แต่กลิ่นมันปนเปกันเต็มไปหมดแบบนี้ คงไม่ไหว” ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นจรดปลายจมูก ก่อนจะสูดดมกลิ่นเข้มๆ ของกาแฟคั่วเข้าไป พอเงยหน้าขึ้นมากลิ่นน้ำหอมที่ลอยอยู่รอบๆ ตัวค่อยจางไปหน่อย

“พี่แฟรงค์ไปนั่งรอที่ร้านกาแฟข้างๆ ก่อนก็ได้นะ เสร็จแล้วเดี๋ยวปอตามไป” ณชาณัธฐ์เอ่ยบอกด้วยความสงสาร เพราะเธอคงเลือกอีกนานเลย อยากให้ของฝากที่รังสิณาถูกใจที่สุดก็ต้องเลือกให้พิถีพิถันกันหน่อย

“ไม่เป็นไร ถ้ามีเมล็ดการแฟนี่ดมไปด้วย คงอยู่ได้อีกนาน” นวคุณชูแก้วในมือขึ้น อุตส่าห์อาสามาเป็นเพื่อนแต่เขากลับไปนั่งรอ แล้วจะมาด้วยทำไมตั้งแต่แรก

“ตามใจ” หญิงสาวไหวไหล่ให้ชายหนุ่มนิดหน่อย ก่อนจะกลับไปเทสกลิ่นน้ำหอมต่อ พนักงานก็บรรยายความหอมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดณชาณัธฐ์ก็ตัดสินใจเลือกน้ำหอมทรงสวยแบบหรูหราแต่ก็แฝงความอ่อนโยนมาขวดหนึ่ง ซึ่งกลิ่นของมันบ่งบอกถึงลักษณะของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ตรงตามที่ต้องการตั้งแต่แรก

เมื่อได้ของฝากของรังสิณาเรียบร้อย ต่อไปคือของผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้ณชาณัธฐ์ยังคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี หญิงสาวหันมาจ้องนวคุณตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้า พยายามมองหาว่าผู้ชายเขาจะสวมใส่อะไรกัน เกิดมายังไม่เคยซื้อของให้พ่อเลยสักชิ้น สมองเลยตื้อไปหมดแล้วตอนนี้

“พี่แฟรงค์...ผู้ชายอยากได้ของขวัญอะไร พี่พอจะรู้ไหม?” หญิงสาวทำท่าคิดหนัก พร้อมเอียงศีรษะไปมายามขบคิด ของใช้ทุกอย่างพ่อเธอน่าจะมีหมดแล้วนะ กลัวซื้อไปแล้วจะไม่ถูกใจ

“เอ้...ของขวัญเหรอ?” นวคุณลูบปลายคางตนยามช่วย ณชาณัธฐ์คิด เพราะเขาก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ซะด้วยสิ

“อื้อ...ของขวัญ ช่วยคิดหน่อยสิ”

“อืม...ต้องดูก่อนว่าคนที่ปอจะซื้อให้เป็นใคร” คำพูดของชายหนุ่ม ทำเอาคนฟังคิดหนักเข้าไปใหญ่

“ทำไม...ของขวัญที่ให้มันต่างกันเหรอ?” น้ำเสียงใสๆ ของ ณชาณัธฐ์เอ่ยถาม

“ก็ใช่...อย่างพี่เป็นต้น ถ้าจะซื้อของให้ผู้หญิง แม่กับแฟนก็ต่างกันนะ” นวคุณทำหน้าจริงจัง แต่ก็ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้นหรอก เพราะปกติมีแต่ผู้หญิงเป็นฝ่ายซื้อของมาให้มากกว่า อารมณ์เลือกซื้อของให้ใครก็พึ่งมีกับณชาณัธฐ์เนี่ยแหละ

“ยังไง?” คนไม่เคยมีแฟนกำลังงงได้ที่

“ไม่รู้สิ แต่เราว่าอารมณ์ตอนซื้อมันต่าง บอกไม่ถูก” ชายหนุ่มเองก็อธิบายความรู้สึกนั้นเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกัน

“อ้าว...อุตส่าห์รอฟัง” ณชาณัธฐ์ร้องเสียงสูงก่อนจะย่นจมูกให้ นึกว่าจะได้ไอเดียดีๆ ซะแล้ว

“แล้วผู้ชายที่ปอว่ามาเป็นใครละ”

“พ่อ...คงต้องหาของใช้ติดตัวเนี่ยแหละ เห็นอะไรแล้วชอบก็เหมาหมดเลยแล้วกัน”

“เอาจริง”

“จริง...ก็คิดไม่ออกแล้วนิ” ใช่ว่าของขวัญสำหรับพ่อจะไม่สำคัญ แต่เพราะณชาณัธฐ์ไม่รู้ว่าจะเลือกสิ่งไหนดี อันนั้นก็อยากซื้อไปให้ อันนี้พ่อก็น่าจะใช้ได้ คิดไปคิดมาก็เหมาทุกอย่างที่อยากให้พ่อแล้วกัน จะใช้หรือไม่หรือมีอยู่แล้วก็ช่างเถอะ เพราะคนตั้งใจจะให้แล้วนิ อยู่ที่คนใช้แล้วล่ะว่าจะใช้หรือเปล่า แต่ก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าพ่อจะใช้

เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้น ณชาณัธฐ์เดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าบุรุษเลือกหาเนคไท เข็มขัด นาฬิกาและทุกอย่างที่ผู้ชายวัยห้าสิบกว่าปีจะใช้ โดยมีคนให้ลองเทียบว่าดูดีหรือเปล่านั้นคือนวคุณ

“พี่แฟรงค์ยืนเฉยๆ สิ” หญิงสาวแหวใส่เพื่อน เพราะเล่นยืนไม่นิ่งเสียเลย ตัวก็สูงกว่าเธอมาก ยังต้องให้เธอเขย่งปลายเท้าชะเง้อมองอีก

“พอแล้วมั้งปอ ของฝากที่เลือกเยอะแล้วนะ”

“ยังไม่พอ…เหลือดีกว่าขาด” หญิงสาวดูจะสนุกสนานกับการเลือกซื้อของเสียเหลือเกิน แต่นวคุณนั้นกลับอยากหัวเราะยามเห็นใบหน้าจริงจังของณชาณัธฐ์ เพราะมาถึงตอนเธอตัดสินใจเลือกขั้นสุดท้ายที่เป็นแค่สีหรือแบบที่เหมือนกัน แต่จะเลือกซ้ายขวานี่สิที่ทำให้หญิงสาวดูจะตัดสินใจไม่ถูก สุดท้ายก็ให้เขาเอามาซ่อนไว้ด้านหลัง แล้วหญิงสาวก็เลือกว่าจะเอาของในมือซ้ายหรือขวาแทน แต่สุดท้ายก็ดูจะใช้ไม่ได้ผล

ดังนั้นณชาณัธฐ์จึงได้ของติดไม้ติดมือไปฝากพ่อมากกว่าหนึ่งอย่างโดยปริยาย เมื่อเลือกของฝากจนเป็นที่พอใจเธอก็เลี้ยงข้าวนวคุณแทนคำขอบคุณที่ชายหนุ่มเป็นหุ่นให้เธอเป็นนาน ไม่บ่นสักคำด้วย ถึงจะรู้จักกันไม่นานแต่กลับดูสนิท แม้ว่าคนไทยจะมาเรียนที่นี่หลายคน แต่มันเหมือนมีเส้นบางอย่างมากั้นคำว่าสนิท จนเธอเลือกที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า เพราะติดนิสัยความเป็นส่วนตัวไม่ชอบความวุ่นวาย ขอแบบสบายๆ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนของเธอไป เพราะอยากจบแล้วทำงานเร็วๆ จะแย่แล้ว เธออยากรู้ว่าตอนทำงานจะสนุกเหมือนตอนเรียนหรือเปล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel