Chapter 6 โรคจิต
'ฟ้าอยู่ที่นั่นจริงๆเหรอ'
'ค่ะ'
'ฟ้า...'
'^_^'
ฉันกดปิดหน้าจอโทรศัพท์เมื่อส่งสัญลักษณ์แทนรอยยิ้มไปให้พี่ครามแล้ว เมื่อกี้เราแชทกันและฉันบอกว่าฉันอยู่ที่มหาวิทยาลัยของวายุอีกครั้ง พี่ครามเหมือนจะขัดฉันฉันก็เลยต้องตัดบทก่อนเพราะที่นี่เป็นที่เดียวที่ฉันคิดว่าจะเจอเขาโดยไม่มียัยนีน่า
วันนี้ฉันเลือกมาอยู่ในลานจอดรถของคณะเขาแทนที่จะรอเขาที่หน้าตึกคณะเพราะฉันรำคาญสายตาที่มองมาหาแล้วอีกอย่าง...ยังไงเขาก็ต้องมาที่นี่และฉันจำรถเขาได้แม่นเลยล่ะ
ฉันยืนพิงผนังปูนตรงหน้าฉันเป็นรถของเขาพอดี ฉันยกนาฬิกาขึ้นดูเวลาเพราะมายืนดักรอวายุได้สักพักแล้ว น่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้...
ตึก ตึก ตึก~
ไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามาเรื่อยๆ หัวใจของฉันเต้นตึกตักทุกครั้งที่ได้ยินเสียงมันและภาวนาขอให้เป็นเขาสักที เพราะก่อนหน้านี้ก็มีมาหลายคนแล้วแต่ไม่ใช่เขาสักทีแถมพวกนั้นยังมองฉันแปลกๆด้วย
ก็แล้วแต่...ไม่ได้แคร์อยู่แล้ว
สวบ~
"เจอกัน บาย"
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะกำลังลุ้นอยู่แต่ว่าดันมีเสียงพูดขึ้นใกล้ๆ พอหันไปมองก็เห็นว่าร่างสูงโปร่งของวายุเดินผ่านฉันไปที่รถของเขาโดยไม่ทันสังเกตุ เขาเอ่ยลาเพื่อนที่เดินมาด้วยกันแล้วกำลังปลดล็อกรถ
"เออ ไอ้ยุ..."
แต่แล้วเพื่อนของเขาก็หันกลับมาเหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่างกับเขาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเหลือบมาเห็นฉันที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา และนั่นทำให้วายุชะงักแล้วหันมามองทางฉันด้วย
"เธอ..."
เขาขมวดคิ้วทันทีที่เห็นหน้าฉัน ฉันยิ้มแห้งๆให้เขาเมื่อถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
พยายามทำใจไว้แล้ว แต่พอเจอเข้าจริงๆมันก็...
"ใครวะ เพื่อนมึงเหรอ"
เพื่อนของเขาเปลี่ยนเรื่องที่จะพูดทันที เขาเดินเข้ามาหาวายุหยุดอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแล้วเท้าแขนกับหลังคารถมองฉันด้วยดวงตาหวานแหวว
"สวยจัง"
"เมื่อกี้มึงมีอะไร"
วายุไม่ใส่ใจคำพูดของเพื่อนแล้วก็ไม่สนใจฉันด้วย เขาหันไปเค้นเอาคำตอบจากเพื่อนของเขา
"ก็แค่จะถามว่ามึงจะมาได้แน่ๆนะ คืนนี้"
เพื่อนของเขาตอบแต่ยังไม่ละสายตาไปจากฉัน
ก๊อก ก๊อก~
"คุยกับกู มองหน้ากู"
วายุเคาะหลังคารถของเขาสองทีเพื่อเรียกสายตาเพื่อนให้หันไปโฟกัสที่เขา
"เออๆ ไปได้ใช่ป้ะ กูจะได้คอนเฟิร์ม"
เพื่อนของเขาจำใจหันไปมองวายุแต่แค่พูดจบเขาก็เหลือบมามองฉันอีก
"อืม"
วายุตอบส่งๆ พลางเปิดประตูรถ ฉันที่ยืนอยู่ตรงนี้แต่ดันไม่ได้อยู่ในสายตาเขารีบถลาเข้าไปหาเขาทันที
สวบ~
วายุหันมามองฉันแล้วขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
"ว่าแต่ มึงจะไม่แนะนำเพื่อนมึงให้กูรู้จักบ้างเหรอ"
เพื่อนของเขาพยักเพยิดมาทางฉัน วายุเหลือบมองฉันด้วยหางตาก่อนจะส่ายหน้าอีกครั้ง
"บอกว่าไม่ใช่เพื่อนกู"
"อ้าว ก็เห็น..."
"เขาจำฉันไม่ได้หรอก"
ฉันพูดขัดขึ้น เพื่อนของเขาอ้าปากค้างและเริ่มงง
"ฉันกำลังจะทำให้เขาจำฉันได้ค่ะ"
"อ่าาา"
ผู้ชายคนนั้นสตั้นไปแล้ว เขาเกาหัวแกร่กๆแต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
"เห้ย แม่โทรตาม ชิบหายสายไปสามนาทีแล้ว กูไปก่อนนะ"
เขาหลุบตาลงมองหน้าจอมือถือก่อนจะทำตาเหลือกแล้วมองนาฬิกาข้อมือจากนั้นก็แทบพุ่งออกจากตรงนี้ เขาเงยหน้ามาบอกลาแบบขอไปทีแล้วหันหลังวิ่งออกไปพลางกดรับโทรศัพท์ไปด้วย ฉันกับวายุมองเขาที่รีบเข้าไปในรถตัวเองแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
"ไอ้ขี้หลีเอ้ย"
วายุส่ายหัวพลางบ่นพึมพำ ก่อนจะชะงักอีกครั้งแล้วหันมามองฉันเหมือนลืมตัวว่ามีฉันยืนอยู่ตรงนี้ พอเห็นว่าฉันยิ้มให้เขาก็ชักสีหน้าใส่ก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนเบาะรถแล้วปิดประตูทันที
หมับ~
แต่คราวนี้ฉันไม่ยอม
"อะไรของเธอนักหนา!"
เพราะฉันจับประตูรถของเขาไว้ก่อน วายุกระแทกเสียงใส่ทันทีที่ถูกฉันขวางไม่ให้ไปไหน
"ฉันมาคุยกับนาย"
ฉันบอกพลางดันประตูไว้
"โรคจิต"
เขาด่าฉัน เมื่อก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้เขาไม่เคยว่าฉันด้วยซ้ำ ฉันไม่คิดว่าเขาความจำเสื่อมแล้วจะหยาบคายแบบนี้ อย่างน้อยๆก็น่าจะมีความรู้สึกอะไรหลงเหลืออยู่บ้างสิ
แต่นี่มันไม่ใช่!
"ใช่ โรคจิต แล้วถ้านายไม่ยอมคุยกับฉัน ฉันก็จะตามนายอยู่แบบนี้แหละ"
และฉันก็เริ่มจะโมโหเมื่อคิดว่ายัยนีน่าคงเอาความคิดแย่ๆเกี่ยวกับฉันใส่สมองเขาแน่ไม่งั้นเขาไม่มองฉันแบบนี้หรอก ฉันก็เลยพูดออกไปแบบนั้น
"ไม่ บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่อยากเจอเธอ"
เขาพูดพลางออกแรงดึงประตูปิดแต่ฉันก็ต้านไว้พอเห็นว่าเริ่มสู้แรงเขาไม่ได้ก็เลยเอาตัวเองมายืนบังประตูไว้เลย
"เห้ย เธอ!"
วายุคงโมโหมาก เขาหันมาตวาดใส่ฉันด้วยใบหน้าดุดัน แต่ฉันไม่กลัวหรอกฉันจ้องหน้าเขาก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นกุญแจรถที่เสียบไว้เพื่อเตรียมสตาร์ทรถ
หมับ~
"เห้ย"
ฉันก็อาศัยจังหวะที่เขาเผลอเอื้อมไปดึงกุญแจรถของเขาออกมากำไว้ในมืออย่างรวดเร็ว วายุหันมาคว้ากุญแจรถที่ฉันทันทีแต่ฉันไหวตัวทันเลยถอยหลังหนีออกมาก่อน
"เอาสิ อยากกลับก็กลับไปเลย"
ไม่มีกุญแจจะกลับยังไง อยากจะรู้นัก หึ
"ฉันไม่ได้มีเวลามาเล่นตลกกับเธอ เอาคืนมา"
วายุลุกออกจากเบาะรถ พุ่งเข้ามาหาพลางจะแย่งกุญแจคืนไปแต่ฉันก็ถอยหลังหนี
"อะไรของเธอนักหนาวะ เอากุญแจมา!"
"อยากได้ก็มาเอาเองสิ"
ฉันพูดพลางทำหน้าล้อเลียนเขา นึกแปลกใจนิดหน่อยที่เขาดูไม่ปวดหัวเมื่อเห็นหน้าฉันและฉันคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่ดี...มันน่าจะเป็นอย่างนั้น
วายุกัดฟัน เขาพุ่งเข้ามาหาฉันอีกครั้งพลางจะแย่งกุญแจที่ฉันกำแน่นแล้วเอามือข้างนั้นซ้อนไว้ด้านหลัง ฉันเอี้ยวตัวหลบเขาแและเขาก็ไม่ละความพยายามที่จะแย่งมันคืน
ปึ้ก~
"อ๊ะ!"
ฉันร้องออกมาเพราะว่าวายุคว้าไหล่ฉันไว้ก่อนจะดันไปทางด้านหลัง ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะหงายหลังแต่จริงๆแล้วเขาดันฉันให้ไปกระแทกกับผนังปูนด้านหลังเท่านั้น มันไม่ได้เจ็บมากหรอกแต่มันตกใจ ฉันขืนตัวเพื่อจะดันตัวเองออกมาแต่วายุก็กดไหล่ฉันไว้แรงขึ้น
"เอาคืนมา"
เขาหลุบตามองฉันพลางพูดเสียงเข้ม ฉันหลุบตาลงมองมือของเขาที่หงายอยู่ตรงหน้าเพื่อรอให้ฉันคืนกุญแจให้ ก่อนจะกำกุญแจไว้แน่นกว่าเดิมแล้วกระชับมันไว้ที่ด้านหลัง ฉันเงยหน้าจ้องตากับเขา
ไม่คืนง่ายๆหรอก
"เหอะ ได้..."
วายุแค่นหัวเราะพลางพ่นลมหายใจใส่หน้าฉัน เขาคงรู้ว่ายังไงฉันก็ไม่คืน เขาพยักหน้าพลางใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างไม่ชอบใจก่อนจะถือวิสาสะใช้มืออีกข้างเอื้อมมาที่ด้านหลังของฉัน
"นี่ อย่านะ"
ฉันขืนตัวเองอีกครั้งพลางขยับมือข้างนั้นหลบมือเขาเป็นพัลวัล
"ไม่คืนดีๆเอง ถ้าฉันจับโดนอะไรก็อย่ามาโวยแล้วกัน"
เสียงของเขาดังอยู่ใกล้ๆเพราะเขาตัวสูงกว่าและเขาก้มลงมาเพื่อมองว่าฉันเอามือหลบไปทางไหน
"เอาคืนมาสักทีดิวะ"
"ไม่ ฉันไม่..."
เสียงของฉันหายไปเมื่อวายุใช้มือข้างที่เคยกดไหล่ฉันไว้เลื่อนลงมารวบเอวฉันแล้วดึงเข้าหาตัวเขาเพื่อเป็นการล็อกไม่ให้ฉันดิ้นหนีเพราะฉันกำลังจะหลุดจากวงล้อมของเขา วายุกำลังวุ่นกับการยื้อแย่งเลยไม่ได้สนใจอะไรแต่ฉันนี่สิ...
"..."
"..."
แล้วเขาก็เหมือนเพิ่งรู้ตัว เขาชะงักเมื่อฉันหยุดดิ้นไปดื้อๆพลางหันมามองฉันแต่ไม่รู้ว่าเรายื้อกันไปมาในอีท่าไหน ในตอนที่เขาหันมา...ริมฝีปากเราเลยสัมผัสกัน
"..."
"..."
เราสองคนเงียบ นัยน์ตาของเราจ้องมองกัน ฉันรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวแถมหัวใจก็เต้นรัวเร็วไปหมด
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก~
