Chapter 7 อย่ามาให้เห็นหน้าอีก
Rrrr~
แล้ววายุก็ผละออกไปเมื่อมีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขามองหน้าฉันก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นพลางหยิบโทรศัพท์ออกมากดรับทันทีโดยไม่ดูด้วยซ้ำว่าปลายสายเป็นใคร
"ฮะ ฮัลโหล"
ฉันยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเอง ก่อนจะเงยหน้ามองเขาอีกครั้งในตอนที่เขาเอ่ยชื่อปลายสายที่โทรเข้ามา
"นีน่า..."
ยัยนีน่า!
"อะ อื้ม จะรีบไป รอแป่บนะ"
เขาพูดกับปลายสายโดยไม่หันมามองฉัน มือของฉันที่กุมหัวใจกำแน่นทันทีเมื่อรู้ว่าเขาจะไปหายัยนั่น รีบไปด้วยนะ แต่ว่า...ฝันไปเถอะ
"นี่เธอ..."
เมื่อวางสายยัยนีน่าแล้วเขาก็หันกลับมาเล่นงานฉันต่อ
"ฉันอยากคุยกับนาย"
"ฉันไม่ว่าง"
"แต่ถ้านายไม่คุย ฉันก็ไม่ยอมให้นายไปไหนทั้งนั้น กุญแจรถนายอยู่ที่ฉัน อย่าลืม"
"ทำไมเธอ..."
เขาทำหน้าเหมือนอยากจะด่าฉันเต็มแก่เลย แต่ฉันต้องไม่สนใจสิ
"ฉันรู้ว่ามีคนรอนายอยู่ ถ้านายไม่ยอมฉันไม่ปล่อยไปแน่ ให้คนที่รอมันรอจนรากงอกไปเลยเป็นไง"
วายุกรอกตา พลางบีบนวดขมับเบาๆ...อยู่ๆก็ปวดหัวขึ้นมาแล้วเหรอ
"เออ ก็ได้ แต่แค่แป่บเดียว...เธอทำฉันปวดหัวรู้ไว้ด้วย"
"ได้สิ แค่แป่บเดียวก็ยังดี"
ฉันยิ้มแก้มปริเมื่อเขายอมคุยกับฉัน ส่วนนึงคงเพราะเขาเห็นฉันเก็บกุญแจรถเขาใส่กระเป๋าแล้วด้วยมั้ง แล้วฉันก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาพูดขึ้นอีก
"เร็วๆ แฟนฉันรออยู่"
เหอะ...คำนี้มันเจ็บดีจัง!
"มีอะไรจะพูดก็พูดมา"
ฉันถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อวายุเร่งเร้าให้ฉันพูดสิ่งที่อยากคุยกับเขาทุกๆวินาที ดูเหมือนเขาจะอยากไปหายัยนีน่ามากจนฉันเริ่มไม่พอใจมากกว่าเดิม
"ถ้าไม่พูดก็ลงจากรถไป"
เขาเองก็พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดออกมาเหมือนกันแถมยังจะไล่ฉันลงจากรถด้วย ตอนนี้เราเข้ามาอยู่ในรถของเขาเพราะวายุไม่อยากยืนคุยด้านนอกให้เป็นจุดสนใจคนอื่นๆที่ขับรถเข้าและออกจากที่นี่
จริงๆฉันไม่ได้ลีลาอะไรหรอก ฉันเองก็อยากจะคุยแต่แค่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนเท่านั้นเอง
"อย่ากวนประสาทได้มั้ยวะ"
"จำฉันไม่ได้จริงๆเหรอ"
ฉันโพล่งออกไปเมื่อเขาขึ้นเสียงใส่ วายุหันมามองหน้าฉันแล้วฉันก็มองหน้าเขา มองเขาด้วยสายตามีความหวังทั้งๆที่มันลิบหรี่เหลือเกิน
"ก็บอกว่าจำไม่ได้"
แล้วก็เป็นวายุเองที่หันหน้าหนีฉัน เขามองออกไปนอกรถที่ตอนนี้มีนักศึกษาเดินเข้ามาและขับรถออกไปจากที่นี่เหมือนกับคนก่อนๆ
"ทำไมต้องแค่นให้ฉันจำด้วย"
"เพราะนายไม่ควรลืมฉันไง"
"..."
หมับ~
"นายลืมฉันไม่ได้ วายุ"
"อะไรวะ!"
เมื่อฉันพูดกับเขาแต่เขาไม่แม้จะหันมาสนใจกันด้วยซ้ำฉันก็เลยคว้าต้นแขนเขาแล้วดึงให้หันมาหาแต่วายุก็สะบัดแขนออกจากฉัน เขาขึ้นเสียงใส่แล้วจ้องฉันด้วยดวงตาว่างเปล่า
"ก็มันลืมไปแล้ว ลืมไปแล้วได้ยินมั้ย"
"นายก็พยายามสิ พยายามจำฉันให้ได้"
แล้วเราก็เริ่มเถียงกัน
"ถ้าฉันอยากจำใครฉันจะทำ แต่ฉันไม่อยากจำเธอ...ฉันไม่ทำ ไม่พยายามอะไรทั้งนั้น!"
"ทำไมล่ะ ทำไม?"
ฉันเขย่าแขนเขา เสียงของฉันเริ่มสั่นรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้ให้ได้เลย
หมับ~
"เพราะเธอแม่งร้ายไง เธอทำร้ายฉัน ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ เธอจะให้ฉันจำคนที่ทำร้ายตัวเองเพื่ออะไรวะ"
คราวนี้เป็นวายุเองที่คว้าต้นแขนฉันบ้าง เขาเขย่าตัวฉันตามแรงอารมณ์ที่ประทุขึ้นมา เขาจ้องฉันอย่างเดือดดาล
"หรือเธอจะชดใช้"
เขากดเสียงพูดกับฉัน ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะกลัวท่าทางข่มขู่ของเขาแบบนี้ แต่ฉันไม่...
"ถ้าฉันจะชดใช้ล่ะ"
ฉันเงยหน้ามองเขา วายุไม่พูดแต่บีบแขนฉันจนเจ็บไปหมด
"อย่าให้ฉันต้องพูด"
เขากัดฟันด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฉันรู้ว่าเขากำลังโมโหและปวดหัวด้วย
"ถ้าฉันจะทำ..."
"ไปโดดให้รถชนดิ เอาให้เป็นแบบฉัน หรือจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยก็ได้!"
ปึ้ก~
พอพูดประโยคทิ่มแทงจนฉันหน้าชา เขาก็ผลักฉันจนหลังกระแทกกับรถก่อนที่จะคว้ากระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนหน้าขาฉันไปพร้อมกับเดินออกจากรถ
"..."
ฉันรู้ว่าเขาลงจากรถไปแล้วและหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าฉันแล้วด้วย แต่คำที่เขาพูดมันทำให้ฉันอึ้งจนไปไม่เป็น
พูดแบบนั้น...มันเหมือนไล่ฉันให้ไปตาย!
ปึ้ง~
เขากระชากประตูรถฝั่งที่ฉันนั่งอยู่ให้เปิดออกอย่างแรงพร้อมทั้งคว้าต้นแขนฉันอีกครั้งแล้วกระชากให้ลงจากรถของเขา
พรึ่บ~
"อะ โอ้ย ฉันเจ็บ!"
ฉันที่ไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเซลงจากรถของเขาทั้งๆที่ยังนั่งอยู่เลย ฉันแทบจะหน้าคะมำลงพื้นแต่เพราะวายุบีบแขนฉันไว้แน่นก็เลยไม่ล้มแต่มันก็เจ็บแขนมากเหมือนกัน
"อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก"
วายุพูดพลางยัดกระเป๋าใส่มือฉันก่อนที่เขาจะเดินไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับทันที แต่ฉันมาถึงขนาดนี้แล้วจะให้ฉันหยุดง่ายๆได้ยังไง ฉันไม่ยอม!
ฉันพุ่งเข้าไปกระชากเขาให้หันกลับมาพลางโถมตัวเข้าหาเขาโดยใช้แขนข้างหนึ่งโอบล็อกต้นคอเขาไว้แน่นวายุกำลังจะอ้าปากพูดหรืออาจจะด่าฉันอีก แต่ก็ช้าไปเมื่อฉันใช้มืออีกข้างจับใบหน้าเขาไว้แล้วเขย่งขึ้นไปประกบริมฝีปากลงบนปากเขา
"อะ อื้อ"
วายุเบิกตากว้างพลางดันฉันออกทันที ฉันได้ยินเสียงร้องประท้วงในลำคอของเขาแต่นอกจากฉันจะไม่ยอมปล่อยเขาแล้วฉันยังใช้แขนอีกข้างเลื่อนไปคล้องคอเขาไว้พร้อมกับกดจูบหนักๆลงไปบนริมฝีปากเขาด้วย
ฉันทำแบบที่เขาเคยทำกับฉัน...ฉันจูบแบบที่เราเคยจูบกัน
ปึ้ก~
ฉันขยับริมฝีปากไปบนปากของเขาเมื่อวายุทำท่าจะผลักฉันออกอีกฉันก็โถมตัวเข้าหาเขาจนร่างสูงค่อยๆเซถอยหลัง ในที่สุดหลังของเขาก็กระแทกกับตัวรถที่จอดอยู่
ฉันแค่หวัง...คาดหวังจากความรู้สึกลึกๆของก้นบึ้งหัวใจเขา ฉันแค่อยากให้เขาจำความรู้สึกนั่นได้
"..."
จะด่าว่าฉันหน้าด้านหน้าไม่อายยังไงก็ได้เพราะตอนนี้ฉันกำลังไล่ต้อนจูบเขา ยิ่งในตอนแรกเขาเหมือนจะปฏิเสธแต่ตอนนี้เขากำลังคล้อยตามฉัน เปลือกตาของเขาค่อยๆปิดลงและเขาเริ่มจูบตอบฉันแบบไม่รู้ตัว
"..."
พรึ่บ~
ผลัก~
"อ๊ะ!"
แต่จู่ๆเขาก็เหมือนได้สติกลับมาอีกครั้ง เขาลืมตาโพล่งขึ้นมาพลางผลักฉันออกอย่างแรงจนฉันเซแล้วหงายหลังก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นอย่างจัง
ตุ้บ~
"อะ โอ้ย!"
ฉันน้องออกมาด้วยความเจ็บและจุกด้วยเพราะหงายหลังล้มไปแรงมาก พอเงยหน้ามองก็เห็นเขาสะบัดหัวอย่างแรง
"เห้ย ฟ้า..."
ฉันหันควับไปอีกทางเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนเรียกฉัน แต่ไม่ต้องมองหาเจ้าของเสียงนานหรอกเพราะตอนนี้เจ้าตัวถลาเข้ามาหาฉันที่นั่งจุมปุ๊กอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว
"ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอวะไอ้ยุ"
"พี่คราม..."
คนที่พุ่งเข้ามาหาฉันคือพี่คราม ฉันคิดว่าเขาตามฉันมาแน่ๆและดันมาเห็นตอนที่ฉันถูกผลักหงายท้องแบบนี้เขาก็เลยหันไปเอาเรื่องกับวายุทันทีแต่ฉันจับแขนเขาไว้พลางห้ามเขาด้วยการส่ายหน้าเบาๆ
"แต่มัน..."
"เวรเอ้ย!"
วายุขยี้หัวตัวเองเตะเท้าไปกับอากาศพลางโวยวายออกมา เขามองฉันกับพี่ครามด้วยสายตาสับสนก่อนจะเดินไปขึ้นรถของเขาโดยไม่พูดอะไรอีก เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วจนทั้งฉันและพี่ครามทำอะไรไม่ทันเลย ได้แต่มองรถของเขาที่ห่างออกไปจนลับสายตาอีกครั้ง
"ไอ้เฮงซวย"
พี่ครามสบถด่าเพื่อนของเขาก่อนจะหันมาหาฉันแล้วมองแบบสำรวจ
"เจ็บตรงไหนหรือเปล่าฟ้า"
"นิดหน่อยค่ะ"
ฉันตอบพลางดันตัวเองลุกขึ้น รู้สึกเจ็บแปล่บแต่ก็ฝืนมันไว้
"พี่คราม..."
"หืม?"
"เขาจำฟ้าไม่ได้เลยค่ะ เขาจำไม่ได้เลย"
"อดทนนะฟ้า มันก็เคยจำพี่ไม่ได้"
พี่ครามถอนหายใจพลางลูบหัวฉันอย่างปลอบโยน ฉันน้ำตาปาดน้ำตาที่เอ่อคลอออกมาไม่ให้มันไหลพลางพยักหน้าเบาๆ
ฉันจะอดทนและฉันจะทำให้ได้...
-วายุ-
บรื้นนน~
ผมรู้ว่าตัวเองขับรถออกมาด้วยความเร็วพอสมควร ดวงตาของผมมองไปข้างหน้าแต่ในสมองมันมีภาพมากมายแว่บเข้ามาจนผมแทบบ้าแล้ว
ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคลั่ง ผมปวดหัว ผมเครียด และยิ่งผมเป็นแบบนั้นขาของผมก็ยิ่งเหยียบคันเร่งมากขึ้นทั้งๆที่รู้ว่ามันอันตราย
"โธ่โว้ย!"
ผมทุบมือลงกับพวงมาลัยรถ ยัยผู้หญิงคนนั้นทำผมสับสนมึนงงไปหมด ยิ่งกับจูบนั่น...
'ทำไมนายต้องบังคับจูบฉันแบบนี้อยู่เรื่อย'
'ก็ฉันชอบไง อีกอย่างเป็นแฟนกันฉันจะจูบเธอไม่ได้หรือไง'
'มะ มันบ่อยไปไง'
'เหรอ'
'กะ ก็...'
'อื้อ'
จู่ๆก็มีเสียงพูดคุยกันแว่วเข้ามาในโสตประสาท ผมเห็นภาพเลือนลางของใครสองคนกำลังหยอกล้อกันแล้วก็จูบกัน ภาพนั้นมันไม่ชัดแต่เหมือนมันบังตาผมหมด ผมมองไม่เห็นถนนด้านหน้า ผมเห็นแต่ภาพนั้น
ผะ ผมไม่ไหวแล้ว!
แล้วก็เหมือนสติที่เหลือน้อยนิดของผมกลับมา ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับตาไปตอนไหนพอลืมตาขึ้นมาอีกที ภาพที่ตัดเข้ามาคือถนนเบื้องหน้าและมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งที่พุ่งทะยานมาจากแยกถนนด้านหน้า
ปิ๊นนน~
"เฮ้ย!"
ผมบีบแตรดังลั่นร้องออกมาอย่างตกใจมากแล้วสัญชาติญาณก็ทำให้ผมหักพวงมาลัยรถหลบไปอีกทางโดยอัตโนมัติ ซึ่งข้างทางมันเป็นต้นไม้ใหญ่และรถของผมพุ่งเข้าชนมันอย่างจัง
โครมมม!!!
