Chapter 2 ผู้หญิงคนนั้น
'วายุ...นายจำฉันได้มั้ย?'
'...'
'จำฉันได้ใช่มั้ย'
'...'
'ฉันไงปลายฟ้า'
'...'
'วายุ'
'ฉัน ฉันไม่เคยรู้จักเธอ'
'คิดดีๆสิวายุ นายลองคิดดีๆ'
'เธอทำให้ฉันปวดหัว ออกไปห่างๆอย่ามายุ่งกับฉัน!'
'ไม่ นายต้องคิดนะ นายต้องไม่ลืมฉันสิ'
'ไม่ บอกว่าไม่...โอ้ย'
'วา...'
'ฉันไม่อยากคิด ฉันไม่อยากจำเธอได้ ไม่อยากรู้จักเธอ ได้ยินมั้ยห๊ะ!'
พรึ่บ~
ฉันสะดุ้งตื่นพลางดีดตัวขึ้นนั่งทั้งน้ำตา ภาพเมื่อกี้คือความฝันมันเป็นฝันร้ายสำหรับฉัน ดวงตาของวายุที่มองฉันถึงแม้จะเป็นในความฝันแต่ฉันกลับจำได้ติดตา ฉันไม่อยากให้เขามองฉันอย่างนั้นเลย...
"ทำไมนายถึงเป็นแบบนี้ล่ะวายุ"
ฉันกำผ้าห่มแน่นในหัวสมองมีแต่คำถาม ตลอดสองปีที่ฉันหายไปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทำไมเขาถึงความจำเสื่อมแล้วทำไมฉันถึงไม่ได้อยู่ในความทรงจำที่หลงเหลือของเขาบ้างเลยทั้งๆที่เราก็เคยคบกันมาตั้งหลายปีก่อนที่ฉันจะหายไป
โอเค...ฉันยอมรับว่าที่ฉันหายไปแบบนั้นฉันผิดเอง ผิดที่ไม่ได้บอกเขาทั้งๆที่เรื่องของเรากำลังไปได้ดีเรากำลังรักกันมากเรากำลังมีความสุขแต่แล้ววันนึงฉันก็หายไปแบบนั้นแต่อย่าว่าแต่ฉันไม่ได้บอกเขาเลยตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำมันกระทันหันเกินไป ฉันเข้าใจถ้าเขาจะโกรธฉันมาก แต่นี่มันอะไร?เขากลับความจำเสื่อมแล้วจำฉันไม่ได้ทั้งๆที่ฉันก็กลับมาหาเขาแล้ว ฟ้าเล่นตลกกับฉันมากเกินไปจริงๆ!
*Coffee live
ครืด~
"ยินดีต้อนรับครับ"
เสียงกล่าวทักทายของพนักงานบาริสต้าคนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์พูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูก้าวเข้ามาในร้านเขายิ้มทักทายลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร ฉันเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ทันที
"รับอะไรดีครับ"
เขาถามฉันด้วยรอยยิ้ม ฉันมองหน้าเขาก่อนจะตวัดสายตามองหาคนที่ฉันตั้งใจมาหาจริงๆแล้วฉันก็เห็นเขาเดินออกมาจากหลังร้านพอดี
"ของในร้านใกล้จะหมด..."
กึก~
เสียงพูดของเขาขาดหายไปเมื่อเงยหน้ามามองเห็นฉัน ใบหน้าของเขาเหวอไปเล็กน้อยที่ฉันมองหน้าเขาอย่างตั้งใจ
"พี่พอจะมีเวลาคุยกับฟ้าสักหน่อยได้มั้ยคะ"
"..."
หลังจากที่ฉันพูดออกไปแบบนั้นพี่ครามก็ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะคุยกับฉันเท่าไหร่แถมยังทำท่าจะออกไปซื้อของเข้าร้านอีกด้วย พี่ครามทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านนี้ฉันพอรู้มาบ้างแต่ตั้งแต่กลับมาที่ไทยฉันก็ยังไม่เคยมาที่นี่เลย และเมื่อฉันมาฉันก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างฉันถึงได้มองเขาแบบตื้อๆและมุ่งมั่นจนสุดท้ายเขาก็ยอมพาฉันมาคุยที่หลังร้านจนได้ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะไม่ไปไหนหรอกเพราะพี่ครามเป็นคนเดียวที่จะช่วยฉันได้ถึงเขาจะเคยปฏิเสธมาแล้วด้วยคำพูดแบบนั้น
เห้อ~
เสียงถอนหายใจของเขาทำให้ฉันเงยหน้ามองแผ่นหลังของเขาพลางเม้มปาก
"เราคุยกันไปแล้วนะฟ้า"
ใช่...เราคุยกันไปแล้ว
"แต่ฟ้าไม่เข้าใจ"
ฉันตอบแล้วพี่ครามก็ถอนหายใจอีก พอได้ยินฉันพูดแบบนั้นพี่ครามก็หันมามองฉันทันที
"ไม่เข้าใจอะไร พี่ว่าพี่พูดชัดนะ"
"ฟ้าไม่เข้าใจว่าทำไมฟ้าต้องยอม"
"ฟ้า"
พี่ครามพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยใจ เขารู้จักนิสัยฉันและฉันก็รู้จักนิสัยเขา ฉันถึงได้ตื้อเขาไง
"ฟ้ารู้ว่าฟ้าผิดที่หายไปแบบนั้น...แต่มันจำเป็นนะคะ"
"อะไรคือความจำเป็นที่ฟ้าต้องทิ้งมันไปโดยไม่บอกอะไรสักคำ รู้มั้ยว่ามันเสียใจมากแค่ไหน"
"..."
รู้สิ...ฉันรู้ แล้วฉันเองก็เสียใจมากเหมือนกัน
"ฟ้าถึงได้กลับมา..."
ฉันกลั้นสะอื้นเมื่อน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาพลางเงยหน้ากลั้นน้ำตาไว้ ฉันรู้ว่าพี่ครามมักใจอ่อนกับฉันเสมอ ถึงครั้งนี้มันจะยากก็เถอะ
"แต่มันไม่ทันแล้วไงฟ้า"
พี่ครามส่ายหัวแล้วหันหลังให้ฉันอีก
"ถึงอย่างนั้น...ฟ้าแค่อยากให้เขาจำฟ้าได้"
"..."
พี่ครามถอนหายใจอีกครั้งเมื่อฉันกำชายเสื้อเขาไว้ ฉันรู้ว่าเขากำลังอดทนที่จะไม่ยอมใจอ่อนให้ฉันและฉันจะพยายามกว่านี้
"ขอแค่ฟ้าเป็นคนในความทรงจำของเขาบ้าง...ก็ยังดี"
ฉันพูดเสียงสั่น น้ำตามันไหลออกมาเมื่อพูดจบประโยค ฉันปล่อยให้มันไหลออกมาทั้งๆที่ฉันจะไม่ค่อยร้องไห้ให้ใครเห็นนักหรอก
"พี่ช่วยฟ้าได้มั้ย..."
"..."
"นะคะ"
*Paradise Pub
"สวัสดีค่ะ"
ฉันยกมือไหว้ทักทายผู้ชายคนหนึ่งที่มีอายุประมาณสี่สิบต้นๆพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานๆที่ฉันฝืนจนสุดพลังไปให้เขาแล้วทิ้งก้นลงนั่งบนโซฟาข้างๆเขาเพื่อทำตามหน้าที่ ในผับนี้หน้าที่ของฉันคือเป็นเด็กนั่งดริ๊งให้กับแขกวีไอพีระดับเฟิร์สคลาสบนชั้นนี้ ที่นี่เป็นชั้นบนสุดของผับจะเป็นระดับของแขกวีไอพีซึ่งบนชั้นนี้ก็ยังแบ่งไว้อีกโซนคือโซนของวีไอพีเฟิร์สคลาสเป็นโซนของลูกค้าที่กระเป๋าหนักจริงๆและค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะมีโต๊ะสำหรับลูกค้าแค่เพียงเจ็ดชุดเท่านั้น พื้นของชั้นนี้จะถูกยกระดับให้สูงขึ้นอีกและจะถูกล้อมรอบด้วยกระจกสีชาอีกชั้นพร้อมกับการแสดงและเด็กนั่งดริ๊งระดับท็อปของผับที่จะคอยบริการลูกค้าโดยหนึ่งในนั้นคือฉันด้วย
การที่ชีวิตฉันดิ่งลงเหวทำให้ฉันเจอคนอยู่หลายประเภทยิ่งตอนที่ฉันได้มาทำงานในสถานที่แบบนี้ฉันก็ยิ่งเข้าใจ เมื่อก่อนตอนที่ฉันมีทุกอย่าง เงินทอง ลาภยศ ทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง ฉันเคยไม่ชอบผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนแบบนี้ในสายตาฉันพวกผู้หญิงพวกนั้นอยู่ในฝั่งไม่ดีและฉันไม่เคยคิดจะลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยวด้วย เมื่อก่อนฉันนิสัยไม่ดี ฉันหยิ่ง ฉันดูถูกคน และมันก็เหมือนเวรกรรมตามทันเมื่อฉันเคยมองคนพวกนั้นเป็นยังไง...วันนี้ฉันถึงกลายมาเป็นแบบนั้น
"วันนี้ฉันโชคดีนะที่ได้หนูมานั่งดริ๊งด้วย"
แขกวีไอพีคนนั้นยิ้มให้ฉันพร้อมกับไล่สายตามองฉันตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงต้นขาขาวๆที่โผล่พ้นชุดเดรสสั้นออกมา
"ฉันคงมีความสุขมาก"
"ค่ะ"
ฉันตอบรับสั้นๆพร้อมกับยิ้มบางๆให้เขา ผู้ชายคนนี้ดูนิ่งเขาไม่ได้แสดงออกมามากมายว่าอยากจะแตะอั๋งฉันเหมือนพวกป๋าหรือเสี่ยคนอื่นๆ
"วันนี้หนูปลายฟ้าสวยนะ"
แปะ~
แต่เขาก็กลับมือไวกว่าที่คิด เพราะเมื่อเขาพูดใบหน้าเขาฉาบไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแต่มือของเขาก็วางแหมะลงบนต้นขาฉันแบบเนียนๆด้วย
เหอะ!เหมือนกันหมดนั่นแหละ --
"ขอบคุณค่ะ"
ถึงฉันจะไม่ชอบใจสิ่งที่เขาทำแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ส่งยิ้มไปให้แล้วขยับขาออกมาจากฝ่ามือเขาแบบเนียนๆเหมือนกัน
"ฟ้าว่าฟ้าชงเครื่องดื่มให้ดีกว่าค่ะ"
ฉันเบี่ยงตัวให้เขาเล็กน้อยเพื่อหันไปหยิบขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แก้วโซดาและน้ำแข็งมาผสมให้เขา
"คุณชอบแบบไหนคะ?"
ฉันหันไปถามเขาเพื่อที่จะได้ผสมเครื่องดื่มได้ตามที่เขาต้องการ
"อืม..."
เขาครางในลำคอก่อนจะเอียงคอมองหน้าฉันแล้วยิ้มอ่อนโยน เขาคงเป็นพวกเชือดแบบนิ่มๆสินะ แบบนี้ล่ะน่ากลัวกว่าพวกนั้นอีก
"เธอคิดว่าเธอเป็นคนแบบไหนล่ะ"
เขาย้อนถามฉัน
"ฉันชอบรสชาติที่เป็นแบบเธอ"
แหวะ อาเจียนตอนนี้เลยได้มั้ย
"ถ้างั้นฟ้าชงตามถนัดนะคะ"
ฉันฝืนยิ้มให้เขาแล้วหันมาผสมเครื่องดื่มต่อไม่วายที่จะกรอกตาไปมาลับหลังเขาด้วย
หมับ~
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆเขาก็ตวัดเรียวแขนโอบไหล่ฉันไว้ ฉันรีบชงเครื่องดื่มให้เสร็จแล้วหันมาหาเขาพร้อมกับยกแก้วไปจ่อที่ปากเขาด้วย
"ดื่มมั้ยคะ"
"อื้ม"
เขายิ้มพร้อมกับดื่มเหล้าที่ฉันเป็นคนป้อนเข้าปากเขาเอง
เคร้ง~
ฉันวางแก้วเหล้าลงก่อนจะเหลือบมองแขนของเขาที่โอบพาดผ่านไหล่ข้างซ้ายไปจนถึงหัวไหล่อีกข้างแล้วยังไม่วายใช้ฝ่ามือลูบไปมาที่หัวไหล่ข้างนั้นของฉันด้วย
"อืม รสชาติดีเชียวล่ะ"
พอฉันหันไปมองหน้าเขา เขาก็ทำแค่ยิ้มแล้วเอ่ยชมฝีมือการชงเหล้าของฉัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย--
"ขอบคุณคะ"
"เอาอีกสิ ฉันรออยู่"
"ค่ะ"
-วายุ-
ฟลุ่บ~
"ยังไม่นอนเหรอ?"
เสียงหวานของผู้หญิงที่ทรุดลงนั่งบนขอบเตียงใกล้ๆกับตรงที่ผมนอนอยู่พูดขึ้นทำให้ผมที่นอนเหม่อลอยอยู่ได้สติ
"ยังปวดหัวอยู่มั้ย"
นีน่าถามพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาลงบนหัวผมตรงตำแหน่งที่มันมักปวดเป็นประจำเวลาที่ผมคิดมากหรือมีอะไรบางอย่างทำให้ผมคิด
"ไม่แล้วล่ะ"
ผมตอบพลางยิ้มบางๆให้เธอ
"ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงมากนะ"
นีน่าพูดแล้วก้มลงจูบเบาๆบนหน้าผากผม
"นอนพักเถอะวายุ"
เธอเอ่ยบอกพร้อมกับเอนหลังพิงหัวเตียง ผมพยักหน้ารับและยอมหลับตาลงอย่างว่าง่าย
'ฉันไง...'
แต่พอหลับตาภาพของใครบางคนก็แว่บเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง จริงๆมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่ผมไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งในงานเลี้ยงของโรงเรียนเก่า แน่นอนว่าผมจำเธอไม่ได้เพราะผมความจำเสื่อมแต่เธอกลับบอกว่ารู้จักผม จริงๆก็มีคนพูดแบบนี้เยอะนะแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็เออออห่อหมกไปแบบผ่านๆยังไงซะคนพวกนั้นก็แค่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ผมกลับ...เพียงแค่มองแววตาเศร้าๆของเธอผมก็รู้สึกวูบไหวแปลกๆ ตอนแรกมันว่างเปล่าแต่หลังจากนั้นมันก็มีภาพอะไรบางอย่างแว่บเข้ามาแต่มันรวดเร็วมาก มันวนไปมาอย่างรวดเร็วจนผมสับสนเพราะจับใจความอะไรไม่ได้เลยและมันทำให้ผมเริ่มปวดหัว มากขึ้นแล้วก็มากขึ้น
จนนีน่ากับพวกเพื่อนๆผมเข้ามาแล้วพาผมออกจากเหตุการ์ณนั้น นีน่าพาผมกลับคอนโดทันทีจากนั้นก็ให้ผมกินยาแล้วนอนพัก
"หืม ทำไมไม่นอนล่ะ"
นีน่าหันมาเห็นผมที่ลืมตาขึ้นอีกครั้งเธอก็ถามอย่างแปลกใจ ผมน่ะอยากจะหลับแต่ภาพนั้น...
ผมจำใบหน้าผู้หญิงคนนั้นได้ติดตา และผมอยากรู้...
"นีน่า"
"ว่าไง"
นีน่ายิ้มหวานพลางโน้มตัวลงมาหาผมที่นอนหงายอยู่ ผมช้อนตามองเธอก่อนจะพูดคำถามที่อยากรู้ออกมา
"ผู้หญิงคนนั้น..."
เธอชะงักทันทีที่ผมถามออกไป เธอคงรู้ว่าผมหมายถึงใครด้วย
"บอกว่ารู้จักฉัน"
"..."
แว่บหนึ่งผมเห็นแววตาของเธอไหววูบก่อนที่มันจะหายไป
"ใคร?"
คำถามสั้นๆของผมทำให้นีน่านิ่งไปเธอเงียบพลางเม้มปากแน่นจนกระทั่งผมยื่นมือไปจับต้นแขนเธอ เธอถึงได้ส่งรอยยิ้มบางๆให้ผม
"ถ้านายรู้...นายต้องไม่อยากรู้จักเธออีกครั้งแน่"
นีน่าบอกผมแบบนั้นและเป็นผมเองที่รู้สึกไหววูบแปลกๆ มันเหมือนกับว่าผู้หญิงคนนี้ทำร้ายผมเลย
"ใคร..."
ผมถามซ้ำ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากรู้ว่าเธอเป็นใครอยู่ดี
"ปลายฟ้า..."
ในที่สุดนีน่าก็ตอบออกมา เธอลูบผมของผมแผ่วเบาแล้วพูดต่อ
"ผู้หญิงคนนี้เป็นคนทำร้ายนาย"
