บท
ตั้งค่า

บทที่4 ความบังเอิญ

กานพลูยืนถอนหายใจยาว พลางขยับหมวกเก๊บยืนอยู่ริมถนนหน้าโครงการหมู่บ้านจัดสรร มือถือไม้ติดธงโครงการหมู่บ้าน เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยสายตาที่มุ่งมั่น

"แค่โบกธงเรียกลูกค้าแค่นี้ คนอย่างฉันจะต้องไม่ทำพลาดแน่นอน ฉันจะตั้งใจทำงานจะสู้เพื่องาน"

ว่าแล้วกานพลูก็โบกสะบัดธงเรียกรถที่ผ่านไปมาอย่างตั้งอกตั้งใจที่สุด

โรงแรมโอเรียนน่า เดอะแกรนด์โฮเทล

"คุณเต้ครับ นี่ครับเรซูเม่ของกานพลูครับ"

เอกภพหยิบแฟ้มสมัครงานของกานพลูมาส่งให้เตชินเปิดอ่าน

"จะว่าไปมันก็บังเอิญจริงๆนะครับ ที่คุณเต้ว่าคุ้นๆหน้า ก็ไม่แปลกหรอกครับ ดูเหมือนเธอจะเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยที่คุณเต้เรียนจบมานะครับ"

เตชินเลิกคิ้วสูงมองเอกภพอย่างสงสัย  ก่อนจะอ่านเรซูเม่ของกานพลู

"นิเทศน์ศาสตร์ สาขาการตลาดและการจัดการ ถนัดการจัดงานนิทรรศการและการผลิตอีเว้นท์   ดรอปเรียนมาสองปีแล้วเหรอ ทำไมล่ะคะแนนออกจะดีนี่"

เตชินถามสิ่งที่ไม่อยู่ในแฟ้ม เอกภพยิ้มให้เจ้านาย เขารู้ดีว่าเตชินต้องถามเพิ่มเติมแน่ ดังนั้นซุปเปอร์เลขาอย่างเขาย่อมต้องหาข้อมูลมาอยู่แล้ว

"เป็นปัญหาครอบครัวครับ  5 ปีก่อนคุณพ่อของเด็กกานพลูเนี่ย ป่วยหนักทีเดียวครับ เงินที่มีหมดไปกับการรักษา ถึงกับต้องขายโฮมเสตย์ของครอบครัวไปเพื่อการนี้เลยครับ ตอนนี้สมบัติที่มีเหลือแค่สวนกุหลาบตัดดอกขายที่ยังติดจำนองอยู่เลย"

"อืม งั้นที่เลือกเรียนสาขานี้ก็คงเพราะต้องการช่วยบริหารกิจการครอบครัวสินะ แล้วใครซื้อไปล่ะ"

มาถึงตอนนี้เอกภพหัวเราะแถมยิ้มกรุ้มกริ่ม

"คุณเต้ลองทายดูสิครับ เขาว่าคนทำไม่สู้ฟ้าลิขิต ผมก็เพิ่งจะเคยเห็นเหตุบังเอิญขนาดนี้เป็นครั้งแรกนะครับ"

ยิ่งพูดยิ่งง เอกภพส่งแฟ้มอีกเล่มให้เตชินรับมาเปิดดู มันคือโครงการโรงแรมสไตล์รีสอร์ท ที่เตชินกำลังรวบรวมข้อมูลโครงการเพื่อจะเสนอในที่ประชุม ปลายเดือนนี้

"ผมเหรอ นี่ผมเป็นคนซื้อโฮมเสตย์นั่นอย่างงั้นเหรอ"

"ถูกต้องเลยครับ"

ล็อบบี้โรงแรม

"ลูกค้าบ่นเรื่องค่าอาหารในโรงแรมอีกแล้วน่ะค่ะ หัวหน้าหลิน เขาบอกว่าขึ้นราคาเกินไปหรือเปล่า เพิ่งมาพักเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง ราคาต่างกันมาก  ฉันอายจะแย่พูดไม่ถูกเลย"

เตชินกำลังจะออกไปข้างนอกเขาบังเอิญได้ยินเข้าพอดี

"เกิดอะไรขึ้นเหรอ มีใครอยากอธิบายให้ผมฟังบ้างใหม"

"อุ้ย! ผู้จัดการ ม..ไม่มีอะไรค่ะ"

สีหน้าแผนกต้อนรับดูไม่ปกติ ต่างคนต่างมองหน้ากันสีหน้าแปลกๆ เตชินจ้องมองหัวหน้าแผนกที่กำลังหลบสายตาด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ไม่มีใครกล้าตอบ

ก่อนที่เตชินจะได้คำตอบอะไร  ลูกค้าท่านหนึ่งมีท่าทางหงุดหงิดเดินเข้ามาพร้อมกับรายการใบเรียกเก็บค่าอาหารในการจัดงานสัมมนาบนห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม

"นี่มันอะไรกัน ผมเข้าใจนะ ราคาค่าอาหารมันก็มีขึ้นลงตามสภาพเศรฐกิจ แต่นี่ขึ้นถึง60% มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ ผมจองห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมคุณมาโดยตลอดแล้วก็เพิ่งจะจัดประชุมไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง จู่ๆเมื่อวานมาขึ้นราคากันขนาดนี้ ทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยไหม"

"เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมเตชินเป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมครับ ผมขอดูใบรายการสักหน่อยได้มั้ยครับ"

ลูกค้าส่งใบรายการให้เตชินรับมาดู เขาอ่านแล้วสีหน้าไม่สู้ดี แต่ยังรักษาอาการด้วยการหันไปยิ้มกลบเกลื่อนกับลูกค้า

"คิดว่าคงมีอะไรเข้าใจผิดกันครับ ผมจะจัดการทำใบรายการใหม่ให้นะครับ"

เขากล่าวพร้อมกับส่งเอกสารในมือให้พนักงาน

"คุณไปจัดการปรับราคาในบิลให้เท่ากับราคาในวันที่ตกลงจองห้องนะ  ให้ไวอย่าให้ผมต้องมาถามซ้ำ ส่วนคุณหลิน คุณแจ้งไปที่ฝ่ายจัดซื้อ เอาหนังสือสัญญาตกลงจัดซื้ออาหารสดและเบเกอรี่ส่งไปที่ห้องผมเดี๋ยวนี้"

แผนกต้อนรับหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ดูมันมีลับลมคมนัยไม่น้อย แต่เตชินไม่อยากซักไซ้อีกเพราะยังมีธุระอื่นต้องจัดการ

เขาเดินออกจากเคาเตอร์แผนกต้อนรับแล้วโทรหาเลขาเอกทันที

"เอกช่วยรวบรวมรายรับรายจ่ายช่วงสามเดือนมานี้ของโรงแรมเรามาที จะให้ดีขอของสาขาย่อยอีกสามแห่งมาด้วยผมอยากตรวจสอบอะไรหน่อย เรื่องนี้ห้ามให้คุณอาวัลลภรู้เด็ดขาดเข้าใจรึเปล่า"

เตชินกล่าวจบก็กลับขึ้นไปที่ห้องทำงาน เอกสารหนังสือสัญญาจัดซื้อวางอยู่บนโต๊ะ เขาเปิดข้อมูลเทียบราคาเก่าใหม่ถึงได้รู้ว่า ของขึ้นราคาไปมากแต่ยังได้รับการอนุมัติโดยที่เขาไม่ได้รับรู้

"คุณอาวัลลภ ทำไมถึงทำอะไรแบบนี้โดยไม่ปรึกษาเรากันนะ"

เขานึกอะไรได้บางอย่าง หยิบแฟ้มสัญญาซื้อขายออกจากห้องไปทันที

ซัพพลายเออร์ที่ส่งอาหารสดให้ทางโรงแรมของเขา โดยปกติจะติดต่อกับฝ่ายจัดซื้อโดยตรงผ่านการอนุมัติตกลงราคาซื้อขายโดนผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น

การที่คุณอาวัลลภซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่และเป็นเพื่อนพ่อของเตชินทำอะไรข้ามหัวเขาไปแบบนี้ย่อมมีลับลมคมใน ทางเดียวที่จะรู้คือต้องไปดูด้วยตาตัวเอง

"วันนี้คุณเตชินให้เกียรติมาเยี่ยมถึงที่นี่เลยนะครับ ไม่ทราบมีเรื่องด่วนอะไรให้ผมช่วยครับเนี่ย อันที่จริงโทรมาก็ได้นะครับ"

ผู้จัดการใหญ่ของซัพพลายเออร์ออกมาต้อนรับ เตชินส่งเอกสารการจัดซื้อของเก่าและใหม่เปรียบเทียบราคาให้เขาดู

"เอ่อนี่มัน"

"ครับผมรู้ว่าคุณอาวัลลภเซ็นอนุมัติไปแล้ว แต่ผมอยากรู้ว่าจู่ๆ มีเหตุผลอะไรถึงได้ขึ้นราคาไปถึง60% ราคาท้องตลาดทั่วไปผมเช็คมาหมดแล้ว รวมถึงของที่คุณส่งให้โรงแรมคู่แข่ง ต่างก็ราคาถูกกว่าทั้งสิ้น มันหมายความว่ายังไงครับ"

ผู้จัดการมีสีหน้าเลิ่กลั่ก  เหมือนอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้า

"เรื่องนี้ คุณเตชินถามที่คุณวัลลภโดยตรงดีกว่ามั้ย ผมก็แค่คนค้าขาย อะไรที่มีส่วนแบ่งกำไรให้ผมไม่เสียหายผมก็ตกลงหมดอยู่แล้ว ผมพูดได้แค่ว่าคุณจะทำอะไรก็ระวังหน่อยถือว่าผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ"

คำเตือนของผู้จัดการ เตชินฟังดูก็รู้แล้ว เขาพยักหน้าเข้าใจ

"ได้วันนี้ถือว่าผมไม่ได้มา แต่ผมขอเตือน ถ้าผมมีหลักฐานว่าคุณร่วมมือกันฉ้อโกงส่วนต่าง ก็อย่าหาว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน ทางที่ดีแก้ไขหนังสือสัญญานี้ซะ ไม่อย่างงั้นผมจะยื่นหนังสือแจ้งกรมการค้าภายใน ว่าคุณโก่งราคาผู้บริโภคแล้วหาซัพพลายเออร์ใหม่"

เตชินออกจากโรงงานผลิตและจัดส่งอาหารสด ร้านเบเกอรี่ที่ส่งให้โรงแรมคงมีเหตุผลไม่ต่าง  ไม่จำเป็นต้องเข้าไปถามให้เสียเวลา

ผู้จัดการโรงงานผลิตรีบโทรแจ้งวัลลภทันทีที่เดินออกจากโรงงาน

"คุณเต้มาครับ ขู่ว่าจะร้องเรียนผม คุณวัลลภคุณต้องจัดการนะครับไม่อย่างงั้นข้อตกลงเรายกเลิกแน่ครับ ผมเองก็ต้องปกป้องกิจการตัวเองเหมือนกัน"

ในใจเตชินคิดกังวลหลายเรื่อง จนทำให้ไม่มีสมาธิ ถึงแม้จะกำลังขับรถขับรถตรงไปโครงการบ้านจัดสรรในเคลืออัครนันท์ ตามกำหนดการเดิมที่จะเข้าไปตรวจงาน แต่ใจกลับลอยไปนึกถึงแต่เรื่องแปลกๆ  ที่เจอในวันนี้

จนกระทั่งมาสะดุดตากับใครบางคน ขณะขับรถผ่านหน้าโครงการ  เด็กสาวคนหนึ่งหน้าคุ้นๆ ยืนโบกธงเรียกลูกค้า ทำเอาเขาต้องหันมองจ้องอย่างไม่วางตา พลางอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ตึงง!! เสียงชนท้ายรถทำเอาเตชินเกือบหน้าทิ่ม เพราะมัวแต่มองกานพลูเลยเผลอเหยียบเบรคกะหันหัน รถที่ตามท้ายมาเบรคไม่ทันจึงชนเอาท้ายรถเขาจังๆ

เตชินลงจากรถมาดูความเสียหาย พลางกดโทรศัพท์โทรเรียกประกัน แต่ดูเหมือนเจ้าของรถที่ชนท้ายจะไม่ยอมคุยกันดีๆ เขาลงจากรถปราดเข้ามาหาเตชินทันที

"แกขับรถภาษาอะไรวะ เบรคแบบนี้อยากตายรึไง"

ชายเจ้าของรถรูปร่างใหญ่กว่าเตชินค่อนข้างมากเขาเข้ามากระชากคอเสื้อเตชินจนมือถือเขาหล่นลงพื้นแตกกระจาย

กานพลูเห็นท่าไม่ดี รีบเอาธงในมือสะบัดปัดไปทางชายคนนั้นจนเขาปล่อยมือจากเตชินแล้วถอย

"พี่ชายใจเย็นๆ นะคะ ค่อยๆคุยกันดีๆ ก็ได้ ค่ะ"

"อย่ามายุ่งถอยไปเลย"

ชายร่างใหญ่ไม่ยอมรามือเขาเดินเข้ามาหากานพลูกับเตชิน กานพลูชักเท้าถอยจนเผลอลื่นเกือบจะล้มหงายหลัง เตชินคว้าตัวเอาไว้แล้วดึงเธอหันกลับมาทางเขาได้ทันพอดี

"คุ...คุณนี่  "

กานพลูเบิกตากว้าง เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเตชินโดยไม่ได้ตั้งใจตาต่อตาประสานเข้ากันพอดิบพอดี ไม่รู้เพราะอะไร เธอถึงรู้สึกว่าราวกับเคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน แก้มสาวน้อยพลันแดงก่ำอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ความรู้สึกเหมือนกับมีรสสัมผัสอ่อนนุ่มที่คุ้นเคยที่ริมฝีปากเกิดขึ้นในสมองทันที ที่เห็นดวงตาคมขนตายาวเรียงเป็นแผงและคิ้วเข้มของเตชิน  เธอรีบผลักอกเขาออกจากตัวทันที

เตชินเองก็รู้สึกไม่ต่าง เหมือนมีอะไรสะกิดใจบางอย่างทำให้เขาเผลอเม้มและเลียริมฝีปากตัวเองไปอัตโนมัติ

รปภ.หมู่บ้านเข้ามาขัดขวางชายคนนั้นเอาไว้ เมื่อเจอคนมากเขาจึงยอมสงบแต่โดยดี

พนักงานเคลมประกันมาแล้ว เตชินยอมรับว่าผิดที่เบรคกะทันหัน แต่ทางนั้นเองก็ขับชิดมากไป สรุปจึงให้ต่างฝ่ายต่างยอมเสียค่าธรรมเนียมประกันเพิ่มเอาเองเลิกแล้วต่อกัน

เตชินนั่งมองหน้ากานพลูซึ่งยืนก้มหน้าก้มตา เดาเอาว่า ในเมื่อโครงการนี้เป็นของตระกูลอัครนันท์เธอคงไม่แคล้วโดนไล่ออก แต่ผิดคาด

"เด็กคนนี้ทำงานดีผมชอบ ให้เธอเข้าออฟฟิศมาอยู่ฝ่ายขายเถอะ"

"อ่าเอาอย่างงั้นเหรอครับท่าน แต่เธอ ใช้วุฒิ ม.6 มาสมัครนะครับ"

เตชินมองหน้าผู้จัดการโครงการแล้วทำตาดุใส่ จนผู้จัดการอ้าปากค้าง

"ก็ ก็ได้ครับท่าน ท่านว่าไงก็ตามนั้น"

กานพลูแอบยิ้มดีใจ ที่แท้อีตาผู้จัดการใหญ่จอมเฮี้ยบก็ใจดีเป็นเหมือนกัน

"กานพลู พรุ่งนี้ส่งเรซูเม่ระบุผลการเรียนที่มหาวิทยาลัยของเธอมาให้เขาซะ ทำงานดีๆล่ะ ฉันจะเข้ามาดูบ่อยๆ"

"ค่ะฉันจะตั้งใจทำงานค่ะ"

กานพลูรับปากเป็นมั่นเหมาะพลางส่งยิ้มสดใสให้เตชิน รอยยิ้มนั้นทำให้เตชินใจเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่คุ้นเคยกับความรู้สึกที่ยู่ในใจนี้ มันทำเอาเขารู้สึกแปลกๆ ไม่กล้าสบตากานพลู 

รถของเขาถูกส่งไปอู่แล้ว พอคิดว่าจะโทรหาเลขาเอกให้มารับก็นึกได้ว่าโทรศัพท์ร่วงตกพื้นเสียซะแล้ว

เตชินส่ายหน้าหงุดหงิดแบบนี้จะกลับไปโรงแรมได้อย่างไร พอหันกลับไปมองหน้าพนักงานแต่ละคนก็รีบหลบสายตาไม่กล้าอาสาเพราะเกรงกลัวเขากันทั้งนั้น

"เอ่อคุณเต้จะกลับโรงแรมเหรอคะ  ฉันเลิกงานพอดี ให้ฉันไปส่งมั้ยคะ"

กานพลูขันอาสา เตชินนึกสงสัยว่าจะเอารถอะไรไปส่งเขา

พอเห็นรถถึงกับอึ้ง

"นี่เธอจะให้ฉันซ้อนมอเตอร์ไซด์เธอกลับงั้นเหรอ คันนี้เนี่ยนะ"

เตชินไม่อยากจะเชื่อ ไอ้ครั้นจะเรียกรถแท็กซี่ก็ไม่เคยใช้บริการมาก่อน รวมถึงเขาเองก็ไม่ได้พกเงินสด

"มาค่ะขึ้นมาเลย  รับรองฉันพาคุณไปถึงแน่ๆ"

เตชินหัวเราะเบาๆเป็นเชิงเยาะเย้ย ในความมั่นใจของกานพลู

"เอางั้นก็ได้มาลองดูกัน ดูสิว่าจะไปถึงจริงมั้ย"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel