
บทย่อ
นิยายรักโรแมนติกฟินๆของประธานรูปหล่อที่ไม่ประสาเรื่องจีบหญิง มาตกหลุมรักเด็กสาวแสนซนสู้ชีวิต ที่นำความสดใสมาสู่หัวใจของเขา
บทที่ 1 รสเปปเปอร์มิ้นท์
เชียงใหม่
"มาเร็วยัยกาน คอนเสิร์ตจะเริ่มแล้วนะ"
"รอฉันด้วย วิ ทำไมคนเยอะอย่างงี้เล่า"
วิภาดากวักมือเรียกเพื่อนรักให้รีบฝ่าฝูงชนเข้าไปข้างใน คอนเสิร์ตการกุศลกำลังจะเริ่ม
เธอกับกานพลูเรียนและเติบโตมาด้วยกันจนจบมัธยมปลาย วันนี้ที่มหาวิทยาลัยมีคอนเสิร์ตของพี่เต้นักร้องหนุ่มที่กำลังโด่งดังและเป็นนิสิตเก่าของในมหาวิทยาลัยมาเปิดคอนเสิร์ตการกุศลหารายได้เข้าวิยาลัยเพื่อการศึกษา
ที่สำคัญหางตั๋วคอนเสิร์ตนี้มีรางวัลใหญ่รออยู่ หลังจบคอนเสิร์ตจะมีการจับฉลาก คนที่พี่เต้จับหมายเลขหางตั๋วขึ้นมาได้ ก็จะสามารถขอให้พี่เต้ทำอะไรให้ได้ 1อย่าง
"นั่นไงนั่นไงพี่เต้มาแล้ว"
เป็นหนุ่มหล่อในอุดมคติก็ว่าได้ ไม่ว่ามองมุมไหนก็หล่อขั้นเทพ คิ้วหนา ตาคมมีสองชั้น ริมฝีปากอิ่มน่ามอง สันกรามคมสวย รูปร่างสูงโปร่ง ที่สำคัญยิ้มเก่งมาก เขาใส่เสื้อยืดรัดพอดีตัว เห็นกร้ามอกแน่นๆ ชัดเจน ท่าเต้นก็เร้าใจ
ทำเอาสองสาวใจบางไปหมด ไม่ต่างจากสาวๆ คนอื่นๆที่กรี๊ดกันลั่นเวทีคอนเสิร์ต
หลังจากกรี๊ดกันคอแหบคอแห้งก็ถึงเวลาสำคัญ
"เอาล่ะครับทุกท่านเวลาที่รอคอยกำลังจะมาถึงแล้วพี่เต้จะทำการจับฉลากรางวัลแด่ผู้ที่มาร่วมทำบุญกุศลในครั้งนี้นะครับ เชิญพี่เต้ครับ"
พิธีกรกล่าวเชิญพี่เต้มาจับฉลากหมายเลข วิภาดาตื่นเต้นมาก แต่กานพลูคิดในใจว่าคนเยอะขนาดนี้มีหรือจะโดนจับขึ้นมา ขืนได้คงไม่ต่างจากถูกหวย
"วิแกอย่าไปหวังมากเลยบัตรตั้ง1500ใบ แกจะไปมีหวังเหรอ"
"ยัยกาน พูดให้กำลังใจอ่ะเป็นมั้ย เขาเรียกบุญพาวาสนาส่งย่ะ แค่ หนึ่งในพันห้า ไม่ใช่ล้านห้านะยะถึงจะไม่ถูก ยังไงก็ได้ลุ้น"
วิภาดามองเพื่อนส่งสายตาค้อน จู่ๆมาพูดดับฝันกันหน้าตาเฉย
"แล้วถ้าได้ล่ะจะขออะไร"
คำถามของกานพลูทำเอาวิภาดาทำสีหน้าเคลิ้มฝัน ท่าทีเหม่อลอย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"ฉัน ฉันอยากให้เขากอดฉัน ได้ลูบๆคลำๆซิกแพ็คเขาสักหน่อยก็ยังดี"
คำตอบของเพื่อนทำเอากานพลูทำหน้าแหย ช่างเป็นคำขอที่กล้ามาก แถมหื่นนิดๆ
"แล้วเราก็ได้ผู้โชคดีแล้วครับ ดูหางบัตรคอนเสิร์ตในมือตัวเองให้ดีๆนะครับ หมายเลย 0...2...7....."
วิภาดากรี๊ดลั่น 3หมายเลขผ่านไปล้วนตรงกับเธอทั้งสิ้นเหลือเพียงเลขสุดท้าย ไฟสปอตไลน์ส่องมาที่แถวที่นั่งของเธอ
"4..ครับ ขอเชิญผู้โชคดีครับ"
เลขสุดท้ายทำเอาวิภาดาหันมาจ้องหน้ากานพลูทำตาโต ซึ่งเจ้าตัวก็ยังไม่รู้เรื่องมัวแต่ก้มหน้าก้มตาหยิบลูกอมมาใส่ปาก
"ขอเชิญขึ้นมาบนเวทีเลยครับ สาวสวยของเรา เชิญหมายเลข0274 เลยครับ"
แสงไฟส่องลงมาที่กานพลูสว่างจ้า เสียงคนในหอประชุมต่างกรี๊ดเฮกันลั่น กานพลูหันไปส่ายหน้ากับวิภาดา
"ไม่ ไม่เอา"
"ไปสิยัยกาน รออะไรเล่าไปเลย"
วิภาดาทั้งผลักทั้งคะยั้นคะยอ นักร้องหนุ่มยืนยิ้มส่งสายตาหวานมาให้ แถมยังกวักมือเรียกอีก
"ขึ้นมาเลยครับไม่ต้องเขิน ผมไม่จับกินหรอกน่า"
เสียงไพเราะน่าฟังของเขากล่าวเชื้อเชิญ เมื่อทุกสายตาจ้องมาไม่ขึ้นก็ไม่ได้
กานพลูก้าวขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ตแบบไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่ามาทำอะไรที่นี่ เธอได้แต่โบกมือเบาๆ ในใจก็นึกอยู่ว่าใครก็ได้ช่วยพาฉันลงไปที
นักร้องหนุ่มเห็นท่าทางยึกยักของเธอแล้วรู้สึกรำคาญนิดหน่อยจึงเดินเข้าไปจูงมือลากเธอมากลางเวที ก่อนจะเอียงหน้ามากระซิบเบาๆ
"นี่คุณ ทำหน้าให้มันเต็มใจหน่อยไม่ได้รึไง ใครๆเขาก็อิจฉาคุณกันทั้งนั้น ดูทำท่าเข้าสิ เดี๋ยวเขาก็นึกว่าผมบังคับคุณมาหรอก"
นักร้องหนุ่มกล่าวพลางหันมายิ้มให้แฟนเพลง กานพลูช้อนตามองเขา ในใจอยากจะเถียงแต่คนเยอะจะทำลายบรรยากาศสนุกสนานของคนอื่นเปล่าๆ
เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆให้คนดู ในขณะที่พิธีกรเริ่มยิงคำถาม
"คุณชื่ออะไรครับ แนะนำตัวหน่อย"
"กาน เรียกว่ากานเฉยๆก็พอค่ะ"
"รู้สึกยังไงครับที่เป็นผู้โชคดี"
"รู้สึกกลัวค่ะ"
คำตอบนี้ทำเอาทุกคนในคอนเสิร์ตเงียบกริบจ้องกานพลูเป็นตาเดียว
"เอ่อคือกลัวว่าคนอื่นจะอิจฉาค่ะ"
คำตอบนี้ทำให้เสียงกรี๊ดกลับมาอีกครั้ง พิธีกรถึงกับถอนหายใจโล่งอก
"คุณกานทราบนะครับว่ารางวัลพิเศษคือคุณจะขออะไรก็ได้จากนักร้องของเรานะครับ ยกเว้นขอเป็นแฟนนะครับ"
พิธีกรกำลังพยายามเรียกเสียงฮา แต่ที่ฮาไม่ออกคือคนที่ได้รางวัล
"คิดดีๆก่อนตอบนะครับ คุณกานจะขออะไรครับเชิญขอมาเลย"
กานพลูหันไปสบตาเพื่อนรัก เหมือนอยากขอความช่วยเหลือ วิภาดาส่งซิกบอกให้กอดพี่เต้นักร้องหนุ่ม แต่เธอไม่อยากทำเอาแต่ส่ายหน้า
ในช่วงเสี้ยววินาทีแห่งการลังเลกันนั้น พิธีกรก็ถามย้ำเร่งรัดจะให้เธอตอบออกมาให้ได้ ในที่สุดก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
"จูบเลย จูบเลย จูบเลย"
ผู้คนในหอประชุมต่างพากันตะโกนเป็นเสียงเดียว กานพลูโบกไม้โบกมือปฏิเสธ ไม่ทันไร มือใหญ่ของนักร้องหนุ่มก็โอบเอวเด็กสาวรั้งเข้ามาหาตัวแบบกะทันหัน
เธอใช้สองมือดันหน้าอกแน่นแข็งปึ๊กของเขาเอาไว้เพื่อขืนตัวไม่ให้แนบชิดไปกว่านี้แต่สู้แรงไม่ไหว
เขาใช้ฝ่ามือประคองแก้มของกานพลูให้เธอเงยหน้าขึ้นมา แล้วประทับริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้นลงไปกับริมฝีปากอิ่มของเด็กสาว
กานพลูเบิกตาโพลงด้วยความตระหนก ขนตายาวงอนของชายหนุ่มที่หลับตาพริ้มอยู่ในระยะสายตา ปลายจมูกโด่งเป็นสันจิ้มอยู่ที่ข้างแก้มของเธอ เขาเม้มริมฝีปากเธออย่างเร่าร้อน
"อืมรสเปปเปอร์มิ้น"
เขาพึมพำเบาๆ ไม่ทันไรเขาก็ทำบางอย่าง ทึ่ทำให้เด็กสาวไร้เดียงสาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
"อ๊ะ ลิ้น ทำไมเขาดันลิ้นเข้ามาล่ะ ไม่นะ"
กานพลูนึกปฏิเสธในใจเพราะตอนนี้ปากของเธอไม่ว่างซะแล้ว นักร้องหนุ่มดันลิ้นเข้ามาชิมรสหวานกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ ที่เขาชอบมากในกระพุ้งแก้มนุ่มชุ่มฉ่ำของเธอ อย่างออกรส
เสียงฮือฮาดังลั่น ลีลารสจูบอันเร่าร้อนเรียกเสียงเฮได้สนั่น
สองขาของกานพลูหมดแรงเอาดื้อๆ ความรู้สึกรุ่มร้อนเข้ามาแทนที่ เธอเผลอร้องครางอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้นักร้องหนุ่มเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาทำเกินเหตุไปหน่อยจึงรีบถอนจูบ
เพี๊ยะ!
เสียงตบดังเท่าๆกับความเจ็บแสบที่แก้มซ้าย กานพลูล้างความอับอายเมื่อครู่ด้วยฝ่ามือเข้าเต็มแรง ก่อนจะวิ่งลงเวทีไปไม่สนทุกสายตาที่มองมา
เสียงผู้ชมเงียบงัน ตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น วิภาดารู้ว่ากานพลูคงจะตกใจมากจึงรีบออกจากคอนเสิร์ตวิ่งตามเพื่อนออกไปทันที
นักดนตรีมือกีตาร์เดินเข้ามาแตะไหล่เต้เบาๆ เพราะเห็นเขายืนอึ้งไปด้วยความตกใจเช่นกัน พลางเอ่ยถาม
"เป็นไงวะเต้ เป็นอะไรรึเปล่า"
"ไม่ ไม่เป็นไร"
"ขอโทษทุกๆท่านนะครับน้องเขาคงเขินน่ะครับ เอาล่ะครับนักร้องของเรายังเหลือบทเพลงสุดท้ายอยู่นะครับ เชิญฟังกันได้เลยครับ"
พิธีกรกล่าวแก้สถานการณ์ นักร้องหนุ่มยังหันมองที่ประตูทางออกอยู่ชั่วครู่แล้วถอนหายใจ ก่อนจะหันมายิ้มให้แฟนๆ แล้วแสดงต่อ
วิภาดารีบวิ่งตามไปดึงมือของกานพลู ที่วิ่งไปเช็ดน้ำตาไปเอาไว้
"กานรอก่อนเราขอโทษนะ"
กานพลูหันกลับมาทำหน้างอนแก้มป่อง เกิดมาไม่เคยอับอายอะไรเท่านี้มาก่อน
"ไม่ใช่ความผิดเธอหรอกวิ ไอ้คนบ้ากามนั่นต่างหากล่ะ ทำเกินไปแล้วจริงๆ คอยดูนะเจอหน้าที่ไหนจะเล่นงานให้เละเลยคอยดู"
วิภาดาทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"แหมพี่เต้หล่อออกขนาดนั้นไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ แล้วเป็นไงจูบเมื่อกี้แซ่บใช่ป่ะ"
วิภาดาแซวหยอกๆ แต่กานพลูไม่บ้าไปด้วย เธอหยิกแขนเพื่อนรักลงโทษซะเลย
"โอ้ยๆๆๆ เจ็บนะ โกรธอะไรเนี่ย"
"แซ่บบ้าบออะไรกัน นั่นมันจูบแรกของฉันนะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจเก็บไว้ให้คนรักของฉัน ดูสิสงวนความบริสุทธิ์ของริมฝีปากนี้มาตั้ง 18 ปี เพราะเธอเลยยัยวิ"
วิภาดาแบะปากหมั่นไส้ในความมั่นหน้าของเพื่อนรัก อยู่มา18กระรัต ยังไม่เคยมีแฟนสักคน ยังอุตส่าห์จะเก็บเฟิร์สคิสให้คนรักอีก
"เฮ้อเกรงว่าชาตินี้ถ้าไม่โดนพี่เต้เปิดบริสุทธิ์ริมฝีปากแกคงใยแมงมุมขึ้นแน่เลยยัยกาน"
วิภาดาบ่นบึมพัม ทำเอากานหันมองทำตาดุใส่
"เมื่อกี้พูดอะไรน่ะ พูดใหม่อีกทีสิ"
"ไม่ ไม่ได้พูดอะไรเลย..."
กานพลูใช้สายตาคาดคั้นเพื่อนรัก วิภาดารีบหันหนีเพราะกลัวจะโดนจับบีบคอให้ตาย แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังก็เป็นเหมือนกรรมการห้าม
"ค่ะ คุณแม่ เอ๋!? จะกลับเดี๋ยวนี้ละค่ะ"
"มีอะไรเหรอกาน"
"ที่สวนเกิดเรื่องน่ะต้องรีบกลับแล้ว"
หลังเวที
"อ้าวเฮ้ยจะรีบไปไหนวะเต้"
เพื่อนในวงเอ่ยทักเมื่อเห็นเต้รีบร้อนออกจากห้องแต่งตัว
"ฉันว่าจะไปดูเด็กสาวคนนั้นหน่อยน่ะ ไม่รู้เธอเป็นไง"
เพื่อนๆของเต้ พากันยิ้มยักหน้ายักไหล่ใส่กันเหมือนรู้ทันเพื่อน
"ไม่ใช่แกติดใจแม่สาวคนนั้นแล้วเหรอวะ เห็นนะเมื่อกี้น่ะ เร่าร้อนน่าดูเลย หน้าเด็กอย่างนั้น พรากผู้เยาว์ป่าววะเต้"
เต้จับผ้าขนหนูเช็ดหน้าขว้างใส่เพื่อนแก้เขิน แล้วเอ่ยเสียงดุ
"หุบปากไปเลยไป พรากบ้าพรากบออะไรกันวะ"
เพื่อนๆพากันหัวเราะสนุกสนาน ในขณะเดียวกันก็มีชายคนหนึ่งสวมชุดสูทดูเคร่งขรึมเปิดประตูเข้ามา เต้หันกลับมามองตามสายตาเพื่อนๆ
"คุณเต้ครับผมมารับคุณกลับบ้านด่วน ที่บ้านเกิดเรื่องแล้วครับ"
พ่อบ้านประจำตระกูลเอ่ยเสียงราบเรียบ ปกติเขาจะอยู่ข้างกายพ่อของเต้ตลอด การที่เขามาถึงที่นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา
"เกิดเรื่องกับคุณพ่องั้นเหรอ"
"รายละเอียดเอาไว้ไปคุยกันระหว่างทางเถอะครับ"
เต้รีบรุดตามพ่อบ้านไปด้วยความกังวลเป็นที่สุด และแล้วทุกอย่างในชีวิตเต้ก็เปลี่ยนไปนับแต่วินาทีนั้น
5 ปีผ่านไป....
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผิวขาว นัยตาคมเข้ม คิ้วหนา แม้จะดูหล่อเหลา แต่สายตาช่างเย็นชา ราวกับรูปปั้น
วันแห่งความฝันได้ผ่านพ้น เตชินนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของกิจการโรงแรมหรูชื่อดัง ยืนเหม่อมองออกไปทางพนังกระจกใส อยู่บนขั้นบนสุดของโรงแรม ที่ใหญ่ที่สุดในเคลือตระกูลอัครนันท์
แม้จะเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จด้วยอายุเพียง 29 ปี ทว่าท่ามกลางเสียงขื่นชม และได้รับความนับถือจากผู้คนอันมากมาย ในใจกลับว่างเปล่า
"พ่อครับ พ่อกำลังดูผมอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่มั้ยครับ เวลานี้พ่อภูมิใจในตัวผมรึยัง"
"คุณเต้ครับ การประชุมจะเริ่มแล้ว"
เขาหันมาตามเสียงเรียกจากเลขาส่วนตัวเอกภพ
"ฉันพร้อมแล้วเราไปกันได้เลย"
