9 คิดถึงพี่บ้างไหม
“ตกลง...จะให้ทำอะไรก็บอกมาสิ” ปรานไหมยอมในที่สุด เพราะรู้ว่าไม่สามารถใช้กำลังชนะภัคพงศ์ได้แน่นอน
“จูบพี่สิ” ปรานไหมหัวใจและตัวกระตุกวาบด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าภัคพงศ์จะรุกเธอนักขนาดนี้ นี้แค่มายังไม่ถึงชั่วโมง
“ตัว...เลือก...อื่น” ปราณไหมพูดด้วยเสียงที่เบาหวิว ขอทางเลือกอื่นแบบที่สมัยเด็ก ๆ ที่เธอมักใช้และขอกับพี่ภัคของเธอตลอด ถ้าภัคพงศ์ให้เธอทำอะไรแล้ว เธอทำไม่ได้ก็จะขอทางเลือกอื่นเป็นการทดแทน
“งั้นพี่จูบไหมนะ” ภัคพงศ์ยิ้มและตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ภายในใจลิงโลดดีใจอย่างมาก ปราณไหมกัดริมฝีปากตัวเองทันที ที่ได้ยินตัวเลือกอื่นที่ได้เอ่ยขอไว้ และน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจกับความรู้สึกที่ติดค้างในใจมาตลอด ภัคพงศ์ รับรู้ถึงความผิดปกติของปราณไหม จึงผลิกตัวเธอให้หันมาหาเขา
“ไหม...พี่ขอโทษ” ภัคพงศ์เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้า หัวใจเขาชาวาบขึ้นมาทันที นี้เขาทำร้ายปราณไหมถึงเพียงนี้เลยเหรอ
“ได้โปรดอย่าร้องไห้...อย่า เสียน้ำตา...พี่ไม่มีวันทำร้ายปราณไหมโดยเด็ดขาด”
“พี่ทำมันไปแล้ว” ปราณไหมตอบกลับคำพูดนั้น ภัคพงศ์กระชับอ้อมแขนมากขึ้น ใบหน้าของปรานไหมอิงแอบอยู่ที่หน้าอกแกร่งนั้น
“ไหมพี่ขอโทษ...ถ้าการกระทำอะไรของพี่ทำให้ไหมเสียใจ แต่พี่อยากบอกให้ไหมรู้ว่าพี่ไม่มีเจตนาให้มันเป็นแบบนั้น” ภัคพงศ์พูดพร้อมกับเชยคางปราณไหมขึ้นมา พร้อมกับคำหวานที่เอ่ยออกมาอีกว่า
“แต่ที่พูดไปเมื่อกี้มันออกมาจากใจและความต้องการของ พี่จริง ๆ” ภัคพงศ์พูดจบก็ประกบปากบางของปราณไหมทันทีด้วยความอ่อนโยน ปราณไหมเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้น เปิดทางให้กับลิ้นหนาของภัคพงศ์โลมเลียปลอบใจอยู่ที่ริมฝีปากบางนั้น โดยเขาต้องการให้ปราณไหมเป็นฝ่ายเปิดทางให้เขาด้วยความเต็มใจ
ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากปล่อยลิ้นล่วงล้ำไปในโพรงปากของปราณไหมทันที พร้อมเบียดกายเข้าหาปราณไหมจนตอนนี้กลายเป็นว่าปราณไหมอยู่ใต้ร่างของภัคพงศ์
ลิ้นหนาลุกล้ำเข้าไปได้ก็กอบโกยดูดกลืนความหอมหวานนั้นอย่างไม่รู้จักคำว่าพอ
ปราณไหมยกสองแขนโอบรอบคอภัคพงศ์เรียนรู้รองรับการจูบครั้งที่สองของชายคนเดิม เด็กสาวที่ตกไปในหลุมความรู้สึกที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่า ‘ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้’ มันคืออะไรกันแน่
หัวใจปราณไหมเต้นถี่เร็วจนทำให้เธอหายใจแทบไม่ทัน ภัคพงศ์ ค่อยๆ ถอนจูบออกอย่างอ่อนโยน แล้วย้ายมาสูดดมจุมพิตแผ่วเบาที่ลำคอเรียวนั้นแทน
“อื่อ!!..พี่ภัค...” ปราณไหมรับรู้ถึงความรู้สึกใหม่ประสบการณ์ใหม่อีกอย่างที่ภัคพงศ์ได้ส่งมอบให้กับเธอจนต้องร้องครางออกมาอย่างลืมตัว
“ไหม...ต้อง ไป...แล้ว” ปราณไหมพยายามร้องเตือนตัวเองมากกว่าจะเตือนพี่ชาย ภัคพงศ์อยากกักเก็บความรู้สึกที่ได้ปะทุออกมาแล้ว และนับจากวันนี้ไปเขาจะเดินหน้าขอน้องสาวคนนี้เป็นแฟนให้ได้
ภัคพงศ์ค่อยๆ ขยับตัวออกจากปรานไหมย้ายตัวเองไปนอนหงายอยู่ข้างๆ แต่ไม่ยอมลืมตา
“ครับ...แต่พี่ขอพักที่ห้องนี้แล้วกัน” ภัคพงศ์พูดแบบมี เลศนัยและยังไม่ลืมตา ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอเพื่อแสดงให้ปรานไหมรับรู้ว่าเขาต้องการนอนหลับพักผ่อนจริง ๆ
ปรานไหมลุกขึ้นนั่งและแอบมองเห็นเขานอนนิ่งๆ โอนอ่อนผ่อนตามความต้องการของเธออย่างง่ายได้ แต่ทำไมใจเธอความรู้สึกเธอถึงไม่ดีใจหรือรู้สึกดีสักนิด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกแย่มากกว่าเดิม
‘ทำไม?...’ ปรานไหมได้แต่ถามตัวเองในใจ และลุกจากเตียงเดินออกจากห้องไป
ภัคพงศ์ค่อยๆ เปิดเปลือกตามองตามแผ่นหลังของร่างบางที่เดินออกจากห้องไป ผู้หญิงที่เขาทั้งรักทั้งทะนุถนอมกว่าสิ่งใดในโลก ค่อยๆ ห่างสายตาออกไป
เขาจำต้องยอมปล่อยเธอเดินออกไปจากห้องแต่ไม่ใช่จากชีวิตเขาแน่นอน ปรานไหมพึ่งจะห่างจากเขาแค่ช่วงสี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น เพราะเขาต้องยุ่งวุ่นวายเรียนรู้กับธุรกิจมากมายของครอบครัว หลังจากที่เขาเรียนจบปริญญาโทด้วยวัยยี่สิบสี่ปีที่ประเทศอังกฤษ และทันทีที่เขาเรียนจบเขาก็รับช่วงต่อจากพ่อเขาทันที ตลอดสี่ปีนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาไปหาปรานไหม หญิงสาวที่เขาโอบอุ้มเลี้ยงดูมาตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ และตอนนี้เธอก็จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว คงถึงเวลาเหมาะสมที่เขาควรจะต้องบอกความรู้สึกนี้กับผู้เป็นบิดามารดาสักที
การกลับมาบ้านครั้งนี้ของเขาเพื่อมารับเธอไปอยู่ด้วยและอยากให้เธอเรียนต่อระดับปริญญาโทที่ประเทศไทย แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาต้องการ ภัคพงศ์ค่อนข้างหนักใจ เพราะเจ้าตัวดูท่าจะไม่ยอมท่าเดียว
ชายหนุ่มมองรอบห้องนอนของเธอตั้งแต่เยาว์วัย และเห็นกล่องของขวัญวางซ้อนเรียงรายโดยปราศจากการแกะประมาณยี่สิบกล่อง กล่องเล็กบ้างใหญ่บ้างวางไว้แบบไม่ได้รับความสำคัญและใส่ใจจากเจ้าของเลยสักนิด เพราะมันเป็นของขวัญจากเขา ภัคพงศ์จะส่งให้กับเธอทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ วันเด็ก วาเลนไทน์ วันคริสต์มาส และของขวัญวันเกิด แม้แต่วันที่เขากับเธอต้องห่างกันเป็นครั้งแรก ตอนนั้นปรานไหมอายุสิบขวบ และเขาอายุสิบแปดซึ่งตอนนั้นเขาจะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษ
