บท
ตั้งค่า

10 อย่าคิดว่าจะหนีพ้น

“เฮ้ย!...แกเป็นอะไร...เป็นฝ่ายนัดฉันออกมา...แต่แกกลับมานั่งยังกับคนไม่มีวันพรุ่งนี้ให้มาถึงยังไงยังงั้น” ตุ๊กตาเพื่อนสาวคนสนิทพูดขึ้น

“ตุ๊กตา...คืนนี้ขอไปนอนบ้านแกด้วยนะ” ตุ๊กตาหันไปมองเพื่อนที่อาการแปลกมาก ถามอย่างพูดอีกอย่าง

“ขอทำไม...ไหม..แกอยากไปตอนไหน...บ้านฉันก็ต้อนรับแกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว” ตุ๊กตาหันไปมองเพื่อนอีกครั้ง

“ขอบใจ” ปรานไหมพูดแค่นั้น ตุ๊กตาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะรู้จักปรานไหมเป็นอย่างดี ถ้าอยากเล่าก็คงเล่าออกมาเอง

ตุ๊กตาพยักหน้าแค่นั้นพร้อมเอื้อมมือไป ตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างเข้าใจและให้กำลังใจ

“เอ่อ...ตามใจ...ว่าแต่แกจะเดินทางวันไหน” ตุ๊กตาตัดสินใจถามเพื่อน สาวเพราะเขารู้เรื่องที่เธอต้องไปเรียนต่อโทที่อังกฤษอีก ตุ๊กตาเป็นเพื่อนปรานไหมมานานแล้ว เธอรู้ดีว่าปรานไหมมีภัคพงศ์ในใจเพียงคนเดียว

เวลาผ่านไปอะไร ๆ ก็อาจเปลี่ยนแปลง และสี่ปีที่ผ่านมาที่ปรานไหมไม่ได้บินกลับมาหาภัคพงศ์เลยนั้น ทำให้ตุ๊กตาคิดว่าปรานไหมเลิกรักภัคพงศ์แล้ว

“ยังไม่รู้เลย”

“เอ่อ...ไหม...ฉันยังไม่ได้บอกแกว่า...ฉันตัดสินใจจะไปเรียนต่อโทที่อังกฤษแล้วว๊ะ” ปรานไหมหันมามองเพื่อนชายที่เพิ่งเดินเข้ามา

“ทำไมเพิ่งมาล่ะ...ภีม”

“เพิ่งว่างสิจ๊ะ แล้วมาถึงกันนานแล้วหรอ”

“ไม่นานหรอกเพิ่งมาถึงเอง” ตุ๊กตาตอบ พร้อมรอยยิ้มที่ออกมาอย่างดีใจ

“ฉันจะรอนะ” ปรานไหมตอบออกไป ตุ๊กตามองทั้งสองคนอย่างเงียบๆ เธอก็พอจะดูออกว่านายภีมเพื่อนที่เธอแอบรู้สึกมากกว่าเพื่อนนั้น เขาก็รู้สึกกับปรานไหมมากกว่าเพื่อนเช่นกัน แต่เธอคิดว่าทั้งเขาและเธอต่างก็ให้ความสำคัญของคำว่าเพื่อนมาเหนือสิ่งอื่นใด จึงพยายามหยุดความรู้สึกให้อยู่ในกรอบของคำว่าเพื่อน

“งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันนะ...รอแปบนะเดี๋ยวเข้าไปขอห้องน้ำสักครู่” ภีมบอกก่อนที่จะลุกเดินออกไป

ภีมย้อนคิดไปถึงเมื่อเช้าตอนที่เขาเจอปรานไหมพร้อมกับเอกวุฒิพ่อของเพื่อนสาวที่สนามบิน ตอนที่เขาถามปรานไหมว่าทำไมพี่ภัคถึงไม่มารับเธอด้วยตัวเอง เพื่อนสาวอึกอักที่จะตอบคำถามนี้ และเหตุผลเดียวที่เธอออกจากบ้านคงไม่อยากเจอภัคพงษ์

และตอนนี้ภัคพงศ์คงกลับมารับหัวใจของเขาแล้วสินะ ภีมรู้ว่าหลังจากวันนี้ไปเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกับปรานไหมอีกนาน และนั้นเป็นสาเหตุที่เขาตัดสินใจไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพราะเขาเองก็ตั้งใจที่จะได้อยู่เคียงข้างปรานไหม

วันนี้พวกเขาทั้งสามคนพอหาอะไรกินกันเสร็จสรรพก็ชวนกันดูหนังต่อเป็นการเที่ยวเลี้ยงต้อนรับปรานไหมที่เพิ่งกลับจากอังกฤษ

ตุ๊กตาไม่ได้รู้จักพี่ภัคของปรานไหมเป็นการส่วนตัว แต่ที่พอรู้เพราะว่าทุกปิดเทอมปรานไหมมักจะบินกลับมาทุกครั้ง

“อุ้ย!...” ปรานไหมร้องออกมาด้วยความตกใจ ในขณะที่ตุ๊กตาและปรานไหมกำลังเดินเข้าบ้าน เมื่อเธอถูกชนจนเกือบล้ม ถ้าต้นเหตุไม่ทันจับตัวเธอและดึงเธอเข้าหาอกแกร่งนั้น

“พี่วัช” ตุ๊กตาร้องเรียกเสียงดังกว่าปกติ เป็นการดึงสติของวัชระที่กำลังประคองจ้องตาหญิงสาวในอ้อมแขน เพราะเธอช่างมีใบหน้าที่หวานดวงตาคมโต ผิวแก้มขาวอมชมพู จมูกโด่ง ริมฝีปากบางน่ารักสีชมพู

“เอ่อ...ขอโทษครับ” วัชระกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ

“ไม่...เป็นไรค่ะ” ปรานไหมกล่าวและกลับมายืนอย่างมั่นคงด้วยขาของตัวเอง และมองชายตรงหน้าที่เกือบเป็นสาเหตุให้เธอบาดเจ็บจากการล้มไปแล้ว

“พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ตุ๊กตาถามพี่ชายต่างแม่

“ก็มาถึงประเทศไทยวันนี้และต่อเครื่องมาที่นี่เมื่อตอนบ่ายๆ”

“อุ้ย!!! ไหมนี้พี่วัชลูกพี่ลูกน้องของตุ๊กตาเอง..ชื่อพี่วัชระ”

“สวัสดีค่ะ...” ปรานไหมกล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้ตามธรรมเนียมที่ผู้น้อยต้องเคารพผู้ใหญ่กว่า

“สวัสดีครับ...” วัชระรับไหว้ ตามธรรมเนียมประเพณีไทยเช่นกันถึงแม้เขาจะเติบโตมาจากครอบครัวผู้ดีเก่า

“น่าเสียดายจังครับ...พี่มีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ...ไม่งั้นพี่คงอยู่ทำความรู้จักกับน้องไหมให้มากกว่านี้...ไว้โอกาสหน้านะครับ” วัชระให้เหตุผลและกล่าวลาหญิงสาวทั้งสองและรีบร้อนออกไป ใช่!ตอนนี้เขามีเรื่องด่วนและสำคัญมากต้องไปจัดการ

“เข้าบ้านกันเถอะ...คุณพ่อคุณแม่คงรออยู่” ตุ๊กตาชวนปรานไหมเข้าบ้าน

ครืด...ครืด...ครืด... ปรานไหมยืนมองโทรศัพท์ของตัวเองที่สั่นไม่หยุดน่าจะรอบที่ห้าแล้ว หน้าจอแสดงเป็นเบอร์ที่บ้านทำให้เธอรู้ว่าใครโทรมาเวลาแบบนี้ ตุ๊กตาแอบชำเลืองมองเพื่อนแต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะเข้าใจว่าเพื่อนคงไม่อยากพูดถึงตอนนี้

ก่อนที่ปรานไหมตัดสินใจจะปิดเครื่องก็มีเสียงข้อความเข้า เมื่อเธอเปิดอ่านก็ต้องตกใจเพราะมาจากพี่ภัคพงศ์

“ไหม...เกิดอะไรขึ้น...ทำไมทำหน้ายังกับเห็นผี” ตุ๊กตาเห็นอาการผิดปกติของเพื่อน จนต้องถามออกไปเพราะเพื่อนสาวดูหน้าซีดลงอย่างชัดเจน

“ตุ๊กตา...เราขอโทษนะคือเราต้องกลับบ้านแล้ว” ปรานไหมหันไปบอกเพื่อนสาวอย่างเกรงใจ เพราะเธอต้องกลับบ้านสาเหตุมาจากข้อความทางไลน์

“พี่กำลังจะออกไปรับ ที่บ้านเพื่อน...ถ้าไม่ยอมกลับมาพร้อมกัน...พี่จะไปบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า...ปรานไหม เป็นเมียพี่แล้ว”

เธอกำลังโกรธที่ภัคพงศ์จะใช้สิทธิ์ตรงนี้เรียกร้อง และที่เธอต้องกลับไม่ใช่ว่ากลัว แต่เธอรู้ว่าภัคพงศ์จะทำอย่างที่บอกมาในข้อความจริง ๆ และเธอต้องการกลับไปจัดการกับเขาต่างหาก

“ที่บ้านเกิดเรื่องอะไรเหรอเปล่า?” ตุ๊กตากลับเข้าใจไปอีกแบบเนื่องจากสถานการณ์มันสามารถคิดแบบนั้นได้

“เอ่อ...เปล่าจ๊ะ...แค่...แค่...” ตุ๊กตาโบกมือเป็นการห้ามเพื่อนว่าไม่เป็นไร ไม่สะดวกไม่ต้องบอกก็ได้ และเสริมตอนท้ายให้เพื่อนสาวสบายใจว่าแค่ไม่มีเรื่องร้ายก็ดีแล้ว

“ไหมฝากกราบขอโทษและกล่าวลาคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะ” ตุ๊กตาพยักหน้ารับ และปรานไหมก็เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอนเป็นชุดที่ใส่มาวันนี้ เพราะแม่บ้านของเพื่อนซักรีดให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนหัวค่ำ

ปรานไหมกอดลาเพื่อนสาวอีกครั้งและเดินขึ้นรถที่ภัคพงศ์ขับมา เขาไม่ได้ลงจากรถ ปรานไหมโบกมือลงเพื่อนสาวคนสนิทอีกครั้ง ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์อะไร ซึ่งตุ๊กตาก็ไม่ถือสาอะไรและเข้าใจเพื่อนดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel