11 เด็กดื้อ...ต้องโดนอะไรคะ
ภัคพงศ์เคลื่อนรถออกทันที เมื่อขับไปถึงประตูใหญ่ก็สวนกับรถของลีโอที่ขับเข้ามาพอดี ต่างฝ่ายก็หันไปมองผ่านกระจกรถของกันและกัน แต่ก็เห็นกันไม่ชัดเจนและต่างก็ขับผ่านไปทางใครทางมัน
“พี่ภัค...ขอบคุณนะคะ...และไหมต้องขอโทษที่ไม่ได้อยู่คุยด้วย... ไหมขอตัวก่อนนะคะ” ปรานไหมพูดเป็นประโยคแรกทันทีที่ภัคพงศ์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของเธอ
ตลอดการขับรถ ภัคพงศ์แอบมองปรานไหมที่นั่งข้าง ๆ เบียดตัวเองกับประตูเลยทีเดียว และหันหน้าไปมองออกไปนอกหน้าต่างไม่หันมาเขาสักนิดอย่างคนที่กำลังกักเก็บความไม่พอใจไว้
เมื่อปรานไหมลงจากรถและวิ่งเข้าบ้านไปแล้วภัคพงศ์หันมาพูดกับเอกวุฒิ “พ่อจะให้ภัค...เตรียมเดินทางไปอังกฤษ...เป็นตัวแทนเซ็นต์สัญญากับลูกค้าคนสำคัญ”
“ไม่มีปัญหาครับ...คุณพ่อ” ภัคพงศ์รีบตอบรับคำบอกของเอกวุฒิผู้เป็นบิดา
เออ!...ว่าแต่ภัคก็อย่ารุนแรงบังคับจิตใจน้องนักละกัน...พ่อไม่อยากเห็นน้ำตาปรานไหม” เอกวุฒิรีบอกลูกชาย
ภัคพงศ์เดินเข้าบ้านหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้อารมณ์เขาก็ยังไม่มั่นคงและสงบนัก เมื่อตอนทานมื้อเย็นเขาลงมาจากห้องหลังจากนอนพักเพียงพอแล้ว
ภัคพงศ์พลางคิดย้อนไปเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา เขาตั้งใจมาทานอาหารมื้อเย็นกับคุณพ่อคุณแม่และปรานไหมที่เธอน่าจะกลับมาแล้ว จากการที่เขายอมอนุญาตให้เธอออกไปกับเพื่อนๆ ได้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิด ที่โต๊ะอาหารทุกคนพร้อมหน้ากันหมดยกเว้นหญิงสาวที่เป็นสาเหตุหลัก แม่ปราณีบอก ‘ไหมจะนอนค้างบ้านเพื่อน’ เพียงแค่เท่านั้นเขาก็คว้ากุญแจรถออกจากบ้านทันที
ระหว่างขับรถไปนั้นภัคพงศ์รู้ได้ทันทีว่าปรานไหมต้องการหนีหน้าเขา แล้วมีหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมให้เกิดขึ้น เขาสลัดความคิดนั้นออกไป เพราะตามปรานไหมกลับมาได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือต้องปรับความเข้าใจกันใหม่ ไม่ใช่ปล่อยให้น้องสาวพยายามหนีหน้าเขาเช่นนี้
ภัคพงศ์ผลักประตูห้องนอนเข้าไปได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ เขาตัดสินใจนั่งอยู่ที่ปลายเตียงและครุ่นคิดหาวิธีจัดการน้องสาวคนนี้ให้ได้ และไม่ทันที่เขาจะได้มีเวลาคิดไปมากกว่านี้ ปรานไหมเดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่ชุดนอนสีขาว กระโปรงยาวผมดำสยายยาวถึงกลางหลังใบหน้าเกลี้ยงเกลาสดใสตามวัย ปากบางสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ ที่รสชาติหวานปานน้ำผึ้งตราตรึงในความรู้สึกเขา จนถึงตอนนี้จนอยากจะลิ้มลองแล้วลิ้มลองอีก
ภัคพงศ์ถอนหายใจและลุกจากที่มั่นตรงปลายเตียงเดินเข้าห้องน้ำไปโดยทันที เพราะความรู้สึกบางอย่างในกายเขามันกำลังตื่นตัว
ปรานไหมออกจากห้องน้ำมาเธอทำเป็นไม่เห็นผู้ซึ่งนั่งมองเธอทุกการเคลื่อนไหวอยู่ที่ปลายเตียง แต่เมื่อจู่ ๆ เขาลุกและเดินเข้าห้องน้ำไป ปรานไหมมองตามหลังอย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร จึงฉกฉวยเวลานี้ปีนขึ้นเตียงสอดตัวเองภายใต้ผ้าห่มและขยับไปนอนอีกด้านสุดขอบของเตียงและนำหมอนข้างมาวางไว้กลางเตียงดั่งเสมือนว่าเป็นปราการด่านหน้าที่สามารถป้องกันทุกอย่างที่จะล่วงล้ำเข้ามา
ปรานไหมหลับตาลงทันทีและพยายามกำหนดลมหายใจของตัวเองให้สม่ำเสมอ เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมาอีกครั้ง ภัคพงศ์หันไปมองและแอบยิ้มอย่างรู้ทัน
เขาเดินเลยไปกระเป๋าเสื้อผ้าที่ขนมาไว้ห้องของปราไหมโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาพักห้องนี้ แต่ในส่วนตัวของเขาที่เชื่อมกับห้องน้องสาวก็ยังเหมือนว่าเขาพักอยู่ เพราะห้องถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย ภัคพงศ์หยิบชุดนอนและแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกฝั่งของกำแพงด้านปลายเตียงอย่างจงใจ และแอบเห็นสายตาจับจ้องของคนบนเตียงนอนที่แกล้งหลับตลอดเวลา
‘ทำไมไม่ไปแต่งตัวที่ห้องตัวเองนะ...คนบ้า’ ปรานไหมแอบชำเลืองตามองและคิดในใจอย่างหงุดหงิด เพราะคิดว่าภัคพงศ์คงไม่เห็นเพราะเธอปิดไฟหัวเตียง มีเพียงแสงไฟสลัวจากดาวไลท์บริเวณตู้เสื้อผ้า ทำให้ปรานไหมเห็นท่อนบนของภัคพงศ์อย่างชัดเจน ด้วยมัดกล้ามเนื้อหน้าอกแกร่งถึงหน้าท้องแบบราบสวยงามและเซ็กซี่มาก ภัคพงศ์แกล้งสาวถ้ำมองด้วยการใส่แต่กางเกงนอนขายาวและกำลังขึ้นเตียงมา
ปรานไหมหลับตาปี๋แต่หัวใจของเธอเต้นแรงมาก จนเธอไม่แน่ใจว่าผู้ร่วมห้องจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นหรือเปล่า ‘พี่ภัคพคนบ้าทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยนะ’ ปรานไหมคิดในใจอีกแล้ว เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็พึ่งจะเคยเห็นพี่ชายที่แอบเปลือยบางส่วนใกล้ ๆ ก็ตอนนี้ และถึงแม้เธอจะไม่ค่อยมีความรู้ความชำนาญด้านนี้มากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าพี่ภัคพงศ์ดูดีมาก แค่หน้าตาว่าผ่านแล้วยิ่งรูปร่างของเขาก็น่าจะทำให้ผู้หญิงที่ได้พบเห็นฆ่ากันตายเพื่อแย่งตำแหน่งผู้ที่จะได้ครอบครอง
ภัคพงศ์ยิ้มกับหมอนข้างที่ขวางกั้นกลางกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของเตียงนอน ส่วนหญิงสาวที่แกล้งหลับอยู่เกือบขอบเตียงแค่ผลิกก็ล่วงลงไปได้เลย
ภัคพงศ์ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปที่ใบหน้าหวานนั้นซึ่งตอนนี้ใบหน้าคนทั้งสองห่างกันแค่คืบ ภัคพงศ์หายใจเข้าเบาๆ แต่แกล้งหายใจออกแรง ๆ ขึ้นเพื่อให้ลมหายใจของเขาเป่าลดที่แก้มเนียนใส เมื่อปรานไหมสัมผัสได้ถึงลมหายใจและกลิ่นน้ำยาบ้วนปากหอมสดชื่น จากพี่ภัคพงศ์ของเธอทำให้เส้นขนอ่อนตามเนื้อตัวปรานไหมต่างพร้อมใจกันชูชัน เธอเกิดอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ภัคพงศ์แอบยิ้มขำในอาการนั้นของปรานไหม และเขาก็เลื่อนใบหน้าไปและแกล้งเป่าลมเบาๆ ไปที่ใบหูน้อยๆ ข้างที่อยู่ฝั่งเขาอย่างจงใจ
“คนบ้า!” ปรานไหมลืมตาและร้องออกมาอย่างหมดความอดทน และยกมือขึ้นมาปิดแก้มของตัวเองอย่างป้องกันสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาที่กำลังจะสร้างความรู้สึกบางอย่างให้กับตัวเธอ
“คิดจะหนีพี่ไปไหนอีก...” ภัคพงศ์พูดพร้อมแขนทั้งสองข้างที่โอบกอดตัวปรานไหมไว้ทันที
“คนหน้าด้าน...คนเขาหนีแล้วยังจะตามอีก” ปรานไหมพูดออกไปอย่างคนน้อยใจมากกว่าไม่พอใจ
“บัญชีเก่ายังไม่ได้ชำระความ...คิดจะสร้างเรื่องใหม่อีกแล้วเหรอ...เอ!.แต่เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ...” ปรานไหมอมยิ้มคนอะไรโดนด่าแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
“อยากรู้เหรอ?..ก็ปล่อยก่อนสิ”
“งั้นไม่เป็นไร...คำนั้นคงไม่สำคัญกว่าเรื่องที่พี่จะทำต่อไปนี้ต่างหาก”
“จะทำอะ...อุ๊บ..อื้อ!!” ภัคพงศ์ไม่ปล่อยให้ปรานไหมสงสัยนาน เขาประกบปากบางนั้นทันที เพื่อบรรเทาอาการโหยหามาตลอดหลังจากที่เขาได้ไปแล้วนิดหน่อยเมื่อเช้านี้ แต่เขาต้องการมันอีกความหอมหวานแบบนี้และแน่นอนว่ามันไม่คำว่าพอได้อีก จากนี้ต่อไปเขาจะต้องการมันทุกวัน
ภัคพงศ์ส่งลิ้นร้อนเข้าหาโพรงปากหวาน เพื่อดูดกลืนความหอมหวานนั้นอย่างไม่ปรานีเจ้าของธารน้ำผึ้งนั้นเลย ปรานไหมตกใจกับการกระทำแบบไม่ทันตั้งตัวของภัคพงศ์พยายามจะหลบหลีกและดิ้นหนี แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ตามใจปรารถนา เพราะภัคพงศ์ล็อกแขนทั้งสองข้างของเธอขึ้นไปรวมกันไว้ที่เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา ปลายลิ้นร้อนยังลากผ่านรักแร้ขาวเนียนหอมของเธอจนซ่านหวิวไปทั่วกาย ส่วนมืออีกข้างก็กอบกุมที่แก้มข้างเดียวกับมือของเขา เพื่อล็อกใบหน้าไม่ให้หลบหลีกเขาได้ และขยับตัวทาบทับตัวปรานไหมทันที
