บทที่ 6 ฉันตายหรือยัง
เมื่อได้มุมที่สวยแล้วกอหญ้าเตรียมถอดชุดคลุมร่างที่สวมทับชุดว่ายน้ำออก ขณะเดียวกันเหลือบไปเห็นสายตาของพี่ชายสุดที่รักทั้งสอง กำลังมองมาและเดินเข้าใกล้เต็มที่
-ฮ้า พี่กันต์ พี่กร มาได้งัย-เธอคิด
"ทางนี้ค่ะพี่กันต์ พี่กร" หญิงสาวจำใจต้องยกมือเรียวขึ้นโบกเรียกเขาและหยุดการถอดชุดเอาไว้ก่อน พร้อมกันนั้นก็มีเสียงฟ้าร้องดังเปรี้ยง!!!ทั้ง ๆ ที่มีแดดออก เป็นเหตุให้ขาเรียวของกอหญ้าที่ยืนอยู่บนโขดหินไถลลื่นลงไปด้วยความตกใจ ร่างเล็กจมดิ่งลงไปในน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว
"กอหญ้า"เจน กร กันต์ ตกใจร้องเสียงดัง
ทุกคนต่างพากันตะโกนเรียกชื่อเธอออกมา ลั่นหาด พี่ชายทั้งสองไม่รอช้ารีบถอดเสื้อกระโจนลงไปในน้ำเพื่อหวังลงไปช่วยให้เธอปลอดภัยได้ทัน
ร่างของคนตัวเล็กที่ตกลงไปพยายามดิ้นและว่ายน้ำ แต่ไม่รู้ว่าร่างกายเกิดอะไรขึ้นมันไม่สามารถขยับตัวได้เหมือนในความฝัน สายตาเธอมองเห็นภาพที่พี่ทั้งสองว่ายน้ำมาหาเธอแต่ทำไมดูเหมือนว่า เขาทั้งสองจะมองไม่เห็นเธอเสียแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามดิ้นและตะโกนเรียกชื่อพี่ชายทั้งสองอยู่
-พี่กร พี่กันต์ ช่วยกอหญ้าด้วย กอหญ้าไม่ไหวแล้ว-
ขณะที่ร่างกำลังจมดิ่งลงใต้ท้องทะเลลึก ในหัวก็นึกถึงพ่อ แม่ พี่ชายอยู่ตลอด ต่อมาดวงตาคู่หวานค่อย ๆ หลับลงทีละนิด ๆ ลมหายใจเริ่มรวยริน ร่างกายเริ่มอ่อนแรง
-ลาก่อนค่ะแม่ พี่กร พี่กันต์ หนูกำลังจะไปอยู่กับพ่อ ถ้าเจอพ่อหนูจะบอกว่าทุกคนคิดถึงและรักพ่อมาก-
ตัดภาพมาที่ทางฝั่งแม่ทัพมู่หยาง
"รายงานท่านแม่ทัพ ข้าพบเห็นหญิงสาวนอนสลบที่ริมชายหาดถัดไปจากชายแดนของที่นี่ขอรับ ท่าทางแม่นางเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้"เสียงเข้มกล่าวรายงานของทหารนายหนึ่ง ต่อแม่ทัพมู่หยาง ชายร่างสูงกำยำ ใบหน้าคมเข้มสันจมูกเรียว ในตาสีดำสนิท รูปโฉมหล่อเหลาผู้ใดพบเห็นจักต้องหลงใหลในรูปลักษณ์ ภายใต้ชุดเกราะแกร่งอันอาจหาญ
"แต่แม่นางผู้นี้..คือ..เอ่อ.."
" มีอะไรทำไมเจ้าถึงอ้ำอึ้ง" ท่านแม่ทัพเค้นเอาคำตอบเมื่อทหารพูดตะกุกตะกัก
" เออ..คือเสื้อผ้าที่แม่นางท่านนี้สวมใส่มันดูแปลกและช่วงท่อนล่างมันดูสั้นขอรับ" คนที่เอ่ยยกมือขึ้นทาบที่ขาเพื่อบอกขนาดความยาว ของกางเกงหญิงสาวที่เขาพบเห็น เล่นเอาคนฟังตกใจเบือนใบหน้าหนี ก่อนหันกลับมาบอกให้ทหารพาไปยังจุดเกิดเหตุที่พบร่างคนที่สลบ
เมื่อไปถึง ปรากฏพบนายทหารสองนายยืนหันหลังบังร่างของเธอเอาไว้ ทันทีที่เห็นท่านแม่ทัพมู่ เขาทั้งสองต่างก็หลีกทางเพื่อให้เข้ามาดู
หญิงสาวที่นอนสลบอยู่รูปร่างผอมบาง ผิวขาวเนียนละเอียดค่อนไปทางซี้ด ผมยาวดำสลวย เมื่อเดินเข้าไปใกล้ยิ่งประจักษ์ต่อสายตา ในความงดงามของใบหน้า ขนตางอนยาวดุจแพรไหม แม้ในความซี้ดแต่ใบหน้าของเธอยังอมชมพูระเรื่ออยู่หน่อยๆ ฉับพลันเมื่อเขานึกขึ้นได้รีบตรวจสอบชีพจรและลมหายใจ พบว่ายังมีชีวิตอยู่ จึงปลดผ้าคลุมหลัง เพื่อมาคลุมร่างของเธอแล้วสั่งให้ทหารพาตัวเธอเข้าไปพักในค่าย
ผ่านไปหนึ่งคืน วันต่อมาหญิงสาวที่ทหารหมายถึงนั่นก็คือกอหญ้า เธอเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นด้วยอาการปวดศีรษะ ค่อยๆ ฝืนตื่นลืมตาขึ้นช้าๆ
"นี่เรายังไม่ตายเหรอ เอ๊ะหรือว่าตายแล้วนี่บนสวรรค์"มือสวยยกขึ้นมาลูบคลำตามใบหน้าและเนื้อตัว ตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ ห้อง ภาพตรงหน้าที่เห็นส่งผลให้เธอประหลาดใจเป็นยิ่งนัก ตาคู่สวยถึงกับเบิกกว้างตกตะลึงพรึงเพริดไปหมด
เมื่อมีผ้าคลุมคล้ายขนสัตว์วางอยู่ด้านข้าง พร้อมกับดาบและหอก ชุดเกราะราวกับชุดนักรบที่เคยเห็นในหนัง ปรากฏวางอยู่บริเวณด้านข้าง
ภาพสุดท้ายคือท้องทะเลแต่ไหนมาโผล่ในห้องถ่ายละครแบบนี้ได้ เอ๊ะ นี่มันห้องถ่ายหนัง หรือว่าเรากำลังอยู่ในร้านสปา หรือมีชาวบ้านช่วยเราเอาไว้ ภายในหัวผุดคำถามมากมายเต็มไปหมด
กอหญ้าหยัดกายลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวดตามร่างกาย แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จำเป็นต้องดูให้ได้
"ฟื้นแล้วเหรอ? สุ้มเสียงทุ้มทรงพลังอำนาจแต่เธอฟังไม่รู้เรื่อง เอ่ยขึ้นขณะที่พึ่งจะยืนก้าวเดินได้เพียงสองครั้งแต่ พลันต้องล้มลงด้วยขาที่อ่อนแรง
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงราวร้อยแปดสิบ ใบหน้างดงาม คิ้วหนาคมเข้มเฉี่ยวดังนกอินทรี ในตาดำสนิท ผิวสองสี มัดผมยาวรวบไว้ด้านหลังยืนกอด อก กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาดุดัน
"เจ้าเป็นใคร แล้วมานอนสลบที่ริมน้ำนั่นได้อย่างไร?
น้ำเสียงแข็งกร้าวเอ่ยถาม เล่นเอาคนฟังอย่างเธอแม้จะฟังไม่ออกแต่ทว่าก็ทำเอาเธอขนลุกซู่ ภาษาที่ชายผู้แข็งกระด้างนี้พูดคล้ายกับภาษาจีน
- โรงถ่ายหนังแน่ๆ -
