บทที่ 7 ไม่เข้าใจ
"ขอโทษนะคะคุณพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ.." กอหญ้าพยายามอธิบายในสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อสาร ต่อมาสมองนึกขึ้นได้ว่า..อ้อสงสัยเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนเราแน่เลย "Can you speak English?
คำพูดของเธอที่พยายามใช้ภาษาอังกฤษยิ่งส่งผลให้คนฟังอย่างแม่ทัพมู่ทำหน้าสงสัยไปกันใหญ่
"เจ้าพูดอะไรของเจ้า เจ้าเป็นใคร? มือหนาเอื้อมลงไปแตะที่ไหล่เพื่อจะพยุงให้เธอยืนขึ้น แต่กอหญ้าเงยหน้าจ้องมองเจ้าของมือ ก่อนจะสะดุ้งด้วยความตกใจสะบัดแขนท่านแม่ทัพออก
"คุณทำอะไรของคุณปล่อยนะ"
"นี่เจ้า? การกระทำของกอหญ้าทำให้ท่านแม่ทัพเริ่มไม่พอใจ ขมวดคิ้วเป็นปม เธอหน้าตาดีเสียเปล่าแต่ดันไร้มารยาท
"นี่คุณจะทำอะไร? ..เอาเป็นว่าฉันขอบคุณ คุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ติดต่อตำรวจให้หน่อยได้มั้ยคะ อ้อลืมไปคุณฟังฉันไม่รู้เรื่องนี่นา"กอหญ้าพูดพลางยกมือไหว้และยิ้มให้เพื่อขอบคุณหวังว่าภาษากายแบบนี้พ่อหนุ่มรูปงามราวพระเอกซีรีส์คงพอเข้าใจนะ สงสัยเป็นดาราแน่ถ้ากลับบ้านได้ฉันจะไปกดติดตามผลงานคุณนะคะ
มู่หยางยืดกายขึ้นเป็นตัวตรงมองเธอ ปล่อยให้คนที่นั่งอยู่บนพื้นพยุงร่างขึ้นมาเองแล้วสักพักเธอก็เดินออกไปจากกระโจม มู่หยางงงกับท่าทางที่ดูแปลกประหลาดทั้งการกระทำและภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่องของกอหญ้า
ขณะที่กอหญ้าเปิดม่านออกพลันต้องหยุดชะงัก ภาพตรงหน้าปรากฏทหารกลุ่มใหญ่ทุกสายตาที่ดุดันจับจ้องหันมองมาที่เธอ บางคนที่กำลังฝึกฝนถึงกับต้องสะดุดล้มลง ตาค้าง เหตุเพราะชุดที่เธอสวมใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นซึ่งไม่เคยมีใครสวมแบบนี้
ตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าดูเหมือนกับค่ายทหาร ล้อมรอบด้วยป่าและภูเขา
นี่มันอะไรกัน ที่นี่ที่ไหน ไม่ใช่โรงถ่ายละครหรอกหรือทำไมทุกคนใส่ชุดทหารจีนโบราณกันหมดเอ๊ะนี่ตัวประกอบแน่เลย แล้วหน้าตาหล่อคนนี้คือดาราแน่ๆ ไหนนะทีมงาน ช่างกล้อง ช่างไฟ ผู้กำกับ
หญิงสาวยืนนิ่งคิดอยู่สักพักแม่ทัพมู่ก็ก้าวขาตามออกมา แล้วทำสัญลักษณ์มือไล่ทหารให้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ทุกคนต่างกระจายตัวไปคนละทิศละทางตามคำสั่ง ฉับพลันเมื่อมู่หยางหันกลับไปมองใบหน้าของเธอกลับต้องตกใจเพราะจู่ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
" โอ๊ยยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ ฉันจะกลับบ้านยังไงเนี่ย" เมื่อยิ่งมองไปรอบๆ เดินวนไปวนมาในค่ายทหารล้อมรอบด้วยป่าเขาลำเนาไพร สายตาคมก็เฝ้ามองเธออยู่แล้วยกยิ้มมุมปากจนกอหญ้าหยุดเดินแล้วเหล่มองชายหนุ่มคนที่จ้องมาที่เธอ
"คุณยิ้มอะไรของคุณ เฮ่อ พูดไปคุณก็คงไม่เข้าใจที่ฉันพูด" กอหญ้าพูดด้วยความเซ็ง
นาทีต่อมา รองแม่ทัพอี้เฉินเดินเข้ามาทำความเคารพ ไม่ทันที่จะเริ่มรายงาน สายตากลับมองไปเห็นที่กอหญ้านุ่งกางเกงขาสั้นถึงกับเบิกตากว้าง ก่อนจะรีบหลบสายตาลง เล่นเอากอหญ้า งง ที่เห็นท่าทางเขานั้น เมื่อมู่หยางเห็นท่าทีรองแม่ทัพอี้เฉินก็พอเข้าใจ จึงทำสัญลักษณ์ยกมือให้เธอเข้าไปในกระโจม แต่กระนั้นกอหญ้าก็ยังไม่เข้าใจความหมาย จึงใช้แขนผลักร่างเล็กของเธอให้เข้าไป
"โอ๊ย"คนที่โดนผลักด้วยความแรงจนเธอล้ม แถมเขายังส่งสายตาดุ ชี้ให้เข้าไปข้างในห้ามออกมา
"มีอะไร? เสียงทรงพลังหันมาเอ่ยกับรองแม่ทัพอี้เฉินที่กำลังจะกล่าวรายงาน
"ท่านแม่ทัพจะทำอย่างไรกับนางดี นางจะใช่พวกเดียวกับกลุ่มโจรหรือเปล่า?
"ข้าว่านางไม่น่าใช่โจร แต่ด้วยท่าทางและคำพูดที่ฟังดูแปลก คงต้องสืบให้แน่ชัดว่านางเป็นใคร"มู่หยางกล่าวด้วยท่าทีเคร่งขรึม
"อ้อ วานเจ้าช่วยไปเอาชุดของหญิงรับใช้มาสักสามชุดให้นางเปลี่ยน"
"ขอรับท่านแม่ทัพ"อี้เฉินคำนับแล้วเดินจากไป ส่วนมู่หยาง หันหลังกลับเข้าไปในกระโจม
อีกด้านของกอหญ้าที่ก้นกระแทกพื้นพยุงตัวลุกขึ้นบ่นกระปอดกระแปด "หูยเจ็บ..ป่าเถื่อนชะมัด คอยดูนะถ้าฉันออกไปจากที่นี่ได้จะให้ พี่กร พี่กันต์จัดการเลย"
ภายในกระโจมประกอบไปด้วยผ้าคลุมที่ดูคล้ายขนสัตว์ ชุดเกราะนักรบ อาวุธดาบและหอกถูกวางไว้ข้างๆ กัน เธอลองเอามือไปสัมผัสขนสัตว์พื้นผิวนุ่มก่อนจะลองจับไปที่ดาบพบว่าทุกอย่างนั้นดูเป็นของจริงทั้งหมด
"ที่นี่ดูน่ากลัวจัง แถมอีตาป่าเถื่อนนั่นอีก อยู่ไม่ได้แล้วต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด"
"แฮ่ม"ร่างเล็กที่กำลังคิดหาทางออกพลันสะดุ้งรีบหันไปมองเจ้าของเสียงเมื่อครู่ ชายหนุ่มค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้กอหญ้ามากขึ้น ส่วนเธอกลับเดินถอยหลังเพื่อหลบเขาจนหลังบางชนกำแพง เมื่อถอยต่อไม่ได้เธอจึงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า "STOP " พร้อมกับยกมือขึ้นมาปรามอกแกร่ง ร่างสูงพลันต้องหยุดทันที
"สะ..ต๊อบ? นางพูดอะไรของนาง?
"คุณจะทำอะไรอ่ะ หยุดเลยนะ"
โปรดติดตามตอนต่อไป...
