ตอนที่ 17 เคียงข้าง
EP 17
Eang aoey Talk
ในขณะที่ฉันกำลังนั้งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่เพียงลำพังก็รับรู้ได้ถึงแรงอะไรบางอย่างที่สะกิดอยู่ปลายนิ้วมือ...ทำให้ฉันต้องละความสนใจจากบึงตรงหน้าแล้วถอดหูฟังออกก่อนจะหันกลับไปมองตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงใบหน้า...แรกๆก็ตกใจนึกว่าพวกโรคจิตแต่คนที่ฉันกำลังเจออยู่ตอนนี้มันยิ่งกว่าโรคจิตซะอีก...เพราะมันคือ
เจ้ากรรมนายเวร!
"ปล่อย..." ฉันพูดด้วยนํ้าเสียงเย็นชาเบือนหน้าหลบใบหน้าหล่อๆนั้นที่ยื่นเข้ามาไกล้เรื่อยๆจนฉันต้องพยายามหลบแต่ก็ไม่พ้นเมื่อมือหนารั้งท้ายทอยฉันเข้าไปไกล้ๆ...สายตาคมกริบดั่งใบมีดจ้องมองฉันด้วยสีหน้าพออกพอใจ...คงจะสะใจมากที่เห็นชีวิตคนอื่นพังเพราะฝีมือตัวเอง
"ไม่ปล่อย" อ่า...นายนี้มันตามรังควานฉันไม่หยุดจริงๆให้ตายเถอะ..
"ยังไม่พอใจอีกหรอกับสิ่งที่ตัวเองทำ...หรือต้องการอะไรจากฉันอีก?" ทั้งๆที่รู้คำตอบว่าเพลิงอยากเห็นฉันตายทั้งเป็นเหมือนที่เขาเคยเจอ...แต่ฉันก็อยากบอกเหมือนกันว่าที่อยู่ๆมานี้ฉันก็ตายทั้งเป็นมาทั้งนานแล้วที่ต้องจมอยู่กับความเจ็บและอีกหลากหลายความรู้สึก...
"...." เพลิงไม่ตอบอะไรสายตาเย้ยหยันไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า...มันน่าตบจริงๆนะทำชีวิตฉันพังแล้วยังจะมามองหน้าด้วยสายตาแบบนี้อีก?! เป็นบ้า? "...ฉันเคยบอกแล้วไง...ว่าความสะใจของฉันคือได้เห็นเธอเจ็บปวด"
"อยากทำอะไรก็เชิญ!" ยังไงฉันก็เลือกอะไรไม่ได้...ในเมื่อต้องการเห็นฉันเจ็บปวดฉันก็จะไม่ห้ามอะไร...สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องรับมือกับคนป่าเถื่อนอย่างนายนี้ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม...หวังว่าซักวันเขาจะพอใจและหยุดแล้วต่อกัน...
"ตอนอยู่ใต้ร่างฉันทำไมไม่เห็นอวดเก่งแบบนี้ล่ะ...?"
"ฉันไม่ได้อวดเก่ง...แต่มันไม่อะไรต้องเสียแล้วต่างหาก"
"รู้ตัวก็ดี...เพราะต่อจากนี้เตรียมรับเซอไพร์ครั้งต่อไปได้เลย :)" กระซิบเสร็จเพลิงก็ผละใบหน้ามาดูดเม้มที่ลำคอฉันฝากรอยเอาไว้ทั้งที่ขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล....ก่อนที่รอยยิ้มยากจะคาดเดาจะส่งมาให้ฉัน...แล้วร่างหนาก็เดินห่างออกไปพร้อมกับทิ้งความลำบากใจเอาไว้ให้...เซอไพร์ครั้งแรกคือนายนี้ย้ายมาเรียนที่เดียวกับฉัน...แล้วเซอไพร์เรื่องต่อไปล่ะ??
จะเล่นงานอะไรฉันอีก...
พอคิดว่าต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายอีกมากมายในใจมันก็เป็นหวิวๆขึ้นมา...ข่าวก็ยังไม่ซาแล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปเรียนยังไง...ในขณะที่แผ่นหลังกว้างลับสายตาฉันไปไกลแล้ว..ฉันก็พาตัวเองเดินออกมาจากศาลาที่เคยมีความทรงจำเก่าๆเพื่อเดินกลับไปยังบ้านเพียงรักที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะตรงนี้มาก...บ้านเพียงรักก็คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหน่ะ...มันเป็นที่เดียวที่ฉันพอจะมาอยู่ได้เพราะสนิทกับแม่ครูเจ้าของที่นี้สนิทมาแล้วหลายปีด้วย...ท่านคอยเป็นคนที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอและรับรู้ทุกเรื่องเหมือนเป็นแม่คนที่สองของฉันเลยก็ว่าได้...
@บ้านเพียงรัก
"อ้าวเอย...ไหนบอกไปผ่อนคลายทำไมกลับมาเร็วจังลูก?" ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านแม่ครูก็เอ่ยถามฉันขึ้นด้วยนํ้าเสียงนุ่มนวล..พร้อมกับเดินมาจับมือฉัน...หลังจากที่ออกจากบ้านหลังนั้นมาฉันก็ตรงดิ่งมาที่นี้ทันที...พร้อมกับเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ครูฟังซึ้งท่านก็ให้กำลังใจฉันเป็นอย่างดี..
"พอดีเอยรู้สึกเพลียๆหน่ะค่ะ...เลยกลับมาก่อน" ฉันไม่ได้เพลียอะไรหรอก...เพราะอิตาบ้านั้นต่างหาก...
"ครูว่าเอยไปพักก่อนดีกว่า...เจอเรื่องเหนื่อยๆมาทั้งวันแล้ว...พรุ้งนี้เอยมีเรียนไม่ใช่รึไง?" แม่ครูเดินมาลูบหัวฉันเบาๆพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น...นี้คงเป็นคนเดียวที่คอยมอบรอยยิ้มแบบนี้ให้ฉันอยู่เสมอ
"ค่ะ....แต่เอยไม่รู้ว่าจะแบกหน้าไปมหาลัยยังไง.."
"ครูเคยบอกเอยว่าไง...อย่าไปสนใจคำพูดพวกนั้น...เพราะความจริงเราก็รู้อยู่แก่ใจถ้าเอยปล่อยผ่านมันได้เดี๋ยวคนพวกนั้นเขาก็ลืมไปเอง....อย่าเก็บไปคิดมากเลยลูก"
"ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจเอย" ฉันยกมือไหว้แม่ครูแล้วสวมกอดท่านไปหนึ่งที
"ไปนอนเถอะไป..เดี๋ยวพรุ่งนี้ครูให้ไอ้อินมันไปส่ง.."
"ค่ะ.." ฉันพยักหน้าหงึกๆแล้วฝืนส่งยิ้มให้แม่ครู...ก่อนจะเดินแยกออกมายังห้องนอนของตัวเองไม่กว้างนักแต่ก็ไม่ถือว่าลำบากอะไรมาก..
ครืด~ ครืด~ จู่เสียงมือถือก็สั่นเครือขึ้น...ฉันจึงกวาดสายตามองรายชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอ..ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย..
"ฮัลโหล..พี่ฉัตรมีอะไรรึป้าวคะ"
(ฉันแค่จะโทรมาบอกว่า...งานที่เคยติดต่อเธอไว้เขายกเลิกหมดแล้วนะ) สรรพนามที่ใช้แทนตัวเปลี่ยนไปทำให้ฉันหยุดชะงักเล็กน้อย...ใช่...อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปหมดตอนฉันตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้น้อยคนที่จะอยู่เคียงข้าง...และเรื่องงานขืนไม่โทรมาบอกฉันก็รู้ตัวดีว่าคงไม่มีใครจ้างอีกแล้ว..
"เอยทราบแล้วค่ะ...ที่จริงพี่ฉัตรไม่ต้องโทรมาบอกก็ได้"
(ฉันแค่ไม่อยากให้เธอหวังหรือรอต่างหาก)
"ขอบคุณสำหรับความหวังดีค่ะ...แค่ข่าวมันออกมาแบบนั้นเอยก็พอจะรู้แล้วว่าใจคนมันมองกันที่ภายนอกจริงๆ...ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วแค่นี้นะคะ"
ตี้ด ! ฉันตัดบทพร้อมกับตัดสายทิ้ง...
ช่วงนี้คงต้องทนๆกับสายตาเหยียดหยามของคนพวกนั้นไปก่อน...ส่วนเรื่องเงินฉันคงต้องรอให้ข่าวมันซาแล้วค่อยไปสมัครงานทำหาเลี้ยงตัวเอง..และหามาคืนแม่ครูด้วย...
Line!!
Line!!
99
เดรค : ตอบฉันบ้างก็ได้
อ่า...ข้อความล่าสุดปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์...ฉันเบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นข้อความที่เดรคส่งมายาวเหยียด...ทำไมเดรคถึงไม่รังเกียจฉันเหมือนคนอื่นๆกันนะ...แถมข้อความที่ส่งมาล้วนเเสดงความเป็นห่วง..?
เอิงเอย : ดีขึ้นแล้ว
เอิงเอย : ขอบคุณนะ
เอิงเอย : ส่งสติ๊กเกอร์..
ฉันกดตอบกลับข้อความที่เดรคถามว่าฉันหายเศร้ายัง...เขาดูเป็นห่วงฉันมากๆเลยแหละทั้งที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน..เหมือนรู้จักกันมาแล้วหลายปียังไงยังงั้น
เดรค : พรุ่งนี้จะไปเรียนไหม...ถ้าไม่โอเคก็อย่าพึ่งมาก็ได้นะ
เอิงเอย : ไปสิ
เดรค : เดี๋ยวไปรับ
เดรค : มีเรื่องจะคุยด้วย
เอิงเอย : นายไม่กลัวคนอื่นมองไม่ดีหรอ
เดรค : เห็นฉันเป็นคนยังไง?
ถ้าถามว่าเดรคเป็นผู้ชายยังไงในสายตาฉันหน่ะหรอ...เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคทุกอย่าง...ทั้งหน้าตา...ฐานะ...และทัศนคติ...ถึงจะดูไม่สนโลกหน่อยก็เถอะ..
เอิงเอย : งั้นก็โอเค
เอิงเอย : ไว้เจอกัน สวนสาธารณะนะ
เดรค : อืม
เดรค : จะนอนยัง?
เอิงเอย : ยังๆ
เดรค : คอลหน่อยได้มั้ย...
ฉันตาฝาดไปรึป้าวนะ...เดรคขอฉันคอลกันหรอ....?
เอิงเอย : ทำไมมม
เดรค : อยากอยู่ข้างๆ
เดรค : อยากเห็นหน้า..
ถ้าเดรคไม่บอกว่าเพื่อนฉันจะคิดจริงๆแล้วนะว่าเดรคชอบฉันไปแล้ว...
เอิงเอย : โอเคค
ครืดดดดดดดดดด~~ เอาล่ะ...นานกี่ปีแล้วนะที่ฉันไม่ได้โทรคอลกับผู้ชาย...ต้องทักว่าไงก่อนอ่ะ...ฉันตื่นเต้นจังรู้สึกดีที่มีคนบอกว่าอยากอยู่ข้างๆ...ทำไมเดรคถึงได้อบอุ่นขนาดนี้นะ...ฉันอยากบังคับหัวใจให้ชอบนายนี้จริงๆ....
"ว่าไง.."
(....) กริบ...มองหน้าฉันแต่ไม่พูด? ฉันจ้องมองคนที่นอนพึ่งตื่นด้วยสภาพผมเผ้ายุ้งเหยิงตาตี๋ๆของนายนั้นแทบจะปิดอยู่ตลอดเวลา...ง่วงขนาดนี้จะฝืนคุยกับฉันทำไมเนี้ยยย
"ง่วงก็ไปนอนไป...มาจ้องหน้าฉันอยู่ได้"
(ให้นอนหรอ?)
"ฉันไม่ได้เอาโซ่ล็อคเปลือกตานายไว้นิ"
(ห้ามวางนะ)
"ทำไม...นายอย่าบอกนะจะให้ฉันเฝ้าตัวเองนอน?" เดรคยกมือขึ้นเกาท้ายทอยด้วยท่าทางงัวเงีย...ใบหน้าขาวใสขึ้นสีแดงระเรื่อหรือเดรคอยากให้ฉันเฝ้าตัวเองนอนแต่ไม่กล้าพูด...อ่า...คงหน้าจะใช่แหละ...ฉันไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจริงๆนะ...ท่าทางมันฟ้อง
"โอเคจะเฝ้า...ตื่นแล้วค่อยคุยกันต่อ"
(อืม...) พูดจบนายนั้นก็นอนต่อด้วยความสบายใจ...เหมือนจะโทรมาเช็คว่าฉันเป็นยังไงบ้างเดรคจะแสดงท่าทีว่าเป็นห่วงฉันมากเกินไปแล้วนะ>