บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 เล่นงาน

EP 11

ที่ตึกสูงอันเป็นที่ตั้งของบริษัทจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ขนาดใหญ่ หลังจากที่ประชุมหัวหน้าแต่ละฝ่ายถึงความตกตํ่าของบริษัทที่กำลังเข้าขั้นวิกฤติกันเสร็จ ประธานบริษัทอย่างอังเดรก็นั้งกุมขมับในห้องทำงานเพียงคนเดียวด้วยความกลุ้มใจ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก! ก่อนที่เสียงประตูห้องจะดังขึ้น ไม่รอให้คนข้างในได้เอ่ยปากบอก ร่างสูงในชุดสูทสีดำเรียบร้อยก็เดินถือเอกสารซองสีนํ้าตาลเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"มีอะไรรึป้าว" อังเดรทำให้ตัวเองดูเหมือนปกติที่สุด มือหนาสอดประสานกันไว้บนโต๊ะ พร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงให้ประพจน์นั้งลง เขาจึงหย่อนตัวนั้งลงบนเก้าอี้หนังแล้วยื่นซองเอกสารไว้ตรงหน้าอังเดร

อังเดรเหลือบมองใบหน้าเคร่งเครียดของประพจน์สลับกับมองซองเอกสาร แล้วจึงตัดสินใจเปิดมันออกมาดู ในนั้นมีแผ่นกระดาษครบสัญญาการทำงานที่นี้ตั้งแต่สามปีที่แล้วพร้อมใบลาออก..

"ผมทำงานที่นี้เกินกำหนดแล้ว เพราะฉะนั้นผมมีสิทธิ์ลาออก ผมขอลาออกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ กรุณาเซ็นยินยอมให้ผมด้วย"

"ผมขอเหตุผลที่คุณลาออก" อังเดรพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้หุ้นบริษัทลดฮวบ แถมบริษัทยังเป็นหนี้ เขาต้องการให้ทุกคนหาทางแกไข้ปัญหาไม่ใช่ฉิ่งหนี

"ผมแค่อยากเปลี่ยนงานทำ หวังว่าสิทธิของผมคุณจะให้อิสระนะครับ" ที่จริงแล้วประพจน์แค่ไม่อยากทนทำงานกับบริษัทที่กำลังล้มละลายต่างหากล่ะ เงินเดือนสามเดือนมานี้ทุกคนในบริษัทก็ยังไม่ได้ จนทุกคนเริ่มทยอยลาออกกันไกล้จะหมดแล้ว..

"ทำงานมาด้วยกันมาหลายปี ไม่คิดว่าคุณจะลาออกในตอนที่ผมกำลังแย่"

"ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่มีประโยช์นอะไรกับตัวเองกันทั้งนั้น และผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดแบบนั้น"

"ผมห้ามอะไรคุณไม่ได้อยู่แล้ว" อังเดรยอมเซ็นใบลาออกให้ประพจน์แล้วยื่นไปตรงหน้า ถึงแม้ภายในใจมันจะกลุ้มเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นขนาดไหนแต่ถ้าทุกคนจะลาออกเขาก็ไม่มีสิทธิห้าม..

ภายในผับหรูวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายกว่าเดิมสองเท่า ความแออัดทำให้ทุกคนต่างเบียดเสียดยกเว้นโซนVIP ที่ต้องทำการจองไว้ก่อน จากเดิมที่ลูกค้าเยอะอยู่แล้ววันนี้กลับเต็มทุกห้อง ทุกสายตาต่างโฟกัสบนเวทีที่เดจีหนุ่มดีกรีเจ้าของผับขึ้นเล่นเอง ก่อนที่เพลิงเจ้าของร่างหนาจะเดินลงมาจากเวทีหลังจากเล่นมาเกือบครึ่งชั่วโมง..

"ขยันโปรยเสน่ห์แบบนี้ ไม่น่าแฟนมึงถึงได้เต็มบ้านเต็มเมือง" ภูริ ลูกครึ่งญี่ปุ่นที่นั้งสูบบุหรี่เอ่ยแซวเพื่อนหลังจากที่เพลิงเดินเข้ามาในห้องแล้วหย่อนตัวนั้งลงบนโซฟา

"แฟนคลับ?" เพลิงหรี่ตาถาม ทั้งๆที่ชายหนุ่มรู้คำตอบเป็นอย่างดี มือหนายกเหล้ากระดกเข้าปาก

"รู้คำตอบอยู่แล้วไม่น่าถาม" แดนส่ายหัวเอือมระอา แล้วหันไปนัวเนียกับสาวข้างกายต่อ

"แล้วนี้มึงคิดยังไง มาย้ายที่เรียนตอนปีสี่"

"เอาซะกูตั้งหลักไม่ทัน" แดนผละหญิงสาวออกแล้วหันมาสนทนากับเพื่อนๆ เพราะอยู่ดีๆเพื่อนสนิทอย่างเพลิงก็ต้องการย้ายที่เรียนสองหนุ่มเลยต้องย้ายตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ด้วยความงุนงงที่ต้องการเหตุผลอธิบาย

"มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย"

"ไอ้เรื่องที่ว่าต้องจัดการนี้ ใช่ผู้หญิงที่ชื่อเอิงเอยหรือป้าว กูเข้ามาวันแรกก็ได้ยินคนพูดถึงนางแล้ว แถมไอ้เหี้ยเพลิงยังยอมถ่ายแบบคู่ ทั้งที่แม่งเล่นตัวชิบหาย"

"อยากได้รึไง?" ภูริเลิกคิ้วถาม เขาสังเกตุเห็นเพลิงมองเอิงเอยอยู่บ่อยครั้ง เหมือนมีสัมติงอะไรกันซักอย่างและชายหนุ่มก็มั่นใจว่ายังไงเหตุผลที่เพลิงย้ายที่เรียนก็เป็นเพราะเอิงเอย

"ทำไมต้องอยากได้ ในเมื่อกูได้แล้ว หลายนํ้าด้วย" เพลิงยกยิ้มมุมปาก ทำเอาสองหนุ่มถึงกับกลั้วขำออกมาพร้อมกันคิดแล้วไม่มีผิดว่าเหตุผลที่เพื่อนรักอย่างเพลิงย้ายมาที่นี้ก็เพราะผู้หญิง..

"ไม่เคยทำให้ผิดหวังซะจริงๆ" แดนเอ่ย ก่อนที่สายตาของทุกคนจะไปหยุดที่ร่างของคนมาไหม่ นั้นก็คือมือขวาคนสนิทของเพลิงนั้นเอง ดริวเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

"ดื่มด้วยกันหน่อยไหม" ภูริเอ่ยชวนพร้อมกับชูแก้วเหล้าในมือขึ้น แก๊งของเพลิงและดริวต่างสนิทสนมกันเคยดื่มด้วยกันบ่อยๆ

"ตามสบาย" ดริวตอบไม่ใส่ใจนัก ร่างหนาเดินไปหย่อนตัวนั้งลงข้างๆเพลิงพร้อมกับเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ได้ยินกันเพียงสองคน ก่อนที่ใบหน้าของเพลิงจะฉายแววพึงพอใจ มือหนาส่งสัญญาณเพื่อให้ดริวออกไปรอข้างนอก

"มีเรื่องอะไรรึป้าวว่ะ"

"กูต้องเข้าคาสิโนต่อ พวกมึงตามสบายเลยไว้เจอกัน" เพลิงทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาเดินออกไปยังนอกห้องวีไอพี ไม่นานสองหนุ่มก็มาถึงคาสิโนขนาดใหญ่ที่มีแต่พวกกระเป๋าหนักๆมาเสี่ยงโชคกันที่นี้ หรือบ้างบางคนมาครายเครียดจากเรื่องกลุ้มๆ ถ้าดวงดีเงินก็วิ่งเข้ากระเป๋าแต่ถ้าดวงไม่ดีเงินก็ไหลออก..

"เรื่องที่นายให้ฉันจัดการ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี" ดริว ยื่นซองเอกสารไปตรงหน้าชายหนุ่ม เพลิงหยิบมันขึ้นมาแล้วกวาดสายตาอ่านข้อความที่ปรากฎรายเซ็นยินยอมเอาชื่อของบริษัทเข้าคํ้าประกันหนี้จนกว่าจะจ่ายครบภายในเวลาสามเดือน

ซึ้งก่อนหน้านี้ดริวก็ได้เข้าไปทำรู้จักกับอังเดรแล้วแนะนำคาสิโนที่เพลิงเป็นเจ้าของ ส่วนตัวเองก็สวมบทบาทเป็นพนักงานสับไพ่ในบ่อนคอยตีเนียนยุยงให้อังเดรเล่นหนักๆ เนื่องจากเขาเป็นคนที่ชอบเล่นการพนัน ช่วงแรกๆก็สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าดวงชะตาถูกกับที่นี้แต่หลังๆก็เริ่มกลับกันยิ่งเล่นยิ่งเสีย แต่อังเดรก็ยิ่งอยากได้ทุนคืนทุ่มสุดตัวจนเป็นหนี้เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆทั้งต้นทั้งดอกที่แพงเกินหน้าเกินตา..

"หึ.."

"...อีกไม่กี่วันก็ครบกำหนดจ่ายหนี้ ถ้านายนั้นยังหามาใช้คืนเราไม่ได้คงต้องยึดบริษัท"

"มันแน่นอนอยู่แล้ว"

"ฉันถามจริงๆเถอะ จะเล่นงานให้พังทลายทั้งครอบครัวเลยรึไง"

"...แล้วคิดว่ายังไงล่ะ?"

"ก็คงใช่" พูดจบดริวก็หยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ พร้อมกับกระชับเสื้อให้เข้าที่ "ฉันคงต้องไปทำหน้าที่ต่อแล้ว ลูกน้องรายงานมาว่าคุณอังเดรเข้ามาที่นี้.."

ตึก ตึก ตึก ตึก

เพลิงปรายตามองหูฟังที่ทำการเชื่อมต่อกับลูกน้องคนอื่นบนใบหูของดริว นิ้วชี้เคาะลงที่โต๊ะพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้านั้นยากจะคาดเดา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยพูดอะไรออกมา..

"เอาให้มันล่มจม.."

.

.

.

เบาได้เบาพี่นั้นว่าที่พ่อตาในอนาคตนะ55555555555555555555

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel