บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 กลับมา

เขามองฉันและทิ้งลมหายใจยาวจากนั้นก็เบือนใบหน้าไปทางอื่นเพื่อสะกอดกั้นอารมณ์หนึ่งเอาไว้แทนเพราะความหัวเสียแต่ไม่ได้ทำอะไรนักทำให้เขาเป็นแบบนี้ ฉันในตอนนี้ทำได้แค่จ้องมองเขาในชุดนักศึกษานิ่งๆ ไม่ได้พูดหรือว่าทำอะไรให้อีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำไป

“…”

“มาทำอะไรที่นี่อีกฟาง”

ที่นี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากให้ฉันมา

ที่นี่คือสิ่งที่เขาเอ่ยห้ามทุกครั้งด้วยแหละ

และที่นี่ถ้าจะมาก็ต้องให้มีเขาตามมาด้วยมันถึงโอเค

ไม่ใช่ว่าฉันไม่ฟังเขานะแต่วันนี้ฉันเลือกที่จะเข้ามาคนเดียวเพราะอีกฝ่ายเรียนเช้าต่างหากจึงไม่อยากรบกวนอีกอย่างถ้ามาหาพ่อกับแม่ตอนบ่ายรับรองไม่เจอหรอก

“ขอฝากเต”

“ฝากเต?”

“อืม”

ฉันยอมรับ

“รู้ทั้งรู้ว่ามันจะเป็นยังไงแล้วยังจะมาอีก อย่าฝืนไม่ใช่ก็ไม่ต้องทำเคยบอกเอาไว้ไม่ใช่หรือไง”

“แล้วจะให้ทำยังไงพรุ่งนี้ฟางมีเรียนซ่อมคาบที่หยุดไม่ว่างส่วนพี่ก็มีเรียนนิปล่อยลูกไว้คนเดียวเหรอ” เห้ยนี่มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้วนะแต่คงต้องเปลี่ยนแผน “จะเอาแบบไหนคิดบ้างเลย”

“…” เพราะเขาเงียบก็เป็นฉันเองที่เอ่ยปากอีกครั้งหนึ่ง

“ฟางเมื่อยจะขึ้นไปนั่งบนรถ”

แค่นี้เขาก็ปลดล็อคพร้อมกับเดินมาเปิดประตูรถให้เสร็จสรรพพอขึ้นรถมาได้อีกฝ่ายก็เช่นกันคนอย่างเขาไม่ยืนอยู่นอกรถประทะอากาศร้อนให้อารมณ์เสียหงุดหงิดหรอก ฉันรีบปลดรองเท้าส้นสูงของตัวเองไว้มุมหนึ่งของรถแล้วเลือกสวมรองเท้าแตะที่มีการเตรียมเอาไว้ให้แทนเป็นแบบนี้เสมอซึ่งมันติดเป็นนิสัยไปแล้วแหละทั้งๆ ที่รถคนนี้ไม่ใช่ของตัวเองนะ ฉันไม่ได้เอารถมาเพราะมีเรียนตอนเช้าแค่สองชั่วโมงจึงรีบมาบ้านพ่อแม่เลยโดยใช้บริการวินมอเตอร์โซค์แทน

“คาดเข็มเข็ดด้วย”

“เป็นไงคิดออกมั้ย” ฉันทำตามที่เขาบอกจากนั้นก็ส่งเป็นประโยคคำถามไปด้วยยังไงตอนนี้สองหัวก็ยังดีกว่าหัวเดียวแล้วกันอย่างน้อยๆ ปัญหาใหญ่เราสองคนก็ผ่านกันมาได้นี่มันเล็กเกินกว่าจะทำอะไรพวกเราได้แน่

“พอเดี๋ยวพี่ดูลูกเอง”

“แน่ใจนะ” ฉันย้ำ

“ทำไมกัน”

“เหอะไม่น่าถาม”

“ถ้าคิดว่าพี่จะไปหาเด็กโปรดเลิกมโนลงซะฟางตอนนี้ไม่มีหรอก”

ประโยคแก้ตัวที่อีกฝ่ายเอามาใช้ทุกครั้งจนฉันจำขึ้นใจในตอนนี้มันถึงขึ้นพื้นฐานเลยแหละ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะสับรางเก่งแค่ไหนหรือว่าจะไปอยู่กับอีหนูน้อยคนไหนฉันไม่สนใจทั้งนั้นตราบใดที่เขายังคุมอยู่

“ก็เอาให้อยู่แล้วกัน อย่าให้วุ่นวาย”

“เธอกำลังหาเรื่องนะ”

“โปรดทำความเข้าใจใหม่นะพี่มันไม่ใช่หาเรื่องแค่เตือนมากกว่า จะมีเยอะก็คุมให้อยู่ซะ”

“เธอกำลังหึงงั้นเหรอ?”

“…” ไม่มีคำตอบมีแต่การถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเป็นที่สุดให้กับคำถามนี้เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเลือกถามแต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้เยอะจนนับและจดจำไม่ไหวก็ว่าได้ "อันนี้ก็อย่าหลงตัวเองให้มาก"

“มั่นหน้าถามเลยนะ”

“มั่นหน้าให้มันลดลงหน่อยเถอะ” อีกฝ่ายยิ้มพร้อมกับเร่งความเร็วเพื่อให้ทันไฟแดงตรงหน้าและมันก็ฉิวเฉียดผ่านมาได้อย่างไร้กังวลใดๆ ทว่าสิ่งที่นำความกังวลเข้ามาอีกครั้งคงเป็นทางที่แสนคุ้นแต่เป็นทางที่ฉันไม่อยากเข้ามาเท่าไหร่นัก “ทำไมถึงมาทางนี้นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านเรานะ”

“กลับวัง”

“วังอย่างงั้นเหรอ ทำไมมีอะไรพี่”

ใช่เขาเป็นเจ้า

และเขาก็ฐานะใหญ่ด้วย

“...”

“หรือว่ามีเรื่องอีก คราวนี้จะให้ฟางพูดกับหม่อมแม่พี่ว่าอะไรอีก”

“พี่ไม่ได้มี” เขาปฏิเสธนัยน์ตาใสสื่อคู่นั้นทำให้ฉันระแวงขึ้นมาและไม่เชื่อง่ายๆ “จริงๆ แม่แค่อยากทานข้าวด้วย”

“จริงเหรอ”

“มั้ง”

“แบบนี้เรียกว่ามีเรื่องแล้วแหละ” ‘มั้ง’ เป็นคำที่ออกมาจากปากเขาแล้วบอกไว้เลยว่าไม่น่าเชื่อถือสักนิดเดียว มั้งที่มีเรื่อง มั้งที่ไม่ใช่และก็มั้งที่ไว้ใจไม่ได้อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด “บอกมาเลยจะได้เตรียมตัวถูก”

“ไอ้ตุลย์มันกลับมาแล้วนะฟาง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel