บทที่ 3 ทิ้ง
“แกทำร้ายแม่แกทำไมอีฟาง!”
“…” พ่อสติแตกลงในทันทีพร้อมกับวาจาแข็งกร้าวสาดพ่นเข้ามาใส่อีกทั้งยังลุกขึ้นคว้าไม้กวาดใกล้ตัวขึ้นมาติดมือก่อนเดินมุ่งหน้ามาเพื่อกะฟาดฉันแน่ๆ “ฟางไม่ได้ทำร้ายแต่ฟากก็เจ็บเป็นเหมือนกัน”
“แกเป็นลูกบังอาจมาทำกับแม่แบบนี้เหรอ ฉันสอนแกแบบนี้เหรออีกฟาง”
ไม่มีใครสอน
ไม้กวาดถูกยกสูงเตรียมฟาดลงมากระทบเนื้อของฉันทว่าชั่วพริบตาที่ยังมีความรวดเร็วของอะไรบางอย่างเข้ามากันเอาไว้อย่างทันการแถมเสียงด้ามไม้กวาดกระทับกับมันดังปึก
“ทานโทษครับพ่อตาพอดีลูกเขยคนนี้อยากถามว่าอย่างไหนจะเจ็บกว่ากันถ้าโดนฟาดระหว่างด้ามไม้กวาดกับ...ไม้เบสบอลในมือผม”
ประโยคคำพูดกวนส้นตีน
น้ำเสียงไม่เชิงไม่เคารพแต่ไม่ใช่ยอม
กิริยาท่าทางที่เลือกใช้แสดงออกมานั้นสมเป็นเขาดี
แค่นี้ก็คาดเดาไม่ผิดว่าผู้มาใหม่ที่เข้ามาร่วมอีกคนเป็นใครอีกทั้งพ่อแม่ทั้งสองไม่สะทกสะท้านกับการมาเท่าไหร่นักแค่นี้ก็ทำให้รู้โดยอัตโนมัติไปโดยปริยายว่าเขาคือพ่อของลูกฉันเอง เรื่องราวความซับซ้อนของครอบครัวฉันมันมีอีกเยอะแยะทั้งที่สามารถรับรู้ได้และที่ไม่สามารถรับรู้ได้
‘ความลับ’ มันมีอยู่ทุกที่แหละ
และถ้าจะไขความลับได้ก็ต้องรอเมื่อ ‘ถึงเวลา’ หรือไม่มันก็จะยังคงที่เป็นความลับไปตลอดกาล
“…”
พ่อเลือกที่จะไม่โต้ตอบและก็ปล่อยด้ามไม้กวาดในมือลงกระทบพื้นไปแต่รู้ไหมว่าสายตาแข็งกร้าวไม่ยอมคนมันยังคงอยู่ไม่จางหายไปประจวบกับไม้เบสบอลของอีกฝ่ายที่อยู่เคียงข้างฉันมันก็ถูกเก็บลงไปอย่างรวดเร็ว
เขารอเวลาพ่อยอมแล้วถึงจะยอมลงเช่นเดียวกัน
วิถีชีวิต การใช้ชีวิต การกระทำหรือว่าการตอบโต้ผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนคนอื่นๆ หรอกตั้งแต่รู่จักกันมาคำว่าเสือ Playboy Badboy ฉลาดเป็นกรดคำพวกนี้ทำให้ฉันได้ยินทุกครั้งไม่ว่าจะหลังคบหรือว่าก่อนคบกัน
เขาไม่เหมือนคนอื่น
เขาไม่พูดมากให้เรื่องวุ่นวาย
และเขาก็ซัดอย่างเดียวเมื่อฉันโดยกระทำ
อย่างเช่นในครั้งนี้ก็ตามแค่นัยน์ตาคมสีดำเข้มดุตวัดเข้ามาไล่ดูตามร่างกายของฉันด้วยความละเอียดแต่ว่าแฝงความรวดเร็วก่อนละทิ้งไปมองคนที่มีศักดิ์เป็นพ่อตาตัวเอง
“ตี... ตีได้ไม่ว่าแต่ถามเหตุผลหน่อย ครั้งนี้ตีฟางทำไมครับ”
“รีบเอาอีฟางออกไป”
“ผมยังไม่ได้คำตอบจากพ่อตาเลยแม่ยายคิดว่าผมจะไปเหรอ”
“แกนี่มันขี้หาเรื่องจริงๆ” แม่ตำหนิขึ้นโดยใช้สายตาดุสื่อมองมาทางฉันว่าให้รีบพาเขาออกไปจากบ้านแต่มีเหรอฉันจะทำได้ถ้าอีกฝ่ายยังคงปักหลักยืนนิ่งแสวงหาคำตอบแบบนี้ “อีฟางเอาผัวแกออกไป”
“ผมพูดกับพ่อตาอยากได้ยินแค่พ่อตาไม่ใช่แม่ยายนะ”
“ไอ้...”
“จะตอบได้หรือยังครับพ่อตา”
“กูตีมันเพราะมันทำร้ายแม่ตัวเองไง พ่อตีลูกแค่นี้ไม่ได้เหรอ”
“แล้วที่คนเป็นแม่เข้ามาผลักหัวลูกซ้ำๆ แค่ลูกมีธุระไปทำต่อไม่ล้างจานไม่ทำงานบ้านให้เหมือนทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้งที่มาบ้านหลังนี้เลย แบบนี้เรียกว่าอะไรครับหรือแค่เรียกว่าแม่แค่สั่งสอน”
เขาพูดตามที่เห็นมา
เขาก็พูดถูกทุกอย่าง
พอพ่อท่านได้ยินแบบนี้สิ่งที่ทำได้ในเวลาต่อมาคือยกนิ้วขึ้นชี้ไปทางประตูบ้านในทันทีไม่รีรออะไรทั้งนั้นสมที่จะเป็นพ่อดีเมื่อถกเถียงอะไรไม่ได้ก็ทำแค่ไล่ออกจากบ้านให้พ้นหูพ้นตาไป
“ออกไปจากบ้านกูซะ!”
เขามองฉันและทิ้งลมหายใจยาวจากนั้นก็เบือนใบหน้าไปทางอื่นเพื่อสะกอดกั้นอารมณ์หนึ่งเอาไว้แทนเพราะความหัวเสียแต่ไม่ได้ทำอะไรนักทำให้เขาเป็นแบบนี้ ฉันในตอนนี้ทำได้แค่จ้องมองเขาในชุดนักศึกษานิ่งๆ ไม่ได้พูดหรือว่าทำอะไรให้อีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำไป
“หึ...” เขาก็เลยทำได้โดยการส่งเสียงแค่นี้โดยที่ไม่ได้อะไรกับพ่อต่อมีแต่ใช้ไม้เบสบอลดันร่างกายของฉันให้ไปทางประตูเราทั้งสองคนมาหยุดที่หน้าบ้าน “เป็นอะไรเกิดความดีเข้าสิงไม่โต้ตอบอย่างงั้นเหรอ”
