บท
ตั้งค่า

8 1000 ปีต่อมา

1000 ปีต่อมา

เวลา 23:00 น.

โลกเปลี่ยนแปลงไปมากมายนัก ไม่ว่าจะเป็นประเพณี สังคม ผู้คน และกาลเวลา ทุกๆ สิ่งไม่เหมือนเดิม รวมถึงสองพี่น้องคู่นี้ด้วย เซนและโจเซฟ ใช้ชีวิตในวัยใกล้จะสามสิบที่ถูกหยุดเอาไว้ได้อย่างต่างกันสุดขั้ว โดยผู้เป็นน้องประทับใจและชื่นชอบชีวิตใหม่ที่ตนเองได้รับหลังจากโดนสาป เขามีพละกำลัง อำนาจ พลังวิเศษ และความเป็นอมตะ อยากทำสิ่งใดก็ย่อมไร้คนกังขา มีแต่ผู้คนก้มหัวให้ด้วยความยำเกรง

แตกต่างจากพี่ชายของเขา ที่ต้องทนทุกข์ทรมานทุกครั้งเมื่อแสงอาทิตย์ขึ้น พยายามหลบซ่อนตนเองจากสิ่งรอบข้าง และใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในทุกๆ วัน ค้นหาวิธีการถอนคำสาปนี้วันแล้ววันเล่า แต่ก็ไร้ซึ่งความหวังและหนทาง ต้องปกปิดใบหน้าซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากครึ่งซีกสีดำสนิท เพื่อไม่ให้ผู้ใดได้เห็นส่วนที่อัปลักษณ์และน่ารังเกียจของเขา

ภายในผับหรูใจกลางตัวเมืองแห่งหนึ่ง ที่ด้านบนชั้นสองซึ่งเป็นโซนส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของ ได้มีร่างของเซนและโจเซฟนั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่เรียบหรูดูดี เพื่อสังเกตสถานการณ์แขกเรื่อที่อยู่เบื้องล่างอย่างเงียบๆ

ในตอนนี้ธุรกิจที่พี่น้องคู่นี้ได้ทำคือธุกิจกลางคืน เนื่องจากเซนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในเวลากลางวัน เขาจึงจำเป็นต้องเลือกทำธุรกิจนี้แม้ไม่ได้ชอบใจนัก โดยพวกเขามีผับดังตามใจกลางเมืองต่างๆ อยู่หลายสาขา ซึ่งแล้วแต่อรมณ์และความรู้สึกว่าคืนนี้อยากเข้าไปดูที่สาขาไหน

“เอาเหมือนเดิมมาให้ฉันกับพี่หน่อย” โจเซฟเปรยขึ้นสั่งผู้รับใช้ที่เขาจ้างมา ให้ลงไปนำเครื่องดื่มราคาแพงที่เป็นที่โปรดปรานสำหรับเขาและพี่ชาย ชายหนุ่มร่างใหญ่โค้งตัวเล็กน้อยเพื่อรับคำสั่ง ก่อนจะเดินลงบันไดไปยังเบื้องล่างเพื่อนำสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการขึ้นมาให้ ไม่นานนัก ชายคนนั้นก็กลับมาพร้อมกับแก้วทรงสวยที่มีเหล้าราคาแพง เขาค่อยๆ บรรจงยกเสิร์ฟผู้เป็นเจ้านายทั้งสองของตนอย่างน้อบน้อม ก่อนจะกลับไปยืนประจำที่เมื่อภารกิจลุล่วง

“ทำไมวันนี้บรรยากาศดูเงียบผิดปกติ” เซนเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อสังเกตเห็นว่าผู้คนที่มาเที่ยวผับของเขาในวันนี้ดูน้อยลงมาก

“น่าจะเป็นเพราะข่าวเรื่องการหายตัวไป ของบรรดาผู้หญิงที่มาเที่ยวผับเราครับนาย” บุรุษหนุ่มที่พึ่งยกเหล้ามาเสิร์ฟให้ผู้เป็นนายเมื่อครู่เอ่ยตอบ ส่งผลให้โจเซฟที่นั่งอยู่ข้างๆ เซนด้วยสีหน้าสบายใจในตอนแรกเริ่มร้อนรน เนื่องจากสาเหตุการหายตัวไปของผู้หญิงพวกนั้นเป็นเพราะเขา

“นายลงไปก่อน ไม่ได้เรียกไม่ต้องขึ้นมา” เซนเอ่ยไล่ลูกน้องร่างใหญ่ของตน ก่อนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะเดินลงไปยังชั้นล่างอย่างเชื่อฟัง และเมื่อเหลือเพียงเขากับน้องชายเพียงลำพัง เซนจึงเอ่ยขึ้นต่อ “เมื่อไหร่แกจะเลิกฆ่าผู้หญิงพวกนี้สักที มันทำให้เราใช้ชีวิตลำบาก” เซนหันหน้าไปมองผู้เป็นน้องด้วยสายตาเรียบเฉย แต่กลับดูดุดันจนน่ากลัว โจเซฟจึงยกแก้วเหล้าหรูขึ้นจรดริมฝีปากด้วยความกระอักกระอ่วนที่ถูกจับผิดได้

“ก็พวกมันน่ารำคาญ พอเสร็จแล้วแทนที่จะยอมไปแต่โดยดี กลับมาเร้าหรือจะสานความสัมพันธ์ต่อ ส่งเสียงแสบแก้วหูเอาแต่ใจ ฆ่าทิ้งซะจะได้จบๆ” โจเซฟพูดด้วยท่าทางหัวเสีย

“มันทำให้ตำรวจเข้ามาวุ่นวาย เข้าใจไหม!!”

“ก็ฆ่ามันซะสิ ตัวน่ารำคาญพวกนั้น ฆ่ามันให้หมด!” ผู้เป็นน้องพูดด้วยสายตาที่ดุดัน แววตาสีแดงเพลิงดูพอใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เอ่ยความต้องการนั้นออกมา

“อะไรทำให้แกเปลี่ยนเป็นคนเลือดเย็นได้ขนาดนี้” เซนมองหน้าน้องชายด้วยสายตาที่กำลังประเมินอะไรสักอย่าง

“เวลาเปลี่ยน ก็ไม่แปลกที่ฉันจะเปลี่ยน มีแต่พี่นั่นแหละที่ไม่ยอมเปลี่ยน ดักดาน!” พูดจบโจเซฟก็หายตัวไปราวกับว่าเขาไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ความรู้สึกเซนไหววูบด้วยความหวาดหวั่น เพราะรู้ว่าน้องชายของเขากำลังจะทำอะไร ก่อนที่เซนจะหายตัวตามโจเซฟเพื่อไปขัดขวางเขาในทันที

ด้านนอกหน้าผับหรู มีรถเก๋งสีดำสนิทจอดอยู่ในมุมมืด ภายในรถมีชายอายุประมาณสามสิบปลายๆ อยู่สองคน กำลังนั่งสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ พวกเขาทำแบบนี้มาเป็นเวลาร่วมเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสของผู้สูญหายนับสิบรายที่ถูกแจ้งความเอาไว้ในรอบสามเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยขอหมายมาค้นที่นี่ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ จะมีก็แต่ชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่ง ที่ใส่หน้ากากสีดำสนิทดูลึกลับคนนั้น ที่แปลกประหลาดและดูมีเงื่อนงำ ไหนจะน้องชายของเขาที่มีผมและตาสีแดงเพลิง ดูน่าขนหัวลุกแม้จะดูดีก็ตามนั่นอีก

“พี่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมว่าเราเสียเวลาเปล่าแน่ๆ” ชายผู้ที่ดูอายุน้อยกว่าเอ่ยบอกอีกคนที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ

“แล้วจะให้ทำยังไง? ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่าง เบาะแสเดียวที่เรามีคือทุกคนหายไปที่นี่ แต่พอเราไปค้นข้างในกันวันนั้นมันก็ไม่มีอะไรไม่ใช่หรอ” ชายที่ดูอายุมากกว่าเอ่ยตอบ ด้วยสีหน้าที่หมดความหวังในการจะจับผู้กระทำความผิด และค้นหาผู้สูญหาย

“เฮ้อ!” ทั้งคู่ถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กัน โดยไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ และอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเขาเลยสักนิด

บัดนี้ ในรถไม่ได้มีแค่พวกเขาอยู่แล้ว ภายในห้องโดยสารด้านหลัง ปรากฏร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผู้มีผมและนัยน์ตาสีแดงเพลิง กำลังนั่งแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวให้กับพวกเขาอยู่

“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง…” โจเซฟเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ส่งผลให้บุคคลเบื้องหน้าทั้งสองรีบหันกลับมามองด้านหลังทางต้นเสียง แต่ก็ไม่พบผู้ใด ก่อนชายผู้ที่นั่งด้านหลังพวงมาลัย จะสังเกตเห็นว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นฝั่งด้านข้างคนขับ เพื่อนร่วมงานของเขาดูมีท่าทีแปลกไป เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลออกจากริมฝีปากช้าๆ ดวงตาเบิกโตด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่เขาจะเอนตัวพิงไปกับเบาะและสิ้นลมหายใจลงตรงหน้า และเมื่อชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้นไปมองยังนอกหน้าต่างรถที่เปิดอยู่ ก็พบว่าโจเซฟกำลังยืนแสยะยิ้ม ถือหัวใจที่เต้นตุบๆ ของเพื่อนร่วมงานเขาเอาไว้

“ว๊ากกก” ชายผู้ที่มีชีวิตรอดร้องออกมาด้วยความตื่นกลัว ก่อนจะรีบสตาร์ทรถและขับออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นด้วยความลนลานทันที โจเซฟแสยะยิ้มอีกครั้งด้วยความพออกพอใจกับความหวาดกลัวของเหยื่อ เขาทำท่าจะตามแต่ก็ถูกพี่ชายของเขาขวางทางเอาไว้ซะก่อน

“พี่มาขวางทำไม?” โจเซฟเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก

“หยุดฆ่าคนเป็นว่าเล่นสักที” เซนเอ่ยด้วยสีหน้าที่หนักใจกับผู้เป็นน้องชาย ตอนนี้โจเซฟลุ่มหลงไปกับพลังอำนาจ จนกลายเป็นปีศาจเต็มตัวไปแล้ว

“อย่ามายุ่ง!!” สิ้นเสียงตวาด โจเซฟก็หายตัวไปทันที เขาต้องการตามรถคันนั้นไปให้ทัน และควักหัวใจสดๆ ที่มีเลือดสูบฉีดดวงนั้นออกมาทำลายเล่น

ทางด้านตำรวจที่ขับรถหนีออกมาได้สักพัก ก็เข้าใจว่าตนเองหนีพ้นจึงค่อยๆ ชะลอความเร็วรถลงจากเดิม ก่อนจะหลับตาลงเล็กน้อยและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ แต่เขาก็รู้สึกแบบนี้ได้ไม่นานนัก เมื่อลืมตาและสบเข้ากับโจเซฟที่ยืนขวางทางเอาไว้

“มาได้ไงวะ?” ตำรวจผู้นั้นสบถกับตัวเองด้วยความแปลกใจและตื่นกลัว ก่อนจะรีบหักพวกมาลัยเลี้ยวไปอีกทางในทันที

โจเซฟไม่อยากรีบร้อนฆ่าเหยื่อ เขาอยากเล่นและหยอกล้อกับชายผู้นั้นให้ถึงที่สุด จึงปล่อยให้ตำรวจคนนั้นได้หนีไปเรื่อย ๆ และตนเองก็ตามไปปรากฏตัวยังมุมต่าง ๆ ของถนน เพื่อให้เกิดความสยองขวัญสั่นประสาท

กริ๊งงง กริ๊งงง

เสียงโทรศัพท์ของตำรวจคนนั้นดังขึ้น ภาพที่โชว์บนหน้าจอโทรศัพท์ เป็นรูปของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีอายุไม่น่าจะเกิน 15 ปี ส่วนชื่อที่ใช้แสดงคือ ‘ลูกชาย’ เขาก้มลงมองโทรศัพท์ของตนเองที่ตกหล่นอยู่บนพื้นด้านล่างฝั่งข้างคนขับ ซึ่งมีศพของเพื่อนร่วมงานนั่งอยู่ ก่อนจะค่อยๆ ร้องไห้ออกมาด้วยความหมดหวัง เขาคิดว่าเขาน่าจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาคนที่รออยู่ที่บ้านเป็นแน่

ในขณะที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายอย่างคนหมดสิ้นโอกาส อยู่ๆ ร่างของโจเซฟก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งขวางด้านหน้ารถยนต์ของเขาเอาไว้ ทำให้เขาหลับตาลงและเหยียบคันเร่งหมายจะชนอย่างเต็มแรง แต่กลับกลายเป็นว่าร่างนั้นได้หายไปในพริบตา ส่งผลให้รถของเขาพุ่งทะยานข้ามเกาะกลางถนน และไปเสยชนกับรถยนต์อีกคันที่วิ่งสวนมาอย่างจัง

“ฮ่าๆๆ” โจเซฟหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งและสะใจ เขายืนชื่นชมผลงานของตนเองอย่างคนโรคจิต

เบื้องหน้า เป็นรถยนต์สองคันที่นอนหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ โดยคันแรกเป็นรถเก๋งสีดำที่มีร่างไร้วิญญาณของตำรวจ ส่วนอีกคันเป็นรถเก๋งสีขาวที่มีร่างไร้วิญญาณของสองสามีภรรยา ซึ่งพาลูกสาวตัวน้อยที่ดูมีอายุไม่น่าจะเกิด 10 ขวบ กลับจากการไปเที่ยวต่างจังหวัด และเหมือนโจเซฟจะรู้สึกตัวว่าผู้เป็นพี่ชายกำลังตามมาและใกล้จะพบเขาแล้ว เขาจึงรีบสลายตัวไปในความมืดทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel