บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 มานอนด้วย

“นอนที่นี่? หมายถึงนอนในบ้านวีเหรอคะ?”

เมื่อได้ยินเธอถามแววตาของเขามีรอยขบขัน มั่นใจได้เลยว่าจิณะกำลังยียวนกวนประสาทเธอ

“ก็ใช่สิ หรือว่าผมนอนบ้านคุณไม่ได้ต้องไปนอนในเล้าไก่แทน?” สายตาของจิณะแน่นอนว่ากำลังพาลพาโลเธอ แต่ธัญวรินทร์ไม่รู้จริง ๆ ว่าที่เขาหงุดหงิดมันเรื่องอะไร

“คุณจะมานอนที่บ้านวีทำไม ถ้าแค่เรื่องหย่าพูดกันเลยก็ได้ค่ะ คงใช้เวลาไม่มาก” เธอหลบตาเขาทั้งยังพูดแบบชัดถ้อยชัดคำ

ธัญวรินทร์พูดเรื่องหย่าแบบไม่มีทีท่าเดือดเนื้อร้อนใจอะไร การหย่าจะทำให้เธอเป็นหม้ายสามีทิ้งทั้งที่ยังสาว ยังสวย แบบนี้ถ้าเป็นหม้ายเขาเรียกกระดังงาลนไฟหรือเปล่า…

ธัญวรินทร์เป็นผู้หญิงจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ตากลมโต ไม่ได้สวยจัดจนแบบที่เห็นแล้วต้องโอ้สวยมาก แต่คือรูปร่างดีไม่ได้ติดผอมไป ถ้าจะลากไปออกงานด้วยแต่งตัวหน่อยก็ไม่เสียหาย

แต่จิณะคิดว่ายากเพราะเมียทะเบียนของเขาดูจะจืดชืด ไม่แต่งหน้า ไม่ทำผม แต่งกายด้วยใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ ๆ เป็นแฟชั่นที่เขาตามไม่ทัน มันจะเหมือนคนงานในฟาร์มก็ไม่ใช่ มันผสมผสานกันแบบที่ดูแปลก แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชินตาง่าย ๆ

สรุปแบบนี้คือธัญวรินทร์เป็นผู้หญิงที่แต่งอะไรก็ดูดี จิณะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนย้อนแย้งยังไงไม่รู้

เช่นวันนี้ชุดเสื้อกล้ามสีขาวนุ่งทับกับกางเกงยีนสีซีด สวมทับด้วยเสื้อคลุมกันแดดน้ำเงินอีกที มัดผมหางม้า สวมหมวกปีกที่มีเชือกผูกใต้คางกันปลิว รองเท้าบูตสีดำครึ่งหน้าแข้ง แค่นี้เลยแต่มันกลับทำให้จิณะรู้สึกว่าผู้หญิงบ้านไร่ก็ดูมีคลาสดี

แก้มชมพูนั่นคงเป็นเพราะแดดร้อน เธอไม่แต่งหน้าอยู่แล้ว ไม่เคยเห็นว่าแต่งนอกจากวันแต่งงาน ว่าไปธัญวรินทร์เหมือนเด็กมัธยมศึกษาตอนปลายมากกว่าจะเป็นผู้หญิงอายุสามสิบ เรือนกายสูงโปร่ง มีอก มีเอว สะโพกผาย มือเท้าเรียวเล็กไปหมด ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะจับไม้กวาดทำความสะอาดเล้าไก่กับพวกคนงานในฟาร์ม หรือให้อาหารไก่ด้วยมือเปล่าพวกนั้น

“...คุณจินมองวีทำไมคะ?” เขาเห็นความไม่พอใจฉายชัดในดวงตาคู่สวย

แน่นอนละจิณะไม่ปิดบังว่ากำลังสังเกตเมียตัวเองอยู่

“มองไม่ได้เหรอ?” นัยน์ตาแฝงรอยยิ้มของเขา ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังโดนกวนประสาท

“วียังไม่เสร็จงานเลยค่ะ เอาแบบนี้ไหมวีจะไปเตรียมเอกสารให้และส่งไปรษณีย์ไปให้คุณ”

เธอหมายถึงพวกเอกสารบัตรต่าง ๆ ที่ต้องรับรองการหย่า จิณะคงเตรียมเอกสารมาแล้ว แต่เขาไม่บอกเธอก่อนธัญวรินทร์จึงยังไม่ได้เตรียมให้พร้อม

คนได้ยินไม่มีท่าทีตกใจ เขาทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างสำนักงาน และก็หมุนตัวกลับมาหากอดอกมองหน้าเธอ

“เพิ่งจะแต่งงานไม่กี่เดือนเองวี ขืนหย่าตอนนี้แม่ได้ตีหัวผมแตกพอดี…” แล้วเขาต้องการอะไร? ธัญวรินทร์ได้แต่ยืนนิ่ง รอตั้งรับว่าจิณะจะมาไม้ไหน

“ฟาร์มคุณดูดีขึ้นกว่าตอนแรกเยอะเลย หกเดือนเองนะก็ถือว่าฟื้นตัวเร็วเหมือนกัน” ริมฝีปากหยักยกยิ้ม แววตาสีเข้มเปล่งประกายระยับแฝงเล่ห์กล

ธัญวรินทร์กลืนน้ำลายเหนียวลงคอก่อนจะสบดวงตาคมกลับไปและเธอก็พยักหน้า

แน่นอนว่ามันต้องดีอยู่แล้ว เงินสิบล้านของเขาเธอใช้มันเหลือหนึ่งส่วนสี่เท่านั้น

“คุณสร้างโรงเรือนใหม่ สร้างเล้าไก่ใหม่ ตั้งหน้าร้านซูเปอร์มาร์เก็ตด้วย…ตรงนั้นฟาร์มผักเหรอ?” เธอมองตามนิ้วมือเรียวยาวดั่งผู้หญิงของเขา ธัญวรินทร์คอแห้งผาก

จิณะจำได้ว่าครั้งก่อนที่เขามาที่นี่ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ฟาร์มกิจเมธีสกุลเหมือนปิดตัวไปแล้ว มันทั้งเก่า ไม่ทันสมัยเป็นโรงเลี้ยงไก่ธรรมดาและวุ่นวายไปหมด มีคนจากภาครัฐเข้ามายุ่มย่ามอีกด้วย เพราะธัญวรินทร์เกือบโดนข้อหาทำให้โรคในสัตว์ระบาด

แต่ตอนนี้ทุกอย่างจัดการเรียบร้อย โรงเรือนดูใหม่ ดูทันสมัยเป็นระเบียบ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อหกเดือนที่แล้วจะเป็นฟาร์มที่โดนโรคระบาดในไก่ลงจนไม่เหลือสัตว์สักตัวเดียว

ธัญวรินทร์แทบจะพลิกพื้นที่ตรงนี้และสร้างทุกอย่างใหม่ แบบที่ไม่เหลืออะไรเก่า ๆ อะไรไว้เลย นอกจากสำนักงานและตัวบ้านของเธอที่ห่างออกไปด้านหลัง

และทั้งหมดเธอคงใช้เงินทุนมหาศาล...สิบล้านคงไม่เหลือแล้ว มุมปากขอจิณะโค้งขึ้นเมื่อภรรยาเอาแต่หลบสายตา

“ตรงนั้นวีจะทำฟาร์มผักออแกนิกและอาจจะปลูกผลไม้อินทรีย์ด้วยค่ะ”

จิณะเห็นโรงเรือนข้างสำนักงาน ตอนที่เธอให้เขารอเพราะกำลังคุยกับปศุสัตว์คนใหม่ประจำฟาร์ม ชายหนุ่มคงไปเดินสำรวจหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เอาเรื่องนี้มาถามเธอ

“เห็นคุณทุ่มเทแบบนี้ไม่เสียแรงที่ผมสนับสนุนนะ” เขากำลังทวงบุญคุณ ธัญวรินทร์ร้อนวาบไปทั้งเนื้อทั้งตัว แต่เธอก็ยังแสร้งยิ้มเหมือนกับรู้ไม่ทันว่าเขากำลังจะสื่ออะไร

สายตาของจิณะมองกันแบบที่ธัญวรินทร์เนื้อตัวร้อนผ่าว

“วีขอบคุณที่คุณจินช่วยเหลือค่ะ ถ้าไม่ได้คุณจินทุกอย่างคงไม่ราบรื่นแบบนี้” เธอพูดจบก็หลุบสายตาลงต่ำ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอหนา ร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“ผมไม่ใช่คนชอบทวงบุญคุณใครนะวี คุณอย่าคิดมากสิ เราเป็นผัวเมียกัน เมียเดือดร้อนผัวจะนิ่งดูดายได้ยังไง แล้วนี่คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรอีกไหม” ธัญวรินทร์ส่ายหน้าทันที หัวใจเธอเต้นตึกตักเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้

ธุรกิจฟาร์มไก่ประสบปัญหาโรดระบาด เงินทุนไม่พอหมุนเวียน กู้ธนาคารก็ไม่ผ่าน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฟาร์มกิจเมธีสกุลเสียทั้งชื่อเสียงและฐานลูกค้าสั่นคลอนความไว้วางใจจากลูกค้าจะให้เต็มร้อยเหมือนเดิมก็คงไม่ใช่เลยทีเดียว

ทุกอย่างเหมือนกลับไปอยู่สู่จุดเริ่มต้น ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่หมด

ดีหน่อยที่ได้เงินจากจิณะมาหมุนใช้ในยามธุรกิจเกิดวิกฤต ธัญวรินทร์ใช้เงินจำนวนมหาศาลจัดการค่าใช้จ่ายจำพวกน้ำยาฆ่าเชื้อที่ต้องใช้แต่ละวัน ค่าคนงานที่ยังต้องจ่ายแม้โรงเรือนจะถูกสั่งพักเล้าไก่ และทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีก็เป็นเพราะจิณะคอยซัปพอร์ตเธอ ทั้งหมดมันเป็นเพราะเขา

“หรือคุณคิดว่าผมมาทวงบุญคุณ?” ธัญวรินทร์ส่ายหน้าจนปลายผมม้าสะบัด เธอจะปฏิเสธยังไง อ้าปากพูดอะไรบุญคุณมันก็ค้ำคอ

“วีก็ไม่ได้คิดว่าคุณจินจะมาทวงบุญคุณอะไร วีรู้ว่าคุณเป็นคนชอบแกล้ง และคุณจินไม่ใช่คนใจร้ายด้วย”

จิณะจิ๊ปากชอบใจ ธัญวรินทร์เหมือนคนว่านอนสอนง่าย ไหลลื่นไปทุกสถานการณ์ เธอดูเป็นผู้หญิงซึน ๆ ไม่มีพิษมีภัยอะไร ทำเหมือนตามเขาไม่ทันแต่จริง ๆ รู้ทันเขาเสียยิ่งกว่าอะไร

“จริง ๆ นะคะ วีไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะ”

มุมปากของจิณะโค้งขึ้น คนแบบเราที่แค่อ้าปากก็เห็นกันไปยันลิ้นไก่แล้วธัญวรินทร์ก็เหมาะสมที่จะเป็นคู่ชกยามเหงาของเขา แบบนี้แหละที่เรียกว่าสนุก!

“ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นก็ดีแล้ว เอาละวีไปเคลียร์งานให้เสร็จเราจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนกัน วันนี้ผมเหนื่อยมากเลย อยากได้คนนวดหลังให้หน่อย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel