บท
ตั้งค่า

3 สับสน

3

สับสน

ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ รบกวนคนตัวเล็กซึ่งกำลังนอนหลับอุตุให้รู้สึกตัวตื่นขึ้น นิทานเอื้อมมือควานหาผ้าห่มอันอบอุ่น หลังเมื่อคืนเธอถีบออกจากร่างกาย เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มทำพิษ

ทว่าควานหาเท่าไหร่กลับไม่พบ เมื่อสิ่งที่เธอต้องการตกลงไปกองอยู่บนพื้น ใบหน้าสวยเริ่มงอง้ำด้วยความหงุดหงิด ดวงตากลมโตลืมตื่น ยกศีรษะขึ้นกวาดสายตาหาสิ่งที่ต้องการ

นิทานเกิดความแปลกใจ เมื่อมองไปรอบๆ กายแล้วพบถึงสิ่งผิดปกติ บรรยากาศไม่คุ้นเคย เฟอร์นิเจอร์ไม่คุ้นตา นั่นทำให้ร่างกายเธอราวกับติดสปริง ดีดตัวลุกขึ้นนั่งทำหน้าเหวอ

หัวใจดวงเล็กกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรงด้วยความตื่นตระหนก รีบเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดที่พอจะจดจำได้ ภาพความจำสุดท้ายคือเธอกำลังยืนอยู่บนราวสะพาน แต่หลังจากนั้นมันช่างดูรางเลือนเหลือเกิน

ใครคนหนึ่งคว้าเธอกลับลงมายืนบนพื้น อ้อมกอดของเขาให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย กลิ่นหอมอ่อนๆ บนตัวผู้ชายคนนั้นยังติดอยู่บริเวณปลายจมูก

‘คุณอยากนอนกับฉันไหม?’

‘ฉันอยากนอนกับคุณ’

‘ฉันอยากนอนกับคุณจริงๆ นอนกับฉันเถอะนะ’

แต่สิ่งที่นิทานจำได้แม่นในความทรงจำอันพร่าเบลอ คือประโยคที่ตัวเองเอ่ยออกไปอย่างไร้สติ มันดังก้องอยู่ในโสตประสาท ตอกย้ำการกระทำสิ้นคิดของตน

“นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย?”

ดวงตาทั้งสองข้างหลับลง คิ้วเรียวขมวดมุ่น พร้อมยกมือขึ้นตบหน้าผากจนเกิดเสียงดังแปะ

และขณะกำลังกล่าวโทษตัวเอง ภาพฉากการร่วมรักของเธอกับบุรุษปริศนา เริ่มทยอมฉายชัดขึ้นมาในหัวสมอง ทว่า... นิทานกลับจำใบหน้าของคนคนนั้นไม่ได้

ดวงตากลมเบิกโพลงขึ้นอีกครั้ง ก้มสำรวจร่างกายซึ่งยังคงมีเสื้อผ้าสวมใส่ แต่ความเรียบร้อยดูไม่เหมือนเดิมสักเท่าไหร่ เมื่อเกาะอกปีนขึ้นมาอยู่เกือบถึงไหปลาร้า ส่งผลให้กระโปรงด้านล่าง ร่นสูงขึ้นมาจนเกือบเห็นแพนตี้สีขาว แถมมันยังดูเบี้ยวๆ ไปทางขวาอีกด้วย

เสื้อผ้าแปลกไปยังพอรับได้ เพราะอาจเกิดจากนิสัยการนอนดิ้นของเธอ แต่ความรู้สึกวูบวาบในท้องน้อย และอาการเจ็บปนเสียว ตรงจุดกึ่งกลางของร่างกายนี่มันคืออะไร

หรือภาพความจำทั้งหมดมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่มันคือเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ

นิทานกวาดตามองรอบห้องอีกครั้งอย่างพินิจพิจารณา พลันสายตาไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งบนโต๊ะหัวเตียง เธอรีบเอื้อมมือไปหยิบพวกมันขึ้นมาดู

อย่างแรกคือกล่องยาคุมฉุกเฉิน นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับกระดาษโน๊ต ซึ่งมีข้อความสั้นๆ เขียนเอาไว้ว่า

‘กินมันซะ แล้วอย่าเพิ่งไปไหน’

เท่ากับว่าเธอมีสัมพันธ์สวาทกับผู้ชายแปลกหน้าจริง และที่สำคัญเขาน่าจะไม่ได้ป้องกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่ทิ้งของสิ่งนี้เอาไว้ให้เธอกินหรอก

“โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย”

นิทานยกมือเกาศีรษะตัวเองแรงๆ อย่างรู้สึกหัวเสีย ทำท่าจะแกะยาคุมฉุกเฉินกิน ตามที่ข้อความในกระดาษเขียนไว้ แต่จู่ๆ กลับหยุดชะงักและนิ่งคิด

นิทานใช้เวลาอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ในการนั่งตรึกตรองทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง บางทีการกระทำสิ้นคิดที่แวบเข้ามาในหัวสมอง มันอาจเป็นความคิดที่ดีก็ได้

เธอจะไม่ปล่อยโอกาสในการสร้างปัญหา ให้พ่อตัวเองปวดหัวจนความดันขึ้นหลุดลอยไปแน่ๆ เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว ทีนี้ก็มารอลุ้นว่า ผู้ชายคนนี้จะมีน้ำยามากน้อยแค่ไหน

“มารอดูกัน ว่าฉันเลือกพ่อพันธ์ได้คุณภาพหรือเปล่า?”

นิทานตัดสินใจโยนกล่องยาคุมฉุกเฉินลงถังขยะข้างโต๊ะหัวเตียง เปิดลิ้นชักค้นหาปากกาขึ้นมาเขียนข้อความสั้นๆ ตอบกลับ และนำกระดาษแผ่นนั้นวางคืนไว้จุดเดิม ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการร่างกายตัวเอง ให้เรียบร้อยพอจะออกไปเผชิญผู้คนด้านนอก

เธอไม่ได้ทำตามคำสั่งของบดินทร์สักอย่าง นอกจากจะไม่ยอมกินยาแล้ว นิทานยังกลับไปโดยไม่ทิ้งช่องทางการติดต่ออะไรไว้ให้ แม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนามของตัวเอง

เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เจ้าของห้องตัวจริงก็ปรากฏกายขึ้น บดินทร์เปิดประตูเข้ามาด้านใน แต่กลับไม่พบเงาของผู้หญิงที่ตัวเองหิ้วมาทิ้งไว้เมื่อคืน

ร่างสูงควานหาจนทั่วเพนต์เฮาส์ ก่อนกลับมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง จ้องมองร่องรอยความไม่เรียบร้อยของที่นอนขนาดคิงไซส์ กวาดสายตาจนไปสะดุดบางสิ่งในถังขยะ

ถังขยะว่างเปล่าไร้สิ่งปฏิกูลใดๆ มีกล่องยาคุมฉุกเฉินนอนแน่นิ่งอยู่ลำพัง เมื่อลากสายตาเลื่อนไปอีกนิด กระดาษโน๊ตแผ่นน้อยที่บดินทร์เขียนข้อความไว้ ยังคงวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงดังเดิม แต่ที่แปลกไปนั้น คือมันมีข้อความที่ไม่ใช่ลายมือเขาเขียนเพิ่มขึ้นมา

บดินทร์รีบหยิบขึ้นมาอ่านทันทีด้วยความสังสัยอยากรู้ และเมื่อได้เห็นข้อความชัดๆ คิ้วได้รูปพลันขมวดมุ่น พร้อมถอนหายใจออกมาแรงๆ คล้ายหงุดหงิด

เพราะข้อความที่นิทานเขียนเอาไว้ ราวกับว่าเธอตั้งใจปล่อยให้ตัวเองท้อง หรือความจริงแล้ว ทั้งหมดเป็นแผนการของเธอที่ตั้งใจจะจับบดินทร์

‘ขอบคุณสำหรับน้ำเชื้อ’

ไม่มีผู้หญิงคนไหน อยากท้องกับผู้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอกันครั้งแรก ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของกันและกัน การที่เธอทำแบบนั้น มันทำให้บดินทร์คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ

ดวงตาคมแข็งกร้าว มองจ้องไปด้านหน้าอย่างไร้จุดจับสายตา จินตนาการว่ากระดาษโน๊ตในมือเป็นผู้หญิงคนนั้น บีบขยำจนมันยับยู่ยี่ ก่อนขว้างทิ้งลงถังขยะด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ถูกหยิบขึ้นมากดโทรออกหาเลขาคนสนิท รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ

“ตามสืบเรื่องผู้หญิงคนเมื่อคืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ เอาอย่างละเอียด!”

ไม่ว่านิทานจะไปหลบอยู่มุมไหนหลุมไหน ก็ไม่มีทางหนีคนอย่างบดินทร์ได้พ้น เขาจะตามหาเธอจนสุดล่าฟ้าเขียว แล้วนำตัวกลับมาจัดการด้วยวิธีการของเขา

กล้ามากระตุกหนวดเสือ ก็ต้องยอมรับผลการกระทำของตัวเองหลังจากนี้ให้ได้

เพียงไม่กี่ชั่วโมง ประวัติของนิทานก็ตกมาอยู่ในมือบดินทร์จนได้ ดวงตาคมกวาดมองรูปถ่ายและตัวหนังสือในหน้าจอแท็บเล็ต ด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งเครียด ไม่นานริมฝีปากหยักก็กระตุกยิ้มเยือกเย็น

เหตุเพราะนิทานเป็นลูกสาวเจ้าของกิจการจิวเวลรี่ ที่พยายามติดต่อเข้ามาเพื่อขอนำสินค้า ขึ้นขายบนห้างสรรพสินค้าในความดูแลของบดินทร์

ทว่ากลับถูกบดินทร์ปฏิเสธทุกครั้ง เพราะพื้นที่ในส่วนของจิเวลรี่ไม่เพียงพอ แบรนด์ชั้นนำตั้งหลักจับจองเอาไว้หมด ต้องรอจนกว่าเจ้าใดเจ้าหนึ่งจะหมดสัญญา และการต่อสัญญาครั้งต่อไปต้องเกิดความล้มเหลว พ่อของนิทานจึงจะได้รับโอกาสนั้น

“ลูกสาวคุณเกริกนี่เอง”

บดินทร์เอ่ยลอยๆ กับตัวเอง เลื่อนสไลด์ดูรูปถ่ายนิทานในอิริยาบทต่างๆ แต่เมื่อมองไปมองมา สีหน้าและแววตากลับอ่อนลงทีละนิด

แม้ดูสวยมีเสน่ห์น้อยกว่าตัวจริงที่ได้พบ แต่กลับมองเพลิน จนเผลอเลื่อนวนกลับขึ้นไปดูซ้ำเป็นครั้งที่สอง

ในแต่ละรูปนิทานดูเป็นผู้หญิงเหย่อหยิ่งสุขุม บุคลิกดูลึกลับน่าค้นหา เย็นชาเสียจนบดินทร์เกิดความคิดแปลกๆ ขึ้นมา ว่าหากริมฝีปากอวบอิ่มอันนั้นเผยอยิ้ม มันจะดูน่ามองมากแค่ไหนกัน

โทรศัพท์มือถือซึ่งวางคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะ ถูกหยิบขึ้นมาใช้งานอีกครั้ง

“พรุ่งนี้นัดคุณเกริกคุยเรื่องสัญญาให้ฉันที”

[แต่ตารางงานของท่านประธานพรุ่งนี้แน่นมากเลยนะครับ]

ปลายสายแย้งขึ้น น้ำเสียงดูวิตกกังวลขณะเช็คตารางงานของผู้เป็นเจ้านาย

“หาช่องว่างแทรกให้ได้ อะไรสำคัญน้อยสุดเลื่อนออกไป”

[แต่...]

“ถ้าพรุ่งนี้ฉันไม่ได้พบคุณเกริก นายเตรียมหางานใหม่ได้เลยวาที”

บดินทร์ออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากผู้หญิงในรูปถ่ายบนหน้าจอแท็บเล็ตคนนี้ เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้กับเขา

นั่นจึงทำให้วาที ผู้ทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของบดินทร์มาร่วมเจ็ดปี จำใจต้องตอบรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

[ครับๆ ผมจะจัดการให้]

ปลายสายทำท่าทางคล้ายจะจบบทสนทนา และไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ทว่ากลับถูกรั้งไว้เสียก่อน

“เดี๋ยว!”

[สงสารผมเลยคิดจะเปลี่ยนใจใช่ไหมครับท่านประธาน?]

วาทีเอ่ยเสียงสดใส เข้าใจว่าเจ้านายเมตตาสงสาร คลี่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มนั้นกลับหุบลง

“เปล่า บอกคุณเกริกด้วยว่าต้องพาลูกสาวมาด้วย”

[รับทราบและจะรีบไปปฏิบัติตามคำสั่งเดี๋ยวนี้เลยครับ]

วาทีจบบทสนทนาด้วยการตอบรับแกมประชดประชัน แต่นั่นไม่ได้สร้างความเคืองขุ่นให้ผู้เป็นเจ้านาย เพราะถือเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา

หลังบทสนทนาจบลง บดินทร์วางโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิม กลับมาสนใจข้อมูลในแท็บเล็ตอีกครั้ง

นิทานเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลนันทพิวัฒน์ แม่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายตอนเธออายุได้เพียงเจ็ดขวบ พ่อแต่งงานใหม่จึงมีแม่เลี้ยงและน้องสาวหนึ่งคน

เรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารตั้งแต่อายุยี่สิบสอง แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาลัยชื่อดังในต่างประเทศ อีกทั้งยังมีฝีมือด้านศิลปะและการดนตรี

หน้าตาสะสวยบุคลิกดูดี เคยถ่ายแบบและแสดงภาพยนตร์ช่วงเรียนมหาลัย แต่พอเรียนจบกลับอำลาวงการมานอนอยู่บ้านเฉยๆ ปริญญาโทด้านการบริหารไม่เคยถูกนำมาใช้งาน

มีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานบริษัท เพราะถือหุ้นที่ได้รับมรดกหลังแม่ตายร่วมสามสิบเปอร์เซ็น แต่กลับไม่เคยเข้าบริษัทไปทำหน้าที่ เอาแต่เที่ยวเล่นผลาญเงินพ่อไปวันๆ

กิจการครอบครัวใช่ว่าจะกระจอก ทำธุรกิจเกี่ยวกับจิวเวลรี่ มีร่วมห้าสิบกว่าสาขาทั้งในและนอกประเทศ และเพราะพ่อของนิทานไม่มีลูกชาย ตำแหน่ง CEO จึงมีโอกาสตกถึงมือเธออย่างชอบธรรม

แต่จากพฤติกรรมที่เธอทำอยู่ในทุกวันนี้ สร้างปัญหาและข่าวอื้อฉาวไม่มีหยุดพัก นิทานจึงมีโอกาสชวด และน้องสาวอาจได้รับสิทธิ์นั้นแทนเธอ

“โปรไฟล์ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เสียดายไม่น่าทำตัวเหมือนคนสิ้นคิด”

บดินทร์รู้สึกเสียดายศักยภาพของผู้หญิงที่เขาเพิ่งมีสัมพันธ์ด้วย เธอเก่ง ฉลาด หัวดี จนเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง แต่กลับไม่นำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ เอาแต่ทำตัวไร้ค่าไปวันๆ

การวางแผนร่วมหลับนอนกับบดินทร์ หลอกล่อให้เขาติดกับ และปฏิเสธการกินยาคุมฉุกเฉินเพื่อปล่อยให้ตัวเองท้อง อาจเป็นกลวิธีของผู้หญิงคนนี้ ที่หวังช่วยกิจการครอบครัวแบบรวบรัด

“เรียนมาตั้งสูง สุดท้ายกลับเลือกใช้วิธีสกปรก ฝันไปเถอะ!”

แท็บเล็ตถูกโยนลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ ว่ามันอาจจะกระดอนร่วงหล่นด้านล่างหรือไม่

ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นเดินไปยังบานกระจกขนาดใหญ่ ยืนล้วงกระเป๋ากางเกง ทอดสายตามองวิวเมืองหลวงบนชั้นที่ห้าสิบ ทว่ากลับไม่ได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของมัน เพราะกำลังนึกถึงแต่ผู้หญิงคนนั้น

เป็นครั้งแรกที่ในหัวบดินทร์ มีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่าเรื่องงาน ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เขายังสลัดนิทานออกจากสมองไม่ได้ นั่นอาจเป็นเพราะเขาพลาดท่าให้กับเธอ หรือความจริงแล้ว... มันเป็นเพราะสาเหตุอื่นกันแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel