EP16 ไม่มีอิสระ
EP16
.
.
.
สัปดาห์ต่อมา..
(วันแข่งบัลเล่ต์)
ครืด... ครืด...
ในตอนที่วันใสกำลังเดินออกมาจากร้านซ่อมโทรศัพท์เสียงเรียกเข้าของเธอก็ดังขึ้นปรากฏรายชื่อบนหน้าจอ นิ้วเรียวจึงกดรับแล้วกรอกเสียงลงไป
"ว่าไงคะ"
(หนูกำลังจะแข่งแล้วนะคะ พี่วิถึงไหนแล้ว)
"กำลังจะไปค่ะ"
(มาให้ได้นะคะพี่วิ หนูขอบคุณสำหรับรองเท้าใหม่ด้วยนะคะ สวยมากเลย) รองเท้าใหม่...เท้าเล็กหยุดแน่นิ่ง รองเท้าใหม่แบบนั้นหรอ เธอไม่ได้เป็นคนซื้อให้วันใหม่เพราะอยากเก็บเงินก้อนเอาไว้ตอนวันใหม่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แล้วใครกันล่ะเป็นซื้อให้?
"ค่ะ ชนะให้ได้นะ พี่เป็นกำลังใจให้"
(หนูจะรอนะคะ)
"โอเคค่ะ" คุยโทรศัพท์กับผู้เป็นน้องจบวันใสก็กดตัดสาย พลันข้อความจากใครบางคนก็เด้งขึ้นบนหน้าจอมือถือ เป็นโปรไฟล์รูปหมีชื่อเป็นแค่อิโมจิรูปหัวใจ คิ้วเรียวขมวดยุ่งด้วยความสงสัยก่อนจะกดเข้าไปอ่านพร้อมกับเดินทอดน่องไปตามริมถนน...
'ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าของรองเท้าคู่นั้นเป็นใคร มาเจอกันหลังงานแข่ง'
วันใสกดปิดหน้าจอเอาไว้แล้วโบกแท็กซี่ที่ขับผ่านหน้าพอดี เธอตรงดิ่งไปที่งานแข่งบัลเล่ห์ใครกันเป็นคนซื้อรองเท้าให้วันใหม่ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าวันใหม่อยากได้อีกทั้งยังมีแข่งวันนี้ด้วย วันใสได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจแล้วรอเวลาจนมาถึงจุดมุ่งหมายในที่สุด
หลังจากวันนั้นวินเซนก็ไม่ค่อยกลับมาคอนโด เหมือนเขาจะกำลังหลบพวกนักข่าวและปลีกตัวไปอยู่องค์กรแทนซะมากกว่า กลางวันใช้เวลาทำงานกับงานโปรเจคใหม่ กลางคืนสวมหน้ากากซ่อนความชั่วร้าย มันก็นับว่าดีแล้วที่วินเซนไม่ค่อยมีเวลา เธอเองก็ไม่อยากเจอหน้าเขาเท่าไหร่...
เท้าเล็กหยุดแน่นิ่งเมื่อเดินมาถึงหลังงาน ดวงตากลมโตกวาดมองหาใครบางคนเจ้าของข้อความที่ส่งมา ในตอนที่งานกำลังเริ่มขึ้นแล้ว พร้อมกับก้มมองโทรศัพท์สลับกันด้วยท่าทีร้อนรน...
"ไง..." ในตอนที่กำลังหลุดอยู่ในความคิดของตนเองเสียงเอ่ยทักของใครบางคนก็เอ่ยขึ้นข้างหลังไม่ไกลนัก ใบหน้านวลหันกลับไปมองก็พบเข้ากับร่างของคนตัวสูงที่แต่งกายมิดชิดสวมแมสและฮูดปิดบังใบหน้า แต่มันกลับคุ้นสำหรับวันใส..
"คูเปอร์..."
"อืม"
"ซื้อรองเท้าให้วันใหม่ทำไมคะ"
"อยากขอบคุณ แต่ไม่มีโอกาส"
"เรื่องคืนนั้นใช่ไหม"
"ใช่ เธอช่วยปิดข่าวให้ฉัน"
"ไม่เป็นไรค่ะ รองเท้าของวันใหม่มันแพงเกินไป..."
"ถ้าไม่อยากให้ฉันรู้สึกติดค้างบุญคุณก็รับไว้เถอะ" ไม่ทันที่วันใสจะพูดจบ คูเปอร์ก็พูดตัดบทขึ้นมา เขาเดินมาหยุดข้างกายเธอและมองออกไปยังตรงหน้า ที่เลือกจะมาที่นี้เพราะเป็นสถานที่ไร้ผู้คน ไม่มีใครเดินเพ่นพ่านถึงข้างในจะมีการแข่งขันครึกครื้น มือหนาล้วงหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับจุดสูบ ในสมองเหมือนมีอะไรให้คิดตลอดเวลา
"ก็ได้ค่ะ"
"...คืนนั้นเธอหายไปไหน"
"วันไหนหรอคะ"
"งานฉลอง"
"ฉันคิดว่าตนเองไม่ควรไปค่ะ"
"อยากเจอ"
"ตอนนี้ก็เจอแล้วนี่ไงคะ"
"อยากเจอบ่อยๆ" พูดแล้วนิ้วแกร่งก็ครบมวลบุหรี่ออกจากปากแล้วพ่นควันออกมาลอยคละคลุ้งไปตามสายลม ทำให้เธอต้องจ้องมองการกระทำของชายหนุ่ม
"บริษัทไม่ให้ยุ่งกับสารเสพติดไม่ใช่หรอคะ"
"กฎมีไว้แหก"
"แล้วถ้าทางต้นสังกัดรู้"
"ไม่พักงานคงถูกไล่ออก"
"ไม่กลัวหรอ"
"ไม่ได้อยากเป็นตั้งแต่แรก" พลันได้ยินคำตอบของคูเปอร์ทำให้เธอพยักหน้าเข้าใจ เส้นทางของศิลปินทุกคนไม่ใช่ทุกคนที่มาตามเพราะความฝันบางคนอาจจะมาเพราะเหตุผลที่ไม่เต็มใจ ภาพลักษณ์บนเวทีเขาดูมีความ สุขแต่กลับอยู่ลับสายตาแฟนคลับเขากลับมีสายตาหมองเศร้ามีอะไรให้คิดอยู่ตลอดเวลา
"ฉันไม่รู้นะคะว่าคุณกำลังมีปัญญาอะไร ต่อถ้าทำอะไรแล้วมันไม่มีความสุขก็อย่าฝืนเลยค่ะ"
"หึ..." ครูสทิ้งมวลบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ เขาเค้นหัวเราะในลำคอ เกิดเป็นเขาเลือกที่จะไม่ทำได้หรอ?
"ฉันต้องเข้าไปหาน้องแล้ว อย่าเศร้าเลยนะคะ"
"เราจะได้เจอกันอีกใช่ไหม"
"ถ้ามีโอกาส.." ตอบแค่นั้นเธอก็เดินห่างออกมาจากบริเวณเพื่อจะเข้าไปชมการแข่งขันของวันใหม่ต่อ ทำให้คูเปอร์หยุดยืนใช้ความคิดอยู่เพียงลำพัง แม้ตอนออกมาเขายังคงต้องคอยระวังตัวอีก อยากใช้ชีวิตปกติธรรมดา อยากมีคนรัก อยากอยู่กับใครสักคนแล้วมีความสุขได้ เหลือเวลาอีกห้าปีกว่าจะหมดสัญญา...มันน่าอึดอัดสิ้นดี
.....
(หลังจบงาน)
"ผลเป็นยังไงบ้างคะพี่เกด" ในตอนที่วันใสเดินเข้ามาในงานก็เป็นจังหวะเดียวกันกับการแข่งขันที่ใกล้จบลงแล้ว
"ยังไม่ออกเลย รอเขาประกาศผลอีกหน่อย"
"แล้ววันใหม่ใกล้ออกมารึยังคะ"
"เด็กๆในทีมกำลังแยกไปหาผู้ปกครองหน่ะ นั้นไง วันใหม่มาแล้ว" ไม่ทันที่กาละเกดจะพูดจบร่างของวันใหม่ก็เดินมาพร้อมกับกัปตันทีมซึ่งเป็นคุณครูที่ปรึกษา
"พี่วิน้าเกด" วันใหม่เอ่ยเรียกด้วยความดีใจพร้อมกับรอยยิ้ม
"ไปหาผู้ปกครองนะคะ ไว้เจอกันใหม่"
"ค่ะ คุณครู" เสียงใสขานรับแล้วยกมือขึ้นไหว้ครูสาวที่เดินมาส่ง
"ผลออกมาแล้วนะคะ น้องวันใหม่ผ่านเข้ารอบไประดับนานาชาติค่ะ" คำพูดของคุณครูทำให้วันใสหยุดชะงักเธอพูดอะไรไม่ออกแล้วหลุบตามองน้องสาวคนเก่งด้วยความภาคภูมิใจ
"หนูทำได้แล้วค่ะ" วันใหม่ยิ้มไม่หุบเธอเงยหน้ามองผู้มีพระคุณทั้งสองแล้วจับมือคนเป็นพี่สาวพร้อมกับน้าเกดของเธอ
"น้ารู้แล้วค่ะ เก่งจัง" กาละเกดเอ่ยชมร้อมรอยยิ้ม เธอใช้มือยีผมสลวยด้วยความเอ็นดู
"คนเก่งต้องได้รางวัลสินะ"
"ใช่ค่ะ น้าเกดบอกว่าคนเก่งต้องได้รางวัล"
"งั้นคุณครูไปก่อนนะคะ พักผ่อนเยอะนะหนูต้องเตรียมตัวไปต่างประเทศแล้ว"
"ค่ะ" วันใหม่พยักหน้าตอบด้วยท่าทางน่ารัก
"ขอตัวก่อนนะคะ"
"ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่มาส่งแก" เป็นวันใสที่เอ่ยบอก คุณครูจึงหมุนตัวเดินกลับไปหาเด็กคนอื่นในทีม การแข่งขันบัลเล่ห์มีหลายทีมด้วยกันในประเทศไทย การพิจารณากรรมการจะดูความสามารถและความดึงดูดของแต่ละบุคคล นั้นก็เเปลว่าไม่มีทีมไหนชนะ จะมีแค่ถูกคัดเลือกเป็นรายบุคคลเพียงเจ็ดคนเท่านั้นเป็นตัวแทนทีมชาติไปเรียนต่อและเเข่งขันกับชาติอื่นในปีต่อไป...
"เราไปฉลองให้คนเก่งกันดีกว่า" กาละเกดพูดขึ้นแล้วจูงมือวันใหม่คนละข้างพร้อมกับวันใส
"วันใหม่อยากกินอะไรคะ เดี๋ยววันนี้พี่วิเลี้ยงเอง"
"หนูไม่อยากฉลองค่ะ"
"แล้วอยากได้อะไรคะ?"
"หนูแค่อยากนอนกอดพี่วิสักคืน..." คำตอบของวันใหม่ทำให้ทั้งสองสาวมองหน้ากันต่างคนต่างพูดอะไรไม่ออก ร่างกายหยุดแน่นิ่งในตอนที่กำลังจะเดินออกมาจากด้านหลังสนามแข่ง "ได้มั้ยคะ.."
"ได้สิคะ งั้นเราไปทานข้าวกันที่บ้านดีกว่า" พอได้ยินคำตอบจากคนเป็นพี่สาววันใหม่ก็อดที่จะดีใจออกมาไม่ได้ ก่อนที่ทั้งสามคนจะตรงดิ่งมาที่บ้านของกาละเกดในเวลาเกือบชั่วโมง
......
(บ้านกาละเกด)
"วันใหม่ขึ้นไปรอบนห้องนะคะ พี่จะทำกับข้าวไปให้"
"ได้ค่ะ"
"รีบตามมานะวิ"
"ค่ะพี่เกด" วันใสขานรับและเดินเลี่ยงไปที่ห้องครัว เธออยากทำเมนูโปรดให้วันใหม่ได้ทานเป็นของขวัญที่เธอทำตามความฝันตนเองสำเร็จ ว่าแล้วก็เริ่มจัดการทุกอย่างไม่นานก็ได้เมนูโปรดเสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ
"มาแล้วค่า เมนูโปรดของใครเอ่ย" วันใสพูดพร้อมกับเดินถือถาดสปาเกตตีราดซอสเข้ามาในห้องนอน ซึ่งวันใหม่และกาละเกดกำลังนั่งเล่านิทานให้กันฟังอยู่
"หอมจัง~"
"หอมก็กินเยอะๆเลยนะคะ"
"โอเคค่ะ"
"พี่เกดไปพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยทั้งวันแล้วเดี๋ยววิดูแลน้องต่อเอง"
"งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ได้"
"ค่ะพี่เกด" พูดคุยกันเสร็จวันใสก็หันกลับมาสนใจน้องสาวต่อ ดวงตากลมโตจับจ้องที่คนตัวเล็กวันใหม่กำลังกินเมนูโปรดของเธอด้วยท่าทางมูมมาม นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้ทำอาหารให้น้องกิน ไปเรียนต่อต่างประเทศวันใหม่คงปลอดภัยมากกว่านี้ เธอจะได้หายห่วงและออกมาจากชีวิตผู้ชายคนนั้นสักที...
หลายชั่วโมงต่อมา...
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ววันใสที่หลับอยู่ในห้วงนิทรารู้สึกตัวขึ้นเพราะสัญญาณจากมือถือสั่นคลอนอย่างบ้าคลั่ง เธองัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วคว้ามากดรับสายในตอนที่เปลือกตากำลังปิดอยู่...
"ใครคะ"
(แล้วคิดว่าใคร?) นํ้าเสียงที่ผ่านปลายสายดูเยือกเย็นจนทำให้อาการง่วงของเธอหายเป็นปลิดทิ้ง ร่างเล็กหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วมองสายเรียกเข้าก่อนหน้านั้นเป็นร้อยสาย
"พะ...พี่วิน...โทรมาทำไมตอนนี้คะ"
(ฉันต้องถามเธอต่างหากว่าอยู่ไหน?)
"วิ..."
(กลับมาเดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน)
"วิ...ไม่ว่างค่ะ"
(ฉันสั่งให้เธอกลับมา) วินเซนเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างคนที่กำลังอดกลั้นอารมณ์เอาไว้
"วิบอกว่าไม่ว่าง ให้อิสระวิหน่อยนะคะ.." พลันได้ยินคำตอบของวันใสทำเอาคนฟังถึงกับกำหมัดแน่น วินเซนกลับมาจากทำงานช่วงเที่ยงวันนี้ก็ไม่เห็นเธออยู่ห้องแต่งตัวเหมือนเดิม เขาโทรไปตั้งแต่ตอนนั้นก็ติดต่อวันใสไม่ได้ ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะกลับไปองค์กรตกคํ่าก็รีบแอบกลับมาคอนโดก็ไม่เห็นวันใสอยู่ห้องจนถึงตีสอง...เธอไปทำอะไร?
(อิสระของเธอ มันหมดตั้งแต่เธอเป็นของฉันแล้ว...วันใส)
.
.
.
โดนดุอีกแน่ๆเลยนุ้งวิ....
Next ep..
"เอากับมันมาใช่ไหม?"
