EP11 กลิ่นเมีย
EP11
.
.
.
พลันได้ยินคำแสดงความยินดีพร้อมกับใบหน้าเจ้าของร่างที่หันกลับมาก็ทำให้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
"พี่วิน…" เธอพึมพำออกมากับตนเองแล้วเบือนสายตามองไปทางอื่น
"คิดว่าความสามารถอย่างเธอจะเข้ามาทำงานที่นี้ได้แบบนั้นเหรอ" ไม่พูดเปล่าร่างหนายังเดินเข้ามาใกล้หญิงสาว
"แผนของคุณเหรอคะ"
"แล้วคิดว่าไง?"
"งั้นวิขอลาออกค่ะ" พูดจบเธอก็เตรียมตัวจะหมุนกลับไปยังห้องของประธานบริษัท
"ลืมอะไรไปรึเปล่า ว่าเธอสัญญาไปแล้วยังไม่ทันเริ่มงานก็ลาออก ค่าปรับของที่นี้ขั้นตํ่าก็เจ็ดหลักขึ้น" คำพูดของวินเซนทำให้ร่างบางหยุดแน่นิ่ง เธอคิดตามคำพูดของชายหนุ่ม ก่อนจะเซ็นสัญญาวันใสไม่ได้อ่านรายละเอียดสัญญาอย่างครบถ้วน
หากทำงานยังไม่ครบกำหนดในสัญญาจะต้องเสียเงินอย่างน้อยเป็นจำนวนเจ็ดหลัก คิดได้แบบนั้นมือบางก็ยกขึ้นเสยผมตนเองอย่างขอไปที
"คิดให้ดีก่อนจะอวดเก่ง…หึ" มีเพียงเสียงเย้ยหยันของวินเซนตอบกลับมา
"วิไม่เข้าใจ ทำไมพี่…"
"อยู่ในที่ทำงานอย่าเรียกฉันแบบนั้น เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด"
"ค่ะ…คุณวิน" เธอยกยิ้มหัวเราะแล้วหันหน้าเดินเข้าไปหาวินเซนพร้อมกระแทกเสียง
"ดีมาก…ว่าที่คนรับใช้ส่วนตัวของฉัน" มือหนายื่นเข้าไปตบที่แก้มใสแรงๆทำเอาใบหน้าหวานฉายแววไม่พอใจ ก่อนที่ร่างหนาจะเดินออกจากห้องไป
ทิ้งความสงสัยให้วันใสอยู่ไม่น้อย วินเซนทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร กลัวเธอเอาความเลวทรามของตนเองไปเปิดโปงรึไงถึงต้องอยู่แค่ในสายตาตลอด…
คิดแบบนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาแล้วเดินออกจากห้อง ก่อนจะพบเข้ากับใครบางคนที่ยืนกอดอกดักรออยู่
"เธอคือวันใสใช่ไหม?" คามี่ ผู้จัดการส่วนตัวของวันใสเอ่ยขึ้น
"ค่ะ"
"ตามฉันมา เดี๋ยวจะอธิบายเรื่องตารางงานของเขาแล้วก็หน้าที่ของเธอจะต้องทำอะไรบ้าง" พูดจบคามี่ก็เดินนำวันใสไปที่ลิฟต์คนตัวเล็กจึงเดินตามเข้าไปข้างใน
"ในแต่ละสัปดาห์ฉันจะส่งตารางงานของวินเซนไปให้ เธอต้องไปรอเราก่อนครึ่งชั่วโมงเพื่อจัดการทุกอย่างให้พร้อม โดยในแต่ละงานน้องวินจะมีห้องส่วนตัวเพราะเขาไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับใคร ส่วนวันไหนที่ตารางงานของเขาว่างเธอสามารถมาทำงานช่วยทางบริษัทให้กับเด็กฝึกหรือนักแสดงคนอื่นได้เป็นโบนัสเพิ่มหน่ะ หรืออยากจะหยุดพักก็ได้ แต่วันหยุดของเธอจะมีแค่ตารางงานของน้องวินที่ว่างเท่านั้น"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
ติ้ง~
คามี่อธิบายรายละเอียดต่างๆเสร็จก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลิฟต์เปิดออก
"ส่วนนี้ห้องทำงานของช่างแต่งหน้าทำผมหรือแม้สไตล์ลิสจะรวมตัวกันตรงนี้"
"ขอบคุณค่ะ" วันใสขอบคุณคนตรงหน้าในตอนที่หยุดอยู่หน้าประตูห้อง
"เข้าไปทำความรู้จักกับทุกคนไว้ ถึงแม้เธอจะเป็นคนส่วนตัวของน้องวินแต่การผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานก็จำเป็น ส่วนงานร่วมมาทำอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้"
"ค่ะ" ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นคามี่ก็เดินจากไป
วันใสจึงหันกลับมามองที่ประตูห้องแล้วเปิดเข้าไป ก็เจอกับทุกคนที่กำลังทำงานกันอยู่
"สวัสดีค่ะ หนูวันใสนะคะพึ่งเข้ามาทำงานที่นี้ค่ะ"
"เข้ามาก่อนสิวิ" และเสียงของกาละเกดก็พูดขึ้น วันใสจึงก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน
"วิรบกวนรึเปล่าคะพี่เกด"
"ไม่หรอกค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ" และช่างทำผมสาวประเภทสองที่กำลังแต่งหน้าให้ผู้ชายหน้าต่อหล่อเหลาก็พูดขึ้นด้วยท่าทางมีจริต
"ยินดีเหมือนกันค่ะ"
"ทำตัวให้สบายนะวิ ทุกคนที่นี้เป็นกันเอง" กาละเกดเอ่ยบอก เธอทำหน้าที่เป็นสไตลิสต์
"แล้วนี่กำลังแต่งตัวออกงานอะไรกันหรอคะ"
"ถ่ายโปสเตอร์อัลบั้มใหม่ค่ะ" และนีนี่ก็พูดขึ้นอีกครั้ง
"แล้วนี่น้องคูเปอร์ยังไม่มาอีกเหรอ" กาละเกดถามขึ้นแล้วก้มมองดูเวลาบนข้อมือ
"สงสัยเมื่อคืนแอบไปดื่มอีกแล้วมั้งคะ"
"เออวิ พี่ทำงานต่อก่อนนะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว"
"ค่ะ…งั้นหนูลานะคะ ต้องกลับไปเตรียมตัวสำหรับงานพรุ่งนี้"
"ไว้เจอกัน" กาละเกดบอกลารุ่นน้องคนสนิทวันใสจึงฉีกยิ้มส่งกลับไปให้และเดินออกจากห้องไป
…
ครืด~ ครืด~
ในตอนที่เธอกำลังจะข้ามถนนเพื่อจะขึ้นรถเมล์กลับมือบางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนไม่นานปลายสายก็กดรับ
(ว่าไงวิ) เลย์ กรอกเสียงผ่านปลายสาย
"พี่เลย์ว่างไหมคะ วิมีเรื่องอยากคุยด้วย" เธอถามออกไปและหย่อนตัวนั่งลงที่รอรถ
(ว่างครับ กำลังกินข้าวกับไอ้คริสที่ร้านอาหาร AK-FOOD)
"วิขอเวลาสักห้านาทีได้ไหมคะ"
(ได้ครับ แล้วเจอกัน) คุยโทรศัพท์เสร็จก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถเมล์เคลื่อนตัวมาจอดเพื่อรับผู้โดยสาร วันใสจึงก้าวขึ้นไปนั่งและลงแถวซอยซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารแห่งนั้น
"ทางนี้ครับน้องวิ" และเสียงของคริสก็พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือวันใสจึงเดินเข้าไปหาและหย่อนตัวนั่งลงข้างเลย์
"มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า"
"วิมีเรื่องอยากให้พวกพี่สองคนช่วยค่ะ"
"เรื่องอะไร"
"วิอยากเข้าไปทำงานที่องค์กรของพวกพี่" สิ่งที่วันใสพูดออกมาทำให้ช้อนในมือของคริสร่วงหล่นกระทบจาน สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วหันกลับมามองวันใส
"พวกพี่ไม่ตลกด้วยนะ" คริสพูด
"สีหน้าวิดูตลกหรอคะ"
"แล้วจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร…"
"ความยุติธรรมค่ะ แฟนวิถูกฆ่าตาย วิแค่อยากทำงานในองค์กรและสืบเรื่องทั้งหมด" เธอพูดออกมาด้วยนํ้าเสียงแน่วแน่
"คนที่ทำหน้าที่เคลียร์คดี มีแค่ผู้ชาย อย่างทีมพี่ก็เคยมีคิมแต่นายนั้นออกจากองค์กรไปแล้วก็เกือบตาย" คริสพยายามบอกให้เธอล้มเลิกความคิด
"นั้นสิคะ ไม่งั้นวิคงไม่อยากให้พวกพี่ช่วย ให้วิเข้าทีมกับพวกพี่นะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวิจะรับผิดชอบเอง"
"มันไม่คุ้มเสี่ยงเลยนะวิ รู้จักเขาดีแค่ไหนถ้าบอสจับได้ว่าวิคือผู้หญิง…"
"ถ้าวิไม่พร้อมตาย คงไม่มาขอร้องพวกพี่" เธอพูดสวนเลย์ขึ้นมา
"พวกพี่เป็นห่วงวิจริงๆนะ"
"วิรู้ค่ะ ถ้าพวกพี่ไม่ชอบวิคงจะลุยคนเดียว"
"ตกลง…พี่จะช่วยเธอ"
ไม่ทันที่วันใสจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เลย์ก็เป็นคนรับปาก ให้พวกเขาช่วยยังดีกว่าปล่อยวันใสไปคนเดียว…
....
องกรค์ KDS...
"ขออนุญาตครับคุณเดน" เลย์หยุดขออนุญาตเจ้าของห้องก่อนจะเดินเข้ามาหาเดนนิสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
"ได้ยินว่าได้คนเข้าร่วมทีมใหม่แบบนั้นหรอ"
"ครับ"
"เช็คประวัติดีรึยัง"
"นี้ครับ" เลย์ตอบแล้วเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานพร้อมกับวางเอกสารซองสีน้ำตาลลงบนโต๊ะ เดนนิสจึงหยิบมันขึ้นมาอ่านดู
มันคือข้อมูลปลอมของวันใส ก่อนที่เขาจะกดเสิร์จในกูเกิลเพื่อเช็ค พอปรากฏข้อมูลขึ้นสายตาคมกริบจึงจ้องมองไปที่เลย์ ทำเอาเขารีบก้มหน้าหลบสายตา
"มั่นใจแล้วเหรอที่ทำแบบนี้"
"ครับ?"
"บอกนายนั้นเข้าไปพบบอสที่ห้องเรด"
"วันนี้บอสไม่เข้าองค์กร…"
"ฉันสั่งอะไรก็ทำตาม"
"ได้ครับคุณเดน" เลย์ไม่รู้เลยทำไมเดนนิสถึงสั่งให้วันใสขึ้นไปพบบอส ทั้งที่ปกติเขาจะไม่เข้าองค์กรแต่วันนี้มันบังเอิญสิ้นดี…
....
อีกด้าน…
ในช่วงดึกของวันเดียวกัน วินเซนยังไม่กลับวันใสจึงใช้โอกาสที่เหลือวันนี้ปลอมตัวเป็นผู้ชาย เธอสวมเสื้อหลายชั้นให้ตนเองดูตัวใหญ่และมวยผมขึ้นสวมวิก
อีกทั้งยังแต่งแต้มหน้าให้หยาบกร้านและติดหนวดเคราเพิ่มเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขาลงจากรถตู้ก็ไม่ลืมหยิบเสื้อโค้ชสีดำตัวใหญ่ยาวเลยเข่าลงมา ปิดด้วยแมสอีกชั้นรอเวลาให้เลย์ส่งสัญญาณมา
ความจริงแล้วเธอไม่ได้อยากมาที่นี้เพื่อทำคดีของติณหรอก แค่ต้องการหาข้อมูลอะไรบางอย่างเพื่อเปิดโปงที่นี้เท่านั้นจึงต้องปลอมตัวเข้ามา
ตี้ด…
(ไอ้เลย์ส่งมาบอกว่าให้เข้าไปได้ ขึ้นไปพบบอสที่ชั้นบนสุด ห้องเรด)
"ค่ะ" ตอบเพียงเท่านั้นวันใสจึงหยิบป้ายขององค์กรขึ้นมาคล้องคอและเดินเข้าไปในองค์กรขนาดใหญ่
(ระวังตัวให้ดี บอสจับพิรุธคนเก่ง พลาดครั้งเดียวทุกอย่างจบ)
"โอเค" พูดคุยกันเรียบร้อยวันใสก็เดินเข้ามาในลิฟต์และตรงขึ้นไปยังห้องเรดอย่างที่คริสบอก
การปลอมตัวเข้ามาในสถานที่แบบนี้ สำหรับเธอมันน่ากลัวแต่ความกล้าของหญิงสาวกลับมีมากกว่า
วันใสเชื่อว่า บอส ที่ทุกคนไม่เคยรู้จัก เธอรู้จักเขาดีกว่าใคร…
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
"เข้ามา" เสียงพูดผ่านเครื่องดัดแปลงดังขึ้น วันใสกวาดสายตามองทางเดินมืดสลัวเพื่อเช็กทางหนีก่อนจะเอื้อมมือแล้วผลักประตูเข้าไป
ก็พบเข้ากับเจ้าของร่างคุ้นตาที่นั่งพาดขาอยู่บนเก้าอี้นวมขนาดใหญ่ ใบหน้าสวมหน้ากาก สวมชุดสีดำทั้งตัวในมือถือลูกเบสบอลเล่น…
"นั่งลงสิ" ได้ยินเสียงบอกเธอจึงหย่อนตัวนั่งลง มือหนาจึงหยิบประวัติขึ้นมาอ่าน
"คนในทีมใหม่งั้นหรอ แต่หน้าคุ้นๆนะ" คำทักทายของคนตรงหน้าทำเอาวันใสแอบตกใจเล็กน้อย
"หน้าผมมันโหลครับคงจะจำผิด"
"คงใช่"
หมับ!
"อ๊ะ!?" เธอหลุดครางออกมาเมื่อลูกเบสบอลปาเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง
"เสียงครางก็คุ้นหูเหลือเกิน" เขาพึมพำออกมาแล้วลุกขึ้นเข้าไปหาวันใส ร่างหนาเดินมาหยุดข้างหลังแล้วใช้แขนรัดลำคอระหง
"ปล่อย"
"คิดว่าปลอมตัวแล้วจะไม่รู้หรอ?" กระซิบบอกแล้วล็อกคอเธอรุนแรงมากขึ้น มือกระชากหมวกพร้อมกับดึงวิกออก
"อะ…อึก!"
"อยู่ดีๆไม่ชอบ ชอบรนหาที่ตายสินะ…วันใส"
"นะ…แน่จริง…ก็ฆ่าฉันให้ตายไปเลยสิ…วินเซน"
.
.
.
เป็นพระเอกยังไงให้เหมือนตัวร้ายแบบนี้นะ
Next ep...
"หาความจริงเรื่องพี่ติณยังไงล่ะ มันค้างคาใจวิอยู่ตลอด…จนวินอนไม่หลับพี่ไม่เคยเสียคนที่รักไป ไม่รู้สึกหรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน แล้วถ้ายิ่งรู้ว่าคนที่ทำเป็นใครแล้วทำอะไรไม่ได้มันยิ่งเจ็บ"
