7 ลูกแมวเปลี่ยนเป็นนางแมว
7
ลูกแมวเปลี่ยนเป็นนางแมว
“เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะสนใจมึงอยู่นะ”
ครามเอ่ยเมื่อหันไปเห็นสายตาหญิงสาวที่กำลังส่งมายังเพื่อนสนิทของตน เขาลอบสังเกตมาสักพักตั้งแต่แก้มหอมลุกเดินจากไป ซึ่งเพื่อนเขาเองก็มีปฏิกิริยาตอบรับที่ชัดเจนมากว่าสนใจอีกฝ่ายเช่นกัน
“เออ กูเห็นแล้ว”
แผ่นดินยกแก้วเหล้าในมือขึ้นเป็นสัญญาณตอบรับ การสานความสัมพันธ์ที่สาวสวยคนนั้นส่งมาทางสายตา เธอทำท่าเขินอายเล็กน้อยก่อนยกแก้วของตนเองส่งสัญญาณกลับ
“ได้เหยื่อแล้วสิมึง ไวเว่อร์”
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
“เฮ้ย! มึงอย่าลืมนะว่ามึงพกคู่หมั้นมาด้วย”
เป็นนาวินที่เอ่ยเตือนสติ เขาเข้าใจแผ่นดินดีที่สุดเรื่องความอยากคั่วไปเรื่อยๆ ของเพื่อน แต่วันนี้มันพกว่าที่เมียในอนาคตมาด้วย จะมาทำตัวเหมือนอย่างเคยๆ มันดูไม่เหมาะสม
“พกมาแล้วไง เดี๋ยวกูให้ขับรถกลับเองก็ได้”
“กูไม่ได้หมายความแบบนั้น กูหมายถึงให้มึงคิดถึงจิตใจน้องเขาหน่อย ยังไงเขาก็คู่หมั้นมึงนะเว้ย”
“มึงไม่ต้องไปคิดแทนยัยนั่นหรอก พวกเราไม่ได้รักได้ชอบอะไรกัน ยังไงก็ต้องถอนหมั้นอยู่ดี”
“ถ้าเขาไม่ได้ชอบมึงเขาจะหมั้นกับมึงทำไมวะ?”
คนฟังรู้สึกไม่เข้าใจกับสิ่งที่เพื่อนพยายามจะอธิบายเท่าไหร่ มันมีที่ไหนหมั้นทั้งที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย หรือมีวะ?
“เรื่องมันยาว ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่ากูมีสิทธิ์เอากับผู้หญิงคนไหนก็ได้ถึงแม้ว่าจะมีคู่หมั้นแล้วก็ตาม จบนะ”
“ชั่วจริงๆ เพื่อนกู”
“ขอบคุณสำหรับคำชมครับเพื่อน”
“ว่าแต่คู่หมั้นมึงหายไปไหน?”
แก้มหอมหายไปได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และตอนนี้เธอก็ยังไม่กลับมา วันนี้เธอมากับแผ่นดิน เป็นไปไม่ได้หากเธอจะเจอคนรู้จัก
“เห็นบอกว่าจะไปห้องน้ำนะ”
แผ่นดินตอบขณะมือก็รินเหล้าในขวดทรงสวยใส่แก้วที่พร่องจนเกือบหมด
“แต่กูว่า...ไม่น่าใช่”
นาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอยพลางทอดสายตามองตรงไปยังเบื้องหน้า เหมือนกับว่าเขากำลังเจอบางสิ่งที่ดูดึงดูดความสนใจ ครามจึงมองตามสายตาของเพื่อนไป จนพบเข้ากับ...
“นั่นใช่คู่หมั้นมึงหรือเปล่าวะ?”
แผ่นดินเงยขึ้นจากแก้วเหล้า ค่อยๆ หันไปมองตามสายตาของเพื่อนสนิททั้งสอง ที่กำลังจับจ้องมองบางสิ่งอย่างให้ความสนอกสนใจ
และเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่ตัวเองรู้ดีว่าเป็นใคร ก็ตกอยู่ในลักษณะเดียวกันกับผองเพื่อนราวกับถูกสะกด
“…”
ไร้ซึ่งเสียงใดๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากหยัก แผ่นดินยังคงนั่งอึ้งตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น ภาพลักษณ์ซึ่งดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงของคนที่บอกกับเขาว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ดันไปโผล่อยู่บนเวทีกลางฟลอร์ซะอย่างนั้น
แก้มหอมในชุดผ้าถุงลายดอกไม้สีชมพูแปร๋นในตอนแรก ถูกพับขึ้นให้เป็นกระโปรงสั้นจนเกือบเสมอ… เสื้อคอกระเช้าสีฟ้าอ่อนถูกปรับแต่งเป็นเกาะอกรัดรูป ที่แทบจะปกปิดหน้าอกอวบใหญ่ไว้เกือบไม่มิด
ใบหน้าสวยแบบธรรมชาติถูกเติมแต่งจนจัดจ้านจากเครื่องสำอางซึ่งขอยืมคนอื่นมาอีกที ทำให้เธอดูสวยโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ผมสีดำสนิทที่ถูกมวยลวกๆ เอาไว้ ถูกปล่อยสยายให้ลงมาคลอเคลียกลางแผ่นหลังขาวเนียน โดยที่ขณะนี้เธอกำลังเต้นอยู่บนเวทีกลางฟลอร์อย่างยั่วยวน
แสงไฟสลัวหลากสีกับควันที่ถูกพ่นออกมาสร้างบรรยากาศให้ดูน่ามัวเมา ยิ่งขับให้หญิงสาวเบื้องหน้าดูกระตุ้นและเร้าอารมณ์ทางเพศของชายหนุ่มหลายคนได้เป็นพิเศษ จนเกิดเสียงผิวปากจากบรรดาผู้ชายมากหน้าหลายตาซึ่งยืนเชียร์อยู่ข้างล่าง
แก้มหอมยังคงเต้นด้วยท่วงท่าสุดเซ็กซี่ขยี้หัวใจหนุ่มน้อยใหญ่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่แม้แต่จะหันไปสนใจคนที่กำลังส่งสายตาคมดุเฝ้ามองเธอ
“เชี้ย.. เด็ดจัด”
นาวินเองก็ถูกภาพตรงหน้าสะกดจนเผลอครางต่ำในลำคอ เวลานี้แก้มหอมคือที่สุดของที่สุดแล้ว ไม่มีใครโดดเด่นเกินกว่าเธอได้อีก แม่สาวชุดลาเท็กซ์สีส้มที่ว่าแซ่บยังไม่ได้เสี้ยวของแก้มหอมในตอนนี้
“No comment”
ครามไม่ออกความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น แม้จะมีความคิดเดียวกันกับนาวินก็ตาม เพราะตอนนี้เขาสังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของแผ่นดินดูดุดันขึ้นอย่างน่ายำเกรง
แผ่นดินไม่อาจละสายตาออกไปจากแก้มหอม ที่กำลังสนุกสนานกับการเต้นยั่วยวนผู้ชายรอบข้างเธอได้ ความเย้ายวนของเธอเป็นส่วนหนึ่ง ทว่าเหตุผลหลักคือความกรุ่นโกรธที่รู้สึกคล้ายโดนยั่วยุเสียมากกว่า
ขณะจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเชือดเฉือน มือแกร่งก็คว้าแก้วเครื่องดื่มสีอำพันที่รินเอาไว้ในตอนแรก ขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมด และรินเติมใส่เข้าไปในแก้วใหม่จนเกือบเต็ม
“มึงไม่ทำอะไรหน่อยเหรอวะ?”
ครามคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้ดูท่าเริ่มไม่ดีเท่าไหร่นัก ทว่าเพื่อนเขากลับเอาแต่นั่งเงียบมองเพียงอย่างเดียว ขณะที่คู่หมั้นของมันกำลังถูกฝูงหมาไฮยีน่ารุมเลียแทะ
“กูต้องทำอะไร?”
คนถูกถามตวัดสายตากลับมามองหน้าเพื่อน ท่าทางแผ่นดินดูก็รู้ว่าไฟโทสะกำลังลุกโหม หากแต่เขากำลังกลัวว่าตัวเองจะเสียหน้าจึงต้องทำเป็นนิ่งขรึม
ถ้าเขาลุกขึ้นเดินเข้าไปหาแก้มหอม ก็เท่ากับว่าสิ่งที่เธอพยายามจะปั่นประสาทเขาได้สำเร็จตามที่เจ้าตัวปรารถนา ซึ่งมันจะไม่มีวันนั้นแน่
“ก็อย่างเช่น…ห้าม”
“ทำไมกูต้องห้าม? ไม่ใช่เรื่องของกูสักหน่อย”
ปากพูดอย่างใจคิดอย่าง เวลานี้แผ่นดินอยากลุกไปกระชากตัวแก้มหอมลงจากเวทีเสียให้ได้ แต่ทำได้แค่เพียงทำเป็นไม่สนใจ ยกแก้วเหล้าที่รินทิ้งไว้จนเกือบล้นกระดกเข้าปากอีกครั้ง
“เออๆ เรื่องของมึงเลยครับ”
ครามเบื่อจะพูดกับคนขี้เก๊กที่เต๊ะท่าวางฟอร์ม ไว้เดี๋ยวมันทนไม่ไหวก็คงจัดการอะไรเองแหละ
ทั้งๆ ที่ท่าทางของมันชัดเจนขนาดนี้ ว่าไม่พอใจในสิ่งที่คู่หมั้นของตนกำลังทำ แต่ก็เลือกจะใจแข็งปากแข็งและทรมานความรู้สึก โดยการนั่งมองเธอตกเป็นอาหารตาของชายอื่นต่อไป
ก็ปล่อยให้มันอกแตกตายไปซะ บอกไว้เลยว่าเพื่อนคนนี้พร้อมจะหัวเราะสมน้ำหน้าแน่นอน
แก้มหอมเหลือบสายตามองมาทางโต๊ะของแผ่นดิน ก็ได้พบว่าเขากำลังนั่งจ้องเธอไม่วางสายตาอยู่ แววตานั้นคมดุเชือดเฉือน ราวกับว่าถ้ามันเป็นมีดคงจะแล่เนื้อเธอให้ขาดเป็นชิ้นๆ ได้อย่างง่ายดาย ขณะที่มือใหญ่ก็ยกแก้วเหล้าใส่ปากถี่ขึ้นเรื่อยๆ
แต่มีหรือที่แก้มหอมจะหวั่นเกรงต่อสายตาคู่นั้น มันยิ่งทำให้เธอลำพองในใจว่าตนเองสามารถทำให้เขากรุ่นโกรธขึ้นมาได้บ้าง
ในเมื่อเขาไม่เกรงใจหรือให้เกียรติเธอก่อน กล้าที่จะมองและให้ความสนใจผู้หญิงคนอื่นอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวดีๆ กับเขาเช่นกัน
เรียวขาเล็กก้าวจากเวทีลงมายังพื้นด้านล่าง ผู้ชายมากมายยืนล้อมหน้าล้อมหลังไม่ห่างไปไหน ก่อนเจ้าของดวงตาสีเทาหม่นจะเริ่มทำในสิ่งที่วางแผนไว้ในลำดับถัดไป
เธอกวาดสายตามองหาเหยื่อผู้โชคดีรอบกาย ก่อนตัดสินใจเลือกผู้ชายมาคนหนึ่ง มือซุกซนเริ่มวาดลวดลายลูบไล้ร่างกายของผู้ชายคนนั้นไปมา และหยุดอยู่ที่การยกวงแขนคล้องรอบลำคอเขาเอาไว้หลวมๆ
ร่างระหงแอ่นกายเต้นเบียดเหยื่อหนุ่มตรงหน้าอย่างยั่วยวนประดุจนางแมวยั่วสวาท จนคนถูกยั่วเย้าอดที่จะยกฝ่ามือขึ้นลูบไล้สัดส่วนเว้าโค้งของเธออย่างเพลิดเพลินไม่ได้ แก้มหอมไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสนั้น ถึงในใจจะรู้สึกขยะแขยงมากแค่ไหนก็ตาม
เพื่อการเอาคืนคนที่ยังคงนั่งมองจิกเธออยู่ตรงมุมวีไอพี ต่อให้ต้องจูบแลกลิ้นนัวเนียกับผู้ชายคนนี้เธอก็จะทำ อะไรที่เป็นการหยามน้ำหน้าหรือทำให้เขาสติแตกได้ มันย่อมคุ้มค่าที่จะลงทุนทั้งสิ้น
ภาพตรงหน้าดูเร่าร้อนจนอารมณ์ของแผ่นดินเพิ่มระดับความร้อนรุ่ม แอร์นับสิบตัวที่เปิดควบคุมอากาศไว้ที่ยี่สิบองศา ไม่อาจบรรเทาความร้อนภายในใจได้เลย
เส้นเลือดปูดโปนบนหลังมือที่กำลังกำแก้วไว้แน่นสนิท บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้ความอดทนของแผ่นดินเริ่มเหลือน้อยเข้าไปทุกที
และแล้วทุกอย่างก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของความอดกลั้น เมื่อหญิงสาวที่เฝ้ามองอยู่ตัดสินใจทำในสิ่งที่เขาไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป
แก้มหอมเอียงคอเล็กน้อย เคลื่อนขยับใบหน้าสวยเข้าหาผู้ชายที่ตนกำลังเกาะเกี่ยว และในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ใกล้จะสัมผัสกัน อยู่ๆ ก็มีแรงบางอย่างมากระชากเธอออกจากพันธนาการของผู้ชายตรงหน้า
เพล้ง!!
พลั่ก!!
เป็นแผ่นดินที่เดินมาตอนไหนไม่รู้ กระชากแก้มหอมออกก่อนเหวี่ยงเธอให้มาอยู่ทางด้านหลัง แก้วเหล้าในมืออีกข้างที่ถือมาด้วย ถูกประเคนใส่ศีรษะของผู้ชายคนนั้นเต็มแรง จนคนถูกกระทำล้มลงไปนอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด
ครามกับนาวินรีบลุกออกจากโซฟาเดินเข้ามาห้ามเพื่อนทันที เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากจนพวกเขาไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองรู้ดีหากแผ่นดินโกรธหรือโมโหสามารถฆ่าคนตายได้อย่างง่ายดายมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องรีบกันเขาออกไปจากพื้นที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“มึง ใจเย็น”
ครามรีบดึงแขนเพื่อนเอาไว้ไม่ให้ปรี่เข้าไปซ้ำคนที่นอนกองอยู่บนพื้น
“ผู้หญิงของกู!!”
ซึ่งเวลานี้คนที่กำลังเดือดดาลเกินกว่าจะควบคุมอารมณ์ได้อย่างแผ่นดินก็ออกปากตวาดลั่น ก่อนใช้ฝ่ามือซึ่งชุ่มไปด้วยเลือดเพราะถูกเศษแก้วบาด ล้วงกระเป๋าเงินในเสื้อสูทขึ้นมา หยิบเอาแบงก์สีเทาปึกหนึ่งโยนใส่ร่างของชายคนนั้น
“ถ้าคิดว่าไม่พอก็โทรมา”
ตามด้วยนามบัตรของตนเองโยนลงไปติดๆ ก่อนหันไปมองตัวปัญหา ที่กำลังยืนตกใจจนใบหน้าสวยซีดเผือดอยู่ด้านหลังด้วยแววตาแข็งกร้าว
แผ่นดินถอดเสื้อนอกออกคลุมร่างเกือบโป๊เปลือยด้วยความหงุดหงิด เขาคว้าข้อมือบางและออกแรงกระชากเธอให้เดินตามออกมาด้านนอก โดยมีสายตาของเพื่อนๆ มองดูด้วยความเป็นกังวล
แก้มหอมนิ่งเงียบและเดินตามอย่างว่าง่าย เธอรู้สึกกลัวเกินกว่าจะดื้อรั้นหรือแสดงความเอาแต่ใจใส่เขา
เมื่อมาถึงลานจอดรถแผ่นดินจัดการเปิดประตูรถ และจับร่างบางยัดเข้าไปภายในอย่างกระแทกกระทั้น จนเธอรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก เมื่อขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งคนขับ ก็แผ่นดินรีบสตาร์ทเครื่องยนต์และบึ่งออกมาทันที
ภายในรถที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงอยู่บนท้องถนนเงียบสนิท ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากของคนทั้งคู่ บรรยากาศตึงเครียดและน่าอึดอัดก่อตัวขึ้นรอบๆ กาย
แผ่นดินนิ่งเงียบใบหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธที่ยังคงเดือดพล่าน ส่วนแก้มหอมก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาเพราะท่าทางของคนข้างๆ ดูน่ากลัวมากแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
ดวงตาคู่สวยเหลือบมองฝ่ามือใหญ่ที่เกาะกุมพวงมาลัยรถอยู่ เลือดสีแดงฉานไหลออกมาจนมันชุมโชกและเปรอะไปหมด ทำให้แก้มหอมรู้สึกผิดกับการกระทำของตนที่ดูจะเล่นแรงเกินไปหน่อย
“พี่แผ่นดินคะ ไปโรงพยาบาลกันดีไหม?”
เธอทนเห็นเลือดที่ยังมีท่าทีว่าจะไม่หยุดไหลต่อไปไม่ได้ จึงกลั้นใจงัดความกล้าเสนอความคิดเห็นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างหวาดหวั่น
“ไปทำไม?”
ดวงตาคมยังคงจ้องถนนเบื้องหน้า ขณะปากเอ่ยถามคู่สนทนากลับ
“ก็มือพี่…เลือดออก แก้มกลัว”
“หึ! กลัว? กลัวแล้วยั่วประสาทฉันทำไม?”
แผ่นดินตวัดสายตามองแก้มหอมอย่างเย้ยหยัน ก่อนเบนกลับไปสนใจท้องถนนเหมือนเดิม
“แก้มก็แค่เล่นสนุกไปเรื่อย พี่จะโกรธทำไม?”
แก้มหอมรู้ดีว่าทำเกินกว่าเหตุไปมาก แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจคนข้างๆ อยู่ดี ว่าทำไมถึงต้องแสดงอาการโมโหโกรธาขนาดนั้นด้วย แค่ต่อว่าหรือตำหนิเธอก็ดูรุนแรงพอแล้ว นี่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายคนอื่นจนเลือดอาบ ส่วนตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บอีก
นี่ถ้าเธอกับเขาคบกันเหมือนคู่รักทั่วไปจะไม่รู้สึกแปลกใจเลย แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นไง ก็แค่คนที่เกลียดขี้หน้ากันและจับพัดจับพูได้มาหมั้นกันเฉยๆ เท่านั้นเอง
“โกรธทำไมเหรอ? อย่าลืมสถานะตัวเองด้วยสาวน้อย เธอเป็นคู่หมั้นฉันอยู่”
“ก็แค่คู่หมั้น ไม่ได้คบกันจริงๆ สักหน่อย”
“…!”
ประโยคเมื่อครู่ทำเอาแผ่นดินชะงัก มันก็จริงอย่างที่แก้มหอมบอก ทั้งคู่แค่หมั้นกันแถมยังเป็นการหมั้นที่ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจด้วยซ้ำ ทำไมเขาถึงต้องรู้สึกโมโหที่เธอใกล้ชิดกับผู้ชายอื่นขนาดนี้ด้วย
“แล้วทีพี่ล่ะ พี่ยังมองผู้หญิงชุดส้มคนนั้นราวกับจะง้าบหัวเธอเข้าไป คงไม่ได้ลืมสถานะตัวเองเหมือนกันใช่ไหมคะ?”
เรียวแขนเล็กยกขึ้นกอดอกตัวเองแน่นด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์ ดวงหน้าสวยสะบัดหันมองทิวทัศน์ยามกลางคืนนอกตัวรถ ทว่ากลับไม่ได้ใส่ใจความสวยงามของมัน ในหัวสมองวนคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องทำเรื่องพิเรนทร์ๆ นี้
ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ ถ้าไม่ทำตัวแบบนั้นก่อนเธอก็คงไม่โกรธ และคงไม่ทำอะไรบ้าๆ ลงไปจนเรื่องต่างๆ มันบานปลายมาถึงขนาดนี้หรอก
“อย่าบอกนะว่าไอ้ที่ไปเต้นยั่วๆ อ่อยผู้ชายไปทั่วนี่…โกรธที่พี่มองผู้หญิงคนอื่น?”
แผ่นดินชะลอความเร็วรถลง ก่อนหันมองใบหน้าบูดบึ้งที่ยังคงสวยแม้ไร้รอยยิ้ม รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้ฟังสิ่งที่หญิงสาวเผลอสารภาพออกมา ก็ไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่ดูเหมือนว่าแก้มหอมกำลังหึงเขาอยู่
คำถามที่ดูจี้จุดทำให้ใบหน้าบึ้งตึงมีแววลนลานให้เห็น แก้มหอมอึกอักนั่งหลังไม่ติดเบาะ สายตากวาดมองไปทั่วหาจุดจับไม่ได้
“ทะ ทำไมล่ะคะ ทำไมจะโกรธไม่ได้? ก็พี่เป็นคู่หมั้นแก้มนี่”
“เหตุผลแค่นั้น?”
แผ่นดินหรี่ตามองอย่างจับผิดคู่สนทนา ดูอาการเธอก็รู้ว่ามันไม่ได้มีแค่นั้น แม้เจ้าตัวจะทำเป็นขรึมกลบเกลื่อนพิรุธ แต่อยากบอกเหลือเกินว่ามันปิดไม่มิดเลยสักนิด แก้มหอมเป็นผู้หญิงที่อ่านง่ายจะตาย
“ใช่ค่ะ แค่นั้น”
“นึกว่าชอบพี่”
“เหอะ! กล้ามากนะคะที่คิดแบบนั้น”
“ทำไมล่ะ พี่ก็ออกจากหล่อ สปอร์ต ใจดี มีเสน่ห์ แถมรักเด็กอีกต่างหาก”
อาการร้อนตัวที่หญิงสาวเผลอแสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลให้ริมฝีปากหยักมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มปรากฏขึ้น ดวงตาคมวาววับฉายแววความเจ้าเล่ห์แพรวพราว เหลือบมองร่างบางที่ซุกตัวอยู่ในเสื้อนอกของเขาราวกับมีแผนการบางอย่าง
จากตอนแรกที่รู้สึกโมโหเป็นฟืนเป็นไฟกับการกระทำสิ้นคิดของหญิงสาวข้างกาย แต่พอได้พูดคุยหยอกล้อและเห็นใบหน้าสวยนั้นง้ำงอ พร้อมรู้ถึงเหตุผลที่เธอทำตัวไม่ดีก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมาเสียดื้อๆ
“หลงตัวเอง”
“อยากลองมาหลงพี่ดูบ้างไหมล่ะ?”
ประโยคหยอกเย้ากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ทำเอาแก้มหอมหัวใจสั่นระรัว ทั้งๆ ที่อากาศภายในรถเย็นเฉียบ แต่เธอกลับร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า
ยังไม่ทันได้ต่อปากต่อคำอีกฝ่ายกลับ คนทำหน้าที่เป็นพลขับก็หักพวงมาลัยเลี้ยวรถไปในทิศทางตรงกันข้ามกับบ้านเธอ จนแก้มหอมต้องรีบแว้ดถามด้วยความตกใจ
“แล้วนี่พี่กำลังจะพาแก้มไปไหน มันไม่ใช่ทางกลับบ้านแก้มนี่”
“ไปทำแผล”
“ที่ไหนคะ โรงพยาบาลเหรอ?”
“ไปทำไมโรงพยาบาล เหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์”
“แล้วพี่จะไปทำแผลที่ไหน?”
“เดี๋ยวก็รู้”
แผ่นดินไม่ได้ช่วยให้คำตอบที่ดูกระจ่างเลยแม้แต่น้อย มีเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และสายตาแพรวพราวแสดงออกมาเท่านั้น แม้จะรู้สึกหวั่นๆ ในใจ แต่แก้มหอมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งรอจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง
