Crusty girl กำราบรักภรรยาตัวร้าย (ฉบับรีไรท์)

114.0K · จบแล้ว
NAMIKA
45
บท
75.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ไม่ชอบเธอใช่ไหม? อย่ามาเสียดายทีหลังก็ละกัน... คำเตือน : นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ต่ำกว่านี้ควรได้รับคำแนะนำ ดั่งโชคชะตาเล่นตลก ให้เขาและเธอแลกเปลี่ยนความรู้สึกกัน คนหนึ่งแอบรักมาเนิ่นนาน แต่กลับเปลี่ยนเป็นเฉยชาเพราะถูกทำร้ายความรู้สึก อีกคนไม่เคยมองเห็นค่า จนวันหนึ่งได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และตกหลุมรักเธอในเสี้ยววินาทีแรกที่ได้พบ... แก้มหอม : เด็กผู้หญิงขี้อายคนหนึ่ง กว่าจะรวบรวมความกล้าไปสารภาพรักกับคนที่ชอบได้ มันไม่ง่ายเลยสักนิด แต่กลับโดนคำพูดร้ายๆ ของผู้ชายคนนั้น ทำลายมันจนย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี…หลังจากนี้เธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง!! แผ่นดิน : ใครจะไปคิดล่ะว่า เด็กสาวข้างบ้านหน้าตาจืดชืดธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่นแถมยังขี้อาย  จะเปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงสวยหรูดูแพง และยังดูโดดเด่นน่าหลงไหลได้ขนาดนี้…

นิยายรักโรแมนติกเลขาแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆประธานพันล้านหนีแต่งงานรักแรกพบโตมาด้วยเศรษฐีโรแมนติก

1 เปลี่ยนไป

1

เปลี่ยนไป

บนเตียงขนาดคิงส์ไซซ์ที่วางตั้งตระหง่านอยู่ภายในห้องนอนใหญ่โทนสีเทาดำไล่ระดับ สองร่างเปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิด กำลังนอนกอดรัดฟันกันนัวเนียอย่างเร่าร้อน โดยไม่สนใจว่าตอนนี้จะเป็นเวลากี่โมง

“อื้อ…แผ่นดิน”

ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดร้องครวญครางถึงชื่อชายหนุ่มเหนือร่าง ด้วยความรู้สึกเสียวซ่านสุดจะทานทน เมื่อเขาก้มศีรษะลงใช้ริมฝีปากซุกซน ครอบครองพร้อมดูดดึงยอดอกสีน้ำตาลอ่อนของเธอ

สองมือแกร่งเกาะกุมพลางเคล้นคลึงอกอวบหยุ่น จนเจ้าของร่างบางดิ้นเร่าด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่าน กายสาวทรมานด้วยความต้องการสัมผัสลึกซึ้ง จากบุคคลซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไฟสวาทในกายเธอลุกโหมกระหน่ำ

“แผ่นดินคะ เกรซทนไม่ไหวแล้ว…”

“ต้องการฉันใช่ไหม?”

เจ้าของชื่อเอ่ยถามชิดยอดอก น้ำเสียงเขาแหบพร่าเซ็กซี่บาดขั้วหัวใจ ดวงตาคมกริบมองช้อนใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวของคนใต้ร่าง ซึ่งกำลังนอนทอดสายตามองตนกลับ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันล้นเปี่ยม

“อื้อ…”

“ต้องการมากหรือเปล่า?”

“มาก…”

“หึ!”

ร่างสูงหยัดกายยืดตรง ขณะมือใหญ่จับสองขาเรียวถ่างออกกว้าง และยกดันขึ้นเล็กน้อยให้ลอยค้างกลางอากาศ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประสานตัวตนรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว

ท่อนเอ็นร้อนฉ่าผงาดชูชันถูกสวมเครื่องป้องกันไว้อย่างเรียบร้อย แผ่นดินนำส่วนหัวของมันถูไถร่องสวรรค์ ที่กำลังฉ่ำเยิ้มเพื่อเพิ่มความทรมานให้กับเธอ

ร่างเล็กบิดเร่าไปมาอย่างทรมานเกินจะทนไหว เผลอจิกเรียวเล็บลงบนลำแขนซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม ส่วนอีกข้างปลดปล่อยอารมณ์ลงบนหมอนที่ใช้หนุนนอน

ใบหน้าหล่อเหลากระตุกตึงขึ้น ดวงตาคมกริบตวัดมองรอยเล็บที่บุ๋มเข้าไปในเนื้อแขนด้วยความรู้สึกไม่พอใจ ดีที่มันรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยและไม่เกิดร่องลอยอะไรบนผิวกายมากนัก เขาจึงเดินหน้าในสิ่งที่ค้างไว้ต่อ

ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศซึ่งมีอุณหภูมิเพียงสิบแปดองศา ไม่สามารถดับความร้อนรุ่มร่างกายของคนทั้งคู่ลงได้ และขณะที่แผ่นดินกำลังตั้งท่ากดแก่นกายของตนลงในช่องทางรัก พลันมีบางอย่างมาหยุดยั้งการกระทำเอาไว้เสียก่อน

ครืด ครืด

เครื่องมือสื่อสารราคาค่อนแสน ซึ่งวางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะหัวเตียงเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีใครบางคนพยายามติดต่อเข้ามา

“ชิบ…!!”

ริมฝีปากหยักสุดเซ็กซี่สบถด้วยความไม่สบอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะการขึ้นสวรรค์ ร่างหนาทำท่าจะผละตัวออก ทว่ากลับถูกมือบางคว้าเอาไว้ด้วยความเสียดายที่ส่งผ่านทางสายตา

“ไม่รับไม่ได้เหรอคะ?”

ใบหน้าสวยเฉี่ยวพยายามออดอ้อนด้วยแววตาเว้าวอน เพื่อไม่ให้เขาลุกไปจากกายเธอ

“แป๊บเดียว เดี๋ยวฉันมา”

แม้จะเสียดายช่วงเวลาตรงหน้า แต่แผ่นดินก็เลี่ยงที่จะไม่รับโทรศัพท์ไม่ได้เหมือนกัน

โทรศัพท์ที่สามารถต่อสายตรงเข้ามายังเบอร์ส่วนตัวของเขาได้นั้นย่อมต้องสำคัญในระดับหนึ่ง จะมีเพียงเลขา เพื่อนสนิทและคนในครอบครัวเท่านั้นที่จะติดต่อได้

หากต้องการคุยเพียงเรื่องเล็กน้อย บุคคลพวกนั้นต้องติดต่อผ่านเลขาเขาเท่านั้น หากสำคัญจริงเลขาของเขาจะเป็นผู้ประเมินเอง ว่าสมควรต้องส่งเรื่องต่อมายังผู้เป็นเจ้านายหรือไม่

แผ่นดิน : “ว่าไงครับแม่”

หลังกดรับและยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู แผ่นดินจึงกรอกเสียงถามด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวชัดเจน

ดาริณ : “แกคงไม่ได้ลืมใช่ไหมว่าต้องไปรับน้องที่สนามบิน?”

ปลายสายเอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงทรงพลังดั่งนางพญา กระแสเสียงมีความไม่ไว้ใจและพยายามจับผิด

แผ่นดิน : “เฮ้อ…ผมไม่ได้ลืมแต่ผมจะไม่ไป ทำไมแม่ไม่ส่งคนขับรถไปรับเธอล่ะครับ เพราะอะไรถึงต้องเป็นผม?”

ดาริณ : “แก้มหอมเป็นคู่หมั้นแกแกก็ต้องไปรับสิ ไม่รู้ล่ะ ถ้าแกไม่ไปรับน้องแกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่”

แผ่นดิน : “แม่! แม่…”

ยังไม่ทันที่แผ่นดินจะได้เอ่ยคำปฏิเสธหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ดาริณกลับกดตัดสายทิ้งในทันทีอย่างตัดบท เล่นเอาผู้เป็นลูกชายอดสบถออกมาด้วยความหัวเสียไม่ได้

“โธ่เว้ย!”

“เป็นอะไรไปคะแผ่นดิน มีเรื่องอะไรให้หงุดหงิดใจเหรอ? เกรซช่วยผ่อนคลายให้เอาไหม?”

ร่างอวบอิ่มลุกขึ้นนั่งพลางกระเถิบกายเข้าหา ก่อนมือบางยกขึ้นแตะลงบนลำแขนแกร่งเบาๆ และพยายามลูบไล้ไปมาเพื่อให้ชายหนุ่มตรงหน้าอารมณ์เย็นลง

“เธอกลับไปก่อน พอดีฉันมีธุระ”

พูดจบแผ่นดินจึงผละกายเดินไปยังห้องน้ำทันทีเพื่อทำการชำระล้างร่างกาย และเตรียมตัวไปรับบุคคลต้นเหตุที่ทำให้เขาอารมณ์เสีย

เมื่อจัดการตนเองเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกจากห้องแต่งตัว แต่แทนที่ภายในห้องนอนจะเหลือเพียงความว่างเปล่า ทว่ากลับพบเจ้าของร่างกายสุดเซ็กซี่ ยังคงนั่งเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเขาไม่ยอมขยับกายไปไหน

“ทำไมเธอยังไม่ไปอีก?”

คิ้วได้รูปขมวดผูกกันเป็นปม ความหงุดหงิดที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเริ่มทวีคูณขึ้น เมื่อมีเรื่องขัดอารมณ์เพิ่มเข้ามา

“เกรซจะรอคุณอยู่ที่นี่”

หญิงสาวตอบอย่างเอาแต่ใจประหนึ่งว่าตนมีความสำคัญสำหรับเขามาก

ไม่ว่าอย่างไรเธอจะไม่มีวันปล่อยให้ผู้ชายตรงหน้าหลุดมือไปได้ง่ายๆ แน่ กว่าเกรซจะมีสิทธิ์เข้าใกล้แผ่นดินได้มากถึงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก

มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาพยายามมาทอดกายให้เขาไม่ซ้ำหน้า และกว่าเธอจะฝ่าฟันพวกนั้นจนได้มานอนอยู่บนเตียงนี้ ก็เล่นเอาหญิงสาวแทบกระอักเลือดเลยทีเดียว

“เธอคิดว่าตัวเองสำคัญมากหรือไง?”

“…!!”

“เป็นแค่ของเล่นก็หัดเจียมกะลาหัวตัวเองหน่อย อย่าทำตัวน่าเบื่อ เผื่อโอกาสหน้าฉันนึกถึงอยากเรียกกลับมาใช้บริการใหม่ไง”

ถ้อยคำร้ายๆ กับน้ำเสียงเหยียดหยามที่ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหยัก มันช่างไม่เหมาะกับใบหน้าหล่อละมุนราวกับเจ้าชายผู้แสนดีแม้แต่น้อย

“แผ่นดิน!”

ดั่งถูกฝ่ามือหนาตบหน้ากับประโยคเมื่อครู่ ใบหน้าสวยเฉี่ยวจึงงอง้ำในทันใด ร่างกายบอบบางสั่นเทาอย่างโกรธจัด มือเล็กขยุ้มผ้านวมแน่นเพื่อระบายโทสะ

“เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกชื่อฉันด้วยซ้ำ ช่วยเก็บเสื้อผ้าและข้าวของของเธอ ออกไปให้เรียบร้อยก่อนฉันจะกลับมา”

“…”

“หวังว่าเมื่อฉันกลับมาแล้ว ในห้องนี้จะไม่มีเธออยู่…”

สิ้นประโยคคำสั่งร่างสูงจึงหันหลังเดินจากมา ทิ้งให้เกรซนั่งทำหน้าไม่พอใจและแสดงกิริยาโมโหอยู่ด้านหลังเพียงลำพัง

‘แผ่นดิน’ ชายหนุ่มอายุยี่สิบปลายๆ ผู้มีรูปร่างหน้าตาและฐานะทางบ้านที่เหมือนฟ้าประทานให้

เขาเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำดูสมส่วน มีหน้าตาหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ บวกกับสภาพการเงินสุดแสนคล่องตัวของครอบครัว ทำให้กลายเป็นผู้ชายเจ้าเสน่ห์ เป็นที่สนใจของบรรดาหญิงสาวมากมาย

แม้จะเกิดมาในครอบครัวซึ่งมีอำนาจและเงินทองมากมายแค่ไหน ทว่าเขากลับไม่เคยคิดที่จะอยู่เฉยและผลาญเงินพ่อแม่เล่นไปวันๆ

หลังเรียนจบชายหนุ่มได้ก่อตั้งบริษัทนำเข้ารถหรูจากต่างประเทศ และลงทุนร่วมหุ้นกับกิจการสถานบันเทิงของเพื่อนเอาไว้ ตั้งใจจะใช้ชีวิตในแบบฉบับของตนเองไร้การถูกตีกรอบจากครอบครัว

แต่ก็ยังไม่วายถูกผู้เป็นมารดาเอาคำว่า ‘แม่’ มาขู่บังคับให้เขาต้องรับเด็กสาวข้างบ้านมาเป็นคู่หมั้น ทั้งๆ ที่แทบจะไม่เคยรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ

ความฝันที่คิดจะไล่ฟันสาวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตายจึงพังครืนในพริบตา โอ้ชีวิตหนอชีวิต ทำไมจึงไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้นะ

ร่างสูงสมส่วนในชุดเสื้อคอเต่าแขนยาวสีเทาอ่อน สวมทับด้วยสูทสีเทาเข้มกับกางเกงสแล็คสีเดียวกัน ดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่นัก กำลังยืนรอใครบางคนด้วยท่าทางเซ็งจัด ใบหน้าราวนายแบบบึ้งตึงไม่รับแขก ความฉุนเฉียวแผ่กระจายออกมารอบตัวอย่างชัดเจน

ผ่านไปร่วมชั่วโมงแล้วก็ยังไร้วี่แววของบุคคลที่แม่ยัดเยียดให้มาเป็นคู่หมั้น เขาแทบจะจำหน้าตาของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ เนื่องจากหญิงสาวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นเวลาร่วมสิบปี

‘แก้มหอม’ คือชื่อผู้หญิงที่เป็นเหมือนตัวปัญหาของเขาในขณะนี้ เธอเป็นลูกสาวของคุณน้า ‘กชกร’ ซึ่งอยู่ข้างบ้าน และเป็นเพื่อนสนิทกับแม่ของเขาตั้งแต่สมัยเรียน

ด้วยความที่บ้านของทั้งคู่อยู่ติดกันและมีประตูรั้วเชื่อมกันไว้ ทำให้การไปมาหาสู่ของสองครอบครัวนี้เป็นไปอย่างง่ายดาย

เวลาที่คุณน้ากชกรมาหาแม่ของเขาที่บ้าน ก็มักจะมีเด็กผู้หญิงหน้าตาจืดชืด ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวตามมาอยู่บ่อยครั้ง

แม้ทั้งคู่จะพบเจอกันอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาอยากรู้จักหรือสนิทกับเธอแม้แต่น้อย เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูไม่โดดเด่นเข้าตา อีกทั้งยังมีนิสัยขี้อายจนเกินไป ทำให้เขามองว่าเธอไม่น่าสนใจเลยสักนิด

แต่เหมือนฟ้าจะไม่ได้รักแผ่นดินเสมอไป เมื่ออยู่ๆ แม่ของเขาก็มาดับฝันวัยหนุ่ม โดยการลั่นวาจาว่าจะให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ และหากไม่ยินยอมหรือขัดใจ ก็จะใช้ประโยคยอดฮิต ‘งั้นก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่’ บังคับให้เขาต้องยอมรับแต่โดยดี

จึงกลายเป็นว่าตอนนี้แผ่นดินมี ‘คู่หมั้น’ แบบไม่เต็มใจซะอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ได้มีผลกับเขาเท่าไหร่นักหรอก เพราะแผ่นดินมีแผนจะทำให้ยัยตัวปัญหา ยอมที่จะถอนหมั้นเองและบินกลับไปอยู่ต่างประเทศเหมือนเดิม

ร่างสูงยกข้อมือซึ่งมีนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดูเวลา ที่คิดว่าสมควรแล้วแก่การปรากฏตัวของคนที่เขามาเฝ้ารอรับอยู่ด้านหน้า แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีวี่แววของใครสักคน ที่เข้าเค้าว่าน่าจะเป็นเธอโผล่มาสักที

แผ่นดินตัดสินใจนำโทรศัพท์ขึ้นมากดพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไป ก่อนมันจะกลายเป็นป้ายไฟขนาดย่อมและถูกยกขึ้นโชว์อยู่เหนือศีรษะ

ตึก ตึก ตึก

ผ่านไปเพียงไม่นานนัก ก็ได้มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนตรงหน้า สายตาคมที่ก้มลงมองพื้นอยู่สะดุดเข้ากับรองเท้าส้นเข็มสีแดงสด ซึ่งมีความสูงไม่น่าจะต่ำกว่าสี่นิ้ว ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้นด้านบนด้วยความสนอกสนใจ

สองขาเรียวยาวไร้ก้อนกล้ามเนื้อที่ทำให้ดูขัดหูขัดตา รับกับสะโพกผึ่งผายกลมกลึงน่าสัมผัส เดรสรัดรูปกระโปรงสีแดงไล่ระดับจนถึงตัวเสื้อเกาะอกสีขาว เหมาะกับเอวบางทรงเอสและหน้าอกคัพดี ที่มีเนินเนื้อโผล่พ้นออกมาจากสิ่งปิดบัง เล่นเอาหัวใจชายหนุ่มถึงกับเต้นผิดจังหวะ

“น้ำลายหกแล้วค่ะ…พี่แผ่นดิน”

เสียงหวานใสเอ่ยแดกดันคนที่ยืนมองหน้าอกของเธอตาไม่กะพริบ โดยไม่คิดจะเงยขึ้นมามองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ เรียกสติของเขาให้ต้องเงยขึ้นไปมองทันทีว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใครกัน

“…!”

ยิ่งเมื่อสายตาของทั้งคู่สบกัน ดวงตาสีเท่าอ่อนหวานล้ำก็สะกดความสนใจของแผ่นดินไม่ให้ละไปไหนได้ ใบหน้าของเธอสวยสง่าน่ามอง ตรงสเป็คทุกส่วนตั้งแต่เท้าจรดหัว ยิ่งทำให้เขารู้สึกประหม่าและทำอะไรไม่ถูก

แผ่นดินไม่เคยคิดเลยว่า บนโลกใบนี้จะมีผู้หญิงที่สวยถูกใจเขาได้มากเท่านี้มาก่อน เกิดและเติบโตมาจนอายุยี่สิบเก้าปีก็พึ่งเคยได้พบเห็น

หัวใจในแผงอกหนั่นแน่นกระหน่ำเต้นโครมคราม จนมันแทบจะทะลุลอยออกมาหาหญิงสาวซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา

‘เธอเป็นใครกัน?’ แผ่นดินคิดในใจ

“จะมองอีกนานไหมคะ แก้มเหนื่อย อยากกลับบ้าน”

บุคคลที่เรียกแทนตัวเองว่าแก้ม ดันกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตนเองมาทางด้านหน้า เป็นสัญญาณบอกว่าให้เขาเอาไปถือซะ

“แก้ม?”

แผ่นดินครางชื่อที่ได้ยินออกมาเบาๆ ราวกับไม่เข้าใจว่า ‘แก้ม’ คือชื่อของเธอ

“ค่ะ แก้มเอง แก้มหอม…”