บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ฝึกสอน (ตอนต้น)

ริงซี่รู้สึกอึดอัด การนอนครั้งนี้ไม่สบายตัวเอาเสียเลย เมื่อเธอพยายามพลิกตัวก็ทำไม่ได้ คล้ายกับมีอะไรมากดทับ แต่ด้วยความง่วงงุนเลยพยายามจะหลับต่อทั้งอย่างนั้น ถ้าไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวใช้คนคุ้นเคยดังขึ้นเสียก่อน

“กรี๊ด! คุณชาย!!”

“อะไรเรนเน่ กรี๊ดแต่ชะ... หือ?” ริงซี่ที่ปรือตาขึ้นมา ไม่ได้เห็นหน้าของเรนเน่ที่หน้าประตู แต่เป็นผมสีดำสนิทยุ่งเหยิงบดบังการมองเห็นจนเกือบมิด สมองที่ยังไม่ทำงานคิดไม่ออกว่ามันคืออะไร... แต่มันไม่ใช่ผมของเธอแน่ ๆ

เพราะเธอผมสั้น มันจะเห็นผมตัวเองได้ยังไง!?

งั้น... ผมใคร?

“อือ... เสียงอะไรน่ะ หนวกหูจริง” เสียงงัวเงียเจือความหงุดหงิดของเด็กผู้ชายที่ยังไม่โตดีดังขึ้นใกล้ ๆ

ริงซี่ขมวดคิ้วแล้วพยายามยันตัวขึ้นนั่ง แต่ทำได้อย่างยากลำบากเมื่อมีแขนของเด็กหนุ่มสองคนกอดไว้แน่นจนอึดอัด ดวงตาสีน้ำเงินกวาดมองเด็กหนุ่มทั้งสองที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองใบหน้าแดงระเรื่อของเรนเน่ที่มีมือปิดหน้าเอาไว้แต่ไม่มิด

จะมิดได้ยังไง มือปิดหน้าแต่ถ่างนิ้วเห็นตาล่อกแล่กอยู่อย่างนั้น

“เรนเน่... นี่มัน...”

“คุณชายไม่ต้องพูดค่ะ ดิฉันเข้าใจ”

“เข้าใจอะไร?” เห็นใบหน้าแดง ๆ และจมูกที่เริ่มมีเลือดไหลออกมา เธอก็คิดว่าเรนเน่ต้องไม่ได้เข้าใจเรื่องเดียวกับเธอแน่ ๆ

“เข้าใจว่าถึงวัยที่คุณชายต้องมีแฟนบ้างแล้ว แต่ไม่คิด... ไม่คิดเลยว่าจะถึงกับพาเข้าห้องอย่างนี้ เป็นเด็กผู้ชายไม่พอยังควบสองอีก คุณชายของดิฉันสุดยอดจริง ๆ ค่ะ!!”

“ฮะ? ไม่ชะ...”

“ไม่ได้การแล้ว อย่างนี้ต้องรีบไปป่าวประกาศให้รู้โดยทั่วถึงกัน! ขอตัวก่อนนะคะคุณชาย!!”

“เดี๋ยวเฮ้ย!”

ริงซี่ร้องห้าม... ไม่ทันแล้ว!

เรนเน่วิ่งหายไปไกลพร้อมกับร้องวี้ดว้ายไม่หยุด เธออ้าปากค้างอยู่นานจนไม่ได้ยินเสียงของสาวใช้แล้วก็ต้องยกมือขึ้นกุมขมับแล้วนวดไปมา ปล่อยให้เรนเน่ไปป่าวประกาศทั่วคฤหาสน์อย่างนั้นท่าทางจะได้เรื่องจริง ๆ แล้วล่ะงานนี้...

เรื่องซวยซะด้วยนะ

“เอะอะอะไรกันแต่เช้าเหรอครับ” เด็นลุกขึ้นมานั่งอ้าปากหาวอยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นริงซี่มองมาก็เอ่ยปากทักทายทันที “อรุณสวัสดิ์ครับลูกพี่”

“อรุณสวัสดิ์ลูกพี่ ตื่นเช้าจังเลยนะ” ดีนก็ลุกขึ้นนั่งงัวเงียด้วยเช่นกัน มือเล็กนั่นขยี้ตาเบา ๆ ท่าทางของสองฝาแฝดนั้นน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเด็กน้อยขี้อ้อน ที่สำคัญคือเสื้อผ้าหลุดลุ่ยทั้งคู่ ใครที่ชอบเด็กได้มาเห็นคงอยากพุ่งเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงสักที

แต่นั่นไม่ใช่กับริงซี่ที่กำลังมีใบหน้าถมึงทึง เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตะโกนออกมาเสียงดังลั่นคฤหาสน์ เสียงนั่นทำเอากระจกทั่วทั้งคฤหาสน์สั่นสะเทือนไปเลยทีเดียว ไม่นับรวมสองฝาแฝดที่ได้รับเสียงในระยะประชิด

“อรุณสวัสดิ์บ้าอะไร ออกไปจากเตียงฉันเดี๋ยวนี้!!”

แล้วริงซี่ก็ถีบพวกเขาล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้นเรียบร้อย

“หึ ๆ ฮ่า ๆ โคตรโง่อ่ะริงซี่ ฮ่า ๆ”

เสียงหัวเราะพร้อมคำด่านี้ไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่เป็นนายท่านเจ้าของคฤหาสน์ตระกูลบาเรสเทียร์แห่งนี้นั่นเอง รัสเทมหัวเราะเสียงดังลั่นไม่เกรงใจลูกสาวที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ไม่ห่าง ในขณะที่คุณนายหลินซีเองก็หัวเราะโฮะ ๆ ขบขันไม่ต่างกัน แต่มารยาทดูดีกว่ากันหลายขุม

“ไม่ได้โง่นะ ก็แค่คิดไม่ถึงว่าเจ้าพวกนี้จะมีความพยายามขนาดนี้” ริงซี่ตอบเสียงขุ่นพลางถลึงตาใส่รัสเทมอย่างอาฆาต

เป็นพ่อประสาอะไรไม่ห่วงลูกสาวเลย แถมยังมาหัวเราะซ้ำเติมกันอีก

ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเด็กสิบสองดูไม่น่าคิดอกุศลได้ แต่ความจริงที่ว่าพวกนั้นเป็นเด็กแก่แดดหื่นกามก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ!

“ก็น่าจะรู้อยู่ว่าเจ้าพวกนั้นไม่ธรรมดา แกก็ยังสั่งแค่มัด ทำไมไม่จับขังกรง”

“เสนอความคิดได้ซาดิสม์มาก แสดงว่าเคยทำล่ะสิ”

“แน่นอน คิดว่าฉันเป็นใครกัน นักธุรกิจที่หล่อและรวยมาก! อ้อ ภรรยาโคตรสวยด้วย!!”

“แหม ที่รักล่ะก็... ปากหวานจังเลยค่ะ” หลินซียิ้มอย่างเขินอายเมื่อถูกรัสเทมชม แล้วพ่อกับแม่ก็ส่งสายตาหวานซึ้งให้แก่กันตั้งแต่เช้า

ส่วนลูกสาวกลายเป็นหมาหัวเน่าในทันที ลืมเรื่องเธอถูกมุดเตียงไปเลย

ริงซี่กลอกตาไปมาแล้วกินอาหารเช้าอย่างเงียบ ๆ คิดว่าไปโรงเรียนเลยดีกว่า อยู่นานกว่านี้เบาหวานจะขึ้นตาซะก่อน เรื่องลงโทษสองฝาแฝดนั้นไว้ค่อยไปคิดบัญชีทีหลัง

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถไปโรงเรียนในทันที นั่งไปได้สักพักก็รู้สึกตงิด ๆ เพราะรถมันดูไม่นิ่งเหมือนทุกที เลยหันไปมองหน้าคนขับวันนี้แทน พอเห็นว่าเป็นใครก็แทบจะเปิดประตูพุ่งหลาวออกไปนอกรถเลยทีเดียว

“พวกนายมาได้ยังไงเนี่ย!?”

เป็นเจ้าสองฝาแฝดตัวเตี้ยนั่นอีกแล้ว!!

“ก็มาขับรถไปส่งลูกพี่ที่โรงเรียนไงครับ” เด็นที่เป็นคนขับตอบ ใบหน้าน่ารักยิ้มละไมใครเห็นเป็นต้องหลง... แต่รอยยิ้มกับใบหน้านั่นไม่เคยใช้ได้ผลกับริงซี่เลยสักนิด

“พวกนายขับรถเป็นด้วยเรอะ!” ริงซี่มองอย่างระแวง ถึงรถมันจะยังขับไปบนถนนดี ๆ แต่ไอ้เด็กคนขับนี่มันเพิ่งจะอายุสิบสองเท่านั้นเองนะ ยังวางใจไม่ได้!!

“แหม แค่ขับรถน่ะสบาย งานของพวกเราก่อนหน้านี้มีอะไรให้ทำมากกว่าขับรถอีกนะ” ดีนที่นั่งเบาะข้างคนขับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้กังวลเรื่องให้น้องชายขับรถเท่าไรเลย

“ขาเหยียบคันเร่งถึงเหรอ”

“ถึงสิครับ ถึงจะเห็นแบบนี้เราก็ไม่ได้จัดว่าเตี้ยนะ สูงตามมาตรฐานเด็กผู้ชายวัยสิบสองปีครับผม”

“ถามอะไรโง่ ๆ นะเนี่ยลูกพี่” ดีนได้ทีรีบแขวะใส่ไม่เกรงใจเลย

พวกเขาสูงหนึ่งร้อยห้าสิบห้าเซนติเมตรแล้ว ด้วยส่วนสูงขนาดนี้การขับรถไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขานักหรอก แต่ที่ถูกว่าขาสั้นเนี่ย... คนพูดก็สูงเกินไปเหมือนกัน

ผู้หญิงอะไรสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบ... เกรงใจผู้ชายบ้างสิ

“แต่ถึงอย่างนั้นพวกนายก็ไม่มีใบขับขี่นะเฟ้ย เกิดตำรวจตั้งด่านขึ้นมาทำไงเนี่ย”

“คิดว่ารถของตระกูลเธอตำรวจกล้าโบกเรียกเหรอ?” ดีนปรายตามองคนถามอะไรไม่เข้าเรื่อง ในเขตนี้ใครไม่รู้บ้างว่าตระกูลบาเรสเทียร์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน เกิดมีตำรวจเรียกขึ้นมาจริง ๆ วันรุ่งขึ้นก็คงถูกลบหายไปจากโลกนี้แบบไม่มีใครรู้ตัวกันบ้างล่ะ

“มันก็ใช่อยู่ที่ไม่มีใครกล้าเรียก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรผิดกฎได้ง่าย ๆ อย่างนั้นนะ” ริงซี่ถอนหายใจเบา ๆ อย่างเอือมระอา “เฮ้อ! ยอมพวกนายเลยจริง ๆ แถไถไหลไปเรื่อย”

“ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่ได้เกาะติดลูกพี่น่ะสิ”

“เกาะติดทำไม ไปเรียนไปฝึกนู่น! มอบงานให้แล้วยังจะตามติดขนาดนี้ทำไมอีกเนี่ย เป็นเจ้ากรรมนายเวรฉันเรอะ!”

“แหม ลูกพี่อยากให้เป็นเจ้ากรรมนายเวรก็ไม่บอก”

“ไม่ได้อยากได้เฟ้ย! เดี๋ยวปั๊ดถีบลงจากรถเลย” ริงซี่ถลึงตาใส่ ใครจะไปอยากมีเจ้ากรรมนายเวรไม่ทราบ หรือจะเป็นเจ้าหนี้ก็ไม่เอาทั้งนั้น

“ลูกพี่รุนแรงจังครับ” เด็นส่งสายตาละห้อยมาให้ ริงซี่รีบจับหน้าเขาให้ไปมองทางทันที

“ขับรถอยู่อย่าว่อกแว่กสิ!”

เดี๋ยวก็ตายกันยกรถหรอก!!

“ลูกพี่ขี้ระแวงเกินไป... โอเคครับ! จะตั้งใจขับ เพราะงั้นอย่าเพิ่งถีบผมลงจากรถนะครับลูกพี่” แฝดคนน้องรีบพูดทันทีเมื่อเห็นริงซี่ขยับมือขยับขาไปมาแบบอยากจะถีบคนตกรถจริง ๆ ถึงเขาจะไม่กลัวตกรถ แต่ถูกลูกพี่ทิ้งนี่ไม่ดีแน่นอน

“ตั้งสมาธิขับไป ถ้าว่อกแว่กอีกล่ะก็... น่าดู!”

“ครับ!” เด็นพยักหน้าอย่างแข็งขัน แต่ก็อดปรายตามองแวบหนึ่งไม่ได้

'ลูกพี่เวลาทำหน้าโหดเนี่ย ทำไมความหล่อมันเพิ่มขึ้นล่ะ? ...ฮือ นี่ผู้หญิงจริง ๆ เรอะ'

“แล้วไปส่งกันอย่างนี้เรื่องเรียนของพวกนายที่จัดเอาไว้ล่ะจะทำยังไง” ริงซี่ถามพวกเขา ตารางเวลาทั้งหมดของสองฝาแฝดเธอได้รับเมื่อคืนแล้ว เลขาฯ ส่วนตัวของหลินซีทำงานได้อย่างรวดเร็ว จัดการทุกอย่างได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้สองฝาแฝดสามารถเริ่มเรียนได้ในวันนี้เลย

“ส่งลูกพี่แล้วค่อยกลับไปเรียนก็ได้ ไม่ยากหรอก” ดีนตอบกลับอย่างสบายอารมณ์

“พูดเหมือนเรียนมันง่าย”

“แล้วมันยากเหรอ?”

“ก็ไม่” ริงซีส่ายหน้าไปมา “สำหรับฉันน่ะไม่ยาก แต่สำหรับพวกนายน่ะ ไม่รู้”

“งั้นสำหรับเราก็ไม่ยากหรอก ขนาดเรียนรู้เรื่องอาวุธได้ ถอดประกอบหรือทำขายได้ เรื่องเรียนเหมือนคนทั่วก็ต้องทำได้เหมือนกัน”

“มั่นใจในตัวเองกันเหลือเกินนะ”

“แน่นอน ไม่งั้นจะถูกเรียกว่าทหารเด็กอัจฉริยะเหรอครับ?” เด็นยิ้มกว้างอย่างโอ้อวด พวกเขาเป็นทหารเด็กที่ถูกฝึกมาอย่างดี ทำงานเหมือนทหารรับจ้างทั่วไปทุกอย่าง ทำตั้งแต่ต่อสู้ไปจนถึงขั้นลอบฆ่าก็มีมาแล้ว ศักยภาพสูงเทียบเท่าผู้ใหญ่จนเข้าตาหลินซีอย่างนี้ ไม่เรียกว่าอัจฉริยะจะให้เรียกอะไร

แต่ริงซี่ไม่ได้สนใจในศักยภาพของทหารเด็กทั้งสองอยู่แล้ว ในเมื่อพวกเขาบอกว่าทำได้ไม่ยากงั้นเธอก็จะรอดูแล้วกัน... ถ้าทำไม่ได้ก็แค่หัวเราะเยาะเหมือนที่รัสเทมทำก็พอ

“ถึงโรงเรียนแล้วครับลูกพี่” เด็นพูดขณะจอดรถ ริงซี่รีบก้าวลงจากรถทันที ก่อนจะปิดประตูก็พูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ตอนเย็นไม่ต้องมารับล่ะ ให้คนอื่นขับมาแบบปกติ พวกนายก็ตั้งใจเรียนไป”

“แต่ลูกพี่...”

“ไม่มีแต่ นี่เป็นคำสั่ง ถ้าพวกนายขัดคำสั่งก็... ไล่ออก!”

ปึง!

ประตูรถปิดลงอย่างรวดเร็วแล้วริงซี่ก็เดินจากไปโดยไม่รอฟังคำตอบอะไรเลยสักคำ สองฝาแฝดมองหน้ากันแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“ลูกพี่เนี่ย เอาใจยากจังน้า~” เด็นพูดก่อนจะขับรถออกมา “ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นถูกเอาใจใส่ขนาดนี้ไม่มีทางปฏิเสธแท้ ๆ มีแต่จะโถมเข้าใส่ เฮ้อ! แปลกชะมัด”

“เป็นผู้หญิงแปลก ๆ จริง ๆ นั่นล่ะ หรือรสนิยมเธอมีปัญหา?” ดีนขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างจริงจัง

พวกเขาสองฝาแฝดมั่นใจในหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูของตัวเองเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เคยทำงานเกี่ยวข้องกับผู้หญิงมากมายแม้จะอายุเพียงเท่านี้ แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนปฏิเสธในความน่ารักของพวกเขาได้เลย นี่ยังไม่รวมถึงความเอาใจใส่ที่ชวนให้หวั่นไหวอีก ถ้าพวกเขาเรียกร้องอะไรมีแต่พวกเธอเหล่านั้นจะรีบหามาให้ทั้งนั้น

แต่ริงซี่กลับต่างจากผู้หญิงเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง

นอกจากจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับใบหน้าน่ารักของพวกเขาแล้ว ยังไม่มีการตอบสนองแบบที่ผู้หญิงทั่วไปควรเป็น ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายนิ่งสงบมาก ดวงตาไม่มีร่องรอยความหวั่นไหว ทั้งคำพูดยังไม่มีโอนอ่อนให้เลยสักนิด...

แปลก... มันแปลกเกินไป...

หรือความจริงแล้วริงซี่จะมีจิตใจเป็นผู้ชายตามร่างกายไปแล้วล่ะนั่น?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel