CHANGE YOU PART 1 (2/3) มิตรภาพจากคู่กัด
“เสียอารมณ์ชะมัด!!”
สบถกับตัวเองจบ ฉันก็ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกจนหมด ความร้อนของฤทธิ์แอลกอฮอล์ไหลผ่านลำคอลงสู่กระเพาะ ทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง แถมรสชาติที่ขมจนบาดคอนั่น ก็ทำให้ฉันรู้สึกอยากจะแหวะออกมา
รสชาติก็แย่ แถมยังสร้างความปั่นป่วนให้กับร่างกายอีก ทั้งปวดหัว มึนหัว และเหมือนตาจะพร่ามัวมองอะไรไม่ชัด สติสัมปชัญญะมาๆ หายๆ ไม่มีอะไรดีสักอย่างหลังจากที่ได้ดื่ม ข้อเสียเยอะขนาดนี้แล้วฉันจะดื่มมันเข้าไปทำไมนะ?
ฉันค่อยๆ ประคองร่างบอบบางของตัวเองออกจากที่นี่ ความสามารถทุกๆ ด้านเสื่อมถอยอย่างเห็นได้ชัด เดินเซไปเซมา กว่าจะหลุดฝูงชนออกมาจนถึงประตูได้ก็ยากเอาการ
หมับ!!
แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวออกจากประตู ร่างของฉันกลับถูกมือใหญ่ของใครบางคน ฉุดรั้งให้ลอยละลิ่วไปยังซอกกำแพงข้างๆ
แผ่นหลังที่โผล่พ้นจากชุดเดรสเกาะอกแนบชิดไปกับกำแพง จนสัมผัสได้ถึงความเย็นของผนังสิ่งก่อสร้าง ในขณะที่ด้านหน้า มีร่างหนาของผู้ชายที่พึ่งเข้ามาทักเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ยืนประชิดจนแทบจะหลอมรวมเข้าไปกับร่างของฉัน
“หน้าตาโคตรสวย แต่ปากแม่งโคตรหมา ระวังชีวิตจะดับเพราะปากตัวเองนะครับ”
ไอ้บ้าหัวเหลืองเอ่ยกระซิบชิดริมฝีปากของฉัน ขณะที่ฉันพยายามบีบตัวเองให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากสัมผัสโดนร่างกายอันน่าขยะแขยงของมัน
“ปล่อยฉันนะ!” ฉันเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทางก่อนเค้นเสียงสั่ง เพราะกลัวจูบแรกจะโดนช่วงชิงจากระยะที่ประชิดติดกันขนาดนี้
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่เอาเธอหรอก ปากหมาๆ แบบนี้ไม่ใช่สเปค”
“แล้วแกต้องการอะไร?”
“เงิน! ปึกที่อยู่ในกระเป๋าของเธอ...ทั้งหมด”
“…!!”
นี่สินะ เหตุผลที่มันเข้าหาฉันตั้งแต่แรก ความจริงแล้วมันไม่ได้พิศวาสอะไรกันหรอก มันอาจจะบังเอิญได้เห็นตอนฉันหยิบเงินทิปให้พนักงานชงเหล้า แล้วจึงเข้ามาทำทีตีสนิท
“หึ! ไม่มีปัญญาหาเองจนต้องมาปล้นเงินผู้หญิงเลยเหรอ? พ่อแม่คงภูมิใจแย่มีลูกได้เรื่องแบบนี้”
ฉันหันหน้ากลับมาเผชิญกับมัน ก่อนแค่นเสียงเอ่ยอย่างเหยียดหยาม เรียกความตึงให้กับหน้าหล่อๆ ได้เป็นอย่างดี
“อย่ามัวแต่ปากดี เอามา! ถ้าไม่อยากนอนตายไส้ไหลอยู่ตรงนี้”
ความแหลมคมของบางสิ่ง ที่ทิ่มแทงอยู่บริเวณหน้าท้องแบบราบของฉัน และเมื่อเหลือบสายตามองลง ก็พบเข้ากับมีดพกขนาดพอดีมือ ที่สะท้อนแสงไฟแวววาวหยอกล้อสายตา
ฉันรู้สึกหนาวสันหลังวาบ ดูได้จากสายตาของคนตรงหน้าที่จ้องมองมาอย่างเรียบนิ่ง ก็พอจะเดาได้ว่ามันทำจริงอย่างที่พูดแน่ๆ
สายตาของฉันเลื่อนมองรอบกายอย่างหาตัวช่วย แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้ มุมที่ฉันอยู่มันเป็นมุมอับสายตาพอดี คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก็คงเข้าใจว่าเราสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันกำลังโดนปล้น!!
เพราะไร้ซึ่งทางออกแล้วจริงๆ ฉันจึงต้องส่งกระเป๋าคลัตช์ราคาแพงระยับของตัวเองให้กับมัน
ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่สันดานเลวไร้ที่ติ คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ มันรีบหยิบไปถือ และเปิดล้วงเอาแต่เพียงปึกธนบัตรสีเทาหลายสิบใบออกมา ก่อนเหวี่ยงสัมภาระที่เหลือของฉันทิ้งลงบนพื้น ไม่ช้ามันก็สาวเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อร่างกายถูกปล่อยให้เป็นอิสระและรอดพ้นจากอันตราย ร่างฉันก็ทรุดฮวบลงนั่งกองกับพื้น หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกกลัวว่ามันจะวาย รีบยกมือขึ้นทุบตรงเหนืออกด้านซ้าย เพื่อหวังจะให้มันกลับสู่สภาวะปกติ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย
ถ้าเป็นในนิยาย สถานการณ์เมื่อครู่ควรจะเป็นฉากของพระนาง ที่กำลังปะทะฝีปากกันอยู่ ก่อนที่พระเอกจะปล้นจูบแรกจากนางเอกไป
แต่...นี่มันไม่ใช่!! ฉันไม่ได้ถูกปล้นจูบหรือปล้นสวาทใดๆ ทั้งสิ้น แต่ฉันพึ่งถูกปล้นชิงทรัพย์!!
ไม่มีความโรแมนติกใดๆ ไร้ซึ่งฉากหวานซึ้งหรือความรู้สึกวาบหวาม มีแต่ความตื่นตระหนก หวาดเสียว และน่ากลัว
มือสั่นๆ ของฉันเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่ร่วงคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ก่อนพยายามกดโทรออกหาคนที่คิดว่าช่วยฉันได้ในเวลานี้
“โทรมาซะดึกดื่นเลยนะคะคุณน้องอิม หัดมีมารยาท...”
“พี่เอก ช่วยอิมด้วย...”
